การปฎิวัติวงการอิเล็กทรอนิกส์ของโลกด้วยซิลิกอนมีมาตั้งแต่ยุคทรานซิสเตอร์ในปี 1954 และเทคโนโลยี CMOS ในปี 1963 หกสิบปีผ่านไปคอมพิวเตอร์ยังคงอยู่บนพื้นฐานเทคโนโลยีเดิมที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น มีขนาดเล็กลง และกินไฟน้อยลง แต่นักวิทยาศาสตร์ของไอบีเอ็มเชื่อมว่าเทคโนโลยีซิลิกอนจะสามารถพัฒนาไปจนถึงระดับ 7 นาโนเมตรเท่านั้น
ไอบีเอ็มประกาศว่าจะลงทุน 3 พันล้านดอลลาร์หรือแสนล้านบาทภายในห้าปีข้างหน้า เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยให้การผลิตลายวงจรซิลิกอนระดับ 7 นาโนเมตร และเทคโนโลยีในยุคต่อไป
Atmel ผู้ผลิตชิปสถาปัตยกรรม AVR ที่ใช้ใน Arduino และชิปสำหรับคอมพิวเตอร์ฝังตัว ARM อีกหลายรุ่น ประกาศเข้าซื้อบริษัทชิปเชื่อมต่อไร้สาย Newport Media ผู้ผลิตชิปเชื่อมต่อไร้สาย 802.11 และ Bluetooth 4.0 โดยมูลค่าการเข้าซื้อ 140 ล้านดอลลาร์ และกระบวนการจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้
แนวทางคอมพิวเตอร์ฝังตัวขนาดเล็กเริ่มเปลี่ยนจากการใช้โปรโตคอลเฉพาะทางเช่น ANT+ มาเป็นโปรโตคอลกลางร่วมกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป เช่น NFC, Bluetooth LE, หรือ Wi-Fi มากขึ้น การดึงเอาทรัพย์สินทางปัญญาของ Newport Media มารวมไว้ก็เป็นกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผลดีของ Atmel
ที่มา - The Register
ซิสโก้เพิ่งแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และผลออกมาไม่ดีนักเมื่อกำไรในบัญชีแบบ GAAP ลดลงถึง 54.5% ทั้งที่รายได้ลดลงไม่มากนัก ปรากฎว่าเงินจำนวนถึง 655 ล้านดอลลาร์เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากหน่วยความจำจากซัพพลายเออร์รายหนึ่งเสียหายมากกว่าปกติ กระทบสินค้าที่ขายไปในช่วงปี 2005-2010
หน่วยความจำมีอายุการใช้งานและมีโอกาสเสียหายเมื่อใช้งานไปเวลานานเป็นเรื่องปกติ บางครั้งเมื่อเสียหายจะไม่สามารถเปิดกลับมาใช้งานได้หลังปิดเครื่อง แต่สินค้าจำนวนหนึ่งกลับเสียหายด้วยอัตราผิดปกติ ทำให้ผู้บริหารซิสโก้ตัดสินใจเข้าาจัดการปัญหานี้แม้สินค้าส่วนใหญ่จะหมดประกันไปแล้วก็ตาม
งาน ISSCC ปีนี้อินเทลนำเสนองานวิจัยใหม่แสดงเทคนิคการออกแบบชิปขนาดใหญ่ที่มีขนาดถึง 256 คอร์ ทำให้ต้องส่งข้อมูลไปมาระหว่างคอร์จำนวนมหาศาล ข้อจำกัดสำคัญคือการรักษาสัญญาณนาฬิกาให้ตรงกันทุกคอร์ กลายเป็นข้อจำกัดสำคัญ อินเทลจึงเสนอแนวทางออกแบบใหม่ ให้มีเครือข่ายบนชิป (Network-on-Chip) ทำให้แต่ละคอร์มีช่องทางสื่อสารระหว่างกันโดยไม่ต้องมีสัญญาณนาฬิกาตรงกัน หรือกระทั่งมีไฟเลี้ยงต่างกันได้
Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวภายในระบุว่าไอบีเอ็มกำลังขายกิจการผลิตชิปออกไปเพราะใช้ทุนสูงและไม่ทำกำไร ขณะที่ Financial Times ระบุว่าไอบีเอ็มจ้าง Goldman Sachs ให้หาผู้ซื้อแล้ว ผู้ที่อาจจะเข้ามาซื้อ เช่น GlobalFoundries หรือ TSMC
แม้จะขายกิจการผลิตชิปออกไป แต่ไอบีเอ็มยังคงมีกิจการออกแบบชิป POWER อยู่ หากการขายครั้งนี้สำเร็จไอบีเอ็มก็จะกลายเป็นผู้ผลิตที่ไม่มีโรงงานของตัวเอง เช่นเดียวกับ AMD และ NVIDIA หรือผู้ผลิตชิป ARM จำนวนมากทุกวันนี้
มาตรฐาน USB Power Delivery (USB-PD) ตั้งกลุ่มทำงานมาตั้งแต่ปี 2011 สองปีผ่านไปแม้ตอนนี้มาตรฐานยังไม่สมบูรณ์แต่ Renesas ก็สาธิตอุปกรณ์ที่จ่ายไฟได้ตามมาตรฐานที่วางไว้แล้ว
มาตรฐาน USB-PD จะมีระดับการจ่ายไฟ 5 ระดับ แบ่งเป็นโปรไฟล์ตามวัตต์ที่ต้องจ่าย ได้แก่ 10, 18, 36, 60, และ 100 วัตต์ โดยต้องจ่ายไฟได้ 3 ระดับความต่างศักย์ คือ 5, 12, และ 20 โวลต์ ตัวชิปทั้งฝั่งจ่ายและรับพลังงาน จะต้องตกลงกันก่อนล่วงหน้าว่าสามารถจ่ายพลังงานได้ตามต้องการหรือไม่
อุตสาหกรรมไอซีมีข้อจำกัดต่อผู้เข้ามาแข่งขันรายใหม่ข้อใหญ่คือการลงทุนขั้นต้นนั้นแพงมาก การเลือกสถานที่ตั้งโรงงานจึงต้องมั่นใจกับความพร้อมของประเทศนั้นๆ อย่างมาก ข่าวล่าสุดสำหรับโรงงานใหม่ของอินเทลคือโรงงานใหม่อาจจะไปตั้งที่อิสราเอล
ข่าวนี้มีที่มาจาก Nahum Itzkovich ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการลงทุนของกระทรวงเศรษฐกิจอิสราเอล ว่าอินเทลกำลังเจรจาการลงทุนใหม่ที่มีมูลค่าถึงหมื่นล้านดอลลาร์ เท่ากับการลงทุนทั้งหมดของอินเทลในสิบปีที่ผ่านมารวมกัน
ชิป Cortex-A57 นั้นเป็นชิปรุ่นแรกที่เป็นสถาปัตยกรรม ARMv8 หรือ ARM รุ่น 64 บิต ก่อนหน้านี้ทาง ARM เปิดตัวชิปรุ่นนี้ว่าพร้อมผลิต แต่ก็ยังไม่มีการผลิตจริง จนกระทั่งวันนี้ ชิปล็อตแรกก็ออกมาจากโรงงานของ TSMC แล้ว
Fujitsu ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัทลูก Fujitsu Semiconductor หลังประสบปัญหาทางการเงินมายาวนาน โดยแผนการของ Fujitsu มีดังนี้
ข่าวนี้คงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของบริษัทญี่ปุ่นที่เริ่มแข่งขันเรื่องการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้ หากใช้ฐานการผลิตในประเทศ
รายงานจาก China Times ระบุว่าแอปเปิลเริ่มทดสอบผลิตชิป A6X ด้วยเทคโนโลยี 28 นาโนเมตรจากโรงงานของ TSMC แล้ว แม้ทุกวันนี้ชิปที่ใช้งานจริงจะผลิตด้วยเทคโนโลยี 32 นาโนเมตรของซัมซุงก็ตาม หลังจากเริ่มโครงการทดสอบนี้มาตั้งแต่กลางปี 2011 อย่างไรก็ดีทาง TSMC ไม่แสดงความเห็นใดๆ ต่อข่าวนี้
ขณะที่โลกเซมิคอนดักเตอร์กำลังพัฒนาไปข้างหน้า ประเด็นราคากลับเป็นประเด็นสำคัญที่เราต้องจับตามองกันมากกว่า ที่งาน International Electron Devices Meeting (IEDM) อินเทลออกมาให้ข่าวว่าเทคโนโลยีการผลิตใหม่ที่จะไม่ทำให้ราคาแพงเกินไป และรายงานที่ออกมาไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่ไม่ได้ระบุว่าต้นทุนจริงจะเพิ่มเท่าใด
รายงานก่อนหน้านี้ระบุเทคโนโลยี 22 นาโนเมตรจะทำให้ราคาสูงกว่าเทคโนโลยี 28 นาโนเมตรถึง 30-40% และเทคโนโลยี 14 นาโนเมตรจะทำให้ต้นทุนต่อเวเฟอร์เพิ่มไปถึง 90%
กระบวนการผลิต 22 นาโมเมตรของอินเทลจะถูกใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี 80 นาโนเมตรในบางชั้นและ 193 นาโนเมตรในชั้นสุดท้าย
ที่งาน Hot Chips Symposium ปีนี้เอเอ็มดีขึ้นประกาศสถาปัตยกรรมรุ่นต่อไปของบริษัท คือ Streamroller รุ่นต่อจาก Bulldozer ที่ทำได้ไม่ดีนักในการทดสอบหลายชุด โดย Streamroller จะแก้ปัญหาหลักคือการถอดรหัส (decode) คำสั่งที่เป็นคอขวดของ Bulldozer เพราะใช้ตัวถอดรหัสร่วมกันหลายคอร์ทำให้ถอดรหัสทำได้แค่ 2 คำสั่งต่อสัญญาณนาฬิกาต่อคอร์ ขณะที่อินเทล Sandy Bridge นั้นทำได้ถึง 4 คำสั่งต่อสัญญาญนาฬิกาต่อคอร์
ความพยายามลดช่องว่างของเทคโนโลยีการผลิตของ ARM ให้เทียบเท่ากับผู้ผลิตรายใหญ่อย่างอินเทล ทำให้ ARM ทำงานร่วมกับโรงงานผลิตชิปเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คือ GLOBALFOUNDRIES โรงงานที่แยกตัวออกมาจากเอเอ็มดี โดยความร่วมมือจะทำให้ ARM ออกแบบชิปพร้อมผลิตสำหรับเทคโนโลยีการผลิต 20nm และ FinFET
การประกาศนี้เป็นการยืนยันความสัมพันธ์ล่วงหน้า แต่ก่อนหน้านี้ก็มีความร่วมมือแบบเดียวกันมาก่อนแล้ว โดยชิปตระกูล Cortex-A มีการทดสอบการผลิตที่โรงงานของ GLOBALFOUNDRIES ที่เทคโนโลยี 28nm และ 20nm ได้แล้ว สำหรับความร่วมมือต่อไปคือการพัฒนาพิมพ์เขียวสำหรับชิปกราฟิกตระกูล Mali และ Cortex รุ่นต่อไป
ไม่ถึงเดือนหลังอินเทลประกาศลงทุนในบริษัทผลิตเครื่องจักรผลิตชิปมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ คู่แข่งอย่าง TSMC ก็ประกาศลงทุนถือหุ้น 5% และเงินช่วยเหลือการวิจัยเป็นเงิน 1,400 ล้านดอลลาร์
ASML ระบุว่าต้องการเงินลงทุนในรูปแบบนี้เพิ่มเติมอีก โดยต้องการทั้งหมดให้เป็นสัดส่วน 25% ของหุ้นทั้งหมด หากสัญญากับอินเทลผ่านไปได้ด้วยดีและอินเทลได้ถือหุ้น 15% ตอนนี้ก็ยังเหลือพื้นที่ให้บริษัทอื่นเข้าไปลงทุนแบบเดียวกันเป็นหุ้น 5%
TSMC เองก็คล้ายอินเทลที่หวังจะได้เทคโนโลยีผลิตด้วยแผ่นเวเฟอร์ 450 มิลลิเมตร และกระบวนการ EUV (extreme ultra-violet) เพื่อที่จะผลิตชิปที่กระบวนการที่ละเอียดขึ้นกว่าตอนนี้
ARM แถลงผลประกอบการไตรมาสสองของปีนี้ รายได้เพิ่มขึ้น 12% จากปีที่แล้วเป็น 213 ล้านดอลลาร์ เป็นกำไรก่อนภาษี 104.5 ล้านดอลลาร์หรือส่วนต่างกำไร 46.4% (รวย!) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วถึง 23%
ในไตรมาสที่สองนี้ ARM ได้ค่าไลเซนส์ชิปมาทั้งหมด 2,000 ล้านตัว (รวมทุกชิป และชิปอุตสาหกรรมจำนวนมากเป็นรุ่นเก่าผลิตมาหลายปี) ส่วน ARMv8 นั้นกำลังได้รับความสนใจโดย Freescale ประกาศเปิดตัวชิป ARMv8 สำหรับอุปกรณ์เครือข่ายไปแล้ว และทางด้านชิปกราฟิก Mali นั้นก็มีการเซ็นสัญญาเพิ่มอีกสามราย โดยสองรายเป็นลูกค้าหน้าใหม่
อินเทลประกาศลงทุนในบริษัท ASML Holding NV ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ โดยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดประมาณ 4,100 ล้านดอลลาร์ จุดประสงค์หลักเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตชิปด้วยแผ่นเวเฟอร์ขนาด 450 มิลลิเมตร และกระบวนการ lithography ด้วยแสง extreme ultra-violet (EUV)
หากกระบวนการทั้งหมดผ่านไปได้ด้วยดี ภายใน 5 ปีข้างหน้า อินเทลจะเข้าไปถือหุ้นของ ASML ทั้งหมด 15% และจ่ายเงินลงทุนเพื่อการวิจัยไปอีก 1020 ล้านดอลลาร์
กระบวนการผลิตชิปด้วยเวเฟอร์ขนาดใหญ่ช่วยลดค่าใช้จ่ายรวมต่อชิปลง โดยการอัพเกรดกระบวนการผลิตครั้งล่าสุด อินเทลลดค่าใช้จ่ายในการผลิตชิปไปได้ 30-40% หลังการอัพเกรด คาดว่าการอัพเกรดไปเป็นเวเฟอร์ขนาด 450 มิลลิเมตรก็จะลดต้นทุนได้มากเช่นเดียวกัน
บริษัท Toshiba เตรียมลงทุนสร้างโรงงานผลิตอุปกรณ์กึ่งตัวนำใหม่ในประเทศไทย หลังจากโรงงานเดิมที่จังหวัดปทุมธานีโดนน้ำท่วมไปเมื่อปีที่แล้ว
โรงงานเดิมที่จังหวัดปทุมธานีนั้นสร้างเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ.2533 โดยมีพนักงานทำงานอยู่ประมาณ 1,400 คน ด้วยเงินลงทุน 1,215 ล้านบาท
แต่โรงงานแห่งใหม่ที่จะสร้างขึ้นจะย้ายไปสร้างที่ 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค ในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะใช้แทนโรงงานเดิมที่จังหวัดปทุมธานี โรงงานแห่งใหม่จะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลระหว่าง 15 ถึง 20 เมตร และอยู่ในบริเวณที่ไม่มีแม่น้ำสายหลักที่ใช้ในการระบายน้ำ
งาน International Solid-State Circuits Conference นั้นเป็นงานประชุมวิชาการด้านวงจรกึ่งตัวนำชั้นนำของโลก ทุกปีบริษัทขนาดใหญ่จะขนเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประชันกันอยู่เสมอ ก่อนจะถึงงานจริงๆ ทางอินเทลก็เริ่มเปิดรายละเอียดของานวิจัยใหม่ๆ ออกมา
งานที่น่าสนใจมากคือชิปรุ่นใหม่ตัวต่อจาก Claremont ที่เป็นซีพียูที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี Near Threshold Voltage (NTV) ที่ช่วยให้ซีพียูกินพลังงานต่ำลงอย่างมาก โดยต่ำกว่า 10 มิลลิวัตต์เมื่อทำงานความเร็วต่ำสุด โดยเมื่อปีที่แล้วอินเทลเปิดเฉพาะซีพียูเท่านั้นแต่ในปีนี้ทางอินเทลจะโชว์ชิปรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้กับทั้ง GPU, และหน่วยความจำ
จากเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ทำให้หลายโรงงานต้องย้ายออกไปจากประเทศไทยหรือบางโรงงานก็ย้ายไปยังจังหวัดอื่นๆ ล่าสุดมีการโพสภาพประกาศของบริษัท ซันโย เซมิคอนดักเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อเครื่องจักรทุกเครื่อง โดยไม่สามารถซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีดังเดิม ทำให้บริษัทกำลังจะเลิกจ้างพนักงานส่วนใหญ่ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ และจะมีพนักงานส่วนหนึ่งได้รับการจ้างงานต่อเพื่อดำเนินการอื่นๆ นับแต่การกู้ซากเครื่องจักร ไปจนถึงการดำเนินการอื่นๆ เพื่อหยุดการผลิต
เว็บ ExtremeTech อ้างแหล่งข่าวภายในของเอเอ็มดีว่าบริษัทกำลังยกเลิกชิปสองรุ่นคือ Trinity ที่จะมาแทน Llano และ Krishna ที่จะมาแทน Zacate เพื่อย้ายโรงงานผลิตไปยัง TSMC แทน ทำให้ชิปทั้งสองรุ่นน่าจะเปิดตัวล่าช้าออกไป
เหตุผลของการย้ายสาเหตุหลักคือกำลังผลิตที่จำกัดมากของ GlobalFoundries ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเอเอ็มดีเองไม่สามารถผลิตชิปได้เพียงพอต่อความต้องการของเอเอ็มดีได้ ทำให้ชิป APU ในปีนี้ซึ่งสร้างกระแสมาได้ดีกลับต้องเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่เอเอ็มดีเองก็มีความเชื่อมโยงกับ GlobalFoundries น้อยลงเรื่อยๆ โดยถือหุ้นอยู่เพียงร้อยละ 9.6 และ CEO ที่เป็นลูกหม้อเก่าของเอเอ็มดีนั้นก็เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวออกไป
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงงาน IDF 2011 อินเทลยังคงมีของมาโชว์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เทคโนโลยีตัวแรกคือซีพียูตัวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Near Threshold Voltage (NTV) โดยมีชื่อรหัสว่า Claremont เป็นชิปสาธิตการทำงานของซีพียูที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้ทำงานที่ใกล้กับความต่างศักย์เริ่มเปลี่ยน (Threshold Voltage - ค่าความต่างศักย์ที่เริ่มทำให้ทรานซิสเตอร์เปลี่ยนสถานะ) โดย Claremont จะทำงานที่ความต่างศักย์ประมาณ 400-500 มิลลิโวลต์เท่านั้น ขณะที่ซีพียูทั่วไปทุกวันนี้จะทำงานประมาณ 1 โวลต์ขึ้นไป
เจ้าพ่อแห่งชิปสื่อสาร Broadcom ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท NetLogic Microsystems Inc. ซึ่งทำชิปด้านเครือข่าย คิดเป็นมูลค่า 3.7 พันล้านดอลลาร์
ชื่อของ NetLogic ไม่คุ้นหูคนทั่วไปเท่าไรนัก แต่บริษัทก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ผลงานหลักคือหน่วยประมวลผลสำหรับอุปกรณ์เครือข่ายหลายชนิด, หน่วยประมวลผลสำหรับอุปกรณ์ฝังตัว, อุปกรณ์ด้านไฟเบอร์ออปติกส์ เป็นต้น การซื้อกิจการครั้งนี้ชัดเจนว่าเป็นการเสริมทัพผลิตภัณฑ์ของ Broadcom นั่นเอง
ผู้ถือหุ้นของ NetLogic จะได้รับเงินหุ้นละ 50 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาปิดตลาด 57% คาดว่าการควบกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ในครึ่งแรกของปี 2012
หนังสือพิมพ์ China Econimic News รายงานอ้างแหล่งข่าวภายในว่า TSMC กำลังเริ่มสายการผลิตชิป Apple A6 รุ่นทดสอบด้วยเทคโนโลยี 28 นาโนเมตรและ 3D stacking โดยระบุว่าที่จริงแล้ว TSMC มีเทคโนโลยีที่เหมาะจะผลิตชิปสำหรับแอปเปิลแต่ที่ผ่านมาแอปเปิลเลือกใช้ซัมซุงเพราะฝั่ง TSMC นั้นกำลังผลิตเต็มตลอดเวลาเพราะมีคำสั่งผลิตจาก NVIDIA และ Qualcomm อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่วิกฤติเศรษฐกิจในตอนนี้ทำให้ยอดสั่งซื้อไปยัง TSMC ลดลงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมีช่องว่างให้กับแอปเปิล
แม้จะฟ้องร้องกันนุงนังแต่แอปเปิลกับซัมซุงนั้นก็ยังมีฐานนะเป็นคู่ค้ารายใหญ่ต่อกันมายาวนาน โดยเฉพาะหัวใจหลักอย่างซีพียู Apple A4, และ A5 นั้นก็ล้วนผลิตจากโรงงานของซัมซุงทั้งสิ้น แต่พอคดีมาถึงจุดแตกหักเช่นนี้ Dan Heyler นักวิเคราะห์จากบริษัท Merrill Lynch ก็ออกมาคาดการณ์ว่าแอปเปิลน่าจะเปลี่ยนโรงงานผลิตชิปรุ่นต่อไปอย่าง Apple A6 เป็นโรงงานของ TSMC แทน
TSMC นั้นมีเทคโนโลยีการผลิตที่ 28 นาโนเมตรนับว่าก้าวหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก การใช้ชิปที่กระบวนการผลิตที่เล็กลงนี้จะทำให้ชิปรุ่นต่อไปของแอปเปิลประหยัดพลังงานกว่าคู่แข่งไปอีกก้าว โดย TSMC นั้นมีข่าวว่าทำงานร่วมกับแอปเปิลมาระยะหนึ่งแล้วแม้จะยังไม่มีรายละเอียดออกมา
อินเทลประกาศก่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ในชื่อว่า Fab 42 เป็นโรงงานแห่งที่ 11 ของอินเทลในรัฐแอริโซนา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ และสร้างงานให้นับพันตำแหน่ง
โรงงานแห่งใหม่นี้จะรองรับกระบวนการผลิตแบบ 14 นาโนเมตรซึ่งจะทำให้อินเทลกลับไปเป็นผู้นำในแง่ของกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์อีกครั้ง หลังจากที่บริษัทฝั่งเอเชียเช่น TSMC กำลังพยายามไล่เข้ามาด้วยกระบวนการผลิต 28 นาโนเมตรที่เริ่มผลิตได้ตั้งแต่ปี 2010 ที่ผ่านมา แต่ในแง่ของกำลังการผลิตนั้น ขนาดเวเฟอร์ของ Fab 42 ยังคงเป็นแบบ 300มม. ซึ่งก็ตรงตามที่บริษัทเคยประกาศข่าวไว้ว่าการอัพเกรดไปใช้เวเฟอร์ขนาด 450มม. นั้นแพงเกินไปและต้องรอไปถึงปี 2018