บริษัท Opera ยื่นเอกสารร้องเรียนต่อคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ว่าไมโครซอฟท์ผูกขาดเว็บเบราว์เซอร์ และไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานเว็บ
สิ่งที่ Opera เรียกร้องมี 2 ประการ
เมื่อปี 2004 คณะกรรมการยุโรปเคยสั่งให้ไมโครซอฟท์ถอด Windows Media Player ออกจากระบบปฏิบัติการมาแล้ว (ส่งผลให้เกิด Windows XP N Edition) และทาง Opera ต้องการให้คณะกรรมการยุโรปใช้มาตรฐานเดิมในการตัดสินอนาคตของ IE นอกจากนี้ Håkon Wium Lie ซึ่งเป็น CTO ของ Opera ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงชุมชนเว็บทั้งหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ถ้าใครยังจำกันได้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ฟ้องไมโครซอฟท์ข้อหาผูกขาด (กรณี Netscape) ตั้งแต่ปี 1998 โน่น ซึ่งสุดท้ายเรื่องจบลงที่การตกลงกันนอกศาล โดยไมโครซอฟท์ยอมเปิด API ให้กับบริษัทอื่นๆ (วิกิพีเดีย)
ที่มา - Opera Press, OSNews
Comments
บล็อกของ Asa Dotzler มีรวมลิงก์ข่าวนี้จากเว็บไซต์ข่าวต่างๆ
นักวิเคราะห์หลายเจ้าเห็นตรงกันว่า Opera มาฟ้องช่วงนี้ดูแปลกๆ (ควรฟ้องตั้งแต่ก่อน IE7 ออก) และตัวเลขการเติบโตของ Firefox นั้นเป็น counter example ของ Opera ได้
ไม่รู้ว่าได้ผลแค่ไหน แต่ว่า อยากให้ Opera รองรับเรื่องปลั๊กอินให้ดีกว่านี้ จะได้เอาหมาไฟออกซะที (ต้องมีหมาไฟไว้เข้าบางเว็บ)
เคยใช้ opera อยู่พักนึง (นานมาแล้ว ตั้งแต่ยังเป็น 56k อยู่)
เห็นด้วยว่า สิ่งที่ Opera ยังขาดก็คือระบบ extension ที่มีใน firefox เพราะถ้ามีระบบ extension ดีๆล่ะก้อ firefoxก็เหอะ มีหนาวได้เหมือนกัน
Lastest Science News @Jusci.net
Lastest Science News @Jusci.net
ถ้าเอา IE ออกแล้วจะใช้อะไรเข้าไปโหลดเบราว์เซอร์อื่นครับ
+10
FTP :D
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้อง ftp ไปที่ไหน :D
เออจริง
ISP ก็ต้องทำ CD ที่มีโปรแกรมเบราว์เซอร์แจกเหมือนสมัยก่อนไง
ใช่เลย ฮ่ะๆ แต่ Ubuntu มาพร้อม Firefox นี่ผิดมั๊ย
ผมว่าไม่ผิด เพราะ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
แล้วผมจะฟ้องได้มั้ยอ่ะ ถ้ามันเคยมีแล้วไม่มีอ่ะ ซื้อมาแล้วมีแต่วินโดว์ เข้าเว็บก็ไม่ได้ จะดูหนังก็ต้องเข้าเว็บไปโหลดตัวเพลเยอร์มาอีกลำบากผมนะเนี่ย ผมว่าเอาแบบแฟร์ ๆ เลย
่ในแผ่นวินโดว์อ่ะ มี เบราเซอร์มาด้วย มีเดียเพลเยอร์มาด้วย ซอฟแวร์อื่น ๆ(แชร์แวร์+ฟรีแวร์(อาจจะเป็นโอเพ่นซอร์สด้วย แต่เจ้าของเค้าต้องเสนอมาเองไม่งั้นจะโดนข้อหาอะไรตามมาอีกสารพัด)) ค่ายไหนจะใส่ก็เอามาใส่แล้วแต่ความพอใจ คนเค้ารักตัวไหนชอบตัวไหนก็ให้เค้าลงเอง ตัวติดตั้งก็ออกแบบมาซัก 2 แบบ
1.windows = วินโดว์ปล่าว ๆ ไม่มีซอฟแวรือื่น ๆ
2.windows express = วินโดว์+วอฟแวร์ของ MS
์อ้างผู้บริโภคยันเลย สุดท้ายคนที่เสียประโยชน์ก็คือผู้บริโภคอยุ่ดี ไม่เคยมีใครมาถามผู้บริโภคเลยว่าเค้าจะเอาแบบไหน ผมว่าเอาแบบนี้แหละดี ๆ ชอบแบบไหนเอาแบบนั้น
ไม่ชอบ MS เลือก 1
ชอบ เลือก 2
เกลียดก็ไปใช้ลินุกซ์ ที่เถียง ๆ กันอยู่ก้เพราะเงินทั้งนั้น
โลกเราไม่ได้มีแต่ขาวกับดำนะครับ
ส่วนมากที่ฟ้องกัน เพราะไมโครซอฟต์ไม่เปิดโอกาสให้เรามีโอกาสได้เลือกที่จะติดตั้งหรือไม่ติดตั้งซอฟต์แวร์พวกนี้เลยมากกว่าครับ ถ้าตอนติดตั้งเลือกได้ หรือสามารถเอาออกได้ภายหลังโดยสะดวก ก็คงไม่มีใครมานั่งฟ้องหรอก
Lastest Science News @Jusci.net
Lastest Science News @Jusci.net
+5 ผมสนใจข้อเรียกร้องที่ 2 ของ Opera มากกว่าซะอีก สำหรับคนทำเวปสมัยนี้ IE มันคือ ยาขมชัด ๆ
+1
ขนาด IE6 กับ IE7 ยังแสดงผลต่างกันเลย
เผลอๆบางงานต้องทำแยกเวอร์ชั่น 6 กับ 7 เสียเวลาทำงานไปอีก
อันนี้จริง ทำให้มันมาตรฐานเสียที อยากจะเล่น css ลำบาก
อันนี้ต้องลองกลับไปอ่านคำร้องสมัยของ Netscape นะครับ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้อง MS เพราะว่า MS บีบไม่ให้ hardware vendor (ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะมี Dell ด้วย) ลงเบราว์เซอร์ตัวอื่น (ตอนนั้นก็คือ Netscape ที่ครองตลาดอยู่) ซึ่งไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่า IE เป็นส่วนหนึ่งของ OS ไม่สามารถแยกกันได้
ถ้าดูคำสั่งของ European Commission คราวก่อนเรื่อง WMP จะเห็นว่าคำสั่งจริงๆ คือให้ขายทั้งสองเวอร์ชัน (แบบที่คุณบอก) แล้วให้ผู้บริโภคหรือ hardware vendor เป็นคนเลือกครับ ซึ่งสุดท้ายแล้วถึงแม้ว่าจะไม่มีคนเลือกเลย แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของผู้ซื้อเอง (ต่างจากการไม่มีทางเลือกอะไรเลย)