สำหรับคนที่อ่านข่าวสารไอทีผ่านทาง Blognone ช่วงนี้อาจสังเกตได้ว่า จำนวนข่าวต่อวันของ Blognone ลดลงอย่างเห็นได้ชัด (ส่วนจำนวนเนื้อหาใหม่ ๆ ของ BioLawCom ต่อเดือนนั้นลดฮวบมานานแล้ว) ทีแรกผมก็นึกว่า เป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงสงกรานต์ ทีมเขียนข่าวลาพักร้อน เลยไม่ค่อยได้เขียนกัน แต่แล้ว mk หนึ่งในผู้ก่อตั้ง และผู้เขียนหลัก ก็เฉลยความจริงออกมาว่า ขอบายเลิกเขียนข่าวไปสักพัก เพราะเบื่อสาวก Apple จึงทำให้จำนวนข่าวใน Blognone ลดลงด้วยประการฉะนี้แล
ที่มา : BioLawCom.De
สงครามค่ายไอที เป็นเรื่องที่มีให้เห็นตลอดเวลา ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แล้วแต่กาละเทศะ มีตั้งแต่สงครามระบบปฏิบัติการ Windows vs. Linux vs. Mac OS X สงครามภาษาเขียนโปรแกรม Java vs. Python vs. Ruby vs. C# สงครามฐานข้อมูล MySQL vs. PostgrSQL vs. MS SQL vs. Oracle สงคราม Open Source vs. Proprietary สงคราม ค่ายหนัง ค่ายเพลง vs. BitTorrent สงคราม Search Engine etc. นับกันไม่หวาดไม่ไหว
โดยส่วนตัว ผมชอบอ่านอะไรแบบนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะผมซาดิสต์เท่านั้น แต่ผมรู้สึกว่า หากถกกันเรื่องพวกนี้ แล้วยกเหตุ และปัจจัยมาฟัดมาเหวี่ยงกัน นากจากจะได้ความเพลิดเพลินในการอ่านแล้ว ยังได้ความรู้และมุมมองใหม่ ๆ อีกด้วย (บางครั้งมันนำไปสู่ innovation) แต่ส่วนมากแล้ว กรอบในการปะทะคารมมักไม่ได้หยุดอยู่เพียงนั้น มันมักจะลามปาม ออกนอกลู่นอกทาง เกิดการกระทบกระแทกเสียดสี บางคนถึงขนาดละทิ้งหลักแห่งเหตุผล ไปลงเอากับความเชื่อ เข้าขั้นไสยศาสตร์ก็มีไม่น้อย ใช่ว่าอาการผีเข้าแนว ๆ นี้จะไม่เคยเกิดขึ้นกับผม มันไม่เคยละเว้นใคร ผมเองก็ต้องคอยระวังเนื้อ ระวังตัว ระวังปาก ระวังคำอยู่บ้างเหมือนกัน
แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเรากำลังถูกไสยศาสตร์เข้าครอบงำ ?
หลวงพ่อ หรือหมอผีก็บอกเราไม่ได้ครับ เราต้องตรวจสอบตัวเอง เมื่อไรที่เรารู้สึกว่า สิ่งที่เราชอบไม่มีข้อเสียอะไรเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างดีไปหมด นั่นแหละ คุณกำลังถูกไสยศาสตร์เข้าครอบงำ และกำลังกลายเป็นสาวกของอะไรบางอย่าง ทุกอย่างในโลกนี้ ย่อมมีข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเอง อยู่ที่ว่าข้อดีกับข้อเสียเหล่านั้น มันเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เราจะนำมันมาใช้งานหรือไม่
แต่ระยะหลังมานี้ ในโลกไซเบอร์ของคนไอที มีเหล่าสาวกของ Apple ปรากฏกายให้เห็นบ่อยครั้ง และบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนสร้างความอึดอัดใจให้กับใครหลาย ๆ คน (รวมถึงกรณีตัวอย่างที่ยกมา คือ คุณ mk) ที่น่าสนใจคือ ทำไมสาวก Apple จึงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และอะไรที่สาวก Apple สร้างความอึดอัดใจให้กับคนอื่น
ทำไมสาวก Apple จึงมีมากขึ้น ก็เพราะมีคนใช้ Apple กันมากขึ้น แล้วทำไมคนใช้ Apple กันมากขึ้น ตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือ การตลาดของ Apple ดี ยุทธวิธีการขายของ Apple นั้นง่าย ๆ ครับ ทำสินค้าของตัวเองให้เป็นแฟชั่น มากกว่าจะเป็นสินค้าไอที ทำให้คนใช้รู้สึกว่า การใช้ Apple มันเท่ห์ ความเทห์ของ Apple อยู่ที่ดีไซน์อันโดดเด่น และการออกแบบตามหลักการ minimalist พร้อมกับโฆษณาตัวโต ๆ ว่า "The best practice" แน่นอนว่า การตลาดและโฆษณาเพียงสองอย่างคงไม่พอ ตัวผลิตภัณฑ์เองก็ต้องมีคุณภาพ และราคาอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ด้วย
ผมยอมรับว่าผลิตภัณฑ์ Apple มีความลงตัวมาก ในเรื่องของ ดีไซน์ คุณภาพ ราคา และความเท่ห์ แต่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ Apple มีความพิเศษอยู่ที่ เราไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Apple ได้ โดยพิจรณาเพียงแค่
ดีไซน์ คุณภาพ และราคาได้ เพราะมีสินค้าหลายยี่ห้อ ที่มอบดีไซน์ และคุณภาพของสินค้าให้กับลูกค้าได้พอ ๆ กับ Apple ในสนนราคาที่ต่ำกว่ามาก ดังนั้น ตัวแปรสำคัญที่สุดในเรื่องนี้ คือ ความเท่ห์
สิ่งที่ Apple หยิบยื่นให้กับลูกค้า ผ่าน MacBook ไม่เหมือนกับการขายโน้ตบุ้คคุณภาพอย่าง ThinkPad ที่ IBM หรือ Lenovo ทำ การขาย iPhone ไม่เหมือนกับการขาย Smart Phone อื่น ๆ ที่ Blackberry หรือ Nokia หรือ Motolora หรือ Samsung ทำ การขาย iPod ไม่เหมือนการขาย Walkman หรือเครื่องเล่น MP3 อื่น ๆ แต่สิ่งที่ Apple กำลังทำอยู่ไม่ต่างจากการขาย Prada หรือ Luis Vuitton หรือสินค้าฟุ่มเฟือยอื่น ๆ (แต่ผมก็ยอมรับว่าการซื้อ Apple ไม่ฟุ่มเฟือยเท่าซื้อ Prada หรือ Luis Vuitton) สิ่งที่มากับ MacBook, iPhone หรือ iPod ไม่ได้มีแค่วงจรอิเลคโทรนิค แต่รวมไปถึง life style ที่สามารถบอกสถานะทางสังคม วิธีการใช้ชีวิตของผู้ใช้ เป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้ต้องการบอกคนอื่นว่า "ฉันก็ Cool เหมือนกันนะ" (สำหรับคนที่ใช้ Apple ด้วยเหตุผลอื่น ๆ ก็อย่าว่ากันนะครับ ผมแค่พยายามอธิบายพฤติกรรมของเหล่าสาวกเฉย ๆ)
ดังนั้นโฆษณา Apple ที่เราเห็น มันจะไม่ใช่โฆษณาขายสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นโฆษณาที่มาพร้อมกับ life style แบบเท่ห์ ๆ เสมอ เช่น มีเพลงประกอบเทห์ ๆ มีท่าเต้นเทห์ ๆ มีการใช้ชีวิตแบบเท่ห์ ๆ แต่เนื่องจากความเท่ห์เป็น relation หรือความสัมพัทธ์ การมีอยู่เพียงหนึ่งเดียวไม่สามารถประกาศความเท่ห์ได้ เราจึงได้เห็นโฆษณาชุด Get a Mac ซึ่งมีนัยะของการข่มผู้ใช้ PC ทั่วไปเพื่อประกาศความเท่ห์ของผู้ใช้ Apple อยู่
ในเมื่อความเท่ห์เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้า Apple เป็นปัจจัยที่สำคัญพอ ๆ กับ ดีไซน์ คุณภาพ และราคา ลองคิดดูครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมีคนเสนอแนวคิดที่ว่า "ผลิตภัณฑ์ Apple ราคาแพงกว่าที่ควรจะเป็น" หรือ "ผลิตภัณฑ์ Apple ไม่ได้มีคุณภาพดีกว่าผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่น" หรือ "Apple ไม่ได้ใช้ง่ายอย่างที่ใคร ๆ เข้าใจกัน" ในห้วงความคิดแรก หลายคนอาจมองว่าไม่เกี่ยวกับความเท่ห์เท่าไร แต่จริง ๆ แล้วมันเกี่ยวแบบเต็ม ๆ เพราะความเท่ห์ของ Apple ไม่ได้มีเพียงเรื่องดีไซน์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความฉลาดในการเลือกซื้อด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้น ความขัดแย้งย่อมบังเกิด การประกาศความเป็นสาวก เพื่อปกป้องความเท่ห์ของการเลือกใช้ Apple จึงมีให้เห็น สงครามสาวก Apple vs. The Other จึงเลี่ยงไม่ได้ และมักจะจบตรงบทสรุปที่ว่า สินค้า Apple ดีทุกประการ (ในสายตาสาวก) ส่วนคนอื่น ๆ ก็เบื่อและเลิกไปเอง (ส่วนหนึ่งเพราะคิดว่า ไม่ได้ควักเงินซื้อของให้สาวก)
ด้วยประสบการณ์ส่วนตัว ผมคิดว่า ผมจะไม่ซื้อสินค้าของ Apple อีก หากการตลาดและ Product Line ของ Apple ยังคงเป็นอยู่แบบในตอนนี้ ผมเคยซื้อสินค้ายี่ห้อ Apple มาใช้งานสองชิ้น และเคยสัมผัส Mac OS X (จาก MacBook ของรุ่นน้อง) และ iPhone (จากร้าน Telekom) มาบ้าง สำหรับ Mac OS X และ iPhone ผมคงไม่วิจารณ์อะไรมากนัก เพราะ จุดแข็งของ Mac OS X อยู่ที่ Usability แต่ Usability สำหรับผมคือความเคยชิน และผมเป็นคนไม่ชอบใช้ Smart Phone อยู่แล้วก็เลยไม่ได้สนใจ iPhone มากนัก
แต่ iPod สองเครื่องที่ผมซื้อมา ทำให้ผมมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับ Apple อย่างมาก ด้วยเหตุผลดังนี้
สุดท้ายผมเลยเลิกใช้ iPod ทั้งที่มันยังไม่พัง (แต่แฮงค์บ่อยมาก) แล้วซื้อ Phillip GoGear มาใช้งานแทน รู้สึกมีความสุขในการใช้งานมากกว่ากันมากมาย ด้วยความไม่ประทับใจเหล่านี้ ผมจึงไม่อยากซื้อสินค้า Apple มาใช้งานอีก ยิ่งเมื่อพิจรณาถึงปัจจัยเรื่อง feature, คุณภาพ และราคาด้วยแล้ว ความน่าซื้อของ Apple ก็ยิ่งลดลง
ผมตั้งใจไว้ว่า หลังจากเรียนจบจะซื้อโน้ตบุ้คใหม่หนึ่งเครื่อง (งานที่ผมทำอยู่เป็นงาน Simulation และ Data Processing ที่ใช้พลังการคำนวนเยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เลยใช้เป็นข้ออ้างในการเปลี่ยนโน้ตบุคได้บ่อย ๆ) หนึ่งในตัวเลือกที่ผมสนใจคือ MacBook ด้วยเหตุผลที่ว่า หากใช้ MacBook ผมก็จะสามารถใช้ระบบปฏิบัติการที่สำคัญได้ครบทั้งสามตัว คือ Linux, Windows และ Mac OS เพื่อที่จะใช้ทดสอบซอพท์แวร์ที่เขียนขึ้น แต่เมื่อคิดไปคิดมา มันเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ในการที่ผมต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า (โน้ตบุ้คสเปคเดียวกัน ยี่ห้ออื่น ๆ ถูกกว่า MacBook ประมาณสองเท่า) เพื่อที่จะใช้ Mac OS ทั้งที่ Mac OS สามารถใช้งานบนโน้ตบุ้คเครื่องอื่น ๆ ได้ หาก Apple ต้องการ
และนี่คือตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น สำหรับนโยบายผูกขาดของ Apple ที่มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณี iTunes หรือ App Store สำหรับ Apple แล้วทุกอย่างควรอยู่ในการควบคุม โดยมักใช้ข้ออ้างในเรื่องคุณภาพที่ลูกค้าควรได้รับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมรับไม่ได้มากที่สุด เพราะมันขัดต่อแนวทาง Open Source ที่ผมชื่นชอบ
ที่สุดแล้ว การตัดสินใจเลือกใช้สิ่งต่าง ๆ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ที่ทุกคนมีสิทธิที่จะตัดสินใจ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถกำหนดให้ทุกคนคิดและตัดสินใจเหมือนเราได้
Comments
Cleared +++ I Luv U
พูดได้ดีครับ
ในฐานะที่ผมเป็นคนที่ใช้งาน apple มาสักพัก
ทั้งที่ก่อนหน้าผมก็ใช่ windows(เริ่มต้นเล่นคอมทุกคนคงเคยใชักันนะครับ)ผมก็ไม่ได้ว่ามันเลวร้ายอะไร ที่ผมใช้แมคก็เพราะว่ามันก็มีดีของมัน วินโดว์ก็ดี ลินุ๊กก็ดีครับ
ไม่เห็นต้องมาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยว่า "เบื่อสาวกนั่น วกนี่"
สรุปง่ายๆเลยครับ "ทุกๆ OS ในโลกนี้ที่เกิดขึ้น ล้วนสร้างสิ่งที่ดีให้แก่โลกของเรา
ถ้าไม่มีวินโดว์ งานออฟฟิตทั่วโลกจะเดินได้ดีไหม(มากที่ส่วนมาก) คนจะได้เล่นเกมส์ไหม
ถ้าไม่ลินุ๊ก ระบบเครือข่ายต่างๆ เซิร์ฟเวอร์มั่งจะแข็งแกร่งขนาดนี้ไหม
ถ้าไม่มี os x แอนิเมชั่นงาม มัลติมีเดียร์แหล่มๆ จะออกสู่สายตาเราไหม
นั่นเป็นไม้แข็งของแต่ละเจ้า"
(ทั้ง 3 ระบบลรวมทั้งระบบอื่นๆก็มีความสามารถที่ทำได้เหมือนกัน แต่ดูว่าใคทำอะไรเยอะกว่า)
=== ท่านมีความสุขกับอะไรก็ใช้ไปเถอะ ดีกว่าไม่มีใช้ หรือว่าท่านอยากจะเขียนมันมาใช้เอง โดยที่ท่านต้องนั่งเริ่มเขียนมันจาก 0 นะ ไม่ได้แก้ไขมันจากของระบบอื่นๆ แล้วท่านจะทำได้ไหมหละ ===
แค่เรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้คนแตกแยกกันได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ตลกจัง.. ทุกคนลองออกมายืนไกลๆ แล้วมองย้อนมาดูสิ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญในชีวิตอะไรเลยนะ แล้วจะขำตัวเอง ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่
เห็นด้วยครับ !
จริงจัง กับเรื่องเล็กๆ เกินไปหรือปล่าว
ปล. แต่ยอมรับครับ ข่าวใน Blognone ลดลงมากจริงๆ (หลังๆ เริ่มวิ่งไปหาอ่านใน Twitter แทน)
มันเป็นเรื่องของ First Impression ครับ ถ้าเทียบกันแค่เรื่องสินค้าระบบปฏิบัติการ ตอนผมเห็น OSX ครั้งแรกผมก็ถูกใจมันครับ พอเห็น Windows 7 มันก็เป็นอีกตัวที่อยากจะหามาใช้ วินโดวส์ XP มันก็คือของเมื่อ 8 ปีที่แล้วแหละครับ การออกแบบก็ยังใช้โครงสร้างเดิมๆ หลังๆ มานี้ พวกเรื่องระบบความปลอดภัยก็ออกไปทางแนว Unix มากขึ้น เพราะมันพิสูจน์กันเรียบร้อยแล้วว่าชัวร์กว่า ก็ไม่ใช่ microsoft ไม่เปลี่ยนนี่ครับ ดีออกที่คนผู้บริโภคได้เห็นพัฒนาการของสินค้า
แต่หลายครั้งเรากลับเห็นการนั่งแขวะกันไปมาระหว่างผู้นับถือ
ผมซื้อแมคมาใช้ครับ ใช้วินโดวส์ก็ต่อเมื่อ
วินโดวส์มันรองรับความบันเทิงได้หลากหลายที่สุดแล้วครับ ใช้แมคก็ต่อเมื่อ
บูทเข้ามาแล้วมันขี้เกียจออกครับ อีกอย่างคือเมนูมันก็สะอาดตาดี ใช้อูบุนตูก็ต่อเมื่อ
ผมชอบ Repository ของมันครับทำให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ แล้วสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ กว่าจะพอใจก็นานพอดูผู้ใช้คนอื่นอาจไม่ชอบแต่ผมชอบเพราะมันแสดงตัวตนผมได้ไม่แพ้ OSX แน่นอนว่าคนมาขอใช้ไม่ชินแน่ๆ ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ครับ เหมือนคนซื้อรถแรงๆ ราคาแพงระยับ ขับไม่ถึงร้อยแล้วติดไฟแดง ค่าน้ำมันก็แพง จอดไหนก็ต้องระวังคนหมันไส้มาขูดสี แต่เพราะอะไรครับเค้าถึงเลือก ผมคิดว่าคำตอบมันอยู่ในใจทุกคนแล้วครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการใช้งานนะครับ อย่าลืมครับว่ามันคือเครื่องมือ เราต้องใช้มันไม่ใช่มันเป็นนายเรา...
ขอบคุณที่อ่านครับ _______________________________________________
Freedom Initiative
Bentino.me
วะ วะ ว้าววว ข่าวนี้ขึ้น Top4 แล้วครับ :P
...มาบอกเฉยๆ XD~
My Blog
ผมไม่รู้ว่าต้องการจะสื่ออะไร หรือเรียกร้องความสนใจ
แต่การที่เว็บนี้ ขยายตัวใหญ่ขึ้น ก็ต้องมีคนต่างความคิด เข้ามาใช้งาน
ถ้าเข้าใจก็ไม่มีอะไรต้องติดค้างกัน
จริง ๆ ก่อน Windows จะเกิดแบบตอนนี้ Office นั้นไปดังเอาบน Mac มาก่อน ดังนั้นถ้าไม่มี Mac Microsoft ก็คงเจ๊งไปนานแล้ว
ผมเคยใช้หมด ตั้งแต่ DOS Win3.1,95,2000,XP,Vista,7 Mac OS9, OSX, Linux (Gnome,KDE,etc...) และอื่น ๆ ก็พอจะพูดได้ว่า เยอะแหละ 555 ก็คือจะบอกว่าเรื่อง Usability เนี่ยมันเป็นเรื่องของการปรับตัวจริง ๆ และคนที่ปรับตัวได้เร็วก็ได้เปรียบ ...
... ข้างบนดูจะไม่ค่อยประเด็นเท่าไหร่ ข้ามดีกว่า
เรื่องของ iPod จริง ๆ หูไอพอดไม่ได้ห่วยอย่างที่คิดนะครับ เสียงดีใช้ได้เลยนะ (แต่ขายแพงเว่อร์ไป...พอควร) เสียงใส ซาวนด์สเต็จก็กว้าง ถ้าใช้ฟังเพลงป๊อบเบา ๆ จนถึงโฟลก์เนี่ยถือว่าเพราะเลยนะ แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าเบสมันค่อนข้างน้อย ... ผมค่อนข้างมั่นใจว่าที่บุคคลิกมันเป็นแบบนี้ก็เป็นเรื่องของ Design เช่นกัน (อย่าลืมว่า ตลาดของ Apple คือพวกที่มีรสนิยม) การฟังเพลงแบบเน้นเบสเยอะ ในสายตาของจ๊อปส์ อาจจะเป็นเรื่องที่พวกชนชั้นล่างเขาทำกัน (ฮา)
อย่าเข้าใจผมผิดนะ หลังจากที่ใช้ iPod Touch ไม่นาน ผมก็เปลี่ยนหูฟังเป็น Sennheiser ที่ราคาแพงกว่า ให้เสียงใสได้พอ ๆ กัน แต่เบสมาอย่างฮึ่ม (ก็ไม่แปลก Diaphragm ใหญ่กว่าเยอะ มันไม่ใช่ earplug/in ear นี่นา) สุดท้ายพอฟองน้ำมันเปื่อยหมดก็เปลี่ยนมาใช้ Sony MDR EX85 กับ EX300 ที่เป็น In Ear ครับ ใสน้อยกว่า ซาวนด์เสต็จแคบกว่ามาก (เพราะอินเอียร์) แต่เบสเยอะกว่า (แกะเพลงง่ายกว่า :P)
เรื่องที่หงุดหงิดพอสมควรตอนใช้ iPod ก็คือการใช้ iTune นั่นแหละ iPod เป็น media player ตัวแรก ๆ เลยมั้งที่ใช้ ID3 Tag ในการจัดการเพลงภายในตัวเครื่อง (ตอนแรก ๆ media player ส่วนใหญ่จะใช้โครงสร้าง directory + ชื่อไฟล์) ดังนั้นมันต้องสร้างฐานข้อมูลของเพลงภายในตัวเครื่อง ก็เลยต้องใช้วิธีพิเศษในการโอนไฟล์เข้าไปในเครื่องครับ แต่ว่าพอมีฐานข้อมูล Tag ตรงนี้การจัดการเพลงภายในเครื่อง (เช่นการหาไฟล์เพลงในแนวเดียวกัน ศิลปินเดียวกัน) ก็สะดวกกว่า ผมคิดว่า Apple ประเมิณว่าการที่ยุ่งยากครั้งแรกครั้งเดียว แลกกับความสะดวกสบายในครั้งต่อ ๆ ไปนั้นมันก็คุ้มค่ากว่า
แต่เทคนิคนี้ก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องใช้พิธีพิเศษในการโอนไฟล์อย่างเดียว คนที่ใช้ Rockbox Firmware หรือมือถือหลาย ๆ รุ่น (อย่างตัวของผม SE W810i ซึ่งเก่าแล้ว) ก็ใช้วิธีก๊อปปี้ไฟล์ลงไปในตัวเครื่องตามปรกติ แล้วให้ตัวเครื่องอัพเดตดาต้าเบสเอง ซึ่งก็มีข้อเสียเหมือนกันเพราะตอนอัพเดตดาต้าเบสมันทำให้เครื่องช้าลงเยอะ 555
เรื่องที่หงุดหงิดที่สุดสำหรับ iTune คือ กิจกรรมทุกอย่างที่ทำกับ iPod (และ iPhone) จะต้องทำผ่าน iTune เคยคิดเล่น ๆ มั้ยว่า ทำไมเวลาจะซื้อโปรแกรมต้องทำผ่าน iTune เวลาจะัอัพเดตปฎิทินก็ต้องทำผ่าน iTune และอื่น ๆ มันก็ดูสะดวกดี แต่ตอนนี้คือ iTune มันอ้วนเป็นหมูซะจนทำระบบรวนกันหมด ช้าก็ช้า และอื่น ๆ มันไม่สะดวกเอาซะเลย (คิดว่า Apple คิดได้แล้วเลยทำ MobileME ขึ้นมา (ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรเหมือนกัน 555))
ตอนนี้ผมทำ iPod Touch สุดที่รักของผมหายไปซะแล้ว ... ก็บอกเลยละกันว่า Media Player ตัวใหม่ของผมจะไม่ใช่ค่าย Apple ส่วนจะเป็นอะไร ... ไม่ต้องรู้หรอก (ตอนนี้ใช้ SE W810i พลาง ๆ ไปก่อน)
ThaiGameDevX -- The First Game Developer Community in Thailand.
ชอบท่านนี้มากครับ กระจ่างดี ไม่ทราบว่ารู้ความคิด jobs ได้ไงครับเนี้ย หรืออ่่านหนังสือ inside steve jobs brain
ล้อเล่นครับ มีปิดบังเป็นปริศนาตอนท้ายด้วย ห้าๆๆ
แสวงหามิใช่เพราะรอคอย เชี่ยวชาญมิใช่เพราะโอกาส ชำนาญมิใช่เพราะโชคช่วย"ดังนี้แล้วลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"chonlatee
เหมือนกันแฮะ.. ที่ว่า Media Player ตัวต่อไปไม่ใช่ iPod แน่ ๆ
ถามว่ามันดีไหม ดีนะ ทิ้งก็ไม่ลง แต่ก็ใช้ไม่ลงเหมือนกัน รู้สึกว่านานวันมันจะยิ่ง Independent ไปเรื่อย ๆ ซึ่งคงไม่ใช่แนวผมแล้วล่ะ
My Experiences : Pexeriences
ยังไงผมก็ขอยืนยันว่าหูฟัง ipod ห่วย
คุณภาพเสียงนะพอทน
แต่คุณภาพวัสดุการผลิตนี่ห่วยเกินจะทน
จากประสบการณ์ตัวเอง
ใช้ถึง 2 เดือน ยางหุ้มขอบหูฟังเริ่มเปื่อย และมันจะหลุดหมดภายในเดือนที่ 3
ถ้าผมทนใช้ได้ ถึง หกเดือน ยางตรงปลายหูฟังเปื่อยหมดสภาพตามยางหุ้มขอบหูฟัง และเริ่มฉีกขาด
ห่วยโคตรๆ
เป็นมาตั้งแต่ iPod photo, ipod video, ยัน iPhone
อายุไขความเสื่อมสภาพหูฟัง ipod ที่ผมใช้มันเป็นแบบนี้ตลอด
ซื้อหูฟังจีนแดงคลองถม ที่ทำเลียนแบบยังทนกว่าเลย
แปลกแฮะ ผมใช้มาหกเดือนไม่มีปัญหาเลยนะครับเรื่องวัสดุ ขอบยางยังอยู่ดีมีสุข ทั้งๆที่ผมเป็นคนที่ไม่รักษาของอย่างรุนแรง
เป็นเพราะสภาพแวดล้อมในการเก็บรักษาของของซัพพลายเออร์ทางนี้ด้วยรึเปล่า
เอ๊ะ ไม่ได้ว่าซัพพลายเออร์ไม่ดีนะครับ แต่ว่าอยู่บ้านเราเป็นเมืองร้อน พวกขอบยางมันน่าจะเสื่อมสภาพเร็วกว่า ถ้าจะเก็บจริงๆอาจจะต้องเปิดแอร์ให้มันอยู่
onedd.net
onedd.net
แฟนผมใช้แล้วยางที่หุ้มมันขาดน่ะครับ สงสัยพับสายมากเกินไป แต่หูฟังที่ซื้อมาใช้แทนไม่มีปัญหานะครับ
โปรดระวังยางฉีกขาด
+1 เรื่องหูฟังวัสดุห่วยครับ ทั้ง iPod Touch / iPhone แต่เหมือนหูฟังที่ขายใน shop น่าจะวัสดุดีกว่า (สาย sync ที่ขายใน shop วัสดุดีกว่ามาก)
เป็นไปได้ (ไม่ค่อยทราบรายละเอียด แต่พอจะตั้งข้อสังเกตได้) เพราะขนาดคีย์บอร์ดที่แถมมากับเครื่องกับของขาย ยังมีความยาวของสายไม่เท่ากันเลย
อาจเป็นไปได้ว่าหูฟังที่มากับเครื่อง กับหูฟังที่วางขายใช้วัสดุคนละเกรดกัน หรือถึงแม้จะใช้วัสดุเหมือนกัน อาจจะมีวิธีการเก็บรักษาระหว่างการขนส่งที่แตกต่างกัน (ของที่อยู่หน้าร้านมันจะโดนดองอยู่ในตู้นานกว่า ของที่มากับเครื่องที่แค่โดนสุ่มหยิบขายไป)
ezybzy.info blog
ไม่เหมือนกันครับ เพราะว่าคียบอร์ดและเมาส์ที่เขาให้มานั้นเกิดมาจากเหตุผลที่ว่าคีย์บอร์ดนั้นเขาอยากให้ต่อตรงกับเครื่องนั้น ๆ เลย เลยทำสายให้พอดี เช่นสายเมาส์ที่มาพร้อม iMac ถ้าดูดี ๆ แล้วจะไม่สามารถนำมาใช้กับ MacBook ทุกรุ่นได้เลย (เพราะ USB อยู่ด้านซ้าย) ต้องซื้อแยกต่างหาก
@TonsTweetings
จากที่ผมอ่านหนังสือ
Inside steve jobs brain,
Apple way,
icon
และสารคดี Pirate..
มาผมจับใจความได้ว่า Office ของ Microsoft มันเป็นตัวชุบชีวิตให้บริษัท Apple เลยน่ะครับ เพราะช่วงนั้นขายทุนไปกับเครื่องน่ะ แล้วสตีฟ อยากให้มันใช้กับที่บ้านได้ เจ้า OS เดิมก็ไม่มีอะไรให้เล่นเลย เจ้านี้และเป็นตัวชูโรง //ลองหาอ่านดูครับ สนุกดี ได้ความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงดีครับ
เรื่องหูฟัง iPod ผมเหล่าให้ฟังจากประสบการณ์ เพื่อนมันซื้อ iPod รุ่นแรกมาๆ ณ ตอนนั้น
มันแถบจะข้างหูฟังทิ้งเลยล่ะครับ มันไปซื้อยี่ห้ออื่นมาฟังกับ เจ้า iPod ของมันส่วนอันนั้น ต้อง ร้องเพลง เก็บเอาไว้ในลิ้นชัก .. ล่ะครับ ผมล่ะไม่อยากเชื่อกับมันเลยตอนแรกเพราะไม่เคยลองว่าอะไรมันขนาดนั้น
แซวมันเล่น "มันถึงกับห่วยกว่าจีนแดงเลยน่ะ(เพราะมันชอบเทียบกับจีนแดง)ของแอบเปิ้ลน่ะมันต้องมีคุณภาพสมกับราคาดิ" ในที่สุดก็ต้องไปขอลองหูฟังที่เก็บในลิ้นชักของมัน ..เอ้อ ก็จริงของมันว่ะ
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
ไม่ลองดู MacHeads อีกเรื่องเหรอคับ กำลังเปิดขาย limited edition เลย
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ดูเสร็จแล้วมารีวิวให้ฟังด้วยนะครับ
ครับ อยากลองเหมือนกัน มาให้ผมยืมบ้างครับ :P
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
ผมว่ามันดีกว่าทำกิจกรรมสิบอย่างแล้วต้องมีโปรแกรมแบบ itune มาให้แยกกันไปสิบตัวนะครับ ส่วนตัวคิดว่ารวมๆ กันแหละดีแล้ว
-- Flex | Java | REALBasic --
เลือกใช้สิ่งที่เหมาะกับตัวเราครับ
ที่ว่ามันไม่ดี มันอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้...
kurtumm
คำตอบแทงใจ (ฮา)
คือ เนื่องจากเคยไปช่วยเขาขายก็เลยได้มีโอกาสอ่านพวก Sales Material ก็เลยพอจะทราบวิธีที่เขา (เมืองนอก) ใช้ขายผลิตภัณฑ์ยี่ห้อนี้ เขามีวิธีชวนคุยสารพัดแต่สุดท้ายก็จะมาจบที่ว่า ถ้าลูกค้าไม่อยู่ในกลุ่มคำถามที่ชวนขายได้เลยก็พอจะได้สรุปว่า ลูกค้าคนนั้นไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์
ezybzy.info blog
งอน ชิ มะ :)
ผมว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าของใครดีไม่ดีหรอก แต่ผู้เขียนเพียงแค่ต้องการสื่อว่าชอบอะไรก็อย่าปิดหูปิดตาคลั่งจนเกินเหตุ จนคิดว่าสิ่งที่ตนชอบเป็นศูนย์กลางของจักรวาลก็เท่านั้น
ก็อย่างหลายๆ ท่านบอกนั่นแหละครับอะไรที่เหมาะกับเรา สบายใจ ทำงานได้ก็ใช้ไปเถอะทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียถ้าอันไหนมันมีข้อดีสำหรับเรามากกว่าข้อเสียก็อันนั้นแหละ
.... ก็เห็นด้วยกับบางท่านเหมือนกันที่ช่วงหลังๆ บล็อกนันเริ่มมี เอ่อ...จะเรียกว่าไงดี เรียกตามคนโพสต์คนแรกแล้วกันว่า "คอมเม้นท์เกรียน" บางครั้งก็ออกแนวหาเรื่องแบบไร้เหตุผล ก็เข้าใจครับว่าบางครั้งอาจจะแซวกันเล่น แล้วถ้ายิ่งไปกระตุกต่อมอะไรของใครเข้ายิ่งไปกันใหญ่ครับซัดกันเละ แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาจะไม่มีประเด็นที่ต้องถกกันแบบนี้เกิดขึ้น มันก็มีอยู่เหมือนกัน จำได้ว่ามีอยู่โพสต์นึงเป็นการเปรียบเทียบภาษาโปรแกรมแกรมมิ่ง ซึ่งนานมาแล้ว คอมเม้นท์ในนั้นยังน่าอ่านกว่าปัจจุบันซะอีก เพราะส่วนมากว่ากันด้วยเหตุผล มีหลักฐาน มีตัวอย่างมาอธิบาย แต่ช่วงหลังๆ เริ่มเหตุผลน้อยลง อารมณ์มากขึ้น...
ประเทศเรานี่จะยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ได้ไปซะทุกเรื่องเลยหรือเนี่ย?
หรือว่าเกรียนเมื่อครั้งวันวานวันนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
สถานการณ์ล่าสุดตอนนี้อยู่ใน Top9 แล้วล่ะครับ
และคาดว่าจะไต่ไปเรื่อยๆ ดูซิว่าจะขึ้น Top5 ได้ไหม
ปล. เช็คสถานการณ์ปัจจุบัน Blognone Hall of Fame
(ขอสาระบ้าง) ผมสงสัยมานานแล้ว ว่าทำไมกลุ่มผู้ใช้แมค(บางคน) ถึงต้องออกมาปกป้องสินค้าของบริษัท(ที่ไม่ใช่พ่อ และส่วนมากไม่ได้มีหุ้นอยู่ในบริษัทนั้น)อย่างมากมาย และออกหน้าออกตา(ในบางครั้ง)
แต่ในทางกลับกันกลุ่มผู้ใช้วินโดวส์(ซึ่งมีจำนวนมากกว่าโข) ไม่ค่อยออกมาเรียกร้องสิทธิให้กับบริษัท(ที่อุตส่าห์ผลิตระบบปฏิบัติการมาให้คนกว่าครึ่งโลกซื้อใ้ช้)
แปลก...ที่ สาวกวินโดวส์ไม่โดนเกลียด ไม่โดนแบนจากหลายๆเวป
สาวกแมค(คนที่ไม่ใช่ก็อย่าสนใจนะครับ) ช่วยเพลาๆ ลงหน่อยเุถอะครับ ปล่อยวางบ้าง แล้วมาฮาแตกกันเถอะ!! :P
My Blog
เพราะไม่มีใครด่าสาวกค่ายอื่นๆว่า
"มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้อง...ด้วย" อะไรก็ว่าไป
ก็ขอสงสัยบ้างว่าหลายๆคนที่ใช้ Mac ไม่ได้ขโมยเงินพ่อใครมาซื้อทำไมต้องมาโดนว่าแบบนี้
Sony ไงครับ(ขอโทษที่อ้างอิง) แต่สาวก Sony ก็ไม่ได้ออกมาปกป้องตัวเอง มากไปกว่าการอธิบาย(เกี่ยวกับวัสดุ การออกแบบ ฯลฯ
และ่ส่วนมากไม่ "ทับถม"
อ้อผมอาจจะลืมไปว่า สาวก Sony อาจตกอยู่ในห้วงของความห่วยเพราะใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เลยไม่ค่อยปริปากออกมาเท่าไหร่ หรือไม่ก็อาจจะมีจำนวนน้อยมาก ไม่ก็ อาจจะไม่คลั่งไคล้ถึงขนาดเป็นสาวก
ปล. การวิเคราะห์่่ส่วนตัว
อีกอย่าง ถ้าคิดในมุมบวก เค้าอาจจะบอกว่า มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้อง...หล่อ... ด้วย ก็ได้ อย่าเพิ่งรีบตั้งแง่ว่าเ้้ค้าจะด่าสิครับ บางคนเค้าก็แค่แหย่เล่น
My Blog
ถามจริงๆเหอะครับว่าไอตรง ปล. น่ะ
คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ
จริงๆเหรอ จริงๆเหรอ
ถามจริงๆเหอะ
SONY เข้าใจว่าป็นเหมือนกัน แต่มีน้อยมากที่จะโดนพูดถึง
เท่าที่เห็น สาวกโซนี่ไม่ค่อยปกป้องผลิตภัณฑ์โซนี่ครับ แต่ว่าพวกนี้จะใช้แต่ของของโซนี่ (แต่ก็อาจจะไม่เสมอไป แต่เพื่อนผมสองสามคนที่เป็นสาวกโซนี่ ไม่เคยจะปกป้องโซนี่เลย ด่ายับ แต่มันใช้แต่ของโซนี่ ส่วนใหญ่มันจะบ่นว่าซื้อมาแพงชิบ กูนี่บ้าป่าววะ ซื้อมาได้)
ส่วนผมยี่ห้อไหนไม่สำคัญ แต่ขอให้มันรัน Windows ได้ และไม่เว่อเกินไปสำหรับผมก็พอแล้ว
วุ้ย!! ผมยกตัวอย่างการมองในแง่บวก ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะพูดแบบนั้นซะหน่อย (แต่ที่ฮาไปงั้น เพราะว่าเพื่อนผมมันบอกมาแบบนี้)
อีกอย่างที่เค้าไม่กล้าว่าตรงๆ ผมคิดว่าเพราะเค้าไม่มั่นใจว่าทุกคนที่ซื้อแมคจะเป็นแบบ... ที่เค้าจะว่ารึเปล่า
แล้วเชื่อเหอะบางคนที่ซื้อมาเพราะว่ามัน... ก็ต้องมีบ้าง แน่นอนว่าแบรนด์อื่นก็ไม่รอดหรอก
My Blog
ไม่ใช่ที่เค้าว่า แล้วจะร้อนตัวทำไมครับ
onedd.net
onedd.net
แล้วเค้าอยู่เฉยๆจะอยากไปว่าทำไม
ทำไมถึงไม่สามารถอยู่ร่วมกันโดยปราศจากการแขวะการเหน็บแหนม การดูถูกพฤติกรรมการใช้เงินของคนอื่นไม่ได้
ตามมา บวก
+1
ขอตอบสองคนเลยน่ะ @blize และของ @wiennat
ลองอ่านคำตอบของเขาที่ย้อนหลังดูครับ
แล้วจะรู้ว่าทัศนคติของเขาเป็นอย่างไหร
หรือไม่ก็คอมเมนท์ด้านล่างเอาครับ
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
เพราะเอาเข้าจริง คอมพิวเตอร์ที่มากับ OS อื่นๆ (ซึ่งคอมพวกนั้นเป็น IBM PC Clone) ตอนซื้อราคามันไม่แพงแบบ Macintosh ไงครับ แถมว่าถ้าเอาราคาเท่ากัน สเป็คก็ค่อนข้างสูงกว่า ซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบตรงนี้ครับ คอมแรงๆ คนเลยอาจจะมองไปว่า "เอ็งไปซื้อมาทำไมวะ เครื่องก็ไม่ได้แรงไรเลย แพงก็แพง ราคาเท่ากันนี่กุหาได้แรงกว่าเมิงสองเท่า บ้าป่าวเมิงเนี่ย"
ผมว่าเรื่องปัจจับราคาตรงนี้โฆษณาของไมโครซอฟท์น่าจะชี้ให้เห็นได้ชัดแล้วนะ เหอๆ
เอาเถอะ
ก็เข้าใจว่าคงไม่เคยโดนด่าประมาณที่ว่าไปเลยไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่ให้เข้าใจว่าคนที่โดนด่าเค้าเสียใจ
แล้วก็น่าจะคิดกันเองได้แล้วว่าคนที่เค้ายินดีจะจ่ายแพงขึ้นนั้นเค้ามีเหตุผลของเค้าไม่จำเป็นต้องอธิบายใครและไม่จำเป็นต้องให้ใครมาอธิบายเพิ่มเติม
แค่ซื้อแค่ใช้ด้วยเงิน Gu แต่มาถูกพวก....ด่าว่า มีเงินอย่างเดียวไม่พอ
เออเจริญ
ซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบตรงนี้ครับ คอมแรงๆ คนเลยอาจจะมองไปว่า "เอ็งไปซื้อมาทำไมวะ เครื่องก็ไม่ได้แรงไรเลย แพงก็แพง ราคาเท่ากันนี่กุหาได้แรงกว่าเมิงสองเท่า บ้าป่าวเมิงเนี่ย"
คือมันเป็นความคิดใหญ่จริงๆครับ อันนี้ผู้ที่ใช้แมคก็ควรจะเข้าใจด้วย ว่าการไปเปลี่ยนความคิดของคนส่วนใหญ่มันเ็นไปไม่ได้ ผมเข้าใจว่าคนใช้แมคมีสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือสาวก และอีกกล่มคือผู้ใช้ ซึ่งผมก็รู้ว่าคนที่ซื้อแมคมีเหตุผลของเขา แต่คนส่วนใหย่ผิดด้วยเหรอครับที่จะมองจากความรู้สึกของตนเอง ?
อ้อ ผมเคยโดนคนใช้มือถือจีนแดงด่าเรื่องที่ผมไปซื้อ PDA นะครับ แต่ผมก็ไม่ได้ไปเดือดร้อนอะไร เ้พราะผมรู้ดีว่าอุปกรณ์ของผมดีหรือแย่กว่าของเขาตรงไหน แต่ผมก็เลือกปล่อยให้เขาด่าต่อไป เพราะผมไปเปลี่ยนความคิดอะไรเขาไม่ได้ครับ ซึ่งมือถือจีนแดงว่าไปผมก็ไม่เคยซื้อมาใช้จริงๆจังเหมือนๆกัน (เครื่องสุดท้ายที่ใช้คือ i-mobile 510) ประสบการณ์ที่ได้ส่วนหใญ่ก็มาจากเอาของเพื่อนมาเล่นครับ
นอกจากมือถือจีนแดงยังมีอีกเพียบที่โดนด่าว่าบ้าหรือเปล่า ไปซื้อมาทำไม
คนส่วนใหญ่จะมองจากความรู้สึกของตนเองว่า "ซื้อมาทำไม มีเงินไม่พอต้องโง่ด้วย" นั้นก็ไม่ผิด
แต่รู้สึกแล้วเอาออกมาว่าคนอื่น คนที่รู้สึกว่าโดนว่าจะออกมาตอบโต้ ก็ไม่ผิดเหมือนกันแหละ (หรือว่าผิดที่ตอบโต้?)
ปล. อุเบกขา พูดง่ายแต่ทำยากชิบ เอิ้กๆ ^^"
มันยากจริงๆที่จะยอมอยู่เฉยๆโดยไม่ตอบโต้
แต่จะพยายามต่อไป
พยายามมานานไม่ได้ซักที
ตอนนี้ 2009-04-30 23:25 ตอนนี้ติดอันดับ Top 5 แล้วครับ
Top5 นานแล้วครับ ผมลุ้นให้ขึ้น Top3
อ้างอิง
My Blog
อาจเป็นเพราะคนเรามักรอให้คนอื่นทำเพื่อเรา แต่ไม่คิดที่จะทำอะไรเพื่อตัวเราเอง มันจึงเกิดปัญหาตามมาคือ
*เมื่อทำมาไม่ถูกใจคือ ไม่ดี
*เมื่อไม่มีปัญญาซื้อคือ แพง
*เมื่อของที่เราไม่ชอบมันสวยกว่าของเรา ก็บอกว่าทำมาเพื่อแฟชั่น ไม่เน้นประโยชน์ใช้สอย (แอบอิจฉาใช่มั๊ย)
*ชอบรื้อ ปรับแต่ง OS ชอบรื้อเครื่อง แต่ไม่สามารถทำบน Mac ได้สะดวก ก็บอกว่ามันเป็นระบบปิด
*OS ใช้ง่ายก็บอกว่า ทำมาให้คนมีความรู้น้อยๆ ใช้
*โฆษณาทำออกมาได้ดีหรือไม่นั้น ก็ดูไมโครซอฟท์ก็แล้วกันที่เที่ยวทำโฆษณาตามแก้เกมกันอยู่หรือไม่จริง สินค้าใช้ CPU ตัวเดียวกัน แต่สามารถทำจุดขายได้แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ แถมแพงกว่าแต่ก็ยังมีคนอยากได้อยู่ หรือไม่จริง
พอแค่นี้เดี๋ยวโดนด่าไปกว่านี้
สรุปเจ้าของกระทู้ไม่มีความเป็นกลางเอาเสียเลยครับ มันเป็นเรื่องของการแข่งขันนะครับ และ Mac User ส่วนมากที่ตอบกระทู้ก็ไม่ได้รับค่าจ้สงมาตอบนะครับ เค้ามีความภูมิใจในสินค้าที่เค้าใช้ และมีความสุขที่ได้ใช่ใช้มันก็เท่านั้นเอง จะว่าเป็นสาวกก็ไม่แปลกหรอกครับเพราะเค้ามีหัวหน้าที่พยามยาม คิด หาอะไรใหม่ๆ มาให้เล่นให้ใช้อยู่เสมอ เพื่อไม่ให้อายค่ายอื่นเค้า แต่เมื่อทำมาแล้วก็ต้องให้แตกต่างสักนิดนึง เพื่อให้สาวกเกิดความภูมิใจว่าไม่ได้ไปลอกของใครมา ...
ขอบคุณครับ
มันคือแอปเปิ้ล มันคือสิ่งที่สตีฟจ๊อบส์ประดิษฐ์ขึ้นมา
ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว
ใครชอบอะไรก็ซื้อไปครับ
อย่าเถียงกันไปเลย
สุดท้ายเราก็ยังเป็นผู้บริโภคอยู่ดีครับ
ไม่อยากเถียงเหมือนกัน เสียสุขภาพจิต
แต่มันมีพวกประเภทชอบด่าว่า "มีเงินอย่างเดียวไม่พอ"
แค่คำประเภทนี้เท่านั้นล่ะที่มันจะทำให้ทนไม่ไหว
จริงๆมันไม่ได้กระทบตัวผมเองเท่าไหร่เลย แต่เห็นพวกที่ชอบพูดคำแบบนี้มันลอยหน้าลอยตาแล้วมันทนไม่ได้จริงๆ
ทำใจปล่อยผ่านได้ไม่นานก็ต้องเถียงกลับ
คือมันมีพวกแบบนั้นจริงๆครับ ที่มีเงินผสมลูกบ้าเพื่อจะซื้อแมคมาใช้ และที่ผมรู้จักก็หลายคนด้วยครับ
ถ้าคุณไม่ใช่พวกนั้น ปล่อยผ่านไปก็ได้มั๊งครับ หรือใช่ ?
จะเป็นแบบไหนสุดท้ายนั่นคือสิ่งที่เขาชอบ ต้องการ และซื้อมันด้วยหยาดเหงื่อแรงกายเขา เราไม่มีสิทธิ์ไปว่าใครโง่ครับ
ผมแทบไม่เคยคอมเมนต์บทความ apple เลย วันนี้ขอนิด
ปล. ไปถึงคุณ Montimedia ข้างบนด้วยว่า บางทีนั่นเป็นคำคะนองปากหรือเปล่า คนพูดคงไม่ได้จริงจังว่าใครก็ได้ครับ :)
ขอบคุณมากที่ช่วยเตือนสติ
เรื่องคะนแงปากก็จริงนะ เหอๆ
แต่หลายๆคนก็ไม่ใช่นะครับ
ก็เขาว่าคนที่ใช่ไม่ใช่เหรอ...
หรือไม่ใช่ ?
ผมเริ่มงงแระ = ="
เหมือนกันครับ พูดเองก็งงเอง - -"
สรุป
1. อย่าโน้มน้าวให้ใครมาชื่นชอบตามตนเอง
2. ถ้ามีคนมาบอกว่าแพง ไม่คุ้ม ก็ไปขอตังผู้นั้นมา แล้วไปซื้อสิ่งที่ผู้นั้นปรารถนา ให้เราอยากซื้อ แล้วบอกว่า " ใช่แล้วคุ้มมากเลย :) "
3. ถ้าของคนอื่นไม่ดี ก็อย่าไปเน็บแนบให้คนนั้นรู้สึกเป็นไอ้หน้าโง่
4. ใช้อะไรแล้วมีความสุขก็ใช้ไป ไม่มีใครบังคับคุณ
5. ชีวิตคนเรามันสั้น ทำอะไรมีความสุขก็ทำไปเหอะ
ปล. ออกแนวปลง
ผมสาวก BenQ ครับ 555+
ผมแบน BENQ แล้วครับ
ไม่ประทับใจบริการหลังการขายอย่างแรง
CD-ROM ของ BenQ หน้าตาถึกมากกกกก
JoyBook S32W ของป๋ม..
ทำไมต้องได้ล๊อตที่ DVD ห่วยด้วย เสียตั้งกะยังไม่ถึงปี แถมหาเวลาไปเคลมไม่ได้เล้ย .. เศร้าจิตเศร้าใจ
(เครื่องต่อไป ไม่ใช่ BenQ แน่นอนฮะ .. 555+)
My Experiences : Pexeriences
เล่าให้ฟังหน่อยครับ ตอนนี้เป็นลูกค้าอยู่ จะได้ระวังตัว
กระทู้ร้องแรงแห่งปี
Priesdelly Blog
(นอกเรื่อง)
มีใครคิดเหมือนผมมั่งว่าโฆษณา "Get a Mac" ของค่ายผลไม้นี่แหละเป็นตัวสร้างซีลอททางอ้อมเลย
ลักษณะของการเชิดชูของตัวเอง และกดอีกฝ่ายให้ต่ำลง ของข้าดีของเอ็งไม่ไหว(ซึ่งความจริงจะโฆษณาแต่ข้อดีของตัวก็ได้ แต่เค้าเลือกที่จะเปรียบเทียบให้ดูเหนือกว่าอีกฝ่าย)
ผมก็เข้าใจว่าเค้าตั้งใจจะให้มันออกมาเป็นตลกเสียดสีแบบขำๆ ไรงี้
แต่ผมคิดว่าก็มีคนไม่น้อยที่ดูโฆษณาที่ว่าและก็ซึมซับทัศนคติที่ว่านี้เข้าไปโดยไม่รู้ตัว
โปรดฟังอีกครั้ง "โดยไม่รู้ตัว" ซึมซับนานๆเข้าก็คิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา...
รู้ตัวอีกทีก็...นะ
เอ หรือผมคิดมากไปเอง
ผมเห็นด้วย ว่าแอปเปิลสร้างซอมบี้ขึ้นมาจากการกระทำของแอปเปิลเอง จะโดนตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็แล้วแต่ และตอนนี้แพร่กระจายออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว
พี่น้องแอนตี้แอปเปิลทุกท่านครับ เลิกด่าแมคได้แล้วครับ สรรเสริญเหอะ สาวกจะหายไป (เพราะไม่มีคนด่าแอปเปิล)
ไอนี่ล่ะตัวดีเลยที่ชอบพูดว่า
"มีเงินอย่างเดียวไม่พอ"
1.ชอบพูดว่า? ผมพูดครั้งเดียวตอนโซนี่นะฮะ ขอโทษ แล้วก็ผมพูดถึงโซนี่ไม่ใช่แอปเปิล ชอบพูดว่านี่แปลว่าพูดหลายครั้ง?
2.อยากเรียกผมว่า "ไอ" หรือ "ไอ้"
ขอโทษที่เรียกไอ้
แต่ยังไงคุณก็ตัวเปิดประเด็นอยู่ดี
ช่วยเอาครั้งอื่นที่ไม่ใช่โซนี่ในโฆษณาของไมโครซอฟท์มาแปะด้วยฮะ
ต้องขอโทษด้วยลองมองย้อนๆไป 3-4 หน้าหาประโยคนี้ไม่เจอจริงๆ
เจอแต่ประโยคดูถูก Apple และ สาวก ด้วยเรื่องอื่นๆ
สรุปแล้วผมผิดเองที่ติ๊ต่างว่าคุณพูดไปหลายครั้ง
เชิญลงโทษตามสมควร
แต่ถึงยังไงมุมมองของผมต่อคุณก็ยังเป็นผู้ชอบดูถูกเหมือนเดิม
ขอบคุณ
เขาก็เป็นคนเช่นนั้นแหละ อย่าไปถือสาอะไรเขาเลย
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
ครับพี่อย่ามาถือสาผมเลย
กลับไปทำงานของพี่เถอะครับ
ประเด็นที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ "ไม่ชอบเห็นการดูถูกคนอื่น"
ทั้งที่จริงๆมันไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ได้โดนกระทบอะไรจากการดูถูกนั้นๆเลย
ภาษาพูดเรียก "หาเรื่องใส่ตัว" ภาษาชาวบ้านเรียก "เกือก"
สาวกมั๊ยไม่รู้ เพราะทั้งตัวผมมีแค่ iPhone
เวลาที่เถียงกันในเรื่องข้อดีข้อด้อยในตัวสินค้า ผมคงไม่มีอะไรไปเถียง เพราะไม่มีข้อมูลมากนัก
แต่เมื่อใดที่เริ่มมีการ "ดูถูก" เกิดขึ้น ผมไม่สามารถปล่อยไปเฉยๆได้
จะเถียงโดยไม่สนใจค่าย "Apple" , "Microsoft" ผมเถียงหมด ไม่ได้เถียงแทนบริษัท
แต่เถียงแทนด้วยสิทธิคนธรรมดาทั่วไปที่มีสิทธิจะเลือกใช้สิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สมควรจะต้องโดนคนอื่นดูถูก
ถ้าพี่ๆคิดว่าการที่พวกพี่ดูถูกคนอื่นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้
แล้วทำไมการที่ผมตอบโต้จึงถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำล่ะ
พูดมากไปก็คงไม่มีวามหมาย เพราะต่างคนต่างมุมมอง เถียงอีก 10 blog ก็ไม่จบ
เอาเป็นว่าผมขอโทษที่สร้างความไม่พอใจแก่พวกพี่
แต่ผมก็ยังยืนยันในจุดยืนเดิมคือ "เกลียดพวกชอบดูถูกคนอื่น"
ขอเชิญพวกพี่สนุกกับการได้ดูถูกคนอื่นต่อไปนะครับ
ขอบคุณครับ
ไม่ได้เห็นด้วยทุกอย่าง แต่ชอบประโยคนี้ครับ
"คนธรรมดาทั่วไปที่มีสิทธิจะเลือกใช้สิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สมควรจะต้องโดนคนอื่นดูถูก"
ผมคิดว่า ถึงแม้คนที่ดูถูกคนอื่นจะไม่ได้หมายถึงเราก็ตาม แต่ยังไงการดูถูกก็ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นในสังคมครับ
ผมไม่สนหรอกน่ะว่า Montimedia จะเป็นสาวกอะไร ใช้ผลิตภัณฑ์ไหน มันเป็นสิทธิ์ของคุณ
และการตอบคำถามหรือมาปกป้องข้อมูลทึ่มันถูก มันก็ดีแล้วหนิ มันเป็นเสรีภาพแห่งการคิดเห็น
แต่ที่มาพูดอยากให้มี มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต (Netiquette) บ้าง
ไม่ใช้เอะอ่ะก็ไปว่าเขานั้นนี้ แล้วมาขอโทษที่ตามตูดเมื่อเขามาทักท้วงว่าไม่ใช่
เพราะ การพูดมันก็เป็นกริยาที่สื่อถึงตัวเราใช่หรือปล่าว
และการที่ Montimedia พูดกับ bankkung ไปนั้นมันก็ไม่ต่างกับการดูถูกคนอื่นหรอกครับ
แล้วประโยคนี้ "พี่ๆคิดว่าการที่พวกพี่ดูถูกคนอื่นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้" มีใครออกมาพูดว่าสามารถทำได้หรือครับ
สงสัยเขาคงยังไม่ได้อ่าน มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต (Netiquette) ถ้ามีคนนั้นพูดในเว็บ Blognone ลองเอามาอ้างอิงดูน่ะครับ
ปล. เรื่องการ "ดูถูกคนอื่น" Montimedia จะบอกว่าผมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยหรือ
ถ้าคิดเช่นนั้น โปรดเอาหลักฐานมายื่นยัน (ไม่ว่าจะเป็นการดูถูกอะไรก็ตาม)
ปล. ควรโต้แย้งด้วยเหตุและผล รวมทั้งข้อมูลที่เท็จจริงไม่ใช่ความเชื่อความศรัทธา
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
การใช้ browser ก็เหมือนการเลือกเสื้อผ้าใส่ แต่คนเลือกเสื้อผ้าใส่ด้วย IE6 มัน .."ไม่มีรสนิยม"
http://www.blognone.com/node/11021#comment-90637
มันเป็นบทความที่ผมยกมา บทความนั้นก็อธิบายอย่างชัดเจน แล้วก็มีลิงก์ไปยังบทความให้อ่าน
ถ้าตีความหมายที่เขาสื่อไม่ได้ ก็อย่าโต้แยงกันเลยครับ
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
"ไม่ใช้เอะอ่ะก็ไปว่าเขานั้นนี้ แล้วมาขอโทษที่ตามตูดเมื่อเขามาทักท้วงว่าไม่ใช่ เพราะ การพูดมันก็เป็นกริยาที่สื่อถึงตัวเราใช่หรือปล่าว"
ที่เขียนจะสื่ออะไรหรือครับ
รับสารอ่านสารให้หมดแล้วมาพูดกันน่ะครับ แล้วควรสื่อสารด้วยครับว่าจะสื่ออะไร
ไม่ใช่เป็นปริศนามาแล้วมาตอบกันไปมาอีก เดี่ยวพูดไปก็ตีความไปนู้นนี้อีก
"อิสระภาพทางความเห็นน่ะมี" แต่ถ้าอยากให้ชุมชนนี้ดีก็ช่วยกันสิครับ
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
ผมมีมารยาทกับคนที่สมควร
ก่อนอยากให้คนอื่นมีมารยาทกับตัวเรา
ลองสำรวจก่อนดีมั๊ยว่าเรามีมารยาทกับคนอื่นรึเปล่า
ปล.ไม่ต้องฝืนใจพูดเพราะกับผมก็ได้ชอบคนพูดหยาบแต่จริงใจมากกว่าปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ
ลองสำรวจก่อนดีมั๊ยว่าเรามีมารยาทกับคนอื่นรึเปล่า
-> คงจะหมายถึงกระทู้นั้นสิน่ะ ก็อย่างที่บอกว่ายกมาให้อ่าน จับประเด็นไม่ได้เอง
ผมไม่ได้ฟืน ถ้ารู้จักผมจริงก็จะรู้ว่าผมเป็นคนตรงขนาดไหน มาแนะนำไม่ได้มาว่าตามที่คุณเข้าใจ
แล้วฝากอีกนิด ถ้าพูดดีด้วยและจริงใจมันไม่ดีกว่าหรือครับ
<mOkin>
ตรู่ว่าแล้วในโลกนี้มีปัญหา เขาไม่ด่า ก็ชื่นชม หรือเฉยๆ
สามประเภทที่ว่านี้มิเปลี่ยนเลย จงวางเฉยใครถือสาเป็นบ้าตาย<mOkin/>
มันยากเกินไปที่พูดดีแล้วจริงใจด้วย
ถึงตอนนี้ก็พอจะเข้าใจได้ที่เราต่างมุมมองกันมาก
เชื่อว่าคงไม่สามารถลงรอยกันได้โดยง่าย จากที่คุยกันก็พอรู้ว่าคุณเองก็เป็นคนมีเหตุผล
เอาเป็นว่าผมขอแค่ไม่อยากเห็นคนอื่นโดนดูถูกเท่านั้นพอ
และที่คุณพูดมันก็ถูก คำพูดผมเองก็ออกแนวดูถูกคนอื่นอยู่เหมือนกัน
ผมคงต้องพิจารณาตัวเองด้วย
ไม่อยากต่อความยาวแล้ว เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ ขอจบกับคุณ mokin แค่นี้ละกัน
ปล.แต่ก็ยังหวังจะได้คุยกับคุณ bankkung ซักหน่อยล่ะนะ ให้มันเคลียร์จบๆไป ไม่มีค้างคา
งั้นคุณก็กด site search สิ keyword คำว่า 'มีเงินอย่างเดียวไม่พอ' 'bankkung' แค่นี้เอง แล้วเอามาแปะ แค่เปิดสามสี่หน้าหาคอมเมนท์ทั้งหมดของผมไม่ได้หรอก ผมกัดแอปเปิลบ่อย แต่ไม่เคยกัดว่าต้องมีมากกว่าเงินถึงจะซื้อแอปเปิล แล้วอารมณ์ตอนโซนี่ก็แค่กัดเฉยๆ ถ้ารู้สึกว่ามันเป็นการดูถูกก็ขอโทษด้วย กะเอาฮาเฉยๆ
ปล.ไม่ต้องมาอภัยผมนะ ถ้ายังติดค้างก็แปะไว้ว่าติดค้างอะไร
ปอ.ดีนะว่าคอมเมนท์ผมทั้งหมดเป็นดิจิตอล หาง่ายกว่าเยอะ
ก็ search ด้วย keyword ประมาณนั้นล่ะ แล้วกดย้อนไป 3-4 หน้าหลังสุด มันไม่เจอ
ก็ไม่อยากค้นไปมากว่านั้นเพราะมันจะเกินส่วนที่ผมเคยเห็นไป
ที่ต้องการตอนนี้แค่อยากขอความร่วมมือลดการแขวะลงเท่านั้นล่ะ
ถ้าเจตนาคุณไม่ได้ต้องการดูถูก ก็ถือว่าเป็นการแขวะ เหน็บแหนม แล้วกัน
อยากให้ลดๆลงหน่อย
จะว่ามากก็ไม่ได้ เพราะตัวผมเองก็เป็นเหมือนๆกัน
คงไม่มีอะไรจะต่อแล้ว
ถ้ายังมีอะไรอีกก็เชิญว่ามาได้
ยินดีที่ได้ร่วมกันถกเถียงเพื่อสร้างสังคมที่เหมาะสมสำหรับทุกคนครับ ;D
im กันง่ายกว่ามั้ยครับ อ่านยากครับ มันแคบ (อึดอัด - -")
im ไม่ได้ เดี๋ยวไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ Top4
ถ้าเถียงกันต่อ ผมว่าอันดับหนึ่งก็ไม่ไกลเกินเอื้อม :P
ผมชอบน้องMontimedia มาก ผมว่าน้องเค้าพูดเป็นธรรมชาติมนุษย์ ไม่จำเป็นต้องมาอ้างมารยงมารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ตอะไร(นี่มันเอาไว้สอนเด็ก) น้องเค้ามีมารยาทที่ดีโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
แต่กับคุณ bankkung ผมว่าคุณเป็นคน "ไม่ดี" โดยธรรมชาติ เพราะมันส่อมาตลอดในทุกๆคอมเม้นของคุณ
-1
ผมไม่เห็นด้วยในแนวทางการแสดงความคิดเห็นของคุณ Montimedia ครับ
ผมรู้สึกเช่นเดียวกับคุณมาร์คคือเบื่อสาวกแล้วเหมือนกัน ซึ่งก็มีแต่หน้าเดิมๆ จริงๆ แม้ผมจะเป็นคนนึงที่คลั่งไคล้แอปเปิล แต่ต่อไปคงได้แต่อ่านข่าวแอปเปิลเฉยๆ ไม่แสดงความคิดเห็นอะไร เพราะติอะไรนิดนี่ไม่ได้เลยครับ แอปเปิลถูกเสมอ ผมเบื่อจริงๆ นะ
ต้อง ... ด้วย
... = ?
แหม่ มีคำให้เติมเพียบเลย เลือกใช้ตามสถานการณ์แล้วกัน ^^
"หน้าตาดี" ด้วยใช่มั้ยครับ อิอิ
ต้อง หล่อ... ครับ เพราะผมกำลังจะเก็บตังซื้อ :P
My Blog
โอ้โห รู้สึกเรามีอะไรหลายอย่างเหมือนกันแฮะ อิอิ
จะเป็น Mac เครื่องแรกของผมด้วย 555+
มา มากรีดเลือดสาบานกันจริงๆ เลยดีกว่า!!
กว่าจะได้ซื้อ Mac คงใช้ cell แล้วล่ะครับ แหะๆ
My Blog
คำนี้มันสุดๆ คนพูดนี่สงสัยเคยมาก่อนแหงมๆ 555
~?Ja:aๅe ฯJกัU|S๐~
อันธรรมดานารีต้องมี.. จะรักนวลสงวนตัวก็ใช่ที่
มีคำให้เติมลงใน .. มากมาย แล้วจะมีใครฉลาดเติมคำว่า ตัว หรือคำว่า หัว มั๊ยล่ะครับ?
ตอนแรกผมนึกถึงคำว่าหัว(มีสมอง)
อ่านไปๆมาๆ ได้คำว่า "ผัว" มาอีกคำ - -?
ผมนึกถึงสระอีแหะ หื่นจริงตู
ฮี๋? :P
โฆษณาอันนี้รึเปล่าฮะ
+10 ท่าไม้ตายเด็ดจริงๆ แถมตอนจบมีหักมุมอีก ^^
อย่าลืม ดู
http://www.youtube.com/watch?v=Id_kGL3M5Cg&NR=1
กับ
http://www.youtube.com/watch?v=0-22EpQOm8c&feature=related
http://tomazzu.exteen.com
ส่วนตัวเคยใช้ทั้ง mac, pc แต่เริ่มมีทัศนคติที่ไม่ค่อยจะดีกับ apple ก็ไอ้โฆษณา "Get a Mac" นี่แหละ
สาวกสาวเกาหลีด้วยคน(ช้าไปรึนี่)
_______________________
อำลา
อย่าประกาศตัวเป็นสาวก ระวัง mk แบน อิอิ (mk เคยบอกว่าไม่ชอบสาวกทุกชนิด)
ผมสาวก mk ครับ
เอาแบบ dean4j เลยมั้ยหละ หิหิ
กลัว bn เงียบเหงา กระทู้นี้ร้อนแรงจริงๆ
ตั้งแต่ไม่เป็น ppc ผมก็ไม่มอง mac อีกเลย
ผมว่าก่อนที่จะบอกว่าอะไรๆ ก็ ผลิตภัณฑ์ของ Steve เรามาลองคิดดูก่อนดีไหม ก่อนที่เราจะกล่าวหาอะไรนั้น เรารู้จักสิทธิเสรีภาพกันมากน้อยแค่ไหน ในเมื่อเขาผลิตมาเพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับเราทุกคน เรามีสิทธิ์ที่จะเลือก หรือไม่เลือกก็ได้ ทำไมเราต้องไปปกป้องและเชิดชูคุณสมบัติของสิ่งที่ตัวเองใช้ให้ดูใหญ่โต เราได้เงินค่าช่วยโฆษณาหรอ ? เราได้ค่านายหน้าหรอ ? หรือเราได้ผลประโยชน์อะไร ? ใครๆก็อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง ย้ำนะครับ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง ปัจจัย 108 นับไม่ถ้วนมันสามารถบอกเราได้ว่า สิ่งไหนดีสำหรับเราสิ่งที่เราใช้แล้วอาจทำให้เราหงุดหงิดใจ หรือสร้างอุปสรรค์ในการใข้งาน
ที่เราเล่นมาโจมตีกัน โดนการใส่สี หรือแขวะกัน หรือกล่าวหาผลิตภัณฑ์นั่นนี่ไม่ดี แล้วทำไมผู้บริโภคบางท่านก็บอกว่าดี บางท่านก็บอกไม่ดี เห็นยังครับ ว่าทุกอย่างบนโลกมีทั้งเข้ากันได้ และเข้ากันไม่ได้ ด้วยสภาพแวดล้อมของคุณ อาทิเช่น การทำงาน การติดต่อสื่อสาร การแลกเปลี่ยนระบบงาน คุณก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณสิ แล้วทำไมต้องไปโจมตีด้วยการกล่าวหากันและกันล่ะ ในเมื่อเรา คือ ผู้ใช้ ผู้บริโภค เรามีสิทธิเสรีภาพที่จะเลือก
แต่ทุกวันนี้ที่มันมีปัญหาคือ เรามักจะมอง มักจะเห็นแต่ด้านลบของอีกฝ่าย และนำมันมาเป็นอาวุธเพื่อจะกล่าวโจมตีกัน ถามว่าใครได้ประโยชน์ ไม่มีเลยครับ ผู้ผลิตเองเขาก็ไม่ได้สนใจ อะไรมากมายหรอก เขามองถึงแต่ธุรกิจของเขาเองแหละผมว่า
ผมว่าถ้าผู้ใช้อย่างเราๆ ร่วมกันเป็นสาวกสินค้าไทยด้วยกันเอง สร้างสรรค์ผลงานให้ตอบสนองความต้องการของคนไทยได้น่าจะดี....
+1 ครับ
พูดตรงๆว่าเปิดหัวข้อนี้แล้วปวดหัวครับ
ไม่ใช่ปวดหัวกับบรรดาสาวกแต่ละฝ่ายนะ แต่สกรอลหน้าแล้วตัวหนังสือทำผมตาลายแล้วปวดหัวครับ - -"
ขนาดปวดหัว ยังเข้ามาเช็คบ่อยๆเลยนะครับ :P
แซวเล่น แหย่เล่น
My Blog
ตอนสกรอลพยายามไม่โฟกัสไปที่ตัวหนังสือครับ มองแอดเดรสบาร์ตลอด เจอเขียวๆค่อยหยุด หุหุ
+1
ผมยังงงเลยว่า reply ใครอะไรคนไหนไป บางทีก็เอ๊ะ ตูพิมพ์เรื่องนั้นมันเรื่องไหนหว่า แล้วกับใคร
พอแล้วๆ เอิ๊กๆ
555+
ยังอ่านคอมเม้นไม่หมดเลยครับ ยาวมาก แต่อ่านบทความจบแล้ว
รู้สึกเห็นด้วยอย่างมากๆ เลยครับ อย่างที่บอกว่า สาวกจะบอกว่าสิ่งนั้นๆ ดีจนไม่มีที่ติ ไม่เฉพาะแมคนะครับ ผู้ใช้ลินุกซ์ก็มีให้เห็น ซึ่งส่วนใหญ่จะโจมตีมาที่ผู้ใช้วินโดว์ ไม่เสถียรบ้าง ไวรัสบ้าง ฯลฯ โดยที่ไม่บอกว่าของที่ตัวเองใช้อยู่นั้นก็มีข้อเสียเหมือนกัน
โดยส่วนตัวผมเคยใช้มาหมดนะครับ เคยเห็นเครื่องแมคแฮงค์คามือมาแล้ว ผมเห็นด้วยนะครับว่าแมคนั้นดี เสถียร แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีที่ติ วินโดวถึงจะมีปัญหาบ่อย จอฟ้า ไวรัส ฯลฯ แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังใช้ครับ
ผมว่าอยู่ที่คนใช้มันมากกว่า ว่ามีความสามารถทำให้มันเสถียรขนาดไหน
.
ไม่ต้องใช้มันละ Mac, Windows
ผมแนะนำว่า "ไปใช้ OS แห่งชาติกันเถอะครับ"
:-P
กว่าจะได้ใช้ก็กลายเป็น
"OS แห่งชาติหน้า"
คนทั่วไปจะคิดถึง Dark Edition
onedd.net
onedd.net
คุณรู้หรือไม่ว่า ?
หน้านี้ Save เป็น HTML ดูพบว่ามีขนาด File ประมาณ 0.5 mb
แล้วมีคนเข้าชม 4500 ครั้ง
คิดเป็น Bandwidth ประมาณ 2 GB ซึ่งสามารถดู Clip น้อง Sora ได้หลายตอน
ออกแนวรายการวิทย์ ช่วยฮาหน่อย
เชยๆๆๆๆๆๆ
เค้าไม่ดู Sora กันแล้ว แนะนำให้ดู OnlyMax! อิอิ
ปล. ออกทะเลไป AV แล้วรึนี่!!
My Blog
APPlE
อีกหน่อยคงเรื่องประมาณประมาณว่ากางเกงในของใครเจ๋งกว่า
เจ้านาย Office ผมใช้ Mac ตั้งแต่เริ่มเล่นคอมพิวเตอร์จนปัจจุบันเลยแฮะ
ซึ่งผมก็เห็นข้อดีของมันหลายอย่าง และเขาก็ใช้ MacBook Pro สร้างสรรค์งานดีๆออกมาได้
แต่ที่ผมใช้ไม่ได้ เพราะผมยังยึดติดกับ Windows อยู่
และงานหลายๆอย่างของผม ยังต้องใช้ Windows ด้วย
หรือว่า มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องฉลาดเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดด้วย
Apple สามารถทำให้วัสดุเหมือนกัน แตกต่างกันได้
มันเหมือนรูปภาพศิลปะนะ ไปซื้อข้างถนนรูปละ 1,000 กับซื้อจากศิลปินรูปละ 100,000
จะไปว่าเขาโง่ไม่ได้หรอก เพียงแค่เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับเขามากกว่า
They are all "Love me love my dog" comments.
อย่าทะเลาะกันเลย
จะใช้อะไร มีความสุข มีตังค์พอซื้อก็พอแล้ว ครับไม่เห็นต้องว่ากันเลยแต่ละคน
ตอนนี้ผมก็ใช้วินโดวส์อยู่นะครับ อยากได้ mac เหมือนกันเคยแต่เล่นของเพื่อน แต่เนื่องด้วยไม่มีตังค์ซื้อคอมใหม่ เลยต้องใช้คอมที่เหมาะกับเราที่สุดตอนนี้ไปก่อนครับ
คนใช้ mac ก็มีเหตุผลของเขา คนใช้วินโดวส์ก็มีเหตุผลของเขา
(เพื่อนผมเป็นคนรัก vista เขาก็ชอบด้วยเหตุผลของเขาสวยมั่งไรมั่งแล้วแต่
รุ่นพี่หลายคนใช้vaioก็ด้วยเหตุผลของเขา
บางคนก็ใช้macปรับตัวเล็กน้อยหลังswitchจากวินโดวส์มาแต่เขาก็สบายดีไม่มีใครด่าเขาว่าโง่ ในตอนแรกที่ยังใช้ไม่ค่อยเป็น
เพื่อนผมใช้ipod classicเป็นคนขี้เกียจมากมักนั่งอยู่เฉยไม่ค่อยทำไรเลย ก็ไม่เห็นเคยมีปัญหาอะไรเลยที่จะอัพเพลงไปมาผ่านiTune
คนที่เหลือยืมโน๊ตบุคโรงเรียนเยอะแยะ เขาก็สบายดีและไม่เคยด่าคนซื้อโน๊ตบุคแพงๆแล้วไม่ได้ใช้spec/ความสามารถเต็มที่ว่าโง่เลย)
(ยกเว้นผมบอกว่าจาซื้อ Sony Alpha โดนว่าเฉย งงๆแต่ช่างมันพูดไปงั้นเองยังไม่มีตังค์ยังงัยก็ยังซื้อไม่ได้)
ชีวิตคนมันสั้น จาเครียดกันไปทำไมแต่ละคน
รอลุ้นตอนนี้อยู่ที่อันดับ 5 เมื่อไหร่จาขึ้นอีกน้อออ...
I understand your feelings but I disagree with you in a lot of points. It is true that Apple products are advertised with 'cool' image of users and sometimes hypes. But there are something more than advertisements which make Apple products become more popular.
With excessive advertisements and publicity, Apple becomes the icon of cool people and attract a lot of new users and of course fanboys. We often see Apple in a lot of movies as well. This is also one kind of advertisement, which I really think helps to increase its sales figure.
I am sure most of us also follow foreign websites similar to blognone. It is obvious that among fanboys of any products, there are also haters who always point out only bad things of the products they hate without accepting any good points. However, you cannot force other people to believe or think in the same way as yours. Therefore, you should not be demotivated by this kind of action. As a writer, you should not give up just because of a lot of these boring fanboys.
I admit that I am an Apple fan. I see a lot of flaws in Apple products. I think they are expensive (but not that over-priced like a lot of people think) but I still choose to use Apple products. I don't have much money to afford a lot of electronic products. I am now abroad and I have only 1 laptop with me which is a Macbook. I have to sacrifice my gaming experience which I always enjoy with my Windows PC at home in Thailand. Despite a lot of flaws in Macbooks, I still bought it because I like it and it really satisfies me well. Just like a lot of other pricey products, for example, a car - if I could afford a Mercedes, I would definitely go for it instead of a Honda Accord. Truly, this is a matter of taste and it's not anyone's problem but the buyer who decides for himself. As long as the owners are happy with the products, the price is not an issue. That is why I do not bother any comments which I think are non-sense and show the childish views of the commenters.
Unlike you, I fell in love with my iPod though. I bought my iPod Video (30 GB) around 3 and years ago and it still works well now. I have seen a lot of people who say that they never use up the capacity of their iPod Nano. That's not me. I am a hardcore music listener. My iTunes library is as large as 50 GB now - actually it used to be even bigger than this with my PC in Thailand. Obviously, my iPod video is always full with songs. In my view, I have never used any software which has a very good feature of storing songs in a systematic and good-looking way as iTunes before. However, this is also a matter of taste though. My music library is large and I need some software which can manage my songs well with artwork of all the albums of course. Thus, I don't like using WinAmp although it's lighter and faster. Also, Apple earphone in my view is not bad at all. Compared with other brands, Apple earphone to me delivers a good enough quality and definitely is not mediocre at all. I had a Sony sports headphone once when I used a Walkman. The cord on the left ear was broken and it was not covered under warranty. For this Apple earphone, I have changed it for three times.
I have followed Blognone for some time and really admire a lot of authors here for their knowledge and impartiality. I will be glad to see this site keep flourishing and improving in a good way. If you don't like some comments of the fanboys, please neglect them. Don't let them bother you.
+1 Apple สินค้าเขาคุณภาพดีจริงๆ ครับ
~?Ja:aๅe ฯJกัU|S๐~
สนุกจัง
ผมรัก Apple ผมกรอบไหว้ Apple ทุกวันครับ :) (ภรรยาผมชื่อ เปิ้น)
ภรรยาผมชื่อไม่โครซอฟท์ครับ = ="
(ไม่ใช่ละ)
อันดับ 4 แว้ววว...
จากประสบการณ์ของผมเอง
ผู้ที่พยายามอยู่ตรงกลางจะโดนด่าจากทั้งสองฝั่ง เพราะใน first person view ของทั้งสองฝั่ง มองเห็นคนตรงกลางอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับตัวเอง ลองนึกภาพตามดู
เพราะฉะนั้น take side แม่มเลยครับ
ถ้ามีสาวกแมคได้ ทำไมจะมีสาวกด่าแมคไม่ได้
ถ้าไม่ไปใส่ใจ มันก็แค่เด็กทะเลาะกัน
"เก่งจริงให้พ่อมึงมาต่อยกับพ่อกูป่าวล่ะ แสด"
ไอ้ที่เถียงๆกัน ยังไม่เห็นใครดีกว่าใครซักคน
มีแต่อวดอ้างกันว่ากูใช้ของดีกว่ามึง เพราะฉะนั้น กูหล่อ กูเท่ กูเก่ง กูฉลาด
ที่เขียนมาอาจจะเกินจริงไปหน่อย แต่ผมมองว่ามัน concept เดียวกันเลยนะ
มิน่าล่ะข่าวจึงเหลือวันละ 4-5 ข่าวเอง...
อย่างไรก็ดีความคิดเห็นของใครก็คงไม่สามารถมาบังคับได้ และไม่ควรไปบังคับด้วย
ตราบใดที่ความคิดเห็นของคนคนนั้นไม่ล้ำสิทธิของบุคคลอื่น
อย่างไรก็ดีอยากให้ข่าวใน Blognone มีเยอะ ๆ เหมือนเดิมนะครับ
คอมเม้นท์กันเยอะจริงๆเลย :p
ผมว่าคุณ mk ระดับนั้นแล้วอ้างขี้เกียจเขียนไปหยั่งงั้นแหละครับ
จะได้ถือโอกาสใช้เวลาไปทำอะไรสนุกๆในชีวิตเพิ่มเติมไงครับ
ตอนนี้เวลามันมีจำกัดกันจริงๆนะ
I choose OSX because it works for me.
I choose Windows because it works for me.
I choose Nokia because it works for me.
I choose Palm because it works for me.
I choose Nissan because it runs for me.
I choose Mercedes-Benz because it runs for me.
I love her because she loves me.
ปากก็ว่าสิทธิเสรีภาพ..เนอะ แต่สุดท้ายก็รับความคิดที่แตกต่างไม่ได้....เรื่องของความชอบ ผมว่ามันก็ "สิทธิเสรีภาพ" ส่วนหนึ่ง ถ้ามันไม่ไป "ล้ำเส้น" ใครเข้า
I also got Mido, Rado, Omega, Seiko, Citizen, Oris, Swatch, Tissot, Rolex, Alfex and Alba. Oh, I almost forget my Panerai too.
เหมือนตอนคนเถียงกันเรื่องกล้อง Canon vs. Nikon เลย ข้อดีข้อเสียสามารถเปรียบเทียบในเชิงวิชาการได้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ตัดสินกันด้วยปัจจัยอื่นๆด้วยเสมอ จนมีคนมักพูดว่า ไม่มีกล้องที่ดีที่สุดมีแต่กล้องที่เหมาะกับเรามากที่สุด เห็นจะใช้ได้กับเรื่องนี้ด้วยมั้งครับ
ผู้รู้: ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ผู้นั้น: หัวเราะอะไรหรือท่าน
ผู้รู้: ก็หัวเราะคนพวกนี้หน่ะสิ
ผู้นั้น: อ้าว ทำไมถึงไปหัวเราพวกเขาละท่าน
ผู้รู้: แล้วมันไม่น่าขำเหรอ ที่เขาต้องมาโต้เถียงกัน ไม่ยอมกัน ในเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งพวกเขาก็รู้ดีแก่ใจ
ผู้นั้น: เปลี่ยนแปลงไม่ได้? รู้ดีแก่ใจ? ยังไงกันท่าน
ผู้รู้: ก็ลองนึกดูสิ ถ้าอีกคนหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นอีกฝ่ายหนึ่ง เรื่องมันก็ไม่ยืดยาว แต่ตัวเขาก็ไม่ยอมเปลี่ยนไปเป็นอีกฝ่ายหนึ่งอยู่แล้ว แล้วอีกฝ่ายเขาจะยอมเปลี่ยนงั้นรึ? ไม่มีทางเสียหรอก
ผู้นั้น: อืม ก็ใช่ แต่ท่านล่ะ ท่านคิดว่า คำพูดของท่านจะเปลี่ยนพวกเขาได้เหรอ?
ผู้รู้: ไม่มีทางหรอก ท่านก็รู้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
My FingerSports Site
Jusci - Google Plus - Twitter
พระเจ้า เป็นครั้งแรก ที่เห็น Comment ยาวมาถึงหน้าสองได้
http://tomazzu.exteen.com
นานๆทีะเจอเหมือนกันครับท่าน
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าBN คอมเม้นได้หน้าละ 300
แล้วก็ ความเห็นใหม่ในหน้าสอง ต้องมาจิ้นเอาเอง - -"
My Blog
And it doesn't show which one is new, too ...
อย่างน้อยหัวข้อนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่ามี Bug???
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
apple
อ้าว เผลอแปปเดียวจะขึ้น Top3 แล้ว
อันดับ 3 แว้ววว..
ผมว่าทุกอย่างแล้วแต่ความชอบ และการใช้งานของแต่ละคน นะครับ นานาจิตตัง ครับ :D
+1 เห็นด้วยครับ
ถ้าของมันไม่ดีจริง คนก็ไม่ซื้อเองครับ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดครับ
การซื้อสินค้า เป็นเรื่องของความพอใจส่วนตัว
การเขียนข่าว ก็เป็นเรื่องของความพอใจส่วนตัว
โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบอ่านข่าวจาก blognone มาก
(ทั้งจากคุณ mk และ จากคนอื่นๆ , ในทุกๆหัวข้อข่าว)
และก็อยากอ่านข่าวแล้วด้วยครับ :)
ขออณุญาติไม่สุภาพนะครับ
"ให้อิสระภาพไป ... ก็ใช้กันไม่ถูก ต้องทำให้มันฉิบหายจนได้"
เบื่อคนเนิร์ดอีโก้สูงทะเลาะกันด้วยอัตตา ... เอาเหตุผลล้านแปดของตนมายกข่มท่าน ... ดูเจตนาก็มองเห็นครับ ...
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเชื่อมาแต่ต้นว่าเว็บ 2.0 ในเมืองไทยยังไม่ถึงจุดของ 2.0 โดยแท้จริง ... เพราะ Social Collaboration นั้นต้องมีเงื่อนไขอะไรบางอย่างเสมอๆ และความเสมอนั้นบางทีก็งั่งเหลือหลายครับ : )
หน่ายครับ ... เค้ารพพื้นที่กันบ้างครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
:: Take minimum, Give Maximum ::
ขอคิดต่างนะครับ เว็บต่างประเทศ ก็มีการ "ปะทะทางคารม" สำหรับบรรดาสาวกครับ ซึงก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร ถึงขนาดเป็นวาระแห่งชาติที่เจ้าของเว็บ "น้อยใจในความไม่เป็นกลางที่ตัวเองนิยามไว้" หรือ writer ต้องมาเขียน "ข่าว" แล้วตรึงไว้หน้าแรกแสดงความในใจขนาดนี้
ซื้อนาฬิกาหรูๆ ใส่กันทำไม ในเมื่อหน้าที่มันก็แค่บอกเวลา
ซื้อรถเบนซ์ขับทำไม ในเมื่อฮอนดาซีวิคก็ขับได้เหมือนกัน
แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยุ่ที่สาวกที่มีปมด้อยบางคน ชอบยกตนข่มท่าน
มองวัตถุไห้เป็นเครื่องช่วยเสริมความเป็นมนุษย์
และสาวกอีกกลุ่ม ก็มัวแต่อิจฉาริษยาในศักยภาพของสาวกอีกกลุ่ม
เลยแขวะกันไปมา
สุดท้ายปัญหาเกิดก็เพราะมีปมด้อยของทั้งคุ่
และบางทีมันอาจจะเป็นสัญชาติญาณของสิ่งมีชีวิตเพศผู้ ที่อยากจะทำไงก็ได้ ไห้เด่นที่สุดในฝูง
ช่วย Comment นึง เหลือ 5-1 comments ก็ขึ้นที่ 2 แล้ว
ยังไม่จบอีก
จบแล้วมั๊ง
ตอนนี้มีแต่ร่วมลงนามประวัติศาสตร์ Top2 55
เอาให้ได้ดับหนึ่งมั้ย 555
ถ้าให้ได้ที่ 1 คงต้องมาล่อสาวกกันอีกรอบ - -"
ืบทความเขียนได้ดีครับ
แต่ยังไงผมก็ยังรัก mac
ดูอันดับยังไงอ่ะ
นี่ครับ
Hall of Fame
Less is More and Simple is the Best.
Many Men Many Mind.
:-)
ยังไม่จบอีกหรอครับ ผมเลิกปั๊มไปตั้ง สามวันแล้วนะ :P
My Blog
เพราะมีความเห็นเกี่ยวกับ Apple ที่หลงไหล/บูชามากจนเกินงามแค่นี้เอง
ไม่น่าถึงกับต้องเลิกเขียนเลยนิครับ
จะไปบังคับจิตใจคนอื่นนั้นแสนยาก
อาจจะเพราะว่า คุณต้องการ "against" เพื่อสิ่งที่ดีกว่า
ตอนนี้ก็จุดประเด็นได้ดีทีเดียว
แต่ผลระยะยาวนั้นคงต้องดูต่อไป
ปล
แฟนๆนักอ่านตัวยงหลายท่านรอติดตามเหมือนเดิม
แถวบ้าน "เรียกร้องความสนใจ" ครับ
ผมว่าแกก็เขียนในแบบของแกนะ ในลักษณะของคนๆ นึงมอง apple
แต่เท่าที่ดูๆ มีกลุ่มคนอยู่ 5 ประเภท
- สาวก apple
- สาวก คุณ mk
- คนรู้สึกๆ ดีๆ กับ apple และไม่เห็นด้วยกับคุณ mk
- คนเห็นด้วยกับ คุณ mk
- คนที่อยากแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้จริงๆ
สองกลุ่มแรกมาบ่อยสุด post บ่อยสุด
สองกลุ่มถัดมามาดูบ่อย แต่ post บ้างตามสมควร
สุดท้ายอาจจะมาดูครั้งเดียว post ทีเดียว แล้วไม่กลับเข้ามาอีกเลย .. -_-"
...เลิกๆไปเหอะผมไม่สนใจหรอก มาเรียกร้องความสนใจแบบเด็กๆหรืออย่างไร
โอ้ว ผมเบื่อสาวกแอปเปิ้ล บลาๆๆๆ ขำจริงๆ
ผมเข้ามาอ่านที่นี้แม้ไม่ประจำแต่ข่าวแอปเปิ้ลทีไรมันก็มีคนออกมาด่าแอปเปิ้ลตลอดเหมือนกัน
ต่างอะไรจากคนที่คอยออกมาปกป้องแอปเปิ้ล?
ไม่เบื่อพวกนี้บ้างละ?
สุดท้ายบ้านนี้เมืองนี้มันก็สองมาตราฐานกันไปหมดทุกเรื่องจริงๆ
แ่ด่เหล่าสาวก MBA
http://www.youtube.com/watch?v=bWqHPjB_32M&feature=player_embedded
http://tomazzu.exteen.com
เสียดายของ
มีเงินแต่ไม่มียับยั้งใจเลย - -"
ถ้ามีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันแบบนี้ สังคมBlognoneอาจจะไม่พัฒนาเลยก็เป็นได้ เหมือนกับเหตุการณ์ในตอนนี้ และผมคิดว่าการเสนอข่าวของพวกคุณจะไม่เป็นกลางอีกต่อไป และคำว่า นโยบายด้านความเป็นกลางของข่าวใน Blognone จะไม่เป็นกลางอีกต่อไปนะครับ
แต่ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ มันอยู่ที่คำว่า "จรรยาบรรณ" ครับ ทุกอาชีพ มีคำว่า "จรรยาบรรณ" ครับ
ดังนั้นสังคมนักเขียน Blognone ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้อ่าน และสังคมคอมพิวเตอร์อื่นๆ ที่ตอนนี้กำลังแบ่งพรรคแบ่งพวกกันมาก ด้วยกันเริ่มต้น เสนอข่าวที่ดี เป็นกลาง และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีในกับสังคมนะครับ สิ่งเหล่านี้มันต้องมีคนเริ่มต้นครับ
แอปเปิลก็คอมพิวเตอร์ PCก็คอมพิวเตอร์ มันสามารถใช้ร่วมกันในเครือข่ายกันได้ ทำไมเราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ในสังคมเดียวกัน
สิ่งเหล่ามันอยู่คำว่า "จรรยาบรรณ"
โอยย ไม่ได้หรอก blognone นิยามไว้ว่าไม่เป็นกลางตั้งแต่แรก
จะมาถามถึงจรรยาบรรณ มันไม่ได้มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันก็แค่ "บล๊อกที่เล่าข่าว" ขนาดเจ้าของยังน้อยใจ ไม่เขียนเลย :P
ต่างคนต่างชอบ ต่างคนต่างใช้ จุดหมายเดียวกัน คือผลสำเร็จของงาน
จริงๆแล้วไม่มีอะไรมากหรอกครับ windows mac linux แค่เบื่อ mk
"เราเชื่อมั่นในความไม่เป็นกลาง อย่าลังเลที่จะใส่ความคิดเห็นตัวถ้าเห็นสมควร อย่างไรก็ตาม คุณต้องทำใจรับไว้ด้วยว่าเราก็เปิดโอกาสให้ความคิดเห็นที่ตรงข้ามกับคุณเช่น เดียวกัน" - Blognone guideline
สุดท้ายก็เบื่อความไม่เป็นกลาง น้อยใจ ไม่เขียนข่าว เรียกร้องความสนใจ
ขอฮาดังๆหน่อย ขนาด node นี้ไม่ใช่ข่าว ยังขึ้นหน้าแรกได้ ทั้งที่เมื่อก่อนจะต้องมาบอกว่า เรื่อง community ให้คุยใน blognone user group อย่างเดียว
ในเมื่อมันไม่เป็นกลาง ก็อย่าหาความสงบ เอ้...เหมือนการเมืองเลยจริงๆ ถ้าน้อยใจ+เรียกร้องความสนใจมากก็เลิกทำ blognone ไปเลยก็ได้ไม่มีใครว่าหรอก หิหิ
สงสัยผมเป็นคนเดียวมั้งที่เบื่อ mk หรือจะมีใครเบื่ออีก ?
ร้ายกาจ
ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัย deans4j (ถามหาหลักฐานแล้ว mk ไม่มีให้ แล้วก็แบน deans4j ทิ้งซะงั้น) แล้ว สนใจข่าวก็อ่านแต่ข่าวไปเถอะ จะไปคิดมากทำไม ไม่อยากเข้าเว็บก็อ่านผ่าน feed ก็ได้นี่
ผมเข้าใจว่าแท็ก Special Report นี่จะใช้เพื่อระบุว่าางานเขียนนั้นมีลักษณะเป็นการวิเคราะห์ หรือบทความเชิงลึก สำหรับงานเขียนชิ้นนี้ผมเลือกที่จะมองว่ามันคือบทความมากกว่าข่าวนะครับ การที่มันจะโดนตรึงอยู่หน้าแรก แค่คำว่า Special Report ก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วมิใช่หรือ?
แต่ จากสองข้อความนี้
ทำให้ตอนนี้ผมเข้าใจไปเองว่าถ้าเลิกเขียนข่าว ซึ่งเหมือนกับการเลิกทำ blognone ไปแบบกลายๆ แล้วจะไม่โดนด่า แต่จะโดนเสียดสี
onedd.net
onedd.net
นี่มันกระทู้แนะนำ Pantip หรือนี่...?
ผมของแสดงความคิดเห็นเรื่อง Ipod ในฐานนะที่ผมเป็นแฟน Ipod
การที่คุณบอกว่า Ipod อัพเพลงยากโดยตัดเพียงน้องสาวคุณคนเดียวคงจะไม่ได้หรอกนะครับ ไม่งั้นคนหลายล้านคงไม่มาใช้หรอกครับ แล้วที่บอกว่า Ipod อ่านภาษาไม่ได้นั้น ไม่ทราบว่าใช้รุ่นไหนรึครับ คงจะเก่ามากแล้วเพราะปัจจุบัน ipod อ่านภาษาไทยได้นานแล้วครับ แล้วที่แต่ก่อน Ipod อ่านภาษาไทยไม่ได้นั้น ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะ Apple ไม่ได้จะมาเจาะตลาดขายในไทยอยู่ เลยไม่ได้สนใจภาษาไทยอะไรทั้งนั้น ยังไงก็ฝากด้วยว่าถ้าจะวิเคราะห์อะไรก็หาข้อมูลหรือศึกษาให้มากพอนิดหนึ่งหรือไม่ก็เอาคนรู้เฉพาะทางมาวิเคาะห์ ไม่ใช่พอมา apple ก็พูดอย่างกับรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ apple เลย เคยรู้หรือไม่ครับว่า แค่เพียง Microsoft word เพียงโปรแกรมเดียวใช้คนทำทั้งตึก หลายพันกว่าคน แต่คุณคนเดียววิจารน์ได้ทุกบริษัทอันนี้ ถือว่าแน่มากเลยครับ ขอฝากให้คิดด้วยนิดหนึ่งนะครับ
ขอมอบเพลง "นักวิเคราะห์" ของ Crescendo ประกอบคอมเมนท์ด้านบนนี้ครับ
ผมว่าผมชอบ ทั้งคู่เลยครับ
ใช้ทั้ง OS X and Windows...
ดีคนละแบบ
ผมขอแสดงความคิดเห็นต่อคนที่รังเกียจapple นักหนานะครับ ส่วนตัวผมใช้mac มาก่อน windows
จนกระทั่งช่วงม ปลาย ผมต้องใช้วินโดวส์ แล้วผมก็เลยต้องใช้พีซีเพราะว่าผมต้องอยู่โรงเรียนประจำกลับบ้านไม่ได้ ที่โรงเรียนผมมีให้เลือกใช้สองอย่างคือเครื่อง sunray กับ PC ที่ลงวินโดวส์เอ๊กซ์พี และวินโดวส์ meก่อนหน้านี้ผมใช้พีซีเฉพาะเวลามาเช็คเมล์ที่โรงเรียนตอนักกลางวันเท่านั้น
ผมรู้จักการ format รู้จักการ defragment รู้จัก คำว่า trojan คำว่าmalware spy ware รู้ว่าการล้างระบบ
ทำให้เครื่องเร็วขึ้น รู้จักคำว่าregistry ก็จากวินโดวส์ รู้ว่า การจะต่ออุปกรณ์ในขณะเปิดเครื่องอยู่ต้องรีสตาร์ทก็จากwindows(เรื่องที่ไม่มีใครพูดถึง ผมรักเครื่องแม็คก็เพราะว่า iMacรุ่นสีฟ้าน้ำทะเล น่าจะเป้นคอมเครื่องแรกของโลกที่ใช้port USB แล้วทุกวันนี้เป้นงัยครับ USB flash drive ๊๊USB device ต่างๆ ) รู้จักเกมส์ออนไลน์ ก็จากวินโดวส์
ผมไม่ใช่apple fanboy เพราะผมไม่มีiPod /iPhone แล้วก็ไม่ได้สนใจมันด้วย ยอมรับว่ามันสวย แต่ราคามันแพงมากเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ผมจะได้รับ แต่ผมรู้ว่าทั้งสองอย่างนี้เป้นอุปกรณ์ที่ล่อให้ทุกคนเข้ามาสู่platformของ Macintosh ผมมีแต่เครื่องแม็คที่รันmac OS Xของผมเท่านั้น ก่อนหน้าที่จะได้สัมผัสwindows
ผมก็มีแต่เครื่อง power mac performa 5400ที่ลงเดอะซิมส์แค่เกมส์เดียว
พีซีที่ลง linux หรือโอเอสอื่นที่ไม่ใช่วินโดวส์ผมว่าใช้ประสิทธิภาพเครื่องได้คุ้มค่ามากกว่าวินโดวส์ครับ
ตอนจะจบมปลาย ผมทำโปรเจควิทยาศาสตร์ ลงคอม แต่อยู่ๆผมก็เจอกับblue screen of death จนทำให้ผมต้องทำงานใหม่ทั้งหมด ทั้งๆที่พีซีเครื่องนั้นไม่ได้ต่อเน็ต ไม่ได้เล่นเกมส์ ไม่ได้ลงอะไรเลย กลับcrashแบบโง่ๆ แต่ก็ส่วนนึงหล่ะ ผมติดนิสัยมาจากใช้แม็ค ก็คือ เปิดเครื่องใช้งานแล้วก้ปิดเครื่อง ไม่ได้ดูแลอะไรมันเลย แล้วมันก็นิ่งอยู่อย่างนั้นไม่เกิปัญหาอะไร บางครั้งมีkernel panic แต่่ว่า แค่rebootเครื่องก็หาย แล้วไฟล์งานผมก็ยังอยู่ครบ
ผมเห็นคนที่ซื้อเครื่องแม็ค มาแล้วลงวินโดวส์ แล้วใช้วินโดวส์เป็นหลัก บอกตามตรงผมตลกมาก แต่ผมไม่ได้ดูถูกเค้านะครับ แต่ผมรู้สึกว่าถ้าแบบนั้นเค้าจะซื้อมาทำไม อาจจะเป็นเพราะเครื่องสวยดูแล้วมีระดับ
แต่สำหรับผมไม่ใช่ เพราะผมใช้เครื่องแม็คมาก่อนที่จะมีการปฏิวัติการออกแบบเกิดขึ้น ในเครื่องiMac รุ่นสีฟ้าน้ำทะเลอีกครับ แล้วเครื่องแม็คเมื่อก่อนก็ถึกๆธรรมดาๆ ไม่ได้สวยงามอะไร จะต่างกับพีซี ตรงที่ใช้mac OS นี่แหละครับ ผมใช้มันมาตั้งแต่สมัย system 7.5
ทุกวันนี้ ผมบอกได้เลยว่าผมคงไม่กลับไปใช้วินโดวส์แน่นอนครับ เหตุผลเดียวก็ความคิดเห็นส่วนตัวของผม ก็คือโปรแกรมจากค่ายเล็กนิ่ม นั้น โง่มากๆ ผมพูดอย่างนี้อาจจะไม่แรงไปนะครับ เพราะเห็นบางคนด่าคนที่ใช้เครื่องแม็คว่ามีเงินอย่างเดียวไม่พอต้องโง่ด้วย
ตัวอย่างเรื่องคนใช้แม็คมีหลายเหตุผล ก็คือตัวอย่างเรื่องซื้อแม็คมาแล้วลงวินโดวส์เนี่ยแหละครับ สำหรับผมผมก็ลงวินโดวส์ไว้เป้นแอ็พพลิเคชั่นนึง ไว้เล่นเกมส์ครับ เวลามันแครชขึ้นมาผมก็ใช้บู๊ตแคมพ์ลบพาร์ติชั่นวินโดวส์ออกก็แค่นั้น งานผมก็ยังอยู่ครบ ไม่ต้องเป็นเหมือนเมื่อก่อน
โปรเจคลองฮอร์นที่ไม่ออกซักที แล้วในที่สุด ก็ออกมาเป็นวิสต้าแล้วก็ห่วยแตก อย่างที่หลายๆคนพูดกัน
แถมมีการลอกแบบอย่างจงใจ จากleopard กับtiger ผมว่าทุกๆท่านคงมีคำตอบในใจ ว่าเป็นเพราะอะไรผมไม่ขอพูดถึง แม้แต่แค่เกมส์หมากรุก ผมเห็นแล้วตลกมาก แล้วผมก็ไม่ได้คิดว่าไมโครซอฟท์คือพระเจ้าเป้นผู้นำเทคโนโลยีแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
ผมไม่ได้ออกมาปกป้องแอ๊ปเปิ้ลเพราะแอ๊ปเปิ้ลไม่ได้ให้อะไรผม แอ๊ปเปิ้ลเป็นบริษัที่เลือดเย็นกับลูกค้ามากๆ ทำการตลาดได้ไม่เห็นใจลูกค้า แต่ผมว่าทุกๆคน ก็คิดเหมือนๆผมก็คือ แอ๊ปเปิ้ลที่น่าหมั่นไส้นี้ จะพัฒนาinterfaceอะไรมาอีก เริ่มจากmouse (ที่เอามาจากXEROX แต่อย่างน้อยก็เป้นคอมเครื่องแรก และทำให้ทุกวันนี้คอมทุกเครื่องเราต้องใช้ mouse หรือไม่จริง?)
click wheel ของiPod
firewire (เชื่อมั๊ยครับมันเป้นประโยชน์มหาศาลสำหรับคนบางกลุ่มมากๆ)
multitouch บนiPhone
multitouch trackpad
เหล่านี้แอ๊ปเปิ้ลอาจจะไม่ใช่คนinnovateมันขึ้นมาทั้งหมด แต่แอ๊ปเปิ้ลเป็นคนที่เอามาประยุกต์ใช้ได้สวยงามครับผมยอมรับและหลายๆคนก็ยอมรับ
ผมเห็นบางคนรังเกียจแอ๊ปเปิ้ลนักหนา คุณเลิกใช้mouseสิครับ เลิกใช้USBสิครับ กลับไปใช้SCSI pararellport ใช้DOSสิครับ
ย้ำอีกทีว่า ผมไม่ใช่แฟนแอ๊ปเปิ้ล
แต่ผมใช้โปรดักนี้เพราะมันตอบโจทย์ผมได้ดีที่สุด
และผมโชคดีที่ผมเกิดมาไม่ได้ถูก"บังคับ"ให้ใช้วินโดวส์โดยทางอ้อม
คนบางคนไม่มีเงินพอที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของแอ๊ปเปิ้ล หลายๆอย่างนั่นรวมหมายถึงผมด้วย จะควักเงินซื้อแม็คแต่ล่ะเครื่องนี่ก็ทำเอาผมเหงื่อตกเหมือนกัน
แต่ผมไม่เข้าใจพวกที่คอยกัดคนที่บอกว่าแอ๊ปเปิ้ลดีว่าเค้าได้อะไร จากการดูถูกแอ๊ปเปิ้ล? ถ้าจะแนะนำหรือโน้มน้าวให้มาใช้พีซีวินโดวส์ผมคิดว่าคนใช้แม็คเกือบทุกคนเคยใช้พีซีวินโดวส์มาก่อนอยู่แล้วเพราะมันmassมากๆ
เคยใช้นี่ผมหมายถึงมีเป็นของตัวเองของส่วนตัวนะครับ แต่พวกที่รุมด่าแม็คอินทอช ผมเชื่อว่าส่วนน้อยมากๆ
ที่เคยมีเครื่องแม็คเป็นของตัวเอง เข้าใจความหมายโดยนัยของมันมั๊ยครับ?
พวกที่เป็นPC windows fanboyก็เลิกด่า appleเถอะครับ เพราะอย่างน้อยมันก็มีบริษัททำเทคโนโลยีinterfaceต่างๆออกมาให้microsoftไปลอกเลียนแบบออกมาทำในราคาที่ถูกกว่าออกมาใช้ ซึ่งมันเป็นประโยชน์ ต่อโลกไอทีมหาศาล
apple fanboyทั้งหลายก็เลิกด่าพวกมากะแนะกะแหนเถอะครับ เพราะมันเท่ากับคุณกำลังด่า"คนที่ไม่รู้อะไรเลยแต่ทำเป็นรู้ดี" เพราะผมเชื่อว่าคนที่ไม่ชอบแอ๊ปเปิ้ลเพียงเพราะเหตุผลว่าราคามันแพงไม่สมเหตุสมผล คงไม่ออกมาด่าซะสาดเสียเทเสียหรอกครับ
ส่วนคนที่ไม่ใช่ทั้งสองฝั่งผมก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้วครับคือเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับเม็ดเงินที่เราลงทุนไปใช้เงินทุกบาทให้คุ้มค่า
Pages