ญี่ปุ่นเริ่มบังคับใช้กฎใหม่สำหรับทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศทางสนามบิน (ไม่ว่าจะเป็นประชาชนญี่ปุ่นเอง หรือคนต่างชาติก็ตาม) จะต้องติดตั้งแอพทั้งหมด 3 ตัวคือ
แอพเหล่านี้จะต้องติดตั้งและใช้งานเป็นเวลา 14 วันในช่วงกักตัวเอง (self-quarantine) หลังเข้าประเทศ หากบุคคลนั้นไม่มีสมาร์ทโฟนหรือใช้สมาร์ทโฟนรุ่นเก่าเกินไป จะต้องเช่าสมาร์ทโฟนที่สนามบิน และต้องจ่ายเงินเอง
เจ้าหน้าที่สนามบินจะตรวจสอบผู้เดินทางว่าติดตั้งแอพทั้ง 3 ตัวแล้วหรือไม่ ถึงค่อยอนุญาตให้เข้าประเทศ กฎใหม่นี้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 18 มีนาคม
หน้าตาของ COCOA และ OSSMA บน Google Play
ที่มา - ประกาศกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น (ภาษาอังกฤษ), Japan Today
Comments
เขาจะมีดราม่าลูกอีช่างติแบบเราไหม?
น่าจะมีแน่นอน
คนติมันมีทุกสังคม
แต่มุมผม ถ้าผมมีรัฐบาลแบบญี่ปุ่น ผมคงเชื่อใจในการถือข้อมูลได้ระดับหนึ่งว่าจะไม่เอาไปทำอะไรที่ละเมิดอำนาจที่มี นอกจากนี้แค่ 14 วัน สำหรับคนที่อยากเข้าประเทศ ไม่ใช่สำหรับประชาชนตลอดปีในการอยู่ในประเทศตัวเอง
โถ……… รู้จักรัฐบาลญี่ปุ่นน้อยไปซะแล้วน้อง
รบกวนผู้รู้ยกตัวอย่างหน่อยครับอันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ มีเคสไหนที่รัฐบาลญี่ปุ่นละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือสร้างความไม่ไว้วางใจในตัวรัฐบาลเป็นวงกว้างบ้าง
น่าจะไม่ได้คำตอบหรอกครับ
ล้างหูน้อมรับฟังเลยครับพี่
มาปูเสื่อรอฟังอีกคน
สงสัยต้องรอนานหน่อยกระทู้เก่า เรื่องอิสราเอล เขามาบลัฟ แล้วก็หายไปเลยครับ ทั้งท่านข้างบน และท่านบนสุด :P
น่าสนใจครับ มารออ่านด้วยคน
มีจอร์จ โซรอสมั้ยครับ
พรวดดดด
That is the way things are.
น่าจะมี netflix ด้วยครับ
:-)
เอ้อ เข้าท่า แอพ contact tracing ไม่ให้ตามตำแหน่งได้ ก็ให้ลงแอพตามตำแหน่งอีกตัว :v
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ไม่ระเมิดความเป็นส่วนตัวเหรอ
ให้ติดตั้งแค่ 14 วันที่บังคับให้กักตัวอยู่กับบ้าน/โรงแรมเพื่อตรวจสอบว่ากักตัวจริงหรือป่าว ถ้าเกิน 14 วันแล้วสามารถลบทิ้งได้
ส่วนตัวไม่ถือว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวเกินความจำเป็นเพราะว่า 14 วันนั้นควรอยู่แต่บ้าน/โรงแรมอยู่แล้ว
:h
คนส่วนใหญ่จะคิดถึงความเป็นส่วนตัว มากกว่าจะคิดถึงส่วนรวม
ผมก็คิดนะว่าจะละเมิดมั๊ย
แต่ที่คิดเพราะว่าไม่ใช่กลัวโดนละเมิด
แต่อยากรู้ว่ามันผิดกฎหมายมั้ย เค้าทำได้ ทำได้ยังไง เราเอามา apply ได้มั๊ย อะไรแนวๆน่ะครับ
ทำดีๆ
ถ้าไม่ใช่คนญี่ปุ่น ช่วงนี้ก็พอเข้าใจ แต่อย่าทำตลอดไปนะ
อันนี้คือเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามากักตัว หรือรวมหมดทุกคนที่เข้าญี่ปุ่น
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ความไว้ใจในรัฐบาลมันต่างกันครับ ผลลัพธ์ในการกระทำที่เหมือนกันมันเลยต่างกัน
ถ้าถามว่าทำไมความไว้ใจมันต่างกัน ง่ายๆ ก็ดูเรื่องความรับผิดชอบต่อการกระทำได้เลย
คนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด ฮาาาาาา
จริงๆก็แฟร์ เพราะบังคับใช้เฉพาะช่วงที่กักตัว กลัวแอบหนีการกักตัวที่บ้านหรือติดตามตัวไม่ได้มากกว่า ญี่ปุ่นถ้ามีคนมารับ ให้กักตัวที่บ้าน แวบออกมาซื้อของกินของใช้ได้ แต่ต้องรายงานตัว video callผ่านแอพ ค่อนข้างฟรีกว่าบ้านเรา
ไม่ใช่บังคับให้ติดตามตัว ตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศ
ที่สำคัญ รบ.จากการเลือกตั้ง ไม่ใช่รบ.เผด็จการทหาร ความไว้วางใจมันก็ต่างกันล่ะนะ
+1 ติมั้ยก็ติบ้างครับ แต่เหตุผลที่เหลือก็ว่าตามนั้น
ไม่ว่าจะรัฐบาลจากการเลือกตั้งหรือรัฐบาลเผด็จการทหาร ถ้าเป็นรัฐบาลไทยผมก็ไม่ไว้ใจทั้งนั้น
เรื่องความไว้ในเชื่อใจ จริงๆมันไม่ได้แค่เรื่องรัฐบาลหรอก แต่มันเป็นเรื่องของทั้งระบอบการปกครองเลย
ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตยทั่วๆไปมันก็จะมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ มีกระบวนการตรวจสอบและการยุติธรรมที่น่าเชื่อถือ เพราะงั้นถ้ารัฐบาลจะทำตัวแย่ก็จะมีคอยห้ามคอยเอาผิดรัฐบาลเอง เขาถึงเชื่อรัฐบาลกันได้
ส่วนที่ไทยนี่แทนที่จะบอกว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ผมเรียกว่าเป็นระบอบเสียงข้างมากมากกว่า (ซึ่งมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง) เพราะงั้นก็ไม่แปลกที่จะไม่เชื่อใจกัน
จริงจังมาก เบิ้ล 3 ไปเลย!!
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
ในฐานะที่มีกำหนดการจะไปทำงานที่ญี่ปุ่นเร็วๆ นี้ ผมรับได้นะ ติดตั้งรอไว้แล้วด้วย
แต่ปัญหาคือต้องไปจัดการเรื่องเน็ตมือถือเนี่ยแหละ 555+
//คู่มือ ENG แต่ UI เป็น JPN.... ญี่ปุ่นนี่...ญี่ปุ่นจริงๆ
ลองแอพพวกนี้ของจีนมั้ยล่ะครับ จี๊นจีนเลยทีเดียว
อย่างน้อยก็ไม่ล๊อกโซน jp นะ ???
วีซ่าออกหรือยังครับ คนรู้จักที่ขอวีฯ ไม่ทันก่อนปลายธ.ค. รอยาวๆเลย
จนยอดติดปาไปเกือบครึ่งล้านแล้ว เพิ่งมาคิดทำหรอ
COCOA มีมานานแล้วนะครับ เขาทำกันแต่คนไม่ใช้ เพราะกฎหมายเขาบังคับให้ใช้ไม่ได้
RAYA สอนให้เราไว้ใจกันและกัน
ใช้ Skype เหรอเนี่ย ไม่ได้ยินมานานในไทย
ผมยังใช้ประชุมกันอยู่เลยครับบบ
โปรแกรมที่มีกันแทบทุกบ้าน (บนวินโดวส์) :D