การวัดความนิยมของภาษาเขียนโปรแกรมนั้นมีวิธีต่างๆ กันไป เช่นค่าย O'Reilly นั้นใช้ยอดขายหนังสือวัดความนิยม ส่วนค่าย TIOBE ที่เป็นข่าวนี้อาศัยเสิร์ชเอนจิน เช่น Google Search, MSN, Wikipedia และเว็บอื่นๆ ในการวัดความนิยม จุดที่น่าสนใจคือภาษา Java นั้นมีค่าดัชนีตกต่ำลงอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา จนทำให้ภาษา C กลับมาเป็นที่หนึ่งอีกครั้งหลังจากที่ภาษา Java ครองอันดับหนึ่งมาได้ตั้งแต่ปี 2000
เนื่องจากการวัดความนิยมด้วยเสิร์ชเอนจินมีข้อจำกัดว่า ผู้สำรวจไม่สามารถควบคุมการแสดงผลของเสิร์ชเอนจินต่างๆ ได้ ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงภายในของกูเกิลอาจจะกระทบต่อผลการสำรวจนี้ได้ โดยเคยมีความผิดปรกติเช่นนี้มาแล้วในช่วงปี 2004 ถึง 2006 แต่แนวโน้มโดยรวมของผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่า Java กำลังเสื่อมจากความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา
ภาษาที่อยู่ในภาวะเสื่อมถอยอื่นๆ ก็เช่น Visual Basic และ Perl ส่วนภาษาที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เช่น Python, C#, และ JavaScript
เราควรกลับไปเขียน C?
ที่มา - TIOBE
Comments
ภาษาC เป็นภาษาที่ผมรักมากที่สุดเลย ถึงแม้จะไม่ได้เขียนมานานแล้วก็ตาม
รัก C แต่เขียน Java - -"
ผมว่าน่าจะเป็นเทรนด์ของผู้ศึกษาใหม่มากกว่านะครับ เพราะผมไม่คิดว่าการเริ่มศึกษา Programming จากภาษาสมัยใหม่จะเป็นเรื่องดีนะ เพราะทุกอย่างมันถูก encapsulate จนเราไม่ต้องรู้แล้วว่าการทำงานข้างในเป็นอย่างไร
เพราะเราอาจะไม่จะเป็นต้องรู้ไงครับ
ควรจะศึกษา C เพื่อให้รู้ว่า เบื้องหลังของ Java ทำงานยังไง ?
แล้วก็เกิดคำถามขึ้นในใจ ว่าควรจะศึกษา Assembly ด้วยมั้ย ?
เพื่อจะได้รู้ว่าเบื้องหลังของ ภาษา C นั้นทำงานยังไง
ต้องเข้าเข้าใจภาษาเครื่องด้วยมั้ย ?
เพื่อให้รู้ว่า เบื้องหลังของ Assembly นั้นทำงานยังไง
ต้องเข้าใจสถาปัตยกรรม x86 ด้วยมั้ย ?
เพื่อจะได้รู้ว่า native code นั้นทำงานได้ยังไง
ซึ่งมันก็จะมีเบื้องหลังที่ลึกลงไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
ผมไม่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะครับ ที่ใครจะเริ่มหัดเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C# หรือ Java
อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำไป ที่จะได้ซึมซับแนวคิดในการเขียนโปรแกรมของยุคโมเดิร์นตั้งแต่เริ่มแรก (เช่นการได้ซึมซับ object-oriented thinking ตั้งแต่เริ่มแรก)
ส่วนเรื่องเบื้องหลังนั้นค่อยๆ ไปศึกษาตามทีหลังก็สามารถทำได้ครับ สำหรับผมไม่ถือเป็นขั้นตอนที่แย่แต่อย่างไร
ส่วนว่าจะต้องรู้ลึกในเบื้องหลังมากแค่ไหนนั้น คงขึ้นอยู่กับความสนใจและลักษณะงานของแต่ละคนครับ
เห็นด้วยครับ
ภาษา C มักถูกใช้ในระบบส่วนล่างครับๆ เช่น driver เป็นต้นครับ
การใช้ภาษา C ทำให้การเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ทำได้ง่ายครับ รวมไปถึงการเข้าถึงตำแหน่งของ memory ซึ่งถูก map ไว้กับ hardware ได้ครับ (เช่น register)
ภาษา C จึงยังเหมาะกับงานที่ต้องใช้ และไม่มีวันจะตายไปจากโลกนี้ได้
และงาน embedded?
a link
ถูกต้องครับ สำหรับ MCU แล้ว ผมขาดมันไม่ได้เลยล่ะ
ถูกต้องครับ งาน embedded ส่วนใหญ่ ก็ใช้ C กันทั้งนั้น ยิ่งถ้าใช้ Linux แล้ว แทบจะหนีห่างไม่ได้เลยครับ
Programming Concept เป็นสิ่งสำคัญ เช่น Binding, Scope เป็นต้น
ไม่เกี่ยวกับภาษา เพราะแต่ละภาษาคิดขึ้นมาเพื่อแก้ specific problem หนึ่งๆ
ตัวอย่างเช่น ใครเอา prolog ไปเขียนเว็บบ้าง
หมายเหตู โปรแกรมเมอร์ลองถามตนเองดูว่า Function กับ Procedure ต่างกันอย่างไร
ถ้ายังตอบไม่ได้แสดงว่าความรู้เพิ่มเกี่ยวกับโปรแกรมมิ่ง
อ่า ก็จริงครับ แต่ในด้าน syntax ผมยังคิดว่าการเรียนรู้ภาษาต้นแบบ(อย่าง C หรือ pascal)ก่อนนั้นมันช่วยได้เยอะในการผันตัวเองไปศึกษาภาษาอื่นๆได้ง่ายน่ะครับ ไม่ว่าจะ C++, JAVA, C#, PHP, JavaScript พื้นฐาน C ตัวเดียวต่อยอดได้หลายภาษาเลย
สิ่งที่คุณพูดมา คือ หลักสูตรที่สอนใน วิทย์คอมของม.เกษตร อ่ะครับ(รุ่นผมน่ะ รุ่นใหม่ไม่รู้) แค่ไม่ได้เรียนถึงขั้น Native code เริ่มต้น ก็เรียน Pascal ให้รู้พื้นฐานของการเขียนโปรแกรม แล้วมาเรียน C เพื่อเรียนรู้การเขีียนแบบ Structured แล้วค่อยมาเรียน Java เพื่อต่อยอดเอา Object-oriented พอปี 3 ก็ค่อยมาสอน Assembly กับ หลักการพื้นฐานของภาษาคอมพิวเตอร์ ที่่เป็นพื้นฐานของภาษาโปรแกรมทุกภาษา
การเรียนมันก็เหมือนสร้างบ้านอ่ะครับ ฐานไม่แน่นบ้านจะมั่นคงได้อย่างไร วันนี้ Java กับ C# เป็นใหญ่ แล้วอีก 10 ปีข้างหน้าล่ะจะเป็นภาษาอะไร Object-oriented programming ได้รับการต่อยอดมาจาก Structured programming ถ้าคุณไม่รู้เรื่องนี้แล้วเวลาคุณเขียน Java จะเขียนได้ดีหรือ ลองเปรียบเทียบคณิตศาสตร์ดู มีใครบ้างทีจะสอนให้แก้สมการเป็นก่อนที่จะบวก ลบ คูณ หาร เป็น
KU68 ใช้ C เป็นพื้นแล้วครับ หลักสูตรใหม่ไม่มี Pascal ^^
ขอบคุณที่แชร์ให้ฟังครับ
เราน่าจะเป็นเพื่อนร่วมอาชีพกันนะครับ
แต่เราคงมาจากกที่ที่ต่างกัน และด้วยวิธีการที่ต่างกัน
แนวคิดของเราจึงไม่เหมือนกัน
คุณและผู้คนอีกมากมาย โชคดีมากครับ
ที่ได้รับการศึกษาอย่างอย่างครบถ้วน และเป็นขั้นเป็นตอน
1->2->3->4->5 (เปรียบเทียบกับ บวก ลบ คูณ หาร แก้สมการ :)
(เรื่องสมมติ)
แต่ผมและอีกหลายๆ คน อาจจะเริ่มต้นเข้าวงการที่ หมายเลข 4 ครับ
หนึ่งปีผ่านไปจึงได้เข้าไปยุ่งกับ 3 บ้างเล็กน้อย
อีกสองปีจึงได้เรียนรู้ 5 เพราะความน่าตื่นเต้นของมัน
และแล้วก็กลับมาขลุกอยู่กับ 4 เป็นส่วนใหญ่อีกหลายปี
และแล้วก็ต้องเข้าไปยุ่งกับ 1 เพราะความจำเป็นของชีวิต
วนไปวนมา แต่ชีวิตส่วนใหญ่ก็อยู่กับ 4 เหมือนตอนที่เข้าวงการมาครั้งแรก
(อันนี้เรื่องจริง)
บ้านที่ผมนั่งอยู่ตอนนี้ เป็นบ้านสองชั้น ที่ก่ออิฐฉาบปูนขึ้นมาโดยไม่มีเสาเข็ม
มันอาจจะพังลงทับผมตายได้ในซักวัน (ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงแล้วไหมนั่น)
ก็ช่างมันครับ ต้องทำใจ ถึงมันจะไม่ได้แน่นปึ้กสมบูรณ์แบบ
แต่อย่างน้อยมันก็ดีพอ ให้ผมอยู่มาได้นับสิบๆ ปี
(อันนี้ฝันไป)
ใครห้ามแอบยกบ้านผมไปวางไว้ที่ญี่ปุ่นนะครับ
บ้านผมกลัวแผ่นดินไหว บ้านผมดีพอสำหรับเมืองไทยเท่านั้น
5555 +1
สอน Assembly ก็น่าสอน Native code ด้วยนะ
ไม่งั้นถ้าไม่รุว่า cpu fetch instruction/data ไง
BCD/EBCDIC คืออะไร.. integer/FP เกบยังไง
เดวจะ debug code assembly ที่เขียนไม่ได้ปะ
น่าจะต้องเรียนอิเลกฯ ด้วย เผื่อเวลาต่อกะ h/w
ถ้ามี bug ได้รุว่า code เราผิด หรือ h/w เพี้ยน
เกิดเชค h/w ไม่เปน แล้ว h/w มันเพี้ยนขึ้นมา
ก็เชคแต่ code จนหัวโต ก็ไม่เจอที่ๆ code ผิด
แล้วก็สอนแคลคูลัสชั้นประถม/มัธยมเลยดีมั้ยอ่ะ
เดกๆ ได้หาปริมาตรทรงกลม กรวย หรืออื่นๆ ได้
ไม่ต้องท่องพวก 4/3 pi r^3 .. ฯลฯ
(ขออภัย.. จิงๆ คือลืมแล้วด้วยซ้ำ ว่าพิสูจน์ไง)
ว่ากันว่า programmer ที่แท้จริงจะต้องเขียนได้ทุกภาษาเมื่อได้อ่าน document ของมัน
สงสัยจะเป็นผลจาก objective-c
ฮา ^^
ยากที่ C จะตายคับ - -' นอกจากว่าจะมีภาษา Native แบบอื่นที่ดีกว่าออกมา
เปล่า เราควรเขียน python ต่างหาก
จาวามันมี learning curve ช่วงแรกสูง
คนเขียนโปรแกรมใหม่ๆจริงไม่ค่อยชอบ
(พูดจากประสบการณ์ที่สอนมา)
และคนเพิ่งเริ่มศึกษานี่แหละไปค้นคว้าข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
ส่วนใครพอเป็นจาวาแล้ว อ่าน javadoc ก็พอรู้
I love C ^^
:: DigiKin8 ::
ผมเข้าใจว่า C++ เป็นที่ินิยมมากกว่า C มาตลอดเลยนะเนี้ย - -
"ปอกส้มเข้าปาก" จำผู้เขียนไม่ได้ละ
ถ้าวัดจากผล search .. แสดงว่า ภาษา นั้นมีปัญหาเรื่องการใช้งานและแหล่งอ้างอิงแล้วปะ
ถ้า syntax และองค์ประกอบพื้นฐานต่างๆ เช่น data type, basic function เข้าใจง่ายจำง่าย
รวมถึงทูลดีมี guide มี automate และ doc/ref ดี.. ก็ไม่น่าต้องไป search อะไรมากปะ?
ถ้าฟังเพลงบนอินเทอร์เน็ตทำง่าย เราก็คงไม่เห็นคีย์เวิร์ด "ฟังเพลง"?
ถ้าเพลงเนต(?) หาง่าย(และฟรี?).. เปิด player ขึ้นมา ฟังเพลงที่ต้องการได้ง่าย(และฟรี?)
แนะได้ว่าเพลงไหนเหมาะหรือฮิต ใช้ player ค้นได้ด้วยชื่อ เนื้อ นักร้อง ทำนอง สไตล์ ฯลฯ
เพราะว่า player ตัวนั้นมี music store มี radio store ที่ใหญ่ มี engine ที่ฉลาดเปน back
สักวัน.. เราก็คงไม่เห็นคีย์เวิร์ด "ฟังเพลง"?
ผมคิดว่าคงมีคนที่เป็นเหมือนผมคือรู้อยู่แล้วว่าต้องเข้าเว็บไหน แต่ก็ search หา เช่นเวลาผมจะหาคำศัพท์ ผมก็จะเข้า longdo dict (http://dict.longdo.com/) แต่ก็ไม่เข้า ไปพิมพ์คำว่า longdo ในช่อง search แทน อีกเว็บหนึ่งที่ผมทำแบบนี้คือ cplusplus.com
แค่หาข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ผมยังต้อง Search เลยครับ
คงเถียงไม่ได้แล้วว่าตอนนี้โลกเราขาด Search engine ไม่ได้
ไม่จำเป็นต้องมองด้านเดียวแค่ว่าค้นหาเพราะภาษามีปัญหาก็ได้นี่ครับ
คนที่ Search ภาษานั้นก็แปลว่าต้องสนใจภาษานั้นใช่ไหมครับถึงได้เข้ามาค้นหา
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ เล็กน้อยแค่ไหนก็ยัง Search เพราะ javadoc ไม่มีปุ่มให้ค้นหาอ่ะ ขนาดรู้ว่าจะใช้ Class ไหนยังเข้าไปลำบาก สู้ Search เอาไม่ได้ net เร็วหน่อย ก็หาเจอใน 5 วิ แหละ
ปกติเวลาผมเขียนโปรแกรมผมไม่เคยจำ library มันได้เลยซักภาษา เนื่องจากต้องสลับภาษาไปๆมาๆบ่อยมาก มีอยู่ช่วงนึงที่เช้านั่งเขียน C++ สลับกับ vb6(โปรเจ็คเดียวกัน) ตกบ่ายแก้โค้ด delphi นั่งแกะ pl/sql ตอนเย็นไป C#/sqlsv สถานการณ์มันบังคับ ช่วงนั้นแค่สับรางให้ทันก็เต็มกลืนแล้วครับ บางทียังเผลอใส่ ; ให้ vb เลย = =" เวลานึกคำสั่งไม่ออกผมจะไม่ค่อยเปิด help เพราะถ้าเทียบกันแล้วใช้ google เร็วกว่า ตรงประเด็นกว่าเห็นๆ
+1
บางครั้ง help พี่ท่านเขียนละเอียดเกิน แค่อยากได้ตัวอย่างก็พอแล้ว
+1
เอกสารของ Oracle นี่น้ำเยอะมาก อ่านแล้วจะสำลักตาย
+5000 เลยเอ้า
+1
ไม่ใช่แค่นั้นครับ ที่ต้อง Search ยังมีเรื่อง In depth ของแต่ละภาษา, Library เป็นร้อยเป็นพัน, หาข้อมูลหรืออ่านเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาษานั้นๆ, ตัวอย่าง Source Code, วิธีการเชื่อมต่อไปภาษาอื่น, เทคนิคการเขียน
และอีกหลายเรื่องที่มันไม่มีวันรวบรวมมาเป็น complete document ให้คุณได้ตั้งแต่เริ่มต้นครับ
และผมว่า search จาก search engine ให้ผลลัพธ์ที่มากกว่า ดีกว่า และเร็วกว่า (แถมขยะอีกต่างหาก) นั่งอ่าน complete guide อีกครับ
สรุปที่ทักไปก็คือ ถ้าเปน general purpose language แล้ว
ส่วนตัวคิดว่า ประเดนแรกคือ ต้องใช้ง่าย.. เลยต้องดูทูลด้วย
coder ต้องทำงานเสดได้เรว เกิด syntax err/ bug ได้น้อย
ส่วนเรื่องอย่าง ประสิทธิภาพ .. ไปจูน compiler เอาดีกว่า
ทูลจะฉลาด มี helper/wizard เจ๋ง ก็ต้องอาศัย doc/ref ที่ดี
doc/ref อัพเดตบ่อยๆ อัพเดตเองได้ หรือดึงจากข้างนอกได้
พอข้อมูลเยอะ ต้องกรองได้ ต้อง interact/context-aware
งานที่ใครๆ ก็ทำบ่อยๆ ควรแค่จิ้มไรซักหน แล้วทูลก็ gen ให้
menu/smarttag/shortcut/F1 มีอีกเยอะที่ง่ายกว่า google
ใช้ search มั้ย ก็ยังใช้.. แต่ไม่ใช่ generic search-engine
เปน specific search กับข้อมูลที่มีโครงสร้างเฉพาะระดับนึง
นับ click/key กะเวลาที่ใช้จนได้คำตอบ ไง specific ก็ดีกว่า
compile error หรือ bug .. ก็ขึ้นเลยว่าควรแก้ไง ไม่ต้องคุ้ย
อย่างน้อยก็ขึ้น link .. ให้ดีก็มีตัวเลือกจิ้ม แล้วทูลแก้ให้เลย
หรือดีกว่านั้น ก็ analyze ให้ แล้วเตือนตั้งกะตอน code เลย
relate content .. แทนที่จะรอให้สงสัย แล้วไป search หา
เวลา F1 .. doc/ref ที่เปิดขึ้นมา ก็มีส่วน related มาให้เลย
หรือมี box context ref .. ขณะ coding ก็เปลี่ยนตามทันที
ยังมีอีกหลายวิธี แต่รวมๆ คือ ยิ่ง search น้อย ใช้เวลาน้อย
ส่วนตัวคิดว่า แสดงว่า eco-system ของ language นั้นยิ่งดี
พูดอีกอย่าง ถ้า push ฉลาดพอ ไม่พาจมข้อมูลไปซะก่อน
language ที่มี eco-system แบบ push นั้นดีกว่า pull แยะ
C# Python หรอครับ อื้มม ต้องไปดูๆไว้บ้างซะแล้ว
ที่รวมคนเขียนโปรแกรมเลยน่ะเนี้ย
รัก Java แต่เขียน C
ไม่รู้จัก C ก็ไม่รู้จัก pointer นะ แล้วก็จะไม่เข้าใจ Reference Type อีก
แต่ผมเริ่มจาวาก่อน ผมก็เข้าใจ Reference Type นะ แต่แค่ถ้าศึกษา C ก่อนก็อาจจะมา Java ได้ง่ายกว่าก็ได้
ผมเริ่มเรียนจริงจังจาก
ม.5 Pascal
ม.6 HTML+JavaScript
ปี.1 C, C++
ปี.2 Java, VB, Oracle(DBMS)
ปี.3 C#+MS SQL, HTML+JavaScript+MySQL
ปัจจุบันลืมไปหมดแล้ว เนื่องจากต้องเอาเวลาไปล่ามอนสเตอร์(Monster Hunter)
ห้าๆๆๆ ฮาจริงๆ ของมันลืมได้นี้เนาะ แต่ monster ล่าทุกวันไม่มีวันลืม เหอๆ
ตกลงก็ยังไม่รุ้ว่าทำไม C ถึงถูกค้นหามากที่สุด
ว๊าว มี Delphi ด้วย แอบดีใจ
เพราะถ้าพัฒนา Native App ผมใช้ Delphi ตลอดเลย
ผมว่าถ้าจะพัฒนา native winapp ให้ง่ายและเร็วที่สุด(อาจจะแพ้ C++ นิดหน่อยในแง่ความเร็วของการทำงาน) Delphi ดีที่สุดแล้วครับ :)
ผมรัก Delphi มากถึงมากที่ซู๊ดดดดดดดดดดด เป็น tool ตัวแรกที่ทำให้ผมรักการเขียนโปรแกรมบน windows os
ชอบ delphi ขอดีใจด้วยคน
ผมว่าคนเริ่มหัดเขียนโปรแกรม ส่วนตัวผมว่า c เหมาะนะ.....