Instagram ถือเป็นแอพใน iOS ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เมื่อเดือนที่แล้วเราได้เล่าถึงความสำเร็จด้วยจำนวนรูปที่แชร์ในระบบถึง 150 ล้านรูป ล่าสุดซีอีโอ Kevin Systrom ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ถึงทิศทางต่อจากนี้ของ Instagram และเรื่องราวของความสำเร็จที่ผ่านมา
Systrom เริ่มต้นเล่าว่าเมื่อเดือนก่อน Instagram มีพนักงานอยู่แค่ 4 คน แต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้รับคนเพิ่มขึ้นอีกถึง 50% ทำให้ตอนนี้มีพนักงานแล้วรวม 6 คน ตัวเลขการดาวน์โหลดใน App Store ตอนนี้ผ่าน 8 ล้านครั้งไปแล้ว ในวันนี้จึงพูดได้ว่า Instagram เป็นมากกว่าแค่แอพสำหรับถ่ายภาพแล้วแชร์ในเครือข่ายสังคมไปแล้ว เพราะถ้าพูดถึงแอพที่ถ่ายรูปแล้วมีฟิลเตอร์นั้น App Store มีแอพแบบนี้อยู่จำนวนมหาศาล หลายอันมีฟิลเตอร์มากแบบให้เลือกกว่า Instagram ด้วยซ้ำ แล้วทำไม Instagram จึงได้รับความนิยมมากกว่าใคร?
เครือข่ายของผู้ใช้งานคือคำตอบ Systrom บอกว่า Instagram ช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกอยากส่งต่อ บอกเล่า และค้นหาแรงบันดาลใจร่วมกันในภาพถ่ายที่เกิดขึ้นในระบบ ผู้ใช้งาน Instagram ที่มีผู้ติดตาม (followers) เยอะๆ จึงมีได้ทั้งคนดังระดับเซเล็บ หรือคนธรรมดาที่นำเสนอแนวทางของภาพชัดเจนจนเกิดกลุ่มผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก วิธีการดังกล่าวทำให้ Instagram แตกต่างจากแอพอื่นที่ทำแค่ถ่ายภาพ เติมฟิลเตอร์แล้วจบที่ตรงนั้น
ความนิยมของเครือข่าย Instagram ส่งผลให้บรรดาคนดังระดับเซเล็บหรือแบรนด์สินค้าเริ่มเข้ามาทำการตลาดให้ตนเองเช่นกัน แต่ Systrom มองว่าเขาจะไม่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับคนกลุ่มนี้แม้ Facebook จะมีระบบ Page หรือ Twitter มีระบบยืนยันตัวตน แต่ Instagram จะคงแนวคิดว่าทุกคุณสมบัติการใช้งานที่ Instagram มีนั้นต้องสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ทุกคน
Systrom เล่าถึงงานเร่งด่วน 3 อย่างของ Instagram ในตอนนี้คือหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงระบบการถ่ายภาพใน Instagram สอง คือหน้าเว็บสำหรับผู้ใช้งาน และสาม Instagram บน Android สำหรับข้อสุดท้ายนั้น Systrom บอกว่ามันเป็นเรื่องที่เขาให้ความสำคัญสูงที่สุด แต่ปัญหาคือเขายังไม่สามารถหานักพัฒนาที่ตรงใจพอได้ บุคลากรที่มีอยู่ปัจจุบันก็งานเยอะจนไม่สามารถให้เวลากับ Android ได้ในตอนนี้
เมื่อถามถึงประเด็นที่ Facebook กำลังทำฟิลเตอร์ใส่ภาพเช่นกัน Systrom บอกว่าเขาไม่แปลกใจที่ในที่สุด Facebook ก็มีคุณสมบัตินี้ เพราะการแบ่งปันภาพถ่ายก็คือหัวใจสำคัญของ Facebook เช่นกัน เพียงแต่ลักษณะความสัมพันธ์ของผู้ใช้งานใน Facebook กับ Instagram นั้นไม่เหมือนกัน กล่าวคือ Facebook จะมีความเป็นเพื่อนกันระดับหนึ่ง แต่ Instagram นั้นเหมือนกับการติดตามทาง Twitter มากกว่า ฉะนั้นเขาไม่คิดว่าฟิลเตอร์บน Facebook จะทำให้ Instagram ตกอยู่ในที่นั่งลำบากแต่อย่างใด
ที่มา: The Guardian
Comments
"แต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้รับคนเพิ่มขึ้นอีกถึง 50%
...ทำให้ตอนนี้มีพนักงานแล้วรวม 6 คน"
ผมชอบส่วนนี้จัง
Technology is so fast!
เหมือนจะเยอะ ต้องใช้เป็นเปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว
555
ขำกะประโยคนี้เหมือนกัน 555
อ่านตอนแรกก็ "โห ตั้ง 50% แน่ะ" แต่อีกวินาที ก็ "อ๋อ สองคนเอง".
อ่านแล้วยิ่มกับประโยคนี้เหมือนกัน เพิ่มเยอะมว๊ากกก
หน้าเว็บสำหรับผู้ใช้งาน อยากได้อันนี้แหละ
แอนดรอยไม่ต้องรอแล้ว
ใช้ตัวอื่นกันดีกว่า !!! เฮ้อ
เจ้าของมีวิสัยทรรศน์ที่ดีครับ แล้วก็มีทัศนคติที่ดีต่อกลุ่มผู้ใช้งาน และแอพฯ อื่นๆ ด้วย
เวลาเค้ามอง เค้ามองอย่างเปิดใจและรับรู้ถึงจุดแข็ง และจุดต่างระหว่างแอพฯ ของตัวเองและคู่แข่ง
น่าสนใจมากครับ
ขอให้ Molome เปิดตัวกับ iOS ก่อนนะ
+1 แอบอยากให้สัมภาษณ์พี่เนยมั่ง
+1
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ขึ้นๆ เร็ว เถอะ ผมเชียร์
ปล.อยากได้ tilt shift แบบ intstagram มันแปลงรูปที่กาก ๆ ให้ดูดีมีความหมายได้จริงๆ
+1 ด้วยยยยย >_<
อุ๊ย Badge สวย!
I ♥ MOLOME นะ
:: DigiKin8 ::
หน้าตาของ CEO บวกกับการตอบคำถามดูเป็นคนที่ cool จริงๆ
ผมรออยู่นะครับ แต่ตอนนี้จะถอนตัวจาก PicPlz ไม่ขึ้นแล้ว
เค้กออกแล้ว Facebook Filter คือ Instagram นั่นเอง
โห .. ตามมาอัพเดทข่าวเก่า ความจำดีจริงๆ ครับ