ในเอกสารซัพพอร์ตของ Apple ระบุว่าอุปกรณ์ MagSafe จะสามารถชาร์จ iPhone 12 Mini ได้สูงสุดที่ 12W เมื่อใช้ที่ชาร์จ USB-PD 9V/2.03A ขึ้นไป ในขณะที่รุ่นอื่นๆ รองรับการชาร์จถึง 15W บนที่ชาร์จ USB-PD 9V/2.22A or 9V/2.56A แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและการใช้งานในขณะนั้นด้วย
เอกสารยังระบุอีกว่าหากมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมผ่านพอร์ต Lighting เช่นหูฟัง EarPods (ที่ไม่แถม) ที่ชาร์จ MagSafe จะถูกจำกัดกำลังไฟอยู่ที่ 7.5W เพื่อความปลอดภัย และผู้ใช้ควรเสียบที่ชาร์จกับปลั้กไฟก่อนจะนำมาชาร์จ เพื่อให้ระบบสามารถตรวจสอบว่าสามารถใช้กำลังไฟสูงสุดได้ หรือหากที่ชาร์จติดอยู่กับ iPhone ก่อนแล้ว ให้ถอดที่ชาร์จออกเป็นเวลาสามวินาทีหลังเสียบไฟ ก่อนแปะที่ชาร์จกลับไป เพื่อให้ระบบชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุดได้
ถือเป็นอีกหนึ่งข้อแตกต่างเล็กๆ ระหว่าง iPhone 12 และ iPhone 12 Mini ที่ผู้ใช้ควรทราบ นอกจากขนาดหน้าจอ และแบตเตอรี่ที่น่าจะเล็กกว่า
ที่มา - MacRumors
Comments
อย่างนึงคือไม่ต้องกลัวไฟดูดเวลาชาร์จพร้อมเสียบหูฟังแล้วสินะครับ
9v ดูดด้วยเหรอครับ ถ้าจำไม่ผิดที่เรียนมามันต้องมากกว่า 30v นี่ครับ
กรณีไฟรั่วครับ
ขึ้นอยู่กับไฟตรงไหนดูดครับ ถ้าเป็นในขั้นตอนการแปลงไฟฟ้า ที่มีกระแสเหนี่ยวนำมาดูดก็แค่สะดุ้ง แต่ถ้ารั่วแบบมาจากไฟบ้านตรงๆก็ตาย ดีสุดคือมีสายดินก็จบแล้ว อแดปเตอร์ของอุปกรณ์พวกนี้ผมจะใช้ของ apple เลยเพราะมีพอตสายเดินด้วย แต่ต้องใช้คู่กับสาย extended cable ที่เป็น 3 ขา ถ้าเอาหัต่อปลั๊กที่แถมมาจะไม่มีขา กราว
เรื่องสายดินนี่พูดกันยากมาก หลายบ้านยังไม่มีสายดิน ได้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ปลั๊กมี 3 ขาก็หักขา g ทิ้ง
อือฮือ ถ้าขนาดให้ AC รั่วไป output ได้นี่ต้องเรียกคนออกแบบวงจรมาคัดลายมือ 100 หน้ากระดาษฟุลสแก๊ปเลยครับ
รอวางขายอยู่ๆ