แอปเปิลได้เปิดตัว iPhone 4 ตามความคาดหมายในงาน WWDC 2010 เมื่อคืนที่ผ่านมา (รายงานสด Blognone)
ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในความสนใจของทุกคนย่อมหนีไม่พ้น iPhone 4 เรามาดูกันแบบลึกๆ ครับว่ามันมีอะไรน่าสนใจบ้าง
มหากาพย์ iPhone หลุดทำให้เราเห็นตัวเครื่อง iPhone 4 กันมาสักพักแล้ว และตัวเครื่องจริงดูไม่ต่างอะไรกับเครื่องที่หลุดออกมามากนัก
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของ iPhone 4 หนีไม่พ้นเรื่องสี เพราะเป็นรุ่นแรกที่มีสีขาวออกมาด้วย (หวังว่าคงอยู่นาน ไม่เหมือน MacBook สีดำที่กลายเป็นของหายากไปแล้ว)
ส่วนรายละเอียดด้านฮาร์ดแวร์ที่เรารู้มากขึ้นจาก WWDC มีดังนี้
รูปทรงและขนาด
รูปทรงของ iPhone 4 ก็ตรงกับภาพหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้เช่นกัน นั่นคือ เปลี่ยนมาเป็นสี่เหลี่ยมมุมฉากเท่ากันหมด ไม่มีส่วนโค้งนูนแบบ iPhone 3GS อีกแล้ว
ขนาดของ iPhone 4 เล็กกว่า iPhone 3GS เล็กน้อย แต่ที่เปลี่ยนไปมากคือความหนา ซึ่งลดลงมาเหลือ 9.3 มม. ถือว่าบางมาก (ผมลองใช้ Samsung Galaxy S หนา 9.9 มม. ยังว่าบางเลย)
แก้วทั้งข้างหน้าและหลัง
แอปเปิลโฆษณาว่าแผ่นแก้วใสครอบจออันใหม่ใช้วัสดุชนิดเดียวกับกระจกของเฮลิคอปเตอร์ มันแข็งกว่าพลาสติกถึง 30 เท่า ทนต่อรอยขีดข่วนมากกว่าเดิม ใครที่มีปัญหา iPhone จอแตกอาจจะหมดห่วงได้แล้ว แผ่นแก้วนี้จะมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
นอกจากนี้มันยังเคลือบสารกันรอยนิ้วมือที่เรียกว่า oleophobic ทั้งด้านหน้าและด้านหลังอีกด้วย
จอภาพ
แม้ว่าจะใช้จอ 3.5" เหมือนเดิม แต่ iPhone 4 ได้เพิ่มความละเอียดจากของเดิม 480x320 มาเป็น 960x640 (พูดง่ายๆ ว่าเพิ่มขึ้นฝั่งละเท่าตัว รวมเป็น 4 เท่าจากเดิม) ซึ่งถือเป็นความละเอียดที่สูงที่สุดบนโทรศัพท์มือถือในท้องตลาด (คู่แข่งตระกูล Android ตอนนี้อยู่ที่ 800x480 กันเป็นมาตรฐาน ถ้านับจำนวนพิกเซลแล้ว iPhone 4 ละเอียดกว่า 1.6 เท่า)
ภาพจาก MobileCrunch
แอปเปิลเรียกจอภาพนี้ว่า Retina Display และบอกว่าจุดภาพนั้นละเอียดเกินกว่าสายตามนุษย์จะแยกแยะได้
เว็บไซต์ Engadget ได้ลองเทียบจอภาพของ iPhone 3G กับ iPhone 4 และพบว่าคุณภาพดีกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด (แต่ดูจากภาพถ่ายมันเปรียบเทียบยาก อันนี้เป็นประสบการณ์ของผมตอนทดสอบ Samsung Galaxy S เหมือนกัน) ควรลองไปดูด้วยตาตัวเอง
ซ้าย: iPhone 3G, ขวา: iPhone 4
ซ้าย: iPhone 4, ขวา: HTC EVO 4G
วิดีโอเปรียบเทียบสามารถดูได้จาก Engadget จะเห็นว่าภาพของ iPhone 4 คมและมี contrast สูงกว่า (จากสเปกของแอปเปิลระบุว่าอัตรา contrast อยู่ที่ 800:1) และมีอีกเวอร์ชันของ MobileCrunch
ส่วนอันนี้เป็นวิดีโอโฆษณาจอ Retina Display ของแอปเปิลเอง (จาก Engadget)
ขอบโลหะ
ตรงกับภาพของเครื่องหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้ครับ ขอบของตัวเครื่องเปลี่ยนมาใช้ stainless steel แบบพิเศษที่แข็งแรงกว่าเดิม 5 เท่า และยังทำหน้าที่เป็นเสารับสัญญาณคลื่นวิทยุต่างๆ (เช่น Wi-Fi, 3G) ได้อีกด้วย
ภาพถ่ายฮาร์ดแวร์ภายนอก ทั้งหมดมาจาก Engadget
มาดูส่วนของฮาร์ดแวร์ภายในกันบ้างครับ
ซีพียู A4
อันนี้เป็นไปตามคาด iPhone 4 เปลี่ยนมาใช้ซีพียู A4 ของแอปเปิลเอง ตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPad เรียกว่าลงทุนทำทั้งทีก็ใช้ให้คุ้ม ข้อมูลของเจ้า A4 นั้นแทบไม่มีเลย แอปเปิลยังรักษาเป็นความลับทางการค้าเช่นเดิม (ดูในหน้า Tech Spec ไม่มีพูดถึง A4 แม้แต่น้อย)
ผมคิดว่าในโลกของมือถือ ซีพียูที่ใช้อยู่ในระดับที่มีพลังสูงพอสำหรับงานเกือบทุกอย่างแล้ว (ถ้าเราเอาการเล่นหนัง 1080p มาเป็นเป้าหมาย) การแข่งขันน่าจะไปอยู่ที่เรื่องประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งแนวทางนี้เป็นแนวทางที่แอปเปิลเอาจริงมานาน
Wireless
ส่วนของ Wi-Fi นั้นรองรับ 802.11n เช่นเดียวกับมือถือระดับสูงของคู่แข่ง (เช่น Nokia N8 และ Samsung Galaxy S) อันนี้ไม่มีอะไรมาก
ที่น่าสนใจกว่านิดหน่อยคือการรองรับความถี่ 3G ถึง 5 แบบ (pentaband) แปลว่าผลิต iPhone 4 ล็อตเดียว ส่งขายได้เกือบทั่วโลก ไม่ต้องผลิตแยกเป็นล็อตๆ ตามพื้นที่อีกแล้ว (มือถือตัวแรกที่ทำได้คือ Nokia N8) - Engadget
เอ้อ iPhone 4 เปลี่ยนมาใช้ Micro SIM เช่นเดียวกับ iPad แล้วครับ
Gyroscope
ความโดดเด่นของโทรศัพท์มือถือเหนือคอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิม อยู่ที่ความสามารถในการพกพา (หรือภาษาอังกฤษคือ mobility) เราสามารถนำไปใช้ในสถานที่หรือสถานการณ์แปลกๆ ได้มากกว่าคอมพิวเตอร์
แต่การดึงพลังของมือถือในสถานการณ์พิเศษออกมาได้อย่างเต็มที่ จำเป็นต้องมีระบบตรวจจับ (sensor) ที่พิเศษขึ้นจากเดิมเช่นกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเห็นการใช้ accelerometer และ proximity sensor กันอย่างแพร่หลาย เราเห็น "เข็มทิศ" ใน iPhone รุ่นก่อนนี้ และคราวนี้เป็นคิวของ gyroscope หรือตัววัดความเอียงแบบ 3 แกน ผลก็คือ iPhone 4 สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ละเอียดมากขึ้น สามารถนำไปใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ ได้มากขึ้น (เทียบกับ Wii รุ่นปกติ กับ Wii Motion Plus ก็ได้ครับ)
Gyroscope เป็นพัฒนาการที่เห็นได้ไม่ชัดเจนนัก (เพราะหน้าที่มันไปซ้อนกับ accelerometer แค่ทำให้แม่นยำกว่าเดิม) แต่ก็ถือเป็นพัฒนาการที่ดีของ iPhone 4 ครับ รุ่นหน้าสงสัยจะมีตัววัดระดับความสูงกับอุณหภูมินะเนี่ย
ไมโครโฟนตัวที่สอง
iPhone 4 เพิ่มไมโครโฟนตัวที่สองเข้ามาช่วยลดเสียงรบกวนขณะสนทนา (เหมือนกับ Nexus One) โดยไมโครโฟนหลักจะอยู่ใต้ตัวเครื่อง และไมโครโฟนที่สองจะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง (จุดเล็กๆ ข้างช่องเสียบหูฟังในภาพ)
แบตเตอรี่
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ออกมามากนัก จากสเปกบนเว็บของแอปเปิลระบุว่า สนทนาได้ 7 ชั่วโมงสำหรับ 3G และ 12 ชั่วโมงสำหรับ 2G แสตนด์บายรอรับสายได้ 300 ชั่วโมง (12 วัน) ถือว่ามากที่สุดเทียบกับคู่แข่งทั้งหลาย
ผมแยกหมวดกล้องออกมาเป็นหมวดใหญ่อีกอันเลยนะครับ การเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีของ iPhone 4 คือมันมีกล้องหน้าแล้ว (มีเสียที)
กล้องหน้า
กล้องหน้าของ iPhone 4 มีความละเอียดระดับ VGA (640x480) ยังไม่ใช่อันดับหนึ่งในตลาด (เป็นของ HTC EVO 4G ที่มีกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล)
หน้าที่สำคัญของกล้องนี้เอาไว้เอาไว้ถ่ายหน้าตัวเอง สนทนาแบบเห็นหน้าทั้งสองฝ่าย ซึ่งแอปเปิลเรียกฟีเจอร์นี้ว่า FaceTime (จะกล่าวถึงต่อไป)
กล้องหลัง
อัพความละเอียดขึ้นมาเป็น 5 ล้านพิกเซล (ยังเป็นรอง HTC EVO 4G ที่มี 8 ล้านพิกเซล) แต่ที่น่ายินดีกว่าคือมันมีแฟลชแล้ว แฟลชอันนี้ยังเป็นไฟส่องสว่างเมื่อต้องถ่ายวิดีโอได้ด้วย
กล้องหลังของ iPhone 4 ถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p ได้ (เป็นความละเอียดมาตรฐานกล้องวิดีโอในมือถือขณะนี้ เท่ากับของ Samsung Galaxy S) แต่แอปเปิลบอกว่าได้เฟรมเรทที่ 30fps ซึ่งมากกว่าใครเพื่อน
เรารับรู้ข้อมูลของ iPhone OS 4 กันมาเยอะพอสมควรแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของมันใน WWDC คือ ชื่อ ซึ่งเปลี่ยนจาก iPhone OS หรือ OS X ที่เรียกกันลอยๆ มาเป็น iOS
การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้คงเป็นเหตุผลเรื่องการตลาดครับ เพียงแต่รอบนี้แอปเปิลเปลี่ยนชื่อไปซ้ำกับ IOS ของ Cisco อีกแล้ว (คราวก่อนก็ iPhone ชื่อซ้ำกันไปที) ไม่รู้มีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกับ Cisco หรือเปล่า? (เราอาจจะเห็นเราเตอร์รองรับมัลติทัชก็เป็นได้)
iOS 4 จะออกตัวจริงวันที่ 21 มิถุนายนนี้ โดยอุปกรณ์ที่จะได้รับการอัพเกรดคือ iPhone 3G, 3GS และ iPod touch (ซึ่งคราวนี้อัพฟรีแล้ว ไม่ต้องเสียเงิน)
ฟีเจอร์ของ iOS 4 แบบคร่าวๆ
ในระดับของแอพพลิเคชัน คงไม่มีอะไรได้รับความสนใจเกินไปกว่า FaceTime
FaceTime
FaceTime เป็นซอฟต์แวร์สำหรับสนทนาแบบมองเห็นหน้ากันของ iOS มันใช้โพรโตคอลเฉพาะของตัวเอง (ซึ่งมีพื้นฐานมาจากโพรโตคอลที่ใช้กันทั่วไปอย่าง H.264, SIP, RTP, RTSP) และแอปเปิลสัญญาว่าจะเปิดโพรโตคอลนี้ เพื่อสร้างฐานผู้ใช้จากแอพพลิเคชันอื่นๆ (Skype มีหนาวๆ เหมือนกันนะ)
ตอนนี้ FaceTime ยังใช้ได้ผ่าน Wi-Fi เท่านั้น (คู่แข่งอย่าง HTC EVO 4G ใช้บริการ Qik ซึ่งผ่านเครือข่าย WiMAX ได้) แต่อนาคตคงจะเปิดให้ใช้ผ่านเครือข่ายมือถือเช่นกัน
จุดเด่นของ FaceTime คงเป็นคุณภาพของวิดีโอที่ลื่นไหลสวยงามตามสไตล์แอปเปิล ส่วนจุดอ่อนก็คงอยู่ที่มันต้องใช้ iPhone 4 เท่านั้น (ณ เวลานี้)
iMovie
ในเมื่อ iPhone 4 ถ่ายวิดีโอได้แบบเป็นเรื่องเป็นราวเสียที ก็ควรจะตัดต่อวิดีโอแบบง่ายๆ ได้ในตัว แอปเปิลจึงออก iMovie เวอร์ชัน iPhone มาให้ เพียงแต่อันนี้ต้องซื้อเพิ่มจาก App Store ในราคา 4.99 ดอลลาร์ (คล้ายกับ iWork ของ iPad)
iMovie รุ่น iPhone สามารถใช้เพลงจากไลบรารีของเราในส่วนของ iPod ได้ และแชร์ออก YouTube ได้โดยตรง
iBooks
อันนี้ก็ตามความคาดหมายเช่นกัน เมื่อ iBooks โปรแกรมอ่านหนังสือจาก iPad ถูกนำมาลง iPhone ด้วย และมันทำทุกอย่างที่เวอร์ชัน iPad ทำได้
ฟีเจอร์ใหม่ของ iBooks รุ่นสองได้แก่
iPhone 4 แบ่งเป็น 2 รุ่นตามความจุเช่นเดิม
แอปเปิลได้ลดราคา iPhone 3GS รุ่น 8GB ลงมาอยู่ที่ 99 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดิมที่ใช้ในปีที่แล้วกับ iPhone 3G
วันวางขายจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มประเทศ โดยกลุ่มแรกได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น จะเริ่มขายวันที่ 24 มิถุนายนนี้
สำหรับประเทศไทยจะอยู่ในกลุ่มสุดท้ายคือเดือนกันยายน ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลโอเปอเรเตอร์ที่จะจำหน่าย แต่คงหนีไม่พ้นสองเจ้าเดิมคือ TRUE และ DTAC
ราชันย์องค์ใหม่อย่าง iPhone 4 ย่อมหนีไม่พ้นที่จะถูกเปรียบเทียบกับมือถือระดับท็อปตัวอื่นๆ ในท้องตลาด รวมไปถึง iPhone 3GS เองด้วย
iPhone 4 vs iPhone 3GS
Engadget มีตารางเปรียบเทียบ แน่นอนว่า iPhone 4 ย่อมดีกว่า iPhone 3GS ในทุกๆ ด้าน ยกเว้นเรื่องน้ำหนักที่ iPhone 4 หนักกว่าเล็กน้อย (นิดเดียว) และเรื่องซิมการ์ดที่ใช้ Micro SIM พิสดารกว่าชาวบ้านพอสมควร (ต่อไปเสียบสลับซิมยากแล้วแฮะ)
iPhone 4 vs HTC EVO 4G
iPhone 4 ดีกว่าในเรื่องความละเอียดของหน้าจอ และความหนาของตัวเครื่อง แต่ HTC EVO 4G ก็เอาชนะได้ในเรื่องกล้องทั้งด้านหน้าด้านหลัง ฟีเจอร์สนทนาแบบเห็นหน้าคงเทียบได้ยาก เพราะแอปเปิลใช้ FaceTime ของตัวเอง ส่วน HTC EVO 4G ใช้ Qik (แต่ EVO 4G อนุญาตให้สนทนาผ่านเครือข่าย 3G/WiMAX ได้ด้วย)
ดูตารางเปรียบเทียบได้ที่ Engadget
iPhone 4 vs มือถือรุ่นท็อปตัวอื่นๆ
Engadget ได้ทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของ iPhone 4 กับมือถือคู่แข่งในตลาด ได้แก่
ผลก็ผลัดกันแพ้ชนะเป็นบางรายการครับ (แต่ Palm Pre Plus แทบไม่ชนะเลย) ดูตารางเปรียบเทียบกันเอาเองดีกว่า
ผมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของ iPhone 4 คือฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของแอปเปิลมานาน ตอนนี้ฮาร์ดแวร์ iPhone 4 นำคู่แข่งในหลายๆ เรื่อง เช่น
ปัจจัยพวกนี้เป็นสิ่งสำคัญของฮาร์ดแวร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งคู่แข่งเองก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการตามให้ทัน (แต่จะเห็นว่าเรื่องวัสดุและจอภาพ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไล่ตาม ผมคิดว่าแต้มต่อจริงๆ ของ iPhone 4 อยู่ที่แบตเตอรี่)
เรื่องกล้องถ่ายภาพ แม้ว่า iPhone 4 ไม่ได้มีกล้องเลิศที่สุด แต่ด้วยขีดจำกัดของกล้องมือถือ จะมีพิกเซลเพิ่มมากขึ้นอีกสักหน่อยคงไม่มีความแตกต่างกันมากนัก สุดท้ายมือถือระดับท็อปทุกตัวคงมีกล้องระดับเดียวกันหมด (และรอยกระดับขึ้นอีกครั้ง ตอนที่ถ่ายวิดีโอ 1080p ได้ ซึ่งคนธรรมดาก็คงจะไม่ใช้กันมากนักอยู่ดี)
ด้านฮาร์ดแวร์โดยรวม ผมคิดว่า iPhone 4 พัฒนาขึ้นมาได้เยอะมากแล้ว ทำให้มีพื้นที่พัฒนาต่อใน iPhone 5 น้อยลง แอปเปิลน่าจะไปเน้นที่ซอฟต์แวร์มากขึ้น และที่มากที่สุดคงเป็นการเชื่อมต่อกับบริการออนไลน์ ที่แอปเปิลจะพยายามสร้างบริการของตัวเองโดยไม่ผูกกับกูเกิล เราคงได้เห็น Apple Maps หรือ Apple Search ในอีกไม่ช้าไม่นาน รวมไปถึง MobileMe ที่จะต้องไปปรับปรุงตัวอย่างมาก ให้แข่งกับบริการของกูเกิลได้สูสีมากขึ้น
แอปเปิลยังคงแนวปฏิบัติเรื่องราคาไว้เช่นเดิม จุดนี้ถือว่าสร้างธรรมเนียมให้ผู้ใช้อัพเกรด iPhone ทุกปีหรือสองปี โดยการจ่ายเงินเท่าเดิมแต่ได้มือถือที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยชี้ขาดจึงไปอยู่กับกลุ่มผู้ใช้ iPhone เดิมที่จะต้องตัดสินใจว่า จะอัพเกรดหรือไม่? กลุ่มที่ใช้ iPhone รุ่นแรกหรือ 3G อาจพิจารณาอัพเกรด แต่กลุ่มที่ใช้ iPhone 3GS (ซึ่งได้ iOS 4 เหมือนกัน) ก็คงต้องคิดกันหนักหน่อย
ตอนนี้ต้องถือว่า iPhone 4 กลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่งสมาร์ทโฟนได้อีกครั้ง (หลังจาก iPhone 3GS เป๋ไปเล็กน้อยเพราะ Motorola Droid) แต่เราจะเห็นว่าช่องว่างที่แอปเปิลเคยทิ้งห่างนั้นแคบลงเรื่อยๆ ช่วงปลายปีเราคงได้เห็นอะไรดีๆ จากฝั่ง Android รวมถึง Windows Phone 7 ที่จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกแน่นอนครับ
ปิดท้ายด้วยคลิปโฆษณา iPhone 4 ดีกว่า
Comments
เรื่องจอนี่ต้องยกให้ Apple จริง ๆ
blog.semicolon.in.th
ซู้ดยอดดด ^__^
ผมว่าที่น่าจะได้เปรียบอีกอย่างคือ A4 เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วเรื่องแบตเตอรี่ก็มาพร้อมกับตัว A4 ที่ทำให้แอปเปิลเลือกผลิตชิปที่ขนาด รูปร่าง และก็ optimize การทำงานให้เข้ากับซอฟแวร์ได้พอดี ทำให้กินแบตน้อยและบางลงได้เยอะมาก
ถ้าใครได้ลองใช้ iPad จะรู้ว่ามันกินแบตน้อยและเร็วสุดๆ จริงๆ คงเป็นข้อได้เปรียบสำหรับบริษัทที่ทำทั้ง hw และ sw ในตัว
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
จะว่า Gyrometer หน้าที่ซ้อนกับ Accelerometer ก็ไม่ค่อยถูกซะทีเดียว
Gyro วัดความเร็วเชิงมุม ส่วน Accelero วัดความเร่ง (ในที่นี้ใช้วัดทิศแรง G ด้วย) เป็น motion sensor เหมือนกัน
อยากเห็นโปรแกรมที่ใช้ประโยชน์จาก Gyro จังเลย ตอนนี้ยังนึกไม่ออก หรือว่าจะมีแอป mini segway?
PanJ's Blog
App Lightsaber เวอร์ชั่นใหม่ไง -*-
ใช่ครับ Accelerometer นั้นจะมีแค่สองแกน คือ x กับ y
แต่ Gyroscope ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในยานอวกาศและเครื่องบินจะมีสามแกนเชิงมุม คือเพิ่มแกน z เข้ามา ทำให้จับ motion ได้ในรูปแบบ 3 มิติได้ด้วย ทำให้การจับ motion มีความแม่นยำและเที่ยงตรงกับมุมของมือถือจริงๆ
accelerometer เป็น plane-axis ใน accelerometer 1 ตัวจะมี 2 plane ทำงานด้วยกัน จะได้ค่าออกมาเป็น 3 แกน x,y,z
ส่วนไจโร วัดค่าออกมาเป็นค่าเชิงมุม ทำให้วัดองศาได้ตรงกว่า แต่จะวัดได้แค่ 2 แกน
ไม่ใช่แล้วมั้งครับ Accelerometer มีครบทั้งสามแกน (http://www.st.com/stonline/products/literature/ds/12726/lis302dl.htm) แต่กรอบของแกนนี้อิงกับตัวบอดี้ของตัวโทรศัพท์ และถ้าให้ง่าย คือมันจะทำให้ทราบได้ว่าตัวเครื่อง กำลังคว่ำหรือหงาย หรือตะแคง หรือตั้ง (เพราะดูจากความเร่งของแรงดึงดูดของโลก) เช่นจะได้ปิดจอเมื่อกำลังโทรศัพท์ หรือไม่รับสายเรียกเข้าเมื่อผู้ใช้พลิกโทรศัพท์คว่ำ
แต่ถ้าโทรศัพท์วางบนพื้นราบ แล้วหมุนรอบตัวเองๆแบบช้ามากๆอย่างสม่ำเสมอ ด้วยอุปกรณ์ accelerometer เพียงอย่างเดียว อาจจะไม่ทราบการหมุนรอบตัวเองที่เกิดขึ้น เพราะความเร่งในแนวราบใกล้ศูนย์
แต่ด้วยอุปกรณ์ gyroscope จะทำให้ทราบการวางตัว (orientation) ว่าวางทำมุมกับแกนอ้างอิงไปทั้งสามแกนเท่าไร คือรู้ว่าตอนนี้เครื่องหมุนไปทางขวาจากเมื่อกี้ กี่องศา อันนี้ตอบได้ ไม่รู้ทิศ เหนือ/ใต้/ออก/ตก อันนี้ต้องตอบด้วยเข็มทิศ (compass)
แต่ถ้าเครื่องโทรศัพท์กำลังร่วงลงพื้น สมมติว่าไม่หมุน ด้วย gyroscope จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเครื่องยังวางตัวในแนวเดิม แต่ accelerometer จะทราบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะแรงที่ใช้พยุงเครื่องต้านแรงโน้มถ่วงหายไป
งงป่ะ
ไม่งงครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
ผมคงต้องศึกษาอะไรให้ดีๆลึกๆก่อนโพสซะแล้ว ^^"
ขอบคุณทั้งสองคนมากๆครับ แหะๆ
อีกหน่อยคงเห็นช่างก่อสร้างแถวบ้าน ใช้ iphone 4 วัดระดับน้ำตอนก่อสร้างอ่ะ
เฮียจ๊อบคงยิ้มแก้มปริแน่นอน
แบบว่ามี app วัดระบบน้ำด้วยแสดงบนหน้าจอเลย สินะ
I need healing.
edit: ซ้ำครับ
ปัจจับันก็มี app นี้แล้วนะครับ
บนฝั่งโนเกียมีมาตั้งนานแล้ว app ตัวนี้น่ะครับ
ใช้แทยตัวัดระดับน้ำได้สบาย แถมวัดมุม วัดองศาได้ด้วย
จะว่าไปมันก็คือตัวัดระดับน้ำดิจิตอลดีๆ นี่เอง
ทำไมผมรู้สึกว่ารุ่นนี้มันออกแบบไม่สวยเลย (แค่ดูจากภาพนะครับ จับของจริงอาจจะสวย) เราผิดปกติป่าวนี่ - -' แต่ features ที่ให้มานี่เจ๋งเลย
รอดู iPod Touch ต่อไปว่าจะได้รับอนิสงค์อะไรบ้าง จากการออกแบบ iPhone
ผมก็รอครับ อยากรู้จริงๆ itouch Gen4 จะมาแนวไหน
ส่วนตัวผมไม่เคยใช้สินค้าของ Apple เลยมองว่า iphone 4 สวยกว่า 3GS นะ
หลายอย่างเป็นแค่การอัพเดตตามกาลเวลา (เช่นพวกกล้องละเอียดขึ้น cpu เร็วขึ้น กล้องหน้า) แต่ชอบการออกแบบเครื่องจริงๆ ยัดทุกอย่างลงไป ทำให้บาง เอาเสาออกมานอกเครื่องแบบเนียนๆ ส่วนเรื่องความสวยงามคงแล้วแต่คนชอบ
แบตอึดมากๆ ถ้าได้ตามที่เคลมไว้จริง แต่ Apple ได้เปรียบเพราะทำทั้ง hardware software เอง
ปล. กล้องหน้าเปิด API ให้เจ้าอื่นใช้หรือเปล่าเนี่ย ถ้า skype ได้สุดยอดเลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ชอบครับ ครั้งนี้ดูแล้วคงจะครบครันจริงๆ ซะที แต่ดีไซน์แปลกตาไปหน่อย สักเดี๋ยวคงชิน...
มันจะต้องระเบิดใส่คนใช้แน่ๆ
ไม่นึกว่าจะใช้ชื่อบทความเป็น The Return of the king นึกว่าจะเป็น The Empire strike back ซะอีก
อันนี้แล้วแต่คนชอบครับ
ฮ่าๆ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมขออยู่"ด้านมืด"ละกัน
{$user} was not an Imposter
งั้นผมรอ Return of the Jedi ดีกว่า :-)
เหตุผลหนึ่งที่คราวนี้ออกแบบมาเป็นสี่เหลี่ยม เพราะเหมาะที่สุดสำหรับวางในแนวตั้งฉากกับพื้น เพื่อคุยผ่าน FaceTime
.
ได้เวลาซื้อ iPhone 3GS ซะที
แต่คงซื้อ Galaxy S ก่อน
เท่าที่ดู iPhone 4 มันก็ดีแต่ ว่าใครพอคิดออกมั่งว่าในทางด้านพัฒนา app เนี่ย มันจะสร้าง app อะไรได้พิเศษกว่า 3gs ได้บ้าง ถ้าไม่นับเรื่องของเกมส์นะครับ เพราะ 3gs ถ้าลง iOS ก็ความสามารถใกล้เคียงแล้ว ไม่น่ามีอะไรต่างจากเดิมเท่าไหร่ คิดว่า เล่น iPad + Galaxy S จะคุ้มกว่าไหม จะได้ทั้ง 2 OS เลย
มันอัพเดทแค่ Hardware ส่วนซอฟท์แวร์ ก็มีแค่เรื่องสร้างวิดีโอกับ video phone ในเชิงการใช้งานมันจะมีอะไรพิเศษกว่า Android บ้างเหรอครับ
ด้านหลังเรียบแบบนี้ก็ดีอย่าง เวลาวางกับโต๊ะ เล่นเกมหรือทำอย่างอื่นไม่กระดก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สีขาวสวยกว่าที่คิดเยอะแฮะ
เจ๋งครับ
ผมไม่ค่อยชอบรูปทรงสักเท่าไหร่อะครับ แต่ตัว hw กับ sw ในเชิงเน้นการใช้งานนี่ทำให้อยากใช้ขึ้นมาโดยทันที
คงไม่ได้เหยียบหน้าใครนะ :p
คิดเหมือนผมเลย 55
ไม่รู้ apple คิดยังไงที่ใช้ facetime ตัวใหม่ให้ iphone4 คุยกันเองแทนที่จะเอา iChat มาให้คุยกับ Mac ได้ด้วย ไหนๆก็ใช้ได้แต่บน wifi อยู่แล้ว กะจะขายของใหม่อย่างเดียว??
ผมว่าถ้าใช้ 3GS อัพเป็น OS4 ยังไม่น่าเปลี่ยนใหม่ครับ
- จอ 3.5" ต่อให้ละเอียดแค่ไหนก็คงเอามาใช้อ่านหนังสือไม่ไหว (เคยใช้ hx4700 จอ 4" VGA อ่านการ์ตูน อันนี้เล็กสุดที่พอรับได้แล้ว)
- กล้องหน้าถ้าใช้ skype ได้ก็อาจจะเวอร์ค ไม่รู้ว่า app จะโดนล้อคไม่ให้ใช้กล้องหน้ารึเปล่า
- แบตนานขึ้น 40% ถ้าเอามาเล่นเกมส์หรือ 3G หนักๆ ยังไงก็ไม่ข้ามวันอยู่ดี ยังไงก็ต้องพก mobile booster สำรองไว้ครับ
คงเหลือแต่เรื่องหน้าตาละครับที่ต่างจิตต่างใจแล้วละ ...
สุดยอดครับ ดูแล้วอยากได้เลยนะเนี่ย
ตัวเครื่องสวยขึ้นมาก น่าใช้ครับ
เปิดตัวแบบนี้ผู้ถือหุ้น Nokia คงจะออกอาการหนาวๆ สั่นๆ
อ่านจบแล้วอยากได้ขึ้นมาในทันใด แจ๋วดีจริงๆ CPU A4 อีกต่างหาก.. แถม 3G แบบ Pentaband นี่เด็ดจริงๆ
ปล.ดู FaceTime แล้วออกแนวซึ้งนิดๆ เลือกเพลงได้ดีจริงๆ (หลงการตลาดมันเข้าไปเต็มๆ) อ้อ.. รู้สึกว่าสาวก Apple หลายๆคนในนี้เคยประกาศตัวไปแล้วหนิว่าจะไม่ซื้อ *-* เนื่องจากรับรูปร่างหน้าตาไม่ได้ น่าเสียดายๆ..
ติดใจจอมาก ๆ เล่นเอา ips มาใส่ในมือถือ ความละเอียดก็เท่างานพิมพ์เลย โหดจริง
สิ่งที่แตกต่างและเห็นได้ชัดๆ ก็คือ... คราวนี้สตีฟ จ็อบส์มีเข็มขัดใส่แล้ว :D
กางเกงคงหลวมไป
+1 (^^)
ไม่รู้พอจะจำกันได้ป่าว ตอนที่ภาพ iPhone 4 หลุดใหม่ๆ มีสาวก Apple เด็กคนนึง(ออกเกรียนหน่อยๆ)คงโดนอุ้มไปละ ประกาศกร้าว ว่าถ้าของจริงออกเป็นแบบนี้จะไม่ซื้อแน่นอน ไม่รู้ตอนนี้จะว่ายังไง
แต่ส่วนตัวชอบมากคงต้องเก็บตังค์
เรื่อง Hardware engineer นี่ยอมรับว่า Apple นี่ไม่เป็นรองใครจริงๆ ให้ตายเหอะ สำหรับผม เครื่องน่าใช้ดีครับ แต่ยังไม่ประทับใจตัว iOS4 เท่าไหร่ (เชื่อมือ WP7 มากกว่า แต่ต้องรอดูกันต่อไป)
โครงการของผมในอนาคต
รอซื้อ android รุ่นแรงราคาดิ่ง Samsung Galaxy S แล้วทำ internet tethering ใช้คู่กับ iPad 16Gb พอ พกพาไปเล่นที่ไหนก็ได้ จอใหญ่กว่า คงทำให้ชีวิตการใช้งาน มีความสุข ในงบที่ไม่บานปลาย
เพราะ iphone ดูไม่มีอะไรใหม่เลย ตอนนี้ app สำคัญกว่าครับ ความเร็วตอนนี้หลายๆมือถือ เร็วพอยอมรับได้แล้ว
ที่ว่ากล้องดีกว่าไม่ดีกว่า เค้าดูแค่ไหน ดูแค่จำนวน MP รึเปล่า
{$user} was not an Imposter
ว่าแต่ใครเป็นราชินีอ่ะ :D ....เฟี้ยววววววว
ซอนต๊อก...
ถอยแน่เพราะ HSPA สนับสนุน 3G ของ AIS เชียงใหม่ซะที แถมใช้ได้กับ Telstra Next-G ด้วย เหมาะสุด ๆ
@TonsTweetings
กษัตริย์คืนบัลลังก์ จริงๆ แหละครับ สมแล้ว เทพมาก
คิดไว้แล้วว่าออกมาจริงๆ งานออกแบบ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เพราะภาพที่หลุด มันไม่ได้ผ่าน PR จาก Apple ทำให้ดู ไม่สวย ไม่โดน ในสายตาใครบางคน (ใคร...)
ฟีเจอร์น่าใช้หลายอย่างมากครับ แต่ผมรอให้ถูกกว่านี้ได้ :)
ระบบ Facetime น่าลุ้นในอนาคตถึงการประชุม online ที่มีประสิทธิภาพดี
iMovie น่าสนใจสำหรับนักข่าวที่สามารถตัดต่องานและส่งงานได้ทันที
แต่กล้องที่มีขนาดหน้ากล้องเล็ก ถ้าเป็นรอยจะมีปัญหากับภาพมากครับ
สิ่งที่ผมดีใจคือ iPhone 2G มือสอง อาจมีราคาต่ำลงมาอีกกว่า 5พัน
วินมอไซต์หน้าบ้านคงเริ่มซื้อและเล่น twitter ได้ ประชาธิปไตยใกล้อยู่
ในมือคนไทยเข้าไปทุกที :P
เอางั้นเลยเหรอครับ แค่ Candy ก็ช่วยได้แล้วครับ ฮ่าๆ
ชอบ วัสดุ กับ FaceTime เจ๋ง
ไปเจอความเห็นใน Giz มาบอกว่า = ="
"It's a new dawn for sex chat"
โอ้วเย..
Will The iPhone 4 Blend?
อยากดูมาก >,<
Apple A4 จาก Wikipedia บอกว่ามันดีไซน์โดย Apple และผลิตโดยซัมซุง (เจ้าเดิม) เป็น Package on a Package (PoP : มันคืออะไร?) และ system-on-a-chip (SoC) โดยตัว CPU ยังเป็น Cortex-A8 ทำงานที่ 1 GHz มีเพียงคอร์เดียว L1 64KB และ L2 640KB (3Gs ก็ใช้ตัวนี้ แต่ทำงานสูงสุด 833 MHz ประหยัดแบตทำงานที่ 600 MHz) อย่างไรก็ดีข้อมูลดังกล่าวไม่น่าจะใช่ของ iPhone 4 ทั้งหมด อาจเป็นข้อมูลของที่ใช้ใน iPad
งั้นถ้าผมเข้าใจไม่ผิด Hardware สำหรับ WP7 ก็ต้องแรงกว่าสินะครับ.. ^^
เรื่องความแรงแล้ว ผมว่าบางที iPhone 4 ยังจะมี Android บางรุ่นที่แรงกว่าด้วยซ้ำครับ
+1
รู้สึกว่าตั้งแต่ iPhone รุ่นแรก spec มันก็ไม่ได้แรงกว่า pda phone ในท้องตลาดเลยนะครับ แต่ใช้งานได้เร็วกว่า ดังนั้นรอดู performance จริงดีกว่าครับว่า WP7 จะทำออกมาได้ดีขนาดไหน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เรื่องนี้ที่ Engadget เถียงกันใหญ่เลย
สรุป Apple ไม่ได้ดีไซน์เอง เหอๆ
ผมยังไม่ได้ดู presentation เลยอ่ะครับ สงสัยอ่ะว่า A4 ที่ว่านี่ทำงานที่ 1 Ghz รึเปล่า หรือว่าจะมีการ Underclock อีก?
ไม่เคยคิดจะซื้อของตระกูล i มาก่อน แต่ดูแล้วน่าใช้จริง ๆ
Apple A4 ทำงานที่ 1 Ghz ครับ
เรื่อง FaceTime นี่เขียนขึ้นมาใหม่โดยใช้ของที่มีอยู่เดิม และ Optimized สำหรับ iPhone 4 เท่านั้น
จะไปเอา iChat บนแมคมาใช้คงไม่ได้ครับ
อุตส่าห์ทำ iOS แยกกับ OSX แล้วนะ
FaceTime เขาจะ open protocol ครับ
ใช้กับ 3.9G ของไทยที่กำลังจะมาปลายปีได้ไหม ... ขำขำครับ
ใช้บนเครือข่าย 3.9G ได้ แต่ความเร็วสูงสุดที่ได้จะได้แค่ 3G ปกติครับ (เข้าใจว่างี้นะ จากการสอบถามทวีตเตอร์ของกทช.)
สงสัยประเด็นเรื่องสี น่ะครับ
ไอโฟนสามจี กับ สามจีเอส ออกมา มีให้เลือกสองสี คือทั้ง ขาว กับ ดำ ด้วยไม่ใช่หรือครับ?
คงจะหมายถึงทั้งเครื่องมั้งครับ ก่อนหน้านี้ด้านหน้ามันดำตลอด
@TonsTweetings
3G ก็มีสีขาวแต่ Front Panel เป็นสีดำครับ
แต่ iPhone 4 นี้ขาวทั้งหน้าและหลัง และปุ่ม ^^
ดูน่ารักมาก
มันเป็นการก้าวกระโดดมากเลยเรื่อง Hardware
ยิ่งกว่าตอน 3G > 3GS มากมายยย
เห็นแล้วแล้วคลั่ง....
iPhone ต้องยกเรื่องแบ็ตกับหน้าจอจริงๆ นะครับ
แต่จากการซาวด์เสียงใน office รอบแรกพบว่าสาวๆ ไม่ชอบครับ
บอกว่าทรงไม่สวย
มีแววว่า 3GS จะขายดีเสียแล้วมั้งเนี่ย
I need healing.
ขอแนะนำให้เอาสีขาวให้ดูครับ
อย่างใน link นี้ ครับ
ไม่ชอบทรงเลย ไม่ซื้อ !
จำได้ว่ายังคุยเรื่อง 3Gs ระเบิดตอนมันเปิดตัวได้ใหม่ๆอยู่เลย
เผลอเเป๊ปเดียวออกรุ่นใหม่ล่ะ
3G ทรูหมดสต๊อกรึยังน่า
ผมชอบดีไซน์ครับ ชอบตั้งแต่ตอนหลุดแล้ว แต่ตอนนี้สน Dell Streak มากกว่า iPhone 4 ซะอีก!!
Camfog for iPhone 4 มีกล้องแล้วนี่ Private Show เลยนะนั่น :p
ว่าแต่ในไทย 3GS จะลดราคาไม๊
สวยดี น่าใช้ แต่ผมหลงรัก Android !!!
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ในไทยผมว่าภาพแตกแน่ #facetime
iPhone 4 สวยถูกใจผมนะ รอดูตัวจริงก่อนแล้วกันนะ
หลังจาก iPhone ตัวแรกออกมา (ตอนนั้นเห่อไปกับเขาด้วย) นี่เป็นโทรศัพท์ตัวต่อมาที่ผมไม่รู้จะติอะไรดีเลย สวย เร็ว เล็ก แบตอึด วัสดุขั้นเทพ จอเจ๋ง ฯลฯ สุดยอดครับ ^^
ดูตารางเปรียบเทียบดีๆ nokia กินไปหลายช่องเหมือนกันนะเนี้ยะ
อีกอย่าง video call พวกนั่นก็รองรับมาบ้างแล้ว แต่ operator บ้านเรากว่าจะรองรับก็นะ...
facetime เลยออกมาลดความยุ่งยากด้วยการใช้ wifi แทน แต่จะเบียดตลาด 3G Videocall ได้ไหม?
ปัจจุบันยังใช้ 5800 อยู่ nokia hardware ใส่มาเยอะแต่ software ผมว่ามันห่วยคงเส้นคงวามากๆ แถมอืดได้ใจมากเลยครับ
มึน.....
ตอนหลุดมา แล้วกันว่ามือถือจีน มีแต่คนด่า design
พอเปิดตัว มีแต่คนบอกว่าสวย !!!!
สาวกไม่มีสองมาตรฐาน
กรณีนี้ฝรั่งเค้าก็เป็นกัน
{$user} was not an Imposter
ชอบจังคำเนี่ย... ก็เพราะมันมีมาตรฐานในการเป็นสาวกนะสิ : )
+1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ยอมรับครับว่าตอนหลุดนั้นผมด่าจริงครับ
และตอนนี้ผมชมว่าสวยครับ 555+
ถึงผมจะไม่ใช่สาวก แต่เห็นสเปค hardware แล้วตาบอดเลย :)
+1
อยากให้นักการเมืองมีนิสัย "กล้าทำกล้ารับ" แบบ "ท่านPinery" จังครับ
ต้องดูความลื่นตอนใช้งานจริงยังคงเอกลักษณ์ Apple หรือเปล่า ส่วนรูปทรงชอบ bar อยู่แล้วครับ
อยากบอกว่า สวยว่ะ ชอบมาก!!! แต่ไม่ซื้อ เพราะ ไม่มีตัง!!! 555+ (ถ้ามีตัง ก็รอคนโมเด็กดอยลงแล้วค่อยซื้อมาเล่นละกัน เอิ๊กๆ)
สวย เท่ห์ ดูดี
แต่ผมคงไม่ซื้อโทรศัพท์ เครื่องละ สามหมื่น
เพราะว่า มันเกินความจำเป็นและไร้สาระ คิคิ
อยากรู้ราคาตอนเข้าไทยจริงๆ
เข้าดูที่เว็บอื่นเห็นบอกว่า สี่หมื่นแก่ๆ นะ (แต่ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน)
ราคาที่อเมริกาเท่ากับ 3GS เดิมครับ ที่ไทยก็ไม่น่าแตกต่าง (16 GB ที่ไทย 24.5k ex vat) แต่ช่วงแรกเึครื่องหิ้วแพงแน่นอน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ชอบ
positivity
จริงๆ มือถือรุ่นไหน เจอวิธี present + slide แบบ Apple สวยขึ้น 10 เท่า วิธีพูด + มุมกล้องช่วยได้เยอะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
อย่างนี้ต้องเปลี่ยนไปใช้ Mac แล้วใช้ Keynote present เอา
55 พูดน่าคิดครับ
แต่ยังไงสุดท้ายมันก็อยู่ที่ตัวสินค้าหน่ะครับ
เห็นออก TV เมื่อคืนวาน แต่เห็นมันมีปัญหาเรื่องสัญญานโทรศัพท์ของแต่ละที่ด้วย
ถ้าเป็นประเทศไทยไม่ต้องพูดถึงเลยนะผมว่า ขอบมากครับสำหรับข้อมูลดีๆ ที่แปลมา
เป็นภาษาไทยให้พวกเราได้อ่านกัน
ผมสงสัยจริงๆ ว่าข่าวช่องไหนเอาไปออก ผมอยากดูย้อนหลังครับ ใครมีข้อมูลรบกวนด้วยครับ
IPv6 ไม่เกิด ก็ยากที่จะทำ end to end video call
เยี่ยมครับ แต่ดูแล้วแถบไม่มีนวัตกรรมใหม่ๆอะไร สิ่งที่ผมต้องการจริงๆและคิดว่าแอปเปิลต้องทำได้เป็นเจ้าแรกๆ แน่นอน
คือ ก้อนสี่เหลียมสีดำเงาไร้เหลี่ยมไร้การเกิดรอยนิ้วมือ ไม่มีหน้าหลัง บนล่าง พอเปิดใช้งานมันสามารถดีเทกจับตำแหน่งสายตาได้
และแสดงผลจอด้านที่สายตามองเข้าหา นั้นเท่ากับว่ามันไม่มีหน้าหลัง ทุกด้านใช้งานได้เหมือนกันหมด นั้นแหละใช่เลย
ผมว่าอีกไม่กี่ปีต้องมีแน่นอน
ถ้ายกมาเล่นเน็ตแล้วคนนั่งตรงข้ามมองหลังเครื่องละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก็แสดงผลให้คนตรงข้ามดูด้วย ^^
ช่วงนี้ ม่ายเบี้ย นิ
มันมีน็อต !!!
แล้วเครื่องที่หลุดที่เวียดนามนั่นมันอะไร
3GS ก็มีน็อตหนิครับ ที่หลุดที่เวียดนามก็ prototype อีกตัว ปกติจะมีหลายแบบก่อนผลิตจริงอยู่แล้วครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ฟังประโยคที่ว่า
"We're bringing video calling to the world"
นึกถึง ญี่ปุ่นเลย
โทรศัพท์ญี่ปุ่นเทคโนโลยีสูงมาก แต่ใช้แค่ในประเทศ (ไม่รู้ว่าเพราะเขาชาตินิยมหรืออย่างไร)
แต่อเมริกัน "Money-hunger" bring ไปให้ไกลที่สุดแบบไม่ต้องสงสัย
"We're making money from everywhere in the world"
:)
ขำๆ นะครับ
แต่ที่ญี่ปุ่นนี่ โทรข้ามเครือข่ายได้นะ แต่ส่ง sms / mms ข้ามไ่ม่ได้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มล่วงหน้าไว้ก่อน
ตอนแฟนอยู่ที่ญี่ปุ่น ส่ง sms ไปยังไม่ถึงเลย...เซ็งเป็ด
สวยงามครับ ถ้ามีตังค์ ก็อยากเป็นเจ้าของสักเครื่อง