By: tangsiri 
on 13 April 2022 - 10:50
Tags:
Topics:
Toyota ประกาศทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น bZ4X ในประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ โดยตัวรถจะผลิตที่โรงงานในประเทศญี่ปุ่น และเปิดให้บุคคลทั่วไปจองสิทธิ์ซื้อ 3,000 คันแรก ในวันที่ 12 พ.ค. และเปิดจองรอบ 2 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2022
Toyota คาดว่า bZ4X จะผลิต และขายในช่วงเวลา 1 ปีแรกที่เปิดตัวทั้งหมด 5,000 คัน และเพื่อให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าสะดวกกว่าเดิม Toyota มีแผนติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในดีลเลอร์ต่าง ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นภายในปี 2025 นอกจากนี้ยังมีแผนติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในพื้นที่เขตเมืองต่าง ๆ เช่นกัน
สำหรับราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น bZ4X ในประเทศญี่ปุ่น รวมภาษีการบริโภค ประกอบด้วย
- รุ่น 1 มอเตอร์ ขับเคลื่อนล้อหน้า ราคา 6 ล้านเยน หรือราว 1.60 ล้านบาท
- รุ่น 2 มอเตอร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 6.5 ล้านเยน หรือราว 1.73 ล้านบาท
คุณสมบัติเด่นของรถยนต์ไฟฟ้า bZ4X ที่ Toyota ยืนยันในเอกสารเริ่มที่ การมี Leg Room (พื้นที่ขาเวลานั่งเบาะหน้า และเบาะหลัง) กว้างขวางที่สุดในกลุ่ม Mid-Sized SUV, ใช้โครงสร้างแบบ e-TNGA และยืมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ Subaru มาช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย และสนุกยิ่งขึ้น
ทั้งติดตั้งระบบปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ในรถยนต์ และไม่จำกัดจำนวนการใช้งานดาต้า ทำให้ผู้โดยสารใช้งานอินเทอร์เน็ตในรถยนต์รุ่นนี้ได้เต็มที่ รวมถึงมีตัวเลือกให้ติดตั้งการชาร์จไฟด้วยแผง Solar ช่วยเพิ่มระยะการขับขี่ โดยรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะวิ่งได้หลังชาร์จเต็มที่ 559 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อวิ่งได้ 540 กม.
อ้างอิง // Toyota
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
เอาที่พี่สบายใจ
มองดูราคาแล้ว คิดว่ากว่าจะมาไทย คงปลายปีหน้าเลยก่อนหมด โควต้าภาษีเพราะแค่ขายในญี่ปุ่นก็น่าจะ Order ล้นแล้วละ
ขายจำนวนจำกัดยิ่งกว่า GR Yaris อีกครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ไม่เคยมองรถแบรนด์นี้สวยเลยสักรุ่น ยกเว้น CH-R กับ bZ4X นี่ พัฒนาการด้านดีไซน์ดีขึ้นเรื่อย ๆ อยากให้ Toyota Thailand เอาตัวนี้ใส่เครื่องสันดาปบ้างจัง
อันนี้เป็นไปไม่ได้เลยครับเพราะ BZ4X ตัว body ออกแบบมาเป็น EV โดยเฉพาะ
Design Language อาจได้เห็นในรถประเภท SUV บ้างในอนาคต แต่ถ้าจะยกไปทั้งดุ้นไปใส่เครื่องเลยน่าจะยากครับ ก็ออกแนว Lexus รุ่นก่อนหน้า 1 รุ่นนั่นแหล่ะครับ เอา grill ออก ค่ายรถญี่ปุ่นปัจจุบันเริ่มใส่ใจใน Design Language ของรถในค่ายให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อผลทางจิตวิทยามากกว่าแต่ก่อนเยอะครับ ผมจึงคิดว่าน่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ แต่คงไม่เป๊ะๆ
CH-R นี่หน้าฉีกดีแต่ดันเลิก เอา cross หน้าตาบ้านๆ มาขายแทน
ผมชอบ Prius เค้ามากเลยนะครับ T-T
หล่อมาก
หลังๆ ตั้งชื่อเป็นโค้ดเนมกันหมดเลย คิดไม่ออกแล้วซินะ
เอาเป็นรหัสหนังไปเลยมั๊ยครับ ?
คนที่เปลี่ยนจากรถยนต์สันดาบไปไฟฟ้า จะเจอปัญหาหรือมี learning curve อะไรบ้าง ที่ทำให้ 1 ใน 5 จะกลับไปหารถสันดาบครับ
ผมยังไม่ได้ใช้นะแต่ที่ต้องเตรียมใจสำหรับก่อนยุค Solid-state Battery คือ
ส่วนถ้าจะทำให้กลับไปใช้รถน้ำมันจริง ๆ คงเป็นเรื่องระยะเวลาชาร์จล่ะครับที่อาจจะไม่ทันใจ
แต่ผมก็เห็นเค้ารีวิวขับ กรุงเทพ เชียงใหม่ ใช้เวลาพอ ๆ กับขับรถน้ำมันกันนะ
เพราะฉะนั้น การเดินทางไกลต้องวางแผนชาร์จดี ๆ แค่นั้นแหละ
ขอบคุณครับ
ผู้กล้าตายซื้อก่อนเจ็บก่อนมีเยอะครับ
สมัยแรก ๆ มีแผนที่จุดชาร์ตไฟ พอวิ่งไปถึง ปิดก็มี ยังสร้างไม่เสร็จก็มี
เสียบหัวชาร์ตไม่ได้ (คนละ type มี AC type 2 กับ DC CCS ส่วน DC CHAdeMO หาไปเถอะ เจอก็ซื้อธูปมา กราบไหว้ หายากจริง ๆ )
ตี๊ดบัตรไม่ติด (จะชาร์ตต้อง เอาบัตรไปแตะ .. แต่แล้วไม่ติด เศร้ากันไป)
ที่ดีที่สุดคือ สายชาร์ตที่ให้มานั่นแหละ ซึ่ง ถ้าไม่เป็นบ้านญาติ ก็ไปขอชาร์ตไฟโรงแรม
(โดยลากสายยาว ๆ ไปเสียบปลั๊กธรรมดานี่แหละ ชาร์ต 10 ชั่วโมง)
ขอไฟมา ชาร์ตที่บ้าน ?
ยังไงก็ต้องซื้อ ขอไฟทิ้งไว้ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี คนส่วนใหญ่ ที่หน้าตาดีก็คิดแบบนี้แหละ... พบว่า
สอง - สาม ปีที่แล้ว กฝผ. กฝน. ไม่มีนโยบายแยกมิเตอร์ 1 บ้านเลขที่ 1 มิเตอร์เท่านั้น
ถ้าขอเปลี่ยนจาก 15(45) ไฟ 30(100) ก็จะชาร์ตได้ประมาณ 7kw/h
ต่อมา .. ผ่อนผัน
1 บ้านเลขที่ มี 2 มิเตอร์ได้ แต่ต้องเป็นแบบเดียวกัน 15(45) ก็ต้อง 15(45) เท่ากัน จะ 30(100) ก็ต้อง 30(100) เท่ากัน ต้องไปคุยที่เขต ขอไม่ได้ทุกเขตนะ คุยดีๆ คุยนานๆ ว่าจะทำอะไร พนักงาน-ข้าราชการ เค้าไม่ได้รู้ทุกเรื่อง ใจเย็น ๆ ค่อยๆ คุยกัน
ต่อมา .. ผ่อนผัน เพิ่มอีก
ขอไฟแบบเป็นช่วงเวลาได้ เช่น 15(45) อันแรกธรรมดา 15(45) อันที่สองคิดตามเวลา หลัง 4 ทุ่มเหลือ unit ละ 2.5 บาท
สรุปคือ
ตราบใดที่ยังไม่ยอมทำ 1 บ้านเลขที่มี กี่ มิเตอร์ก็ได้
เช่น มี 15(45) หรือ 30(100) แล้วขอ 3 เฟต แบบคิดตามเวลา เพิ่มเพื่อเอามาใส่ที่ชาร์ตรถได้ มากกว่า 1 เส้นด้วยนะ เช่น บ้านคุณรวยมาก เป็นคฤหาส 100 ล้านซื้อหลังที่ บูม ธริศร ไปทำรีวิวทิ้งไว้ มีที่จอดรถ 4-5 คัน .. แล้วยังไงถ้าขอได้เส้นเดียว ก็มีรถ EV ได้คันเดียว งี้เหลอ ?
ไม่มีวันจบ ก็ยังต้องด่ากันต่อไป
รู้สึกพอคอนโดใหม่ๆ มีที่ชาร์จให้สบายเลย แต่คนที่มีบ้านลำบากไปเลย
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ขอบคุณครับ อ่านแล้วช่างแม่งเหอะลดมลพิษไรเนี่ย 555 แพงกว่ารถน้ำมันไม่พอ ข้อจำกัดก็ยังเยอะพอควร
สิ่งที่จะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้มากขึ้นคือ eco system ซึ่งในตอนนี้ยังเป็นข้อจำกัดมากกว่าเป็นข้อจูงใจ
ผมยังไม่ได้เปลี่ยนนะ แต่คาดว่าเจอปัญหาล่วงหน้าแน่ ๆ ถ้าเปลี่ยนตอนนี้
๑. ระยะทาง พื้นเพเป็นคน ตจว. กลับ ตจว. ทีนึงตรง ๆ 600 กว่าโล มันต้องใช้รถที่ชาร์ทีนึงวิ่งได้พันกิโลนู่น เพราะเห็นจากที่รีวิวกันมันไม่ค่อยใกล้เคียงกับระยะที่ บ.รถ เคลมไว้ และต้องเผื่อระยะไว้หลงทาง แวะโน่นนี่ระหว่างทางด้วย ครั้นจะแวะปั๊มทีละ 40 นาทีชาร์จไฟก็ดูเสียเวลาไม่ใช่น้อย ตรงนี้ยังชอบสันดาปมากกว่า 5 นาที
แต่ถ้าได้กลับไปทำงาน ตจว. ค่อยว่าอีกทีเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า (ขนาดโทรศัพท์ชาร์จทุก 2 วันยังขี้เกียจ)
๒. ทำงานที่ กทม. ซื้อคอนโดอยู่แค่ที่จอดรถ 40% นี่ก็ปัญหาละ ที่ชาร์จนี่คงไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีได้ซักกี่จุด เห็นในเน็ตทะเลาะกันละเข้าคิวชาร์จ ชาร์จเต็มละไม่เอารถออก
เพราะฉะนั้นให้คนเหลือเงินเยอะเล่นไปก่อนไม่รีบ รอแบบชาร์จ 5 นาทีวิ่งได้พันกิโลค่อยว่ากัน
ผมก็ไม่ได้ใช้นะครับ แต่ดูจากพวก youtuber วิ่งเส้นเชียงดาวกรุงเทพใช้รถที่ค่อนข้างใหญ่อย่าง MG และกินแบตค่อนข้างมาก ใช้เวลา 9 ชั่วโมง หยุดชาร์จครั้งแรกแค่ 15 นาที ครั้งที่สองพักกินข้าว 40 นาที ครั้งที่สามแวะเข้าห้องน้ำ ครั้งที่สี่ กินข้าว คือมันไม่ได้หยุดชาร์จแล้วนั่งรอ แต่หยุดเพราะเข้าห้องน้ำบ้าง กินข้าวบ้าง (แน่นอนถ้าเป็นพวกขับรวดเดียว 600 กิโลเลยก็คงต้องใช้รถ ระยะพันโล)
หรือถ้าเป็น Tesla จากกรุงเทพชาร์จแค่ครั้งเดียวพักกินข้าวถึงเชียงใหม่เลย
ผมว่ามันไม่ต้องถึงพันโลครับ สิ่งที่ควรพัฒนาคือสถานีชาร์จมากกว่า เห็นต่างประเทศ พวก high power charger/supercharger 15 นาทีนี่ได้กัน 300 โลแล้ว ในไทยยังหา 150kW ยากอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี ผมเห็นเวลาเค้าทำ challenge กันนี่แทบไม่มีเวลากินข้าว เพราะมันชาร์จเร็วจนถ้าชาร์จต่อจะไม่คุ้มแล้ว ควรขับต่อดีกว่า
ขอบคุณครับ
ขอถามนอกเรื่องหน่อยครับ ตอนนี้ถ้าซื้อรถไฟฟ้าในไทยต้อง type 2 ใช่ไหมครับ คือรถส่วนใหญ่เป็น type 2 แล้วใช่ไหมครับ หรือว่าต้องคอยศึกษาอยู่ หรือมีเว็บไหนที่รวบรวมข้อมูล connector ของรถได้บ้างครับ จะได้เลือกรุ่นรถง่ายขึ้นหน่อย
ส่วนใหญ่ใช่ครับโดยเฉพาะรถจากยุโรปและจีนที่จะใช้ AC Type2 และ DC CCS2
แต่จะมีรถบางรุ่นที่ประหลาดกว่าชาวบ้านก็จะมี Nissan Leaf กับ Lexus UX300e ล่ะมั้ง