(คุณซาจาลกำลังเลือกซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ และพบว่าโน้ตบุ๊กรุ่นต่าง ๆ ที่เขาสนใจนั้นล้วนรวมราคาวินโดวส์มาด้วยแล้ว คุณซาจาลรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกบังคับใช้จ่ายค่าไลเซนส์วินโดวส์ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้จะใช้ จึงเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษ ตีพิมพ์ที่บล็อกของเขา ผมเห็นว่าน่าสนใจ และก็รู้สึกเช่นเดียวกันในตอนเลือกซื้อโน้ตบุ๊ก จึงขออนุญาตแปลมาเป็นภาษาไทยให้เราอ่านกันครับ แล้วชาวบล็อกนันคิดอย่างไรกับประเด็นนี้ ?)
ถึง : ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย
ถึง : เลโนโว ประเทศไทย
ถึง : คุณประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนลซิสเต็มส์ เอชพี ประเทศไทย
ถึง : แผนกประชาสัมพันธ์ โซนี่ ไทย
ถึง : อัสซุส ประเทศไทย
ถึง : เอเซอร์ สำนักงานใหญ่
ถึง : เบนคิว ประเทศไทย
เรียนท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
จดหมายฉบับนี้เพื่อเรียนให้ท่านได้สังเกตว่า โน้ตบุ๊กเกือบทุกรุ่นที่มีจำหน่ายในประเทศไทยนั้น มาพร้อมกับวินโดวส์ที่ติดตั้งไว้แล้ว
ผมได้ซื้อเครื่อง โซนี่ ไวโอ้ เมื่อสามหรือสี่ปีที่แล้ว ซึ่งมันมาพร้อมกับ วินโดวส์ เอ็กซ์พี และเนื่องจากปัญหาคุณภาพของซอฟต์แวร์ที่ให้มาดังกล่าว ผมจำเป็นต้องหันไปใช้ระบบปฏิบัติการตัวอื่น ผมไม่ได้ขอคืนเงินค่าสัญญาการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานอันนั้น เนื่องจากในตอนที่ซื้อนั้น ผมมีความประสงค์ที่จะใช้มัน และได้ใช้มันอยู่ระยะหนึ่ง
ตอนนี้ ได้เวลาที่ผมจะซื้อโน้ตบุ๊กใหม่แล้ว จากการศึกษาด้วยตนเองที่ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2551 พบว่า โน้ตบุ๊กเกือบทุกรุ่นมีวินโดวส์ติดตั้งไว้แล้วพร้อมกับสัญญาอนุญาตให้ใช้ซอฟต์แวร์ เมื่อสอบถามผู้ขายว่าผมไม่ต้องการจ่ายค่าสัญญาอนุญาต ผมได้รับแจ้งว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม้จะมีรุ่นโน้ตบุ๊กจำนวนจำกัดมากจำนวนหนึ่งที่ไม่มีวินโดวส์ติดตั้งมาด้วย แต่โน้ตบุ๊กเหล่านั้นก็เป็นรุ่นระดับต่ำสุดซึ่งมักจะล้าสมัยแล้วหรือมีน้ำหนักมาก
คำถามถึงทุกคนที่ได้แจ้งชื่อถึง :-
คำถามถึงผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊กทุกราย :-
คำถามถึงเลโนโว :-
คำถามถึงไมโครซอฟท์ :-
ขอความกรุณาตอบ ในช่องความเห็นด้านล่าง หรือตอบเป็นภาษาอังกฤษที่บล็อกของ Sajal คำตอบเหล่านั้นจะช่วยให้ผมตัดสินใจได้ว่า ผมควรจะซื้อโน้ตบุ๊กใหม่ที่นี่ในประเทศไทย หรือสั่งมันจากสหรัฐอเมริกาหรือสิงคโปร์ ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลไทยสูญเสียรายได้จากภาษี
ป.ล. : ขออภัยบริษัทอื่น ๆ ซึ่งเข้าเกณฑ์ดังกล่าวและไม่ได้ถูกกล่าวถึง คุณจะตอบคำถามด้วยก็ได้
นับถือ,
Sajal Kayan
ที่มา - Open letter to Thailand’s Software Bullies, 21 June 2008
(แก้ไข 24 มิ.ย. 2551 - แก้ตำว่า "โน้ตบุ๊ก" น.หนู เป็นอักษรต่ำ ใช้ ไม้โท ขอบคุณคุณ Oakyman และ p-joy ครับ)
Comments
+10 ครับ ^ ^
ชอบใจที่คุณซาจาลไม่พอใจอะไรบ้างอย่าง แล้วได้ทำอะไรบ้างอย่าง...มากกว่าที่จะบ่นๆ แล้วก็ยอมรับชะตากรรมไปเหมือนคนส่วนหนึ่งในประเทศสารขัณฑ์
oh เยี่ยม
+10
เป็นจดหมายเปิดผนึกที่น่าสนใจมาก
สำหรับเมืองไทยในการขายเครื่องพร้อมซอฟต์แวร์โดยที่ผู้ใช้ไม่มีทางเลือกว่าจะลงหรือไม่ เอาใจช่วยครับสำหรับจดหมายเปิดผนึกในครั้งนี้
ถึงแม้ผมจะใช้ระบบปฎิบัติการ Windows OEM มากับเครื่อง แต่ด้วยในบางงาน และบางคนไม่ได้ซื้อมาเพื่อให้ทำงานบนระบบปฎิบัติการ Windows ซึ่งน่าจะมีการชดเชย หรือหักค่าส่วนต่างของราคา รวมไปถึงในใบเสนอราคา ต่าง ๆ ควรจะแยกราคาของเครื่องกับซอฟต์แวร์ระบบปฎิบัติการ Windows แยกต่างหากเพื่อเป็นทางเลือกที่จะให้มีการติดตั้งหรือไม่มาพร้อมกันการซื้อแต่ละครั้ง
ถึงแม้ว่าเป็นผลเสียสำหรับ Microsoft ในการทำตลาดดังกล่าวเพราะโดยธรรมชาติการทำตลาดในไทยจะมองเรื่องซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นธรรมดา และเป็นค่าใช้จา่ยที่ไม่จำเป็น แต่การขายพ่วงในลักษณะดังกล่าวก็ไม่น่าใช่ทางออกที่ถูกต้องนักซึ่งควรจะเริ่มที่การทำความเข้าใจเรื่องซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์มากกว่า (ถึงแม้จะทำมานานมาก และไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก) แต่การเลือกที่จะซื้อหรือไม่ซื้อในตัวสินค้าที่ได้ชื่อว่าข่าวพ่วงนั้นควรจะเป็นทางเลือกมากกว่าการบังคับครับ
เห็นด้วย +100 ;)
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ประเด็นนี้น่าสนใจครับ เพราะผมเองก็มองเหมือนกันว่าปัญหาลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในเมืองไทยนั้นแก้ยากมาก ผมคิดว่าไมโครซอฟต์ไทยเองก็ตระหนัก แต่มันก็ยากจะทำใจจริงๆ ยิ่งคนซื้อคอมพิวเตอร์ประกอบก็มักจะบอกให้ผู้ขายลงเครื่องให้เลย (ในกรณีที่เป็นผู้ใช้จริงๆ) สำหรับโน๊ตบุ๊ค ผมมองว่าแบรนด์ใหญ่ๆ น่าจะทำได้ที่ว่า ตัดราคาขายออกไปเพื่อคนที่ไม่ต้องการโอเอส แต่หากทำอย่างนั้นจะเป็นการส่งเสริมซอฟต์แวร์เถื่อนทางอ้อมหรือไม่? เพราะตราบใดที่วินโดวส์ยังคงมีราคาที่สูง (เทียบต่อระดับคุณภาพชีวิตคนไทย) ก็ยังเป็นเรื่องยากที่คนจะหันไปใช้ของแท้
ยกตัวอย่างเมื่อก่อนสมัยที่ NOD32 ราคากล่องละ 399 บาท ผมกับเพื่อนก็ซื้อของจริงกันหมด แต่ตอนนี้พี่แกเล่นขึ้นเป็น 799 บาท ทำให้บางส่วนต้องใช้ของเถื่อน หรือหนีไปใช้ของฟรีกันหมด
อันที่จริงราคา 399 ก็แพงกว่าแผ่นรวมของเถื่อนถึงสี่เท่า แต่ถามตัวเองดูตอนนั้นก็รู้สึกโอเค และเต็มใจที่จะจ่ายได้ ไม่แพงเกินไปกับไลเซนส์ 1 ปี จริงๆไมโครซอฟต์น่าจะคิดถึงตรงนี้ด้วย ถ้าผมเป็น MD ไมโครซอฟต์ คงต้องลดราคาลงมากว่านี้ อาจจัดเป็นโปรโมชั่นลดพิเศษเมื่อซื้อโน๊ตบุคก็ได้ แต่ไม่ได้บังคับ ผมว่าขายเอาจำนวนดีกว่านะครับ ดีกว่าเอากำไรต่อหน่วยเยอะแต่ได้น้อยหน่วย
ผมว่าราคาห้าพันกว่าบาทไม่แพงเกินไปหรอกครับถ้าจะต้องซื้อมาใช้น่ะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอามาใช้ทำการค้า หรือประกอบอาชีพ เราใช้ของเถื่อนกันจนชินจนคิดว่าซอฟท์แวร์ราคา 150 บาทกันหมดแล้ว
onedd.net
แพงเกินไปสำหรับ User ทั่วๆไปครับ
แพงไปก็ใช้ linux รุ่นที่มีสำหรับ linux ก็มีนี่ครับ
ถ้าอยากได้รุ่น high แล้วบอกว่าค่าสิทธิในการใ้ช้โปรแกรมแพงก็
ต้องพิจารณาตัวเอง
รุ่นทั่วๆไปก็ OEM Windows มาหมดครับ ที่ผมเจอนะ
ลองติดต่อคุณลิ่วสิครับ
ไม่ได้หมายถึงตัวผมน่ะครับ ผมหมายถึงท่านอื่นๆที่จะหาซื้อแบบไม่ OEM Windows ครับ
และผมก็ไม่ได้บอกว่าไม่มีรุ่น Linux แต่ผมบอกว่ามันหายากครับ
อีกเรื่องคือค่าลิขสิทธิซอฟต์แวร์เราเท่าๆกับต่างประเทศ แต่ค่าครองชีพนี่ต่างกันราวฟ้ากับเหว (ไม่ได้บอกว่าทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่ก็พอๆกัน) ก็เป็นเหตุผลนึงที่ User ทั่วๆไปอยากจ่ายค่า License ครับ
ป.ล. อย่านึกว่าผมใช้ของเถื่อนนะ ซอฟต์แวร์ในเครื่องผม License ถูกต้องหมดครับ
จากความเห็นของคุณลิ่วอันนี้ (#55730)
ผมให้ติดต่อคุณลิ่วเนี่ย หมายถึงเผื่อจะแนะนำได้ว่าควรจะไปซื้อไหน งานอะไร ทำนองนี้
ไม่ได้ว่าอะไรคุณ lancaster เลยครับ
ผมคงเข้าใจผิดเองครับ
อยากจะบอกว่าเดี๋ยวนี้หาเครื่องที่ไม่ OEM ตามที่วางขายทั่วๆไปได้ยากมากครับ
แพงตรงไหนคับ ผมเห็นคอมมาร์ทขายวิสตาแค่พันเดียว
ลองไปดูพวกสังคมคนเล่นเกมส์ แผ่นเกมส์แผ่นแท้แผ่นนึงสองพันกว่าบาทซื้อกันแทบทุกเดือนเพราะว่าของเทียมเล่นออนไลน์ไม่ได้(xbox360)
ที่บอกว่าแพงเพราะเคยตัวกันมากกว่า
ได้อ่านเงื่อนไขยังครับที่ว่าพันเดียวน่ะ
และคนที่ไม่เล่นเกมมีเยอะแยะไปครับ
edit: อ๊ะ พึ่งเห็น เลขสวย
Vista ที่เค้าขายพันหนึ่งน่ะรุ่น Starter นะครับ ทราบรึเปล่าว่าทำอะไร(ไม่)ได้
See also
Windows Vista
ผมก็เห็นด้วยนะ แต่ผมว่ายากในทางปฏิบัติ ไม่แน่ใจว่าเมืองไทยเวลาซื้อทำอย่างไรกัน
กรณีที่เยอรมันยี่ห้อมาตรฐานที่มีในห้าง เวลาซื้อก็ยกกล่องไปเลย คือทุกอย่างอยู่ในกล่องที่บรรจุและ
ทดสอบมาจากโรงงาน เรียกว่าไม่มีทางเลือกแม้กระทั้งเลือก XP หรือ Vista ต่างรุ่นออกไป
ทีนี้ผมว่าบริษัทจะไม่ทำ notebook ออกมาโดยที่รันอะไรไม่ได้หรือเครื่องเปล่า แล้วให้คนลง
ระบบปฏิบัติการทีหลัง ผมว่ามันเสียเวลา เสี่ยง แล้วก็ไม่คุ้มทุน เพราะการผลิตเครื่องให้รองรับ
ระบบปฏิบัติการที่หลากหลายนั้นมันยากและมีข้อจำกัดเยอะ (ไม่งั้น osx จะดีกว่าวินโดวส์ ได้
อย่างไร ลองผลิต osx ให้ลงได้กับเครื่องหลากชนิดสิ เวลาลง linux กับเครื่องไหนไม่ได้
ต้องโทษ linux นะ) ยิ่งประเทศไทยเป็นผู้ขายทอดที่สาม ยิ่งมีข้อจำกัดในเรื่องรุ่นที่จะขายอีก
ที่แย่น่าจะเป็นบริัษัทที่ซื้อผ่านเว็บได้ เลือกอะไรก็ได้ แต่ในไทยกลับเลือกไม่ได้ ส่วนบริษัทที่เขา
ไม่ทำตลาดตรงนี้ ยื่นจดหมายเปิดผนึกก็ได้แค่เอามันเท่านั้น
คุณซาจาล เขียนได้โดนใจ ตรงจุด มากเลยคะ ^^
+10
คุณซาจาล เขียนได้โดนม๊าก มาก....
ผมอยากให้มีคนออกมาแสดงความคิดเห็นแบบนี้เยอะ ๆ จังครับ
สัปดาห์หน้า adobe thailand จะมาตรวจที่ office ผมแล้ว
ถ้า microsoft มาตรวจด้วยนี่จบกันเลย
แต่ก็อยากให้มานะ ผมจะได้ใช้ Ubuntu
อืมมม แต่ถ้าดูจากสภาพตลาดปัจจุบัน ผมเชื่อว่ากลุ่มที่ขายดีมีส่วนแบ่งในตลาดสูง น่าจะเป็นกลุ่มราคาต่ำกว่าสามหมื่นบาทนะ ?
และในราคาต่ำกว่าสามหมื่นบาท ก็หาเครื่องที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์แบบลิขสิทธิ์ได้ยากมากนะ
ดังนั้นการกล่าวว่า "...โน๊ตบุ๊กเกือบทุกรุ่นที่มีจำหน่ายในประเทศไทยนั้น มาพร้อมกับวินโดวส์ที่ติดตั้งไว้แล้ว..." นี่ก็ดูแปลกๆ ดีเหมือนกันนะ = ="
ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นยังไง แต่ปีที่แล้วผมต้องเดินหาเครื่องที่มีวินโดวส์แถมมาเพราะซื้อให้คนอื่นแฮะ
ส่วนเครื่องผมเองใช้ Site-License ของ ม. ได้ มันรวมอยู่ในค่าเทอมอยู่แล้วเลยไม่รู้จะเสียเงินซื้อเองทำไม
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าผมเป็นนักการตลาดของบริัษัทเหล่านี้คงจะติดป้ายใหม่ว่า "แถม Windows แท้" จะได้ตัดปัญหาไป
ส่วนตัวผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเรียกเงินคืนในกรณีนี้ มันเหมือนกับการที่เราซื้อหม้อซักชุด ซึ่งมีตัวหม้อกับฝาปิด แล้วเราเรียกร้องเงินคืนจากการที่เราไม่เอาฝาปิดเพราะที่บ้านมีฝาปิดจากใบอื่นใช้ร่วมกันได้อยู่แล้ว
จริงอยู่ที่กรณีนี้เหมือนเป็นการปิดกั้น Linux แต่ Computer ที่ bundle พร้อม Windows ก็มีมาตั้งแต่สมัยที่ Desktop Linux ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าทุกวันนี้
ถ้าการเรียกร้องนี้ได้ผล ต่อไปผมคงใช้เป็นข้ออ้างขอ refund ที่ไม่ได้ใช้ bluetooth กับ wifi
การเรียกร้องเงินคืนนั้นระบุอย่างชัดเจนใน "EULA ของไมโครซอฟท์" ครับว่าหากไม่สามารถยอมรับข้อตกลงของไมโครซอฟท์ได้ต้องกดไม่ยอมรับข้อตกลงและเรียกร้องเงินคืนจากผู้ขาย
ถ้าเปรียบกับกรณีหม้อและฝาหม้อ ต้องบอกด้วยว่าที่ฝาหม้อมีแปะไว้ว่า ห้ามใช้ต้มมาม่า หากยอมรับไม่ได้กรุณาส่งฝาหม้อคืนบริษัทเพื่อรับเงินคืน อย่างนี้มันจะผิดไหมถ้ามีใครส่งฝาหม้อนั่นกลับบริษัท?
ไม่เกี่ยวกับการปิดกั้นหรือไม่ปิดกั้นอะไรทั้งนั้น มันเกี่ยวกับว่าคำประกาศถึงสิทธิของผู้บริโภคที่คุณประกาศไว้นั้นคุณประกาศไว้เพื่อเห็นแก่ความยุติธรรมกับผู้บริโภค หรือประกาศเพื่อให้บริษัทดูดีขึ้นมาอีกนิด
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เข้าใจครับ แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ทำง่ายๆ ต่อให้เป็นการซื้อ Windows เป็นกล่อง ถ้าเปิดกล่องแล้วคุณกดไม่ยอมรับข้อตกลง คิดว่าร้านค้าจะยอมคืนเงินให้เหรอครับ
ถ้าจะมีทางแก้ผมว่า ควรจะให้ microsoft เองรับผิดชอบ เพราะเป็นคนออก EULA มาเอง
อันนี้เป็นเรื่องระหว่างร้านค้าต้องไปเคลียร์กับไมโครซอฟท์ครับ
มันอารมณ์ประมาณสินค้าพิเศษไม่พอใจยืนดีคืนเงินในเจ็ดวันอะไรอย่างนั้น
ปัญหาตอนนี้คือคำโฆษณานี้มันมีอยู่ (แม้จะตัวเล็กๆ ใน EULA ก็ตามเถอะ) แต่ไม่ค่อยมีใครใช้กัน
ถ้ามีคนใช้ขึ้นมาแล้วร้านค้าเดือดร้อน ร้านค้าก็ควรไปไล่เบี้ยเอากับไมโครซอฟท์นะผมว่า
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
สำหรับในประเทศไทยกฎของร้านค้า (พวกซื้อแล้วห้ามคืน) กับ EULA อะไรมีน้ำหนักทางกฎหมายมากกว่ากันครับ
ร้านไม่คืน เราก็ยกไป M$ เลยสิครับ ถ้าเค้ายังไม่คืนก็แปลว่าที่เค้าเขียนไว้มันก็ใช้บังคับไม่ได้ใช่ไหมครับ?
ปล. เคยมีกรณีนี้ในอเมริกาครับ ลองหาดูใน Revolution OS
สรุปว่าอย่าเอามาตรฐานเมืองนอก มาเทียบกับมาตรฐานไทย ๆ เลยครับ มันใช้ด้วยกันไม่ได้ (หรือเปล่า)
ผมว่ามันก็ขึ้นอยู่กับว่า"มาตรฐานไทยๆ"นั้นมันเป็นมาตรฐานแค่ไหนนะครับ
PoomK
กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคน้ำหนักสูงกว่าแน่ๆ ล่ะครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
จริงๆ ตามกฎหมาย ร้่านไม่มีสิทธิ์ ที่จะแปะป้ายด้วยครับ ว่าซื้อแล้วไม่รับคืน ถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกจะ 30 วันคืนเงินได้หากไม่พอใจในตัวสินค้า แต่ไม่แน่ใจมันแบ่งแต่หละประเภทเวลาไม่เท่ากันหรือเปล่า
แต่ส่วนใหญ่เราเคยชินกับป้ายพวกนั้น(ห้ามคืน) จนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เราเรียกร้องอะไรไม่ได้
Ton-Or
Ton-Or
นี่เป็นสิทธิของผู้บริโภค
มองคนละมุมกับผมเลยการที่ลงระบบปฏิบัติแบบ OEM มันเป็นของหากินหลักของ Microsoft อยู่แล้ว มันเป็นการเอาเปรียบมาตั้งแต่แรกแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นธุรกิจ แต่สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการล่ะ?
ผมชอบจดหมายฉบับนี้มากๆ หวังว่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการแก้ไขอย่างใดอย่างหนึ่ง ผมจะไม่บอกแทนหรอกนะว่าแต่ละฝ่ายต้องทำยังไง เพราะมันมีหนทางของมันอยู่
"แม้จะมีรุ่นโน๊ตบุ๊กจำนวนจำกัดมากจำนวนหนึ่งที่ไม่มีวินโดวส์ติดตั้งมาด้วย แต่โน๊ตบุ๊กเหล่านั้นก็เป็นรุ่นระดับต่ำสุดซึ่งมักจะล้าสมัยแล้วหรือมี น้ำหนักมาก"
แกสนใจสเปกเทพตัวไหนหว่า ThinkPad X300 เป่าเนี่ย อิอิ
+100 เลย
+100
เข้าใจว่าคุณซาจาล ไม่ใช่คนไทย หรือ ไทยแท้ แล้วคนไทยแท้ๆ กล้าคิดกล้าทำแบบนี้บ้างไหม
อยากให้คนไทยช่วยกันรักษาสิทธิ์
เห็น@sajalเพิ่งบ่นเมื่อกี้นี่เอง หัวอกเดียวกับผมเลยครับ ที่ต้องเสียค่าไลเซนส์วินโดว์โดยที่ไม่ได้ใช้และไม่คิดจะใช้ ผมเพิ่งสั่งDell แล้วก็โดนยัดเยียดวินโดว์ วิสต้าเหมือนกัน เซ็งครับ เซ็ง
เสียค่าาลิขสิทธิ์จาก vista เพราะนี่แหละครับ ==' เห็นด้วยอย่างมาก
เยี่ยม +100
ต้องขอบคุณคุณ Sajal สำหรับความคิดริเริ่มที่จะเปิดเป็น Open Letter งานนี้ผมว่าต่อรองกันนานๆ คงมี respond มาบ้างไม่มากก็น้อย ถือว่าได้เริ่มต้นกันแล้ว
่
jack in a box
+100
ตอนน้องผมซื้อพอดีน้องอยากได้ windows แต่เป็น xp แต่ติดตั้งเป็น vista มาก็พอไหวๆ
ส่วยผมไม่ค่อยอยากได้เท่าไหร่
ลองดูเรื่อง downgrade license นะครับ ปกติแล้วถ้ามี license vista อยู่ก็ไปใช้ xp ได้โดยไม่ผิดกฎหมายนะครับ แต่ว่าก็ต้องตามรุ่นที่ระบุไว้ด้วย
onedd.net
ผมเบื่อตรงที่ว่าตอนนี้พยายามซัพพอร์ตวิสต้ากันสุดฤทธิ์ (ขนาดเฮียบิลแกยังแอบบ่นลูกน้องว่าไม่ดีเท่าที่ควรเลย สรุปสั้นๆว่าห่วย)
ยูสเซอร์อย่างผมก็เลยจนปัญญากับการหา driver ให้กับ xp เถื่อนๆที่ลงเองในโน้ตบุคนี่ล่ะครับ
-*-
ปล.ไม่หวังอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดการเคลื่อนไหวบางอย่างจะดีใจมากถึงมากที่สุด
เช็คราคาเดลล์มา แถม vi$ta มาซ่ะทุกรุ่นแล้วผมก็มีงบ 15k (ไม่งั้นผมซื้อ Mac mini ไปแล้ว เห็นใน commart เค้ามีตัวลด 17k อยู่ครับ) ก็เลยเห็นแล้วมันออกจะแพงๆ ไม่รู้ว่า 20k นี่ถ้าตัด vi$ta business ออก จะเหลือเท่าไหร่ครับ
แปลกใจว่า คุณซาจาล ได้ลองคุยกับผู้ขายแล้วหรือยังว่าถ้าไม่ต้องการ windows
ลดราคาอีกได้หรือเปล่า หรือว่าดูแต่คาตาล๊อกตามเว๊บหรือใบปลิว
เพราะเท่าที่ทราบ ผู้ผลิตหลายรายเลือกได้ว่าต้อง os bundle มาด้วยหรือเปล่า
ถ้าไม่ต้องการก็ลดราคาลงไปอีก ส่วนจะคุ้มค่าหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
อย่างน้อยๆ เท่าที่รู้ lenovo, dell ราคาลงแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเครื่องรุ่นไหนก็ตาม
http://forum.ubuntuclub.com/hardware/linux-notebooks/
คุณชาจาลเขียนไว้แล้วครับ
ปล. ผมเห็นโบรชัวร์เดลล์แถม vi$ta ทุกรุ่นนะครับ เลยไม่รู้จะซื้อตัวไหนดีถ้าไม่เอาแบบแถม window$
ลองแนะนำเค้าโทรไปหา dell ซิครับ ผมว่าเค้ามี notebook ที่เหมาะกับ
ความต้องการ กรณีคุณชาจาลผมมองว่าถ้าไม่คุยกับ vendor/distributor โดยตรง
คุยผ่าน reseller อีกทอด ยังไงก็หาเครื่องที่ตรงตามความต้องการยากครับ
อีกอย่างต้องยอมรับข้อเท็จจริงอย่างนึงว่าการที่ vendor รายไหนๆจะออกเครื่องมาซักรุ่น
เค้าก็คงต้องคิดให้ดีว่าจะใส่อะไรเข้ามาบ้าง เพราะเค้าต้องคิดถึงการโปรโมทสินค้าด้วย
กรณีที่จะซื้อเครื่องโดยไม่มี os ณ ปัจจุบัน ถือเป็นส่วนน้อย (แต่ต่อไปไม่แน่) โดยเฉพาะตลาดในไทยคงไม่ใช่ ณ เวลานี้แน่นอน
ลืมบอกไปอีกเรื่อง distributor รายใหญ่ๆ อย่าง ecs, sis, ricoh
ก็น่าจะมีแต่ไม่รู้จะขายตรงให้ผู้ใช้ทั่วไปหรือเปล่า อันนี้ไม่ทราบนะครับ
เบากว่า 2 กก.??? แบบนี้ sub-notebook แล้วนะ แต่อยากได้ sub-notebook ที่ใช้ซีพียูเร็วกว่า 2GHz ?!?!?!
Jerk!!!
แค่ notebook รุ่นสูงๆ หน่อยก็ได้ตามนี้แล้วครับ ThinkPad T61 เองก็น้ำหนัก 1.9 กิโลเอง
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
Laptop < 2kg มีเยอะแยะครับอย่าง Dell ก็ XPS 1330, Vostro 1200, Latitude D430
อ้อ อย่าลืมอีกอย่าง notebook mid-high หลายตัวยังไม่มี driver for linux
ต้องรออีกพักนึง ถ้ารีบร้อนก็ต้องลง windows ไปก่อนแล้ว virtualize เอาแทน
ง่าย ๆ เลยครับเอาไป 3 แบบเลย
1.เครื่องเปล่า ไปหาโอเอสเอาเอง(วินโดวส์ลิขสิทธิ์/เถื่อน/ลินุกซ์)
2.เครื่อง+โอเอส(ราคาพิเศษเพราะขายพร้อมเครื่อง)
3.ใช้แมค
ที่เค้ากล้าพูดเพราะเค้าซื้อมาถอด Windows แท้ลง Linux
ที่เราไม่กล้าพูดเพราะเราซื้อมากะลง Windows เถื่อนโดยที่ไม่อยากเสียเงินไปกับ Windows แท้
ถามแบบคนที่ไม่ค่อยได้อ่าน EULA ครับ
ถ้าผมอยากซื้อแมคบุ๊คเพราะมัน สวย
ไม่ได้ต้องการใช้ os x กะเอามาลง windows เต็มที่
ผมขอค่า software คืนได้ไหมครับ
Mheenote
นั้นสิ เกิดเป็นวินโดว์ต้องอดทน
เท่าที่นึกออกตอน Welcome Screen ขึ้นช่วงนั้นไม่เจออะไรเกี่ยวกับ EULA เลยนะ (ไม่เหมือนตอนเปิดเครื่องที่ Preinstall Windows จากโรงงานที่จะมี EULA ให้อ่าน)
ดังนั้นก็ไม่น่าจะเรียกเงินคืนจาก Apple ได้นะ (มูลค่าแผ่นสีเทาที่มากับเครื่องคือ $129)
ezybzy.info blog
ตอนติดตั้ง BootCamp ล่ะจะทำยังไง? กะไม่ใช้ OS X ในตอนนั้นเลยรึ?
ให้เพื่อนที่ใช้ osx ทำให้
onedd.net
ทำไม่ได้มั้ง เพราะมันบังคับว่า Boot Camp ต้องถูกเรียกจาก Internal Harddisk เท่านั้น (เอ๊ะแล้วถ้าทำ Target Disk ล่ะ?)
ezybzy.info blog
ติดตั้ง Windows บน external harddisk เหรอ? เคยลองแล้วด้วยวิธีติดตั้งแบบปกติ ปรากฏว่าไม่เคยสำเร็จนะ
แต่เคยผ่านตาว่ามีวิธีแฮ็คอยู่เหมือนกัน แต่นั่นจะละเมิด EULA ของ Windows หรือเปล่านี่สิ??? จะกลายเป็นสุดท้ายก็ต้องละเมิดอะไรสักอย่างอยู่ดีหรือเปล่านะ - -"
^
^
มีคนรู้จักผมอย่างน้อยๆก็ 3-4 คนละที่ทำแบบนี้ครับ
เค้าบอกว่าตัวเครื่อง macbook มันสวยกว่า notebook อื่นๆงะ ^_^
มาช้าไปนิส แต่ยกป้าย 10 เหมือนกัน
อ่านความเห็นบนๆ แล้วงงดี (งงว่าทำไมถึงลบเยอะ?)
จริงๆ ผมก็เห็น Acer หลายรุ่นที่ Spec ดีแต่ไม่แถม Windows ให้นะ (จนมีคนมาบ่นว่าโดนคนขายหลอก เพราะกะว่าซื้อมาแล้วใช้ได้เลย แต่ดันให้ Limpus มาซึ่งคุณเธอใช้ไม่เป็น — ผมก็ใช้ไม่เป็นนะ หา startx ไม่เจอ)
บางยี่ห้อก็คงต้องยอมรับความจริง (อันไม่เกี่ยวกับเรา) มั้งครับในแง่ของความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างยี่ห้อนั้นกับ Microsoft
จะบอกว่า EULA ที่เหมือนทำได้ผิดก็อาจจะใช่ (อันนี้น่าจะเป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะเอาไปใช้ฟ้องร้องได้ ในฐานะจำเลยที่สองหรือสามรึเปล่า — คนแรกก็คงเป็นร้านค้า คนที่สองคงจะเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์)
เออแล้วถ้าเขามาแก๊กว่า Windows เป็นคุณลักษณะหนึ่งของผลิตภัณฑ์ของเขาล่ะ? คุณซื้อของเขาแสดงว่าคุณยอมรับ Windows? ผมเข้าใจว่าต้นเรื่องเขาต้องการทางเลือก (ซึ่งทางเทคนิคมันทำได้) แต่ถ้าไม่มีใครให้ทางเลือกเขา แล้วเขาจะทำอย่างไร? (ซึ่งก็มีคำตอบแล้ว) แล้วถ้าเป็นคุณ คุณเห็นด้วยไหม?
ezybzy.info blog
ถ้าบริษัทไหนออกมาพูดชัดๆว่า Windows เป็นคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ของเขา ผมก็ยอมรับได้นะ แต่ตอนนี้เป็นเหมือนกับว่า ซื้อผลิตภัณฑ์ของผมแล้วผมจะ"แถม" Windows ให้ (ที่ไม่รู้ว่าคิดเงินไปไหม) แบบนี้มันไม่ชัดเจน
ผมอยากให้บริษัททุกๆบริษัทออกมาพูดตรงนี้ให้ชัดเจน ถ้ามันเป็นคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์จริงๆ ผมก็ไม่ว่าอะไร (แค่อาจจะไม่ซื้อ)
นอกจากนี้มันมีประเด็นเรื่องขอเงินคืน ที่เราไม่พอใจจะใช้ Windows โดยเฉพาะการที่เราไม่ยอมรับ EULA ทำไมเราจะขอเงินคืนส่วนนี้ (กับไมโครซอฟท์) ไม่ได้ ถ้าบริษัทไหนจะขายโน้ตบุคพ่วงวินโดวส์จริงๆ อาจจะต้องเซ็นสัญญาซื้อขายพร้อมแนบ EULA ให้ด้วยเลยรึเปล่า?
ปล. ThinkPad R60 ของผมไม่แถม Windows นี่นา?
PoomK
มีบางยี่ห้อทำโฆษณาในสื่อโทรทัศน์ โชว์เครื่อง โชว์ซอฟท์แวร์บางอย่างบนหน้าจอในเครื่องของเขา แล้วก็ปิดท้ายด้วยเสียงภาษาอังกฤษว่า “… served with Windows Vista Home Premium.” หรือแอบมีตัวอักษรเล็กๆ คล้ายๆ คำเตือนห้ามบริโภคเกิน 2 ขวด หรือถ้ามีสัญลักษณ์ของวินโดวส์โผล่ออกมาในโฆษณา (ไม่ใช่ในเชิงลักษณะ Jigsaw แบบแฟนพันธุ์แท้นะ เอาแบบโต้งๆ เลย)
ทั้งหมดที่ผมกล่าวถึง ถือว่า Windows เป็นคุณลักษณะหนึ่งของผลิตภัณฑ์เขารึเปล่า?
ezybzy.info blog
ย้อนกลับขึ้นไปอ่านอีกรอบ ถ้าสั่งจากเมืองนอกเข้ามาอย่างถูกต้อง ไงๆ ก็โดนภาษี
อยู่แล้วครับ มากน้อยต่างกันไม่เท่าไหร่
เห็นด้วยครับ และสนับสนุนการเรียกร้องอย่างเต็มที่ครับ
มันจะไม่ใช่แค่ windows หนะสิ ผมใช้ Vaio มาสามตัว Bundle XP มาทุกตัว แต่ Windows หนะ มันแค่จุดเริ่มต้น เพราะที่ Bundle ตาม Windows มาอีกเป็นสิบตัว เช่น WinDVD Norton Roxie etc.
ถ้าจะนับมูลค่า Software ที่ Bundle มาอย่านับแค่ Windows เพราะ Windows ไปลาก Software อื่นๆ มาอีกเพียบ มูลค่าหนะ นับแล้วกว่าหมื่นบาทครับ
ปล. ประเภท Software ที่ bundle มาหนะ apt-get มาได้เกือบหมดเลยนะ (ยกเว้น Anti-virus หุๆ)
clamav ไงครับ (แต่ไม่เห็นจะจำเป็นถ้าไม่ได้ทำ mail server หรือทนฟังเสียงเพื่อนๆที่ใช้ค่ายคู่แข่งให้สแกมไม่ได้)
เหอะ ชอฟร์แวร์ ที่ต่ำกว่ามาตรฐาน !!! เอิ๊ก โดนไปเต็ม ๆ
© NgOrXz ™ ®
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เก่งที่สุดในโลก
จริงๆ ที่เค้านิยมให้ลง windows เพราะมีส่วนลดครับ ถ้าบังคับลง windows ทั้งรุ่นจะใด้ส่วนลดจำนวนมาก ชึ่งสามารถคิดเป็นกำไรใด้ แถมแนบ trial ware หากำไรจากสัญญาใด้ด้วย (linux แนบ trial ware ไม่ใด้เพราะ software ส่วนใหญ่เป็น free ware สามารถ apt-get มาได้เกือบหมด) คนส่วนใหญ่ก็ไช้ windows
ส่วน ms ก็ยินยอมที่จะลด เพื่อให้ user ส่วนใหญ่คุ้นกับ windows เท่านั้น
จริงๆ ผมกะเห็นความเปลี่ยนแปลงตอน nb หันไปเล่นด้านราคาถูกกัน แบบ eeepc ช่วงแรกๆนะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าผู้ผลิต notebook บอกว่า "แถม" Windows ถือว่ามีมูลค่าเป็น 0 บาทไหมครับ คือผู้ผลิตบอกว่าเค้าไม่ได้คิดค่า license Windows เลย (ทั้งๆที่ จริงๆ อาจจะคิด) อย่างนี้ ก็ไม่ได้คืนหรือป่าวครับ ในเมื่อไม่ได้มีการคิดค่า software ที่ bundle มา
น่าจะลองฟ้องบริษัทโน้ทบุคเหล่านี้ผ่านศาล EU ดู เพราะจริง ๆ แล้วกรณีนี้มีลักษณะมันคล้าย ๆ ซื้อ Windows แถม IE หรือ Media Player ที่สุดท้าย MS ก็โดนปรับเสียอาน ยิ่งพวก EU สนับสนุน OpenSource + มาตรฐานเปิดอยู่ด้วย
แต่ไม่รู้ว่าใครมีสิทธิฟ้องได้บ้าง
BioLawCom.De
ถ้าจำไม่ผิด จำำได้ว่าเคยมีการฟ้องในฝรั่งเศสนะ คนฟ้องชนะได้เงินคืนมามากกว่าค่าเครื่องเสียอีกนะ - -"
แล้วถ้าผมอยากได้ mac book ไม่เอา Mac OS ได้ไหมเนี่ย แล้วเอาไปลง OS อื่นๆจะได้ไหม
ชอบ design แต่อยากใช้ linux อ่ะ ผมคิดว่าน่าจะเข้าข่ายถามไปถึง Apple ด้วยนะ
If I would like to buy Mac book without Mac OS, Is it possible? I accept that Mac book come with great design but I like to use Linux instead. I think that should add this question to ask Apple.
กรณี apple เค้าระบุมานี่ครับ ว่า hardware มาพร้อม software ไม่มีการลดถ้าไม่เอา เป็นข้อตกลงก่อนซื้อเลยครับ เค้าไม่ได้บังคับซื้อ ถ้าอยากได้แมคก็ต้องใช้แมค แล้วจะไปเปลี่ยนอะไรทีหลังก็ตามใจคุณครับ
molecularck โม-เล-กุล่า-ซี-เค
sci news on foosci.com
http://www.digimolek.com
ก็ไม่เห็นมียี่ห้อไหนบังคับซื้อนะครับ ถ้าลง OS อื่นได้ก็ให้ซื้อ แยกได้หนิครับ ไม่เห็นต่างอะไรกับ Notebook ที่ลง Windows ไว้ แล้วระบุในใบปลิว ผมว่ากรณีนี้ apple ก็สมควรได้รับจดหมายนี้ด้วยนะครับ อย่างนั้นเกิดอีกหน่อย ผู้ผลิต Notebook ระบุแบบ apple บ้าง ผู้บริโภคอย่างพวกเราก็ไม่มีสิทธิเลือกหรือป่าวครับ
กรณี Mac มองว่าเป็นระบบปิดได้นะ Apple พัฒนาทั้ง hardware และ software ด้วยตนเองเพื่อให้ทำงานเข้ากันได้ดีที่สุด
และการติดตั้ง OS อื่นๆ ก็ต้องใช้ BootCamp ซึ่งก็ต้องเิริ่มทำงานจาก OS X อยู่ดี
Mac นะต้องโดนทั้งสองกระทง
1. ขายพ่วง เบียร์ พร้อม เหล้า
2. ขายเหล้า พร้อม เบียร์ ยี่ห้ออื่นก็ไ่ม่ได้
งั้นถ้า Mac ลง OS X version ล่าสุดที่มีราคาแพงกว่า version เก่าๆมาหล่ะครับ ลูกค้าไม่มีสิทธิเลือกหรือครับ แบบว่าอยากได้เครื่องรุ่นใหม่ๆ แต่อยากได้ OS version เก่า คิดว่าซื้อ Notebook ทั่วไปยี่ห้ออื่น อยากได้ XP แต่ดันลง Vista มาให้ แบบนั้นอ่ะครับ ผมแค่สงสัยว่าในเมื่อมีการส่งจดหมายลักษณะนี้ ทำไมไม่ส่งให้ apple ด้วยอ่ะครับ
ผมว่าตามที่ ezy ให้มาน่าจะเคลียร์นะครับ
molecularck โม-เล-กุล่า-ซี-เค
sci news on foosci.com
http://www.digimolek.com
ถ้า Microsoft ร่วมกับ Notebook เจ้าอื่นๆ แล้วระบุในสัญญาแบบ apple ที่เขียนว่า "FOR APPLE SOFTWARE INCLUDED WITH YOUR PURCHASE OF HARDWARE, YOU MUST RETURN THE ENTIRE HARDWARE/SOFTWARE PACKAGE IN ORDER TO OBTAIN A REFUND." ก็ได้ใช่ไหมครับ อย่างนี้จะถือว่าผูกขาดไหมครับ
คิดว่าจะว่า Apple ก็ไม่ได้เพราะว่าเค้าออกแบบทั้ง Hardware และ Software แล้วขายมาพร้อมกัน ถ้า Microsoft ออกแบบตัวเครื่องเองแล้วลง Windows มาให้ผมว่าก็ยอมรับได้
เหมือนๆกับที่ Intel ออก Chipset มาให้ CPU ของ Intel เท่านั้น จะว่าผูกขาดคงไม่ได้
หากคิดราคาแค่ Hardware คงไม่ผูกขาดครับ ถือว่าให้ Software ฟรี แต่ถ้าคิดราคา Software ไปด้วยไอ้นี่คงผูกขาด
ราคา OS X รุ่นใหม่มันแพงกว่ารุ่นเก่าอย่างมีนัยยะัสำคัญด้วยเหรอ? ไม่เคยเช็คราคาหรอกนะ แต่น่าจะใกล้เคียงกันนะ
แต่ประเด็นของจุดนี้ จำได้ว่าเครื่อง Mac แต่ละรุ่นจะมีการจำกัดมาแต่แรกว่า OS X รุ่นเก่าสุดที่จะติดตั้งได้คือรุ่นไหน ถ้าเอาที่เก่ากว่านั้นมาติดตั้ง จะทำไม่ได้
สำคัญอีกอย่างคือ OS X เก่าๆ จะไม่มี driver สำหรับ hardware รุ่นใหม่ด้วยน่ะสิ ถึงติดตั้งได้จริง แล้วทำงานไม่สมบูรณ์ขึ้นมา Apple ไม่ยอม support ให้แน่ๆ
งั้นถ้าผู้ผลิต Notebook ระบุว่า OS ต้องเป็น XP ถ้าทำงานไม่สมบูรณ์ ไม่ยอม support ก็ได้หรือป่าวครับ ถ้า Notebook ระบุมาว่าอุปกรณ์นั้นไม่มี driver ใน XP ต้องใช้ Vista แล้ว เราลง XP ผู้ผลิต Notebook ไม่ยอม support ได้ไหม เรื่องราคาต่างกันมากน้อย สำหรับแต่ละคนมันไม่เท่ากันอ่ะ บางคน 1 พันก็จิ๊บๆ บางคนคิดแล้วคิดอีก
ตอบจากอันด้านบน (-_-" ขี้เกียจตอบสองรอบครับ) เรื่อง Intel กับ Chipset เราสามารถเลือก MB ที่ใช้ Chipset อื่นได้ ถ้ามองที่ความสัมพันธ์ ระหว่าง CPU กับ Chipset เป็น 1 to many ในเมื่อมีตัวเลือกให้ผู้บริโภค แล้วผู้บริโภคสามารถเลือกได้ ก็ไม่ถือว่าเป็นการผูกขาด
ถ้าเรามองว่า apple ผลิตทั้ง software และ hardware เอง ถือเป็นความสัมพันธ์ 1 to 1 คือไม่มีสิทธิเลือก แต่ถ้ามองระดับ ผลิตภัณฑ์ ละครับ ถ้ามองว่า software และ hardware ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียว การเลือก OS X version ใดๆ ได้ ก็จะถือว่าเป็นการ customize ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้น ซึ่งจะไม่มีก็ได้ ผมเคยใช้ mac แต่ไม่ได้ซื้อใช้เอง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เราจะถือว่า OS X และ ตัวเครื่อง ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียวกันหรือป่าว
สรุป คือถ้าใช้ Mac ก็ต้องใช้ OS X version นั้นๆอย่างเดียว แต่ถ้าใช้ Notebook เจ้าอื่น เราควรจะมีสิทธิ์เลือก OS ได้
ถ้านี่เป็นข้อตกลง อาจจะโดนเอาไปใช้กับ notebook ทั่วไปก็เป็นได้หรือเปล่า?/
ถ้าอยากจะ Refund ก็ต้องคืนเครื่องตามที่ผม Quote เอาไว้ข้างบนครับ
ezybzy.info blog
นั่นแปลว่าถ้าจะคืนต้องไม่ทำการกดใดๆทั้งสิ้น
นั่นแปลว่าคือ(เงิน)ได้ใช่ไหมครับ
ถ้ากด disagree คือต้องไม่เอาทั้ง HW + SW ใช่ไหม ถ้าคิดจะไม่เอา OS อย่ากดใดๆทั้งสิ้น คืนมันหน้าร้านเลย
มันไม่มีให้กดนี่ซิครับ (จำ Welcome Screen ไม่ได้)
ถึงตอนนั้นก็ต้องถามว่า ถ้าไม่เอาแล้วแบกออกมาจากร้านแต่แรกทำไม? (ไม่ได้หาเรื่องนะ)
ezybzy.info blog
ผมไม่ได้ใช้ apple นะเลยไม่รู้ welcome screen แต่ที่หมายถึงคือคืน OS ที่หน้าร้านเลย เพราะเราก็ยังไม่ได้ boot ใดๆทั้งสิ้น
ก็ถ้าอ่านตาม EULA ที่เอามาแปะคือทำไม่ได้ครับ (ในทางปฏิบัติ) เพราะ OS มันถูกผูกติดมากับเครื่อง ถ้าจะคืน OS คือคืนเครื่องด้วย (ไม่แน่ใจว่าต้องคืนสายไฟ, อะแดปเตอร์ด้วยไหม) แล้วก็ต้องโดน Re-stocking fee (อันนี้ตามทฤษฎี) แล้วจะไปเสียเงินตรงจุดนี้ทำไมล่ะ ก็เลือกยี่ห้ออื่นไปเลยจะได้ไม่มี Mac OS X
หรือ จะลองซื้ออะไหล่มาประกอบเป็นเครื่อง Mac เองดี?
ezybzy.info blog
ประกอบเองเพื่อลง OSX86 เหรอ? ก็ละเมิด EULA อยู่ดีน่ะสิ = ="
มะช่าย หมายถึงลองสั่งอะไหล่จากพวก ifixit มาประกอบเป็น Mac เครื่องหนึ่งเลยต่างหาก
ezybzy.info blog
อ่านแล้วก็เข้าใจนะครับ ในฐานผู้บริโภคที่อยากจะซื้อสินค้าในราคาที่ถูกที่สุด
แต่เหมือนจะซื้อรถซักคันแต่คุณบอกร้านว่าไม่เอายาง แล้วช่วยลดราคาให้คุณด้วย
มันก็เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยครับ หรือว่าคุณไปกิน MK แล้วคุณบอกว่าคุณมีกุ้ง มีหมูมาเอง
คุณจะจ่ายแค่ค่าน้ำจิ้มมันก็ไม่มีทางจริงมั้ยครับ สินค้าแต่ละอย่างมีรูปแบบการขายไม่เหมือนกัน
บางอย่างต้องขายเป็นชุดเป็นเซ็ต ในเวลาที่คุณตัดสินใจซื้อ ก็เท่ากับคุณยอมรับ เงื่อนไขเขาไปแล้ว
ลองอ่านประเด็นฝาหม้อดูครับ
ผมเห็นว่าการเปรียบการซื้อโน้ตบุคกับการซื้อรถ หรือกินสุกี้ หรือซื้อหม้อ มันไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลกันเท่าไรครับ เพราะการซื้อโน้ตบุคคือการซื้อฮาร์ทแวร์ มันแยกออกจากซอพท์แวร์ชัดเจน แต่หากบริษัทบอกว่าเราไม่ได้ขายแค่ฮาร์ทแวร์ แต่เราขายโซลูชั่น นั่นค่อยว่ากัน
BioLawCom.De
กรณีคุณโบว์ ทำยังไงครับตอนซื้อ notebook ที่เยอรมัน
format เอง หรือว่าขอเงินคืน หรือว่าซื้อรุ่นที่เป็น linux
ถ้าทำไ้ด้จะได้ขอคืนบ้าง เพราะใช้ XP pro ของโรงเรียน
ไม่ใช้ XP home ยัดเหมือนกัน
ผมไม่ทำอะไรเลยครับ แค่ลงลินุกซ์เพิ่มเฉย ๆ เพราะยังไงก็ต้องใช้ Windows (ตอนนี้ใช้ประมาณสองเดือนครั้ง) และซอพท์แวร์ที่ติดเครื่องมาก็ดีและสะดวกในระดับนึง ก็เลยไม่ได้ทำอะไร
แต่ที่ผมเคยฉุนมาก ๆ มีครั้งนึง ตอนเครื่องเก่าเมาส์เสีย แล้วใช้ลินุกซ์เป็นหลัก บริษัทจะไม่ซ่อมให้ (เครื่อง Toshiba ซื้อจาก Saturn) เพราะบอกว่าซัพพอร์ทแค่วินโดวส์ โชคดีที่จู่ ๆ มันก็หายเอง เลยไม่ได้มีอะไรมาก
คำถามคือ ตอนผมซื็อ ผมซื้อฮาร์ทแวร์ แต่ทำไมรับประกันฮาร์ทแวร์พ่วงซอพท์แวร์
BioLawCom.De
อ่านประเด็นฝาหม้อนะครับ นี่ไม่ใช่ประเด็นอยากจะซื้อสินค้าให้ได้ราคาถูกที่สุด แต่เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคไม่ต้องการถุกละเมิดสิทธิ บริษัทsoftware ไม่ต้องการให้ใครมาละเมิดลิขสิทธิ์ของตัวเอง ก็ไมควรไปละเมิดสิทธิของคนอื่นด้วย
อั้มขอกล้าตอบแทน Lenovo เลยว่า ลง Linux จริงแล้วละครับไปดูกันได้ไปช่วยสนับสนุน Linux กันได้ครับเป็นยี่ห้อที่น่าเป็นแบบอย่างนะครับ
ถ้า Notebook ที่ซื้อมานั้นตัด MS Windows ออกไป ผมคิดว่าราคาไม่น่าจะลดลงได้มากเท่าไหร่ เนื่องจาก MS คงขาย license ให้ในราคาที่ถูกมากแน่ ๆ
ถ้ามี Notebook แบบไม่มี Windows แถมมาให้ในเมืองไทย ผมว่าด้วยนิสัยของคนไทยส่วนใหญ่แล้วคงต้องแห่กันไปซื้อมา แ้ล้วก็เอามาลง Windows เถื่อนเองแน่นอน
ผมเข้าใจทุกฝ่ายนะ แต่คิดว่าสุดท้ายแล้วทางเืลือกแบบนี้อาจจะไม่มีในประเทศไทยทั้ง ๆ ที่ในประเทศอื่นมี ถ้าถามว่าทำไม คำตอบก็คงรู้กันอยู่แก่ใจทุกคน มันก็เพราะนิสัยของคนไทยเรานั่นเองที่ทำให้เป็นแบบนั้น
ผมอ่าน comment แล้วก็พบว่าหลาย ๆ คนให้ความสำคัญกับสิทธิผู้บริโภคค่อนข้างมาก แ่ต่ไม่ค่อยมีใครออกมาเรียกร้องสิทธิ์ให้กับ Software กันเท่าไร ผมเข้าใจว่าคนที่นี่ส่วนใหญ่คงใช้ Software ลิขสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ก็ใช้ Free Software ก็เลยไม่ได้สนใจมองในด้านนั้น แต่หลาย ๆ อย่างมันก็มีความเกี่ยวข้องกัน
ผลย่อมเกิดจากเหตุนะครับผมว่า
That is the way things are.
ก็ต้องไปแก้กันเรื่องสัญญาอนุญาตอีกทีครับ การยัดเยียดซอพท์แวร์โดยอ้างเรื่องสัญญาอนุญาต ผมเห็นว่ายังไงก็ใช้เป็นข้ออ้างไม่ได้ครับ
BioLawCom.De
ผมย้ำอีกทีครับ ว่าเว็บนี้ไม่สนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ว่ากรณีใดๆ และผมเข้าใจดีว่าการไม่แถมวินโดวส์ไปกับโน้ตบุ๊ก "อาจจะ" เพิ่มอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์วินโดวส์
คำถามคือมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ที่มีการบังคับให้ใช้งานของถูกสิขสิทธิ์จากบางบริษัท เพื่อลดการละเมิดสิขสิทธิ์ เราบอกได้หรือว่านี่เป็นทางแก้ปัญหาที่ดีแล้ว
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
+100 ไปเลยครับ โดนเลย โดนอย่างแรง เดินผ่านหน้าร้าน notebook เขางอกเลย
iBlog : http://learners.in.th/blog/mrgill
ในการจัดการกับกลุ่มคนไทยบางกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น
คนที่คิดว่าซื้อทำไม Windows ที่พันทิพย์ก็มีแผ่นละ 200 บาท
คนที่คิดว่าซื้อทำไม CD ชอบแค่บางเพลง mp3 เถื่อนดีกว่า
คนที่คิดว่าซื้อทำไม DVD Bittorrent ก็มีให้เกลื่อน ดูแล้วก็ลบทิ้งไ้ด้ ประหยัด
การแก้ปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์พวกนี้ด้วยการบังคับขายบังคับซื้อในลักษณะกึ่งแถม น่าจะเป็นทางออกที่ดีอย่างหนึ่งเท่าที่เจ้าของลิขสิทธิ์จะสามารถทำได้ แน่นอนว่าทางออกนี้มันไม่ถูกต้อง 100% กับผู้บริโภค แต่มันก็ใช้ป้องกันปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในตลาดได้มากพอสมควรเหมือนกัน เพื่อป้องกันตัวเองจากผู้บริโภคที่ผิดกฎหมาย บริษัทก็ไม่เหลือทางเลือกมากนักนะผมว่า
สาเหตุหลัก ๆ มันน่าจะการที่ผู้คนในประเทศไทยเราส่วนใหญ่ขาดความเคารพในเรื่องพวกนี้ และไม่ได้การสนับสนุนที่จะปราบปรามพวกละเมิดลิขสิทธิ์จากภาครัฐอย่างจริงจัง เมื่อพึ่งพาภาครัฐไม่ได้ทางเจ้าของลิขสิทธิ์เลยต้องใช้กลยุทธ์ทางการตลาดมาป้องกันตัวเอง
Vampire ออกทุกสัปดาห์ (หรือทุกเดือนหว่า?) แต่ตำรวจไม่เคยจับเลย ให้ตายเถอะโรบิ้น ให้ดิ้นเถอะโรเบิร์ต
ปล. ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับการผูกขาด Software ในกรณีนี้นะครับ แต่ก็เห็นใจทางเจ้าของ Software เค้าเหมือนกันน่ะ
That is the way things are.
ผมมองตรงกันข้าม คือผู้ผลิตและเจ้าของลิขสิทธิ์ขาดความเคารพลูกค้าไปบ้างรึเปล่า มีการบังคับซื้อแบบกึ่งแถม มีการผูกขาดสินค้าทำให้ราคาสูงแบบไร้เหตุผล ทำให้คนหันมาซื้อเกมเถื่อนจนเป็นปัญหาเรื้อรัง มีลดใช้ DRM ซึ่งกลับไปคุณภาพสินค้า การกระทำเหล่านี้มันถูกกฎหมายด้วยเหรอ มันอาจทำให้กำไรบริษัทสูงขึ้น แต่มันไม่ทำให้ลูกค้าพอใจขึ้นแน่ๆ
ภาครัฐอาจไม่สนใจอะไรกับผู้บริโภค ถ้าผู้บริโภคกลับทนๆมันไปและไม่ได้ต่อสู้ด้วยตัวเองเลย
PoomK
ผิด + ผิด != ถูกนะครับ
ผมซื้อซีดีเพลงลิขสิทธิ์ และด่าค่ายเพลงทุกค่ายที่พยายามใส่ DRM มาในแผ่น
การใช้มาตราการผิดๆ บางอย่างมาเพื่อลดการกระทำผิด มันไม่ได้ความถูกต้องอะไรขึ้นมานอกจากเราจะได้การกระทำผิดอีกแบบหนึ่งเท่านั้น
เห็นใจก็ดีแล้วครับ ช่วยเค้าซื้อของจริง ช่วยบอกคนรอบข้างให้ใช้ของจริง อย่างน้อยๆ ถ้าใครใช้ซอฟต์แวร์ทำงานบริษัทก็ช่วยกันเตือนๆ ว่า BSA เค้าจับจริงปรับจริง
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่อง mp3 นี่ ตอนนี้เห็นค่าย sony bmg เอาเพลงในค่ายมาทำเป็น mp3 ประมาณ 50 เพลง ขายแผ่นละ 99 บาท ก็พอรับได้นะครับ ผมก็ซื้อมาลองเหมือนกัน แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควรเพราะ
1. ไม่มี cover art หรือปกซีดีมาด้วย
2. mp3 tag ผิดๆ ถูกๆ
3. bitrate แค่ 192 kb ทำไมไม่ใส่เพลงมาเยอะๆ แทนล่ะ
my blog: http://udomdog.wordpress.com
ผมว่ามันก็โอเคระดับหนี้งแล้ว
โอ้ว ประเด็นโดนใจแห่งปี
ผมดวงดี ได้รุ่นที่มันเป็น Dos ครับ ซึ่ง Spec อยู่ในเกณฑ์รับได้ครับ ตอนนี้ใช้งาน ubuntu เป็นหลักครับ เหอๆ
แต่ผมเองไม่เถียงในเรื่องของ windows แล้วกัน เพราะจริงๆ แล้วผมมองว่า คนไทย ถูกฝังหัวมาว่าต้อง M$ ถึงจะทำงานได้ เพราะเรามองตรงปัญหาว่า ต้วอื่นๆ ไม่คุ้น ไม่ถนัด ทั้งๆที่ สุดท้ายoutput ที่เราต้องการมันแค่เอกสารตัวนึง ฟังเพลงได้ เปิดเว็บได้ ดูหนังได้
ทำไมเราไม่ปรับตัวบ้าง ผมว่า เราติดแค่สิ่งที่เคยเป็น สิ่งที่เราเคยทำ ว่า เคยใช้อย่างนั้นเท่านั้นเอง แล้วสร้างหัวโขนมาครอบตัวเองไว้ว่า ต้อง M$ ไม่งั้นทำงานไม่ได้ แต่ไม่เคยลองใช้ตัวอื่นๆ อย่างจริงๆจังๆ
เอา ubuntu ไปให้คนอื่นๆ ใช้ ก็มักจะมีคำถามว่า นี่โปรแกรมอะไร ออนเอ็มยังไง แก้ไขภาพยังไง ติดนั่นติดนี่ แล้วพาลว่า ผมใช้งานไปได้ยังไง เข้าใจยากเหลือเกิน ทำไม ไม่ลงวินโดว์ แผ่นก็มีให้โหลด (นั่นไง)
สุดท้ายมันก็วนมาเถื่อนเหมือนกัน
OS แห่งชาติ มันก็เป็นแค่นโยบายหลอกเด็ก หาเสียงสร้างภาพ เอาภาษีมาถลุงกัน เพราะทุกวันนี้ หน่วยงานราชการยังไม่มีที่ไหนปรับตัวกันอย่างจริงจัง คิดว่าเถื่อนมันหาง่าย อย่างดีซื่อแผ่นมากันหมา สองสามแผ่นจบ
แต่ไม่เคยมีใครคิดกับมันจริงๆจังๆ
ทุกวันนี้ไม่รู้นะ ผมรักประเทศไทย แต่ทำไม ผมเกลียดนิสัยคนไทยด้วยกันไปทุกวันๆ ก็ไม่รู้
SEO and SEM Blog
ส่วนตัวแล้วผมยังเชื่อในแนวทางการค่อยๆ เปลี่ยนนะครับ ปัญหาคือต้องมีจุดเปลี่ยน
เราต้องการ Master Plan ที่ทำได้จริง อย่างการประกาศให้หน่วยงานราชการห้ามใช้ hotmail นี่ผมว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่พอโอเคเลย
แต่เราต้องไปต่ออีก เช่นว่าป้ายหน้าเป็นเว็บราชการทั้งหมด validate ผ่าน หรือทำงานได้บน 3 browser หลัก (IE, FF, Opera)
ป้ายต่อไปค่อยๆ ใช้งาน ODF
ผมเป็นคนนึงที่ไม่เชื่อในแนวทาง OS แห่งชาติครับ เพราะมันเปลี่ยนมากเกินไปในครั้งเดียว สิ่งที่ได้มาคือความคิดต่อต้านในระยะยาว
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่อง OS แห่งชาตินี่เรื่องใหญ่มาก ว่ากันดีๆ แล้วมันคือ รัฐสวัสดิการ vs ตลาดเสรี
ผมคิดว่ากระแสเรียกร้อง OS แห่งชาติในบ้านเราส่วนหนึ่ง (และหลายๆ ประเทศด้วย อย่าง Red Flag) น่าจะเกิดจากความพ่ายแพ้ของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในประเทศ ต่อโลกาภิวัฒน์ และเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามามีอิทธิพลโดยใช้วิธี regulate ด้วยเหตุผลทางชาตินิยม (e.g. "โปรแกรมเมอร์ไทยเก่งๆ ก็เยอะนิครับ จะใช้ของฝรั่งทำไม")
ใช่ครับมันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ
แต่ผมไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องของรัฐสวัสดิการอะไรขนาดนั้นครับ แต่อย่างน้อย มันควรจะมีมาตรฐานในการใช้งาน เหมือนเป็นขั้นต้นครับ เช่นว่า หน่วยงานราชการสั่งเครื่องมาใหม่ ก็ควรจะเป็น linux เป็น defualt อะไรแนวๆนี้ครับ
เพราะผมเองเคยเป็นคนสั่งซื้อ software ให้กับคณะผมมาแล้ว งานนั้นหมดไปหลายครับ ลดครึ่ง (ยังเหลือหลักแสนอยู่ดี) ซึ่งเห็นจุดเสียครับว่า บางอย่างมันไม่เวิร์ค จัด spce เปิดประมูลมาต้องเป็น intel, OS ต้องเป็น windows xp pro,ms office
แต่เครื่องเอามาก็ทำงานเหมือนๆ เดิม คือ ทำเอกสารเป็นหลัก เปิดเพลงทั้งวัน เล่นเอ็มบ้างอะไรบ้าง ตามเรื่อง แต่มันเกิดคำถามในหัวผมว่า ทำไม ต้องเป็น intel ในงานแค่นี้ Amd ก็ทำได้ (ประหยัดต่อที่ 1) MS นี่เอาง่ายครับ ทำไมต้อง pro แค่home ไม่ได้หรือ เอกสารนี่ใช้ Openoffice ไม่ได้รึไง blah blah blah
ซึ่งเหล่านี้ล่ะครับ มันเป็นประเด็นทำให้เราติดกับสิ่งที่ไม่ควรยึดติดครับ เพราะในเมื่อสุดท้ายมันได้ outputไม่ต่างกัน
ปล.ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบระบบราชการไทยน่ะครับ เหอๆ รู้สึกว่ามันมีแนวคิดอะไรประหลาดๆ เยอะ
SEO and SEM Blog
อืม เรื่องกำหนดเงื่อนไขว่าต้องใช้ลินุกซ์ กับให้ลินุกซ์เป็น OS แห่งชาติ นี่มันคนละเรื่องกันนะครับ ที่ผมเขียนข้างต้นหมายถึงกรณีหลัง (อย่างเจาะจง)
ส่วนเรื่องการกำหนดให้หน่วยงานภาครัฐต้องใช้ซอฟต์แวร์อย่างไรนั้น คิดว่า off-topic ของเรื่อง ถ้าสนใจไปคุยต่อกันใน forum ได้ครับ
แต่ผมก็ยังว่าชาตินิยมบ้าคลั่ง กับรัฐสวัสดิการ มันก็ต่างกันอยู่นะ และ OS แห่งชาตินี่น่าจะเป็นอย่างแรกเสียมากกว่า
PoomK
น่าจะอยู่อย่างหลังนะครับ เพราะ OS แห่งชาติน่าจะเน้นเรื่องการพึ่งพาตนเอง รูปแบบเอกสารกลาง
และเศรษฐกิจเป็นหลัก ไม่น่าจะมีใครเน้นว่าเราต้องใช้ OS ที่ทำโดยคนไทยเพื่อคนไทย และคนไทย
ห้ามใช้อย่างอื่น ถ้าใช้ OS ต่างชาติกลายเป็นคนขายชาติ ซึ่งประเทศชาติไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไร
เลย
ถ้าอย่างนั้นมันควรเป็นมาตรฐานเปิดมากกว่าที่จะเป็น OS แห่งชาติรึเปล่าครับ เพราะมันไม่เห็นจำเป็นเลยที่ต้องมี OS กลางถ้าไม่ใช่เพราะชาตินิยม
PoomK
ผมไม่ใช่พวกสัดดานขวาแต่เชียร์ซ้ายแบบบางคนนะครับ
ถ้าบังคับมาตรฐานเปิดได้ยิ่งดี ก็ไม่จำเป็นต้องเป็น OS แห่งชาติ
อยู่ในความสุภาพด้วยครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ขอโทษด้วยครับ กลับมาอ่านอีกทีมันอาจจะทำให้ให้คุณ poomK เข้าใจว่า
ผมไปว่าเขาก็ได้ จริงหมายถึงกรณีทั่วไป
ผมขอโทษนะครับ ถ้าจะมีคนเข้าใจผิด
ซ้ำ
ส่วนตัวที่สัมผัส เก่งขนาด Disassembler ตัวป้องกันการใช้ Program ช่วยเล่น ของ Client เกมส์ออกมาได้ ว่ามีการเข้ารหัสข้อมูลส่งออกมาอย่างไร แต่เอามาเขียนบอทเขียน Program ช่วยเล่นที่รอดพ้นการตรวจจับขาย... ส่วนใหญ่(ที่ผมรู้จัก)เห็นแต่ไปแนวๆ นั้นทุกที แต่ส่วนตัวลึกๆ ก็มองว่าดีมันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กไทยหลังๆ สนใจการเขียน Program มากขึ้น ถึงจะเอาไปเขียนบอทเขียน Program ช่วยเล่นเป็นของตัวเองเอามาแจกบ้างเก็บตั้งบ้างก็ตาม
แต่จริงๆ แล้วมองว่า เขาไม่มีเข็มทิศให้มากกว่า แม้จากทางรัฐหรือบุคคลตัวอย่างที่จะอ้างได้ ว่าควรจะไปทางใด จากข่าวเก่าๆ ที่ตรวจสอบบริษัท Software ในไทยผ่านมารตรฐานไม่กี่บริษัทเอง ผมเลยไม่เห็นว่าเขียน Program เก่งๆ ในบ้านเราทำอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอันได้
จากที่ผ่านมามีการพัฒนาเกมส์เป็นในบ้านเรา แต่ดูค่อนข้าง มีอีโก้กับผลงานตัวเองมากเสียจนไม่รับรู้และแก้ไขในข้อบกพร่องของตัวเองเลย
Ton-Or
Ton-Or
+100 เห็นด้วยกับคอมเม้นตฺ์นี้อย่างแรงครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยเห็นด้วยกับ OS แห่งชาตินะครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ทำให้คิดได้ว่ามันเป็นการเปลี่ยนคนมากเกินไป ถึงทำได้ก็ต้องมีแรงต้าน
สู้เรามาปรับปรุงเรื่องมาตรฐานดีกว่า อย่างน้อยเราก็ยังเปิดโอกาสให้คนได้มี "สิทธิ" ในการเลือกของที่เหมาะกับตัวเอง ครับ
Lastest Science News @Jusci.net
Lastest Science News @Jusci.net
อ่านมาสักพัก เห็นด้วยกับบางความคิดเห็น และมีความคลางแคลงใจกับบางความคิดเห็น
คือการจะวิจารณ์สิ่งเหล่านี้ได้ ผมคิดว่าเราต้องทำความเข้าใจ และพยายามมองจากหลายๆ มุม อยากชวนให้ลองคิดในระบบธุรกิจที่ค่อนข้างอิงกับ"โลกความเป็นจริง"กันดูครับ สมมุติว่าราคาของ Windows XP ปกติอยู่ที่ 3,000 บาท สมมุติต่อไปว่า Microsoft ไปเจรจากับผู้ผลิต Computer/Notebook เจ้านึงโดยยื่นข้อเสนอให้ว่า "เฮ้ยยู เราขาย XP ให้ License ละ 500 เอาป่าว แต่ต้องซื้อ 10,000 Licenses สำหรับเอาไป OEM กับสินค้ายู 5 รุ่นนะ" แน่นอนว่า บ. ไหนๆ ก็ต้องตอบรับเงื่อนไขอยู่แล้ว เพราะมันช่วยเพิ่มโอกาสการขายของเค้าในหลายประเทศเพราะถ้าผู้ใช้ต้องไปซื้อแยกเอง มันแพงกว่าแน่ๆ
ทีนี้อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ใช้ในประเทศไทยออกมาเรียกร้องว่า "ไม่อยากจะได้ Windows XP รวมมากับสินค้า มันให้ความรู้สึกเหมือนถูกผูกขาดถูกละเมิดสิทธิ์ เอามาบวกกันบังคับขายอย่างงี้มันเอาเปรียบ ไปซื้อแยกเอง 150 บาทเท่านั้นแหล่ะ อย่าคิดว่าไม่รู้นะ!!" อย่างนี้ต้องดูก่อนว่า ต่อให้เค้าอยากเอาใจลูกค้าโดยการเอา Windows ออก เค้าก็คืนเงินหรือทำให้ราคามันถูกลง 3,000 บาท(ตามราคาเต็มสมมุติ)ไม่ได้ เพราะราคาทุนที่เค้าได้มามันเป็นอีกแบบ หรือถ้าจะดึงดันออกนโยบายมาว่าในประเทศไทยไม่ต้องลง Windows ทางด้าน Microsoft เกิดงอนบอก "เฮ้ย อย่างงี้มันไม่แฟร์เป็น Partner กันลำบาก ในประเทศที่จับมือกันแล้วยู win ยูทำ แต่ในประเทศที่ยูทรงตัวแต่ Microsoft เสีย ยูตัดช่องน้อยเอาตัวรอดคนเดียว?? ไม่เป็นไรงั้นอย่าดีลกันเลย Microsoft ไปขายให้อีก 5-6 บริษัทที่เหลือดีกว่า" เหตุการณ์อย่างนี้ผมไม่เชื่อว่าถ้าเราเป็นผู้บริหาร เราจะยอมให้เกิดขึ้น เพราะแก้ปัญหาของประเทศเดียว แต่ทำให้สูญเสียเงื่อนไขสูญเสียโอกาสในการขายการแข่งขันในหลายๆ ประเทศ แลกไม่คุ้ม
ผมไม่รู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของแต่ละคนที่ไม่อยากได้ Windows OEM มากับ Notebook คืออะไร หลายคนก็คงมีเหตุผลต่างๆ กันออกไป แต่คิดว่าจะไม่เห็นด้วยเลยถ้าเหตุผลที่ว่านั้นคือ เพราะจะไปซื้อ Windows 150 บาทมาใช้ก็ได้ หรือหากจะบอกว่าไม่อยากได้เพราะไม่ได้ใช้จริงๆ ส่วนตัวก็ฟังดูเป็นเหตุผลที่เชื่อได้ยาก ชวนลองย้อนกลับไปดู สถิติ Blognone เดือนเมษายน 2008 ลองกลับไปดูเอาเองว่าสัดส่วนการใช้งาน Windows มันเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องเน้นย้ำว่านี่คือสถิิติที่ได้จาก Community ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึง Opensource สูงกว่าที่อื่นหลายๆ ที่ ตัวเลขยังออกมาเป็นอย่างงี้ ถามต่อว่าแล้วเป็นของแท้กี่เปอร์เซ็นต์ อันนี้ไม่กล้าตอบเอง แต่ถ้าจะมีใครบอกว่าน่าจะสัก 10 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า ผมจะถือว่าคนคนนั้นมีความกล้าหาญในการตอบมาก ฟังดูอาจจะเหมือนคนละเรื่อง แต่คงต้องยอมรับว่ามันมีส่วนทับซ้อนกัน ที่กำลังพูดกันอยู่นี่มันดูเหมือนเรากำลังพูดถึงกระบวนการในการคุ้มครองสิทธิ์ในประเทศที่มีการละเมิด(ลิข)สิทธิ์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก หากกฏหมายลิขสิทธิ์ถูกนำมาใช้และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เชื่อว่าจะมีคนออกมาโวยวายปัญหาเรื่องไม่อยากได้ Windows OEM มากับเครื่องน้อยมากเพราะซื้อแยกเองราคาแพงกว่า ขณะัเดียวกันถ้ากฏหมายเราถูกนำมาใช้อย่างดีพอและเหมาะสมประกอบกับพฤติกรรมการบริโภคของเราอยู่ในกติกา การเรียกร้องในลักษณะที่กำลังทำำักันอยู่ก็น่าจะมีน้ำหนักมากขึ้น
ปัญหาอย่างนี้ มันต้องการการแก้ไขทั้งระบบ ไม่ใช่ปัญหาเรา เราต้องการทางแก้ แต่ปัญหาเค้าเราจะบอกว่า "นั่นมันไม่เกี่ยวกับผม" มันก็ไม่ถูกใช่ไหมครับ? ยังไงก็แล้วแต่ ในกรณีของคุณซาจา ก็ขอให้เจอตัวเลือกที่ลงตัวเร็วๆ ครับ
สถิติของ Blognone นี่ ผู้ชมมาจาก search engine 66% และอีก 13% มาจาก referrer site ครับ นั่นแปลว่าผู้อ่านแฟนพันธุ์แท้จริงๆ ที่พิมพ์ URL เข้ามาตรงๆ มีแค่ 100 - (66+13) = 21% เท่านั้นเอง (ไม่รวมพวกที่อ่านจาก feed ซึ่งถ้ากดลิงก์เข้ามาจะถูกนับรวมในพวก referrer) การเอาตัวเลข OS มาตีความตรงๆ คงไม่ถูกต้องนัก ถ้าดูเอาจากโพลอันปัจจุบัน (เบราว์เซอร์) เทียบกับสถิติเบราว์เซอร์ของผู้ชมทั้งหมด น่าจะเห็นความแตกต่างชัดเจน
ผมคิดว่าประเด็นที่คุณ Sajal ยกมาน่าจะเป็นเรื่องว่า "ทำไมในต่างประเทศ ผู้ขายฮาร์ดแวร์เจ้าเดียวกันถึงมีตัวเลือกไม่ลงวินโดวส์ได้ แต่ทำไมบ้านเราไม่มี" มากกว่านะครับ
อันดับแรก ในประโยคที่บอกว่า "ซึ่งต้องเน้นย้ำว่านี่คือสถิิติที่ได้จาก Community ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึง Opensource สูงกว่าที่อื่นหลายๆ ที่" ถ้าเปลี่ยนคำว่า Opensource เป็น Linux น่าจะใกล้เคียงกับสิ่งที่ผมตั้งใจจะสื่อสารได้มากกว่า เพราะในประเด็นที่กำลังพูดกันมันคือ OS ซึ่งไม่ได้กินความหมายรวมไปถึง Opensource ทั้งหมด และอาจจะด้วยเพราะเหตุนี้ผมจึงกลับไม่คิดว่าผลการสำรวจเรื่องเบราว์เซอร์จะบอกอะไรเรามากนักในประเด็นที่เราจำกัดอยู่ที่ Windows หรือไม่ Windows เพราะคนใช้ Firefox ก็สามารถใช้บน Windows ได้เช่นกัน
ถัดมาในเรื่องว่าการนำตัวเลขผลสำรวจเรื่อง OS มาตีความตรงๆ นั้น ไม่ได้นำเสนอโดยคิดว่ามันจะถูกต้องอย่างมีนัยยสำคัญหรือขนาดที่จะเป็นดัชนีชี้วัดอะไร แต่คงต้องอธิบายเพิ่มในจุดที่ว่าผมก็ยังคิดว่าคนที่เข้ามาใน Blognone มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึง Linux สูงกว่าที่อื่นหลายๆ ที่ ถึงแม้จะมีปัจจัยเรื่อง link ที่ถูกโยนผ่านมาจาก Search Engine ด้วยก็ตาม เพราะผู้ชมที่จะถูก Google ส่งเข้ามาที่นี่ กับส่งไปที่ Sanook, Yenta4 น่าจะเป็นตัวบอกระดับและสิ่งที่ผู้ชมคนนั้นๆ สนใจได้พอสมควรไม่มากก็น้อย นอกจากนั้นแล้วเนื้อหาในนี้ยังเอื้อให้เข้าถึง Linux ได้มากกว่าที่อื่นหลายที่(แน่นอนว่าเว็บอย่าง ubuntuclub คงมีระดับความน่าจะเป็นตรงนี้สูงกว่าที่นี่ แต่ก็อย่างที่เขียนไว้ครับว่าที่นี่มีมากกว่าหลายที่ ไม่ใช่ทุกที่) เหตุผลสนับสนุนความคิดนี้ก็คือ:
เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้น่าเชื่อได้ว่า ผู้อ่านที่เข้าสู่เนื้อหาและสังคมตรงนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึง Linux ได้สูงกว่าที่อื่นหลายๆ ที่ ไม่ว่าจะเข้ามาจาก URL ตรงหรือถูกส่งมาจาก Search Engine ก็ตาม
ส่วนประเด็นที่ว่า "ทำไมในต่างประเทศ ผู้ขายฮาร์ดแวร์เจ้าเดียวกันถึงมีตัวเลือกไม่ลงวินโดวส์ได้ แต่ทำไมบ้านเราไม่มี" ผมไม่มั่นใจว่าคุณ Sajal หมายถึงอย่างนั้นหรือปล่าว เพราะสังเกตไม่พบข้อความในลักษณะนั้น เห็นแต่ที่มีโน้ตไปยัง Lenovo ว่า เห็นที่ US มีรุ่นที่ไม่ได้ลง Windows ให้เลือกเยอะ ที่เมืองไทยเป็นเหมือนกันด้วยหรือปล่าว? (Lenovo USA does offer an interesting range of notebooks without Windows. Does Lenovo Thailand do the same?) หรือถ้าผมขาดตกตรงไหนก็โน้ตให้ด้วยครับ
อย่างไรก็แล้วแต่ อย่างที่ได้ระบุไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ผมเชื่อว่ามีความเป็นไปได้หลายอย่างที่ไม่อยากได้ Windows ที่ OEM มากับเครื่อง ซึ่งจะไปวิจารณ์หรือไม่เห็นด้วยกับทุกๆ ประเด็นคงเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่แสดงความไม่เห็นด้วยถ้าหากเหตุผลที่ทำให้คิดอย่างนั้น เพราะจะเอาไปลงเองด้วย Software เถื่อน โดยเข้าใจว่าในโพสท์ก่อนหน้าได้แยกเคสของคุณ Sajal ออกไปต่างหากด้วยคำว่า "ในกรณีของ" เพราะเข้าใจว่าคุณ Sajal คงไม่ได้ Windows หรือไม่ได้เพียงแค่คิดว่าจะเอาไปลงเถื่อน... ตามนั้นครับ.
ผมเห็นด้วยกับประโยคว่า "Blognone มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าถึง Linux สูงกว่าที่อื่นหลายๆ ที่" แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้สถิติการเข้าชมเว็บมาสนับสนุนเท่าไรนัก แต่ประเด็นนี้ off-topic คงไม่คุยต่อนะครับ
ส่วน
กับ
มันไม่เหมือนกันรึครับ?
จริงๆ ค่อนข้างแปลกที่เห็นด้วยในส่วนแรก แต่ไม่เห็นด้วยกับส่วนหลัง เพราะทิศทางมัน Sync กันเลยนะ แต่ไม่เป็นไร ถ้ามองว่า off-topic ก็ข้ามไปครับ
ส่วนเรื่องความหมายของทั้งสอง Quotes
จากอันแรก ในประโยค "ทำไมในต่างประเทศ ผู้ขายฮาร์ดแวร์เจ้าเดียวกันถึงมีตัวเลือกไม่ลงวินโดวส์ได้ แต่ทำไมบ้านเราไม่มี" มันน่าจะหมายถึงที่ต่างประเทศให้เลือกว่าจะลงหรือไม่ลง Windows ได้
ในคำว่า "มีตัวเลือกไม่ลงวินโดวส์ได้" กับ "มีตัวเลือกให้เลือก" มันต่างกันพอสมควรนะ แต่ไม่เป็นไร เหล่านี้เป็นเรื่องรายละเอียดของภาษา ซึ่งเราแต่ละคนตีความเรื่องรายละเอียดในระดับที่แตกต่างกันครับ
ช่วงนี้เห็นบ่อย
โดยส่วนตัวนะ คนที่ใช้ลินุกซ์ในชีวิตประจำวันแบบตัดขาดวินโดส์ไปเลยคงหาเจอได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี ผมไม่สนับสนุนการใช้ของเถื่อน แต่ก็ไม่ควรดูถูกทุกคนว่าจะใช้ของเถื่อนโดยการบังคับซื้อของที่ไม่ได้ใช้
ในทางปฏิบัติคงเป็นการยากที่จะทำรุ่นเล็กรุ่นน้อยเพื่อเสนอทางเลือกมากมายให้กับทุกคนเหมือนเดลล์ แต่เดินทีไรผมก็หงุดหงิดทุกทีนะ ผมอยากได้ของดีปานกลาง ซึ่งไม่รู้ทำไมชอบแถม Home Edition พวกที่ให้ลินุกซ์มักจะเป็นรุ่นรองลงมาอีก มันถูกก็จริง แต่มันไม่ครบ ขาดนิดๆ หน่อยๆ สุดท้ายก็ต้องซื้อมาเก็บไว้ในกรุ เอาไปใช้เครื่องอื่นก็ผิด
"เชื่อได้ว่า" จริงๆ มันเป็นแค่สไตล์ภาษามากกว่า ส่วนจะเชื่อหรือปล่าว อันนี้ก็ต้องแล้วแต่แต่ละคนครับ
กับเรื่องที่คุณ sugree บอกว่าไม่สนับสนุนการใช้ของเถื่อน แต่ไม่ควรไปดูถูกคนใช้ของเถื่อนโดยการบังคับ ตรงนี้ผมว่าต้องแยกออกเป็นสองส่วนให้ชัดเจนคือที่ผมบอกว่า "ไม่เห็นด้วย" และนั่นไม่ได้หมายถึง "ดูถูกคนใช้ของเถื่อน" คือตามที่แจ้งไปแล้วว่า มันคงมีความเป็นไปได้หลายกรณีที่ไม่ต้องการเครื่องที่ลง Windows มา ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเป็นอะไรก็สุดแล้วแต่ คงยากที่จะไปแสดงความคิดเห็นให้ครอบคลุมเหตุผลทั้งหมดเหล่านั้น จึงแสดงความคิดเห็นที่เจาะจงลงไปว่าถ้าเหตุผลที่ว่าคือไม่ต้องการให้ลง Windows เพราะคาดหวังราคาที่ถูกลงแล้วจะเอาไปลง Windows เถื่อนเอง อันนี้โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยและละที่จะแสดงความคิดเห็นในความเป็นไปได้ในกรณีอื่นไว้ ซึ่งการที่ผมไม่เห็นด้วยก็คือไม่เห็นด้วย ก็เท่านั้นนะ ไม่ได้สรุปเอาว่าคุณเป็นคนเลว คนไม่ดีหรืออะไร เพราะเรื่องแค่นี้คงไปสรุปอะไรใครไม่ได้ แต่ละคนก็คงมีเหตุผลในรายละเอียดต่างๆ กันออกไป รวมถึงถ้าอ่านโดยละเอียดน่าจะทราบว่าผมก็ได้ละที่จะร่วมวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้ขายว่าทำผิดหรือทำถูกเอาไว้เหมือนกัน เพราะเรื่องพวกนี้จริงๆ Factor มันสูง จากมุมที่เรามองดูอาจจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เรื่องเคสตัวอย่างที่ยกมา นั่นเองก็เป็นเรื่องสมมุติ เหตุการณ์จริงจะเป็นอย่างนั้นหรือปล่าวก็สุดจะทราบได้ แต่โดยส่วนตัวรวมถึงถ้าใครเคยดีลกับพวกบริษัทต่างชาติ(โดยเฉพาะพวกฝรั่ง)ที่มีอำนาจการต่อรองสูง ข้อเรียกร้อง และเงื่อนไขมันจะสูงและจุกจิกมาก MOU ที่ทำกันบางทีหนาอย่างก่ะ Textbook ดังนั้นจึงลองยกกรณีสมมุติขึ้นมาให้ีคนที่เห็นว่าบริษัทผู้ขายไม่ถูกต้องอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูได้เห็นว่า ผลที่เราเห็นอาจจะไม่ถูกใจเรา แต่มันก็อาจจะมาจากเหตุที่เค้ามีความจำเป็นบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ เพื่อลองเอาไปช่างใจช่างน้ำหนักกันดู เผื่อจะได้ลองกลับมาคิดในมุมกลางๆ กันบ้างครับ
ผมหมายถึงว่า "อย่าคิดว่าทุกคนใช้ของเถื่อน" น่ะครับ การแถมวินโดส์เพื่อป้องกันการใช้ของเถื่อนคงไม่ใช่เหตุผลที่ดีนัก เหมือนขายเหล้าพ่วงเบียร์ แต่ถ้ามองว่าเป็นการแถมโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมันก็โอเค ในขณะเดียวกันยี่ห้อเดียวกันรุ่นอื่นมันทำเป็นตัวอย่างที่ดี ไม่แถมแล้วราคาลด ลดนิดลดหน่อยก็ถือว่าลด ลดแบบไม่ต้องอ้อน (อ้อนแล้วยังลดได้อีก หรือไม่ก็มีของแถมเล็กๆ น้อยๆ)
ผมรักคนขายทุกคน เข้าใจจิตใจ แต่พอกลับมาเรียนทีไรก็พบว่าอุปกรณ์พวกนี้กำไรประมาณ 50% เป็นปกติ กำไรขนาดนี้น่าจะให้ทางเลือกมากกว่านี้
เห็นด้วยกับคุณสุกี้ ทุกอย่าง แต่เสริมนิดกำไร 50% จริงนะ แต่ค่าความเสี่ยงก็มากขึ้นตามตัวเหมือนกัน
เช่น ขายตู้เย็นขายยาก แต่กำไรเยอะ ยิ่งคอมพิวเตอร์เนี่ยราคาอาจจะผันผวนยิ่งกว่าหุ้นอีก ตอนนี้มองดู
เครื่อง Toshiba ทีไรอยากควักเงินทุกที ในขณะที่เครื่อง sony ราคาไม่ค่อยตกเลย
โดยส่วนตัวไม่คิดว่าุทุกคนจะใช้ของเถื่อน รวมถึงเดาว่าคงไม่มีใครคิดอย่างงั้น แต่ถ้าบังเอิญจะมีใครสักคนคิดอย่างงั้น ผมเองก็คงอยากจะบอกเค้าด้วยประโยคในลักษณะเดียวกันกับที่คุณ sugree บอก ว่า "คุณอย่าไปคิดอย่างงั้น คิดอย่างงั้นประเด็นมันปิด โลกมันแคบ"
ส่วนว่าการพ่วงมาให้ เป็นไปในลักษณะ Complimentary อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น แต่ผมเชื่อว่าต้นทุนที่พวกผู้ผลิตได้มาน่าจะถูกมากพอสมควร เพราะถ้าขยายโฟกัสออกไปพวกผู้ขาย Notebook นี่ก็เหมือนพ่อค้าคนกลาง บางคนมีแหล่งผลิตเอง บางคนรับโรงงานมา บางคนก็จ้างอีกรายที่ขายเหมือนๆ กันนั่นแหล่ะผลิตแล้วเอามาแปะป้ายตัวเอง เพราะฉะนั้นความจริงของภาพรวมตรงนี้ก็คือทุกคนถือเงื่อนไขและต้นทุนพอๆ กัน(ในกรณีที่มี volume การซื่อการขายพอๆ กัน) ที่ตั้งใจจะบอกก็คือถ้าใครที่อยู่ในสายของกลไกการตลาดจะทราบดีว่าการควบคุมให้พวกพ่อค้าคนกลางไม่ตัดราคากันเองเนี่ยเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าใครเห็นช่องทางที่จะทำให้ตัวเองขายได้ถูกกว่า เค้าทำแน่ๆ อย่างไม่ต้องกังวลและสงสัย โดยเฉพาะในตลาดที่มีความชัดเจนอย่างบ้านเราที่ทราบกันดีว่า Windows เถื่อนหาได้ไม่ยากและราคาถูก ถ้าเค้ามองเห็นแล้วว่าถ้าเอา Windows ออกหรือออกรุ่นใหม่ที่ spec. ทัดเทียมแต่ไม่ OEM OS แล้วขายได้ถูกกว่า แล้วคนแห่มาซื้อเค้าแน่ๆ เชื่อเถอะว่าเค้าทำครับ พวกนี้ไม่ได้รัก Microsoft จี๊ดจ๊าด อะไรที่เป็นช่องทางหรือเป็นข้่อได้เปรียบของเค้าชัดเจนคนทำํธุรกิจเลือกอยู่แล้วครับ ยกเคสตัวอย่างเทียบเคียงดังที่เราจะเห็นอยู่ช่วงนึงที่ Acer แถมหูฟัง Bluetooth Jabra ผลปรากฏว่า de-bundle กันแหลกลาญ และ ทั้ง Acer, Jabra ก็เจ็บตัวกันคนละนิดละหน่อย เพราะราคาพังไปตามๆ กัน คนขายหน้าร้านก็ยอมขาย Notebook เท่าทุน แล้วไปเอากำไรจากการขาย Bluetooth แยกราคาถูกๆ ฝั่ง Bluetooth ก็ปวดหัว เพราะราคาขายส่งยังแพงกว่าที่หน้าร้านเอาไปขายทิ้งให้ลูกค้า
ฉะนั้นการที่เรายังเห็นสภาพตลาดเป็นแบบนี้เลยอนุมานเอาว่ามันต้องมีเงื่อนไขอะไรกำกับเอาไว้แน่ๆ Microsoft เองก็ไม่ใช่ว่าจะโง่ พวกเงื่อนไขประเภท ต้องซื้อปริมาณเท่านั้น Licenses แล้วต้อง OEM ชุด Serial กลุ่มนี้ไปกับสินค้ารุ่นนั้นรุ่นนี้เท่านั้น และต้องทำการ Bundle และขายออกให้หมดภายในระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้ไม่อย่างนั้นจะถือว่า Serial ที่เหลือเป็นโมฆะ และห้ามทำการขายแยกเพราะ Microsoft ไม่มีเจตจำนงให้คู่สัญญากลายเป็นจุดขายย่อย หรืออะไรประมาณนี้ เชื่อว่าต้องมีอยู่แล้ว ถามต่อว่าถ้าไม่ได้รักกันจี๊ดจ๊าด ทำไมยังทนรับกับเงื่อนไขอย่างนี้อยู่ คำตอบก็น่าจะเป็น เพราะเวลาตกลงทำสัญญากันมันเป็นภาค Policy ที่ HQ ตกลงกันมาอย่างงั้น และมันเป็นประโยชน์และทำให้เค้าได้เปรียบหรือเพิ่มโอกาสในการขายในหลายๆ ประเทศ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็ใช้ Windows อยู่แล้ว
ในกรณีที่ถ้าจะมีลูกค้่าหนึ่งคนที่ใช้งานอย่างถูกต้องและอยู่ในกติกา แล้วจะออกมาแสดงความคิดเห็น, เรียกร้อง และสื่อสารไปยังผู้ขาย เหมือนที่คุณ Sajal ทำก็เป็นสิ่งที่ทำได้และน่าทำครับ แต่ที่โดยส่วนตัวผมไม่ได้ส่งเสียงเชียร์ได้แต่เพียงเอาใจช่วยให้เจอตัวเลือกที่ลงตัวเร็วๆ เพราะลึกๆ ในใจทราบดีว่า reaction กลับมาคงจะไม่ได้เป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก เพราะต้องยอมรับอย่างหนึ่งก็คือเสียงเรียกร้องประเด็นนี้ที่เกิดขึ้นในบ้านเรากับที่เกิดขึ้นที่อังกฤษคนรับฟังปัญหาเค้าให้น้ำหนักไม่เท่ากัน ไม่ใช่เพราะบ้านเรามีกำลังการซื้อต่ำกว่า แต่เพราะผู้บริโภคมวลรวมของอังกฤษอยู่ในกติกามากกว่าเรา
ส่วนประเด็นเรื่องกำไรของผู้ขาย ผมไม่มั่นใจว่าจะถึง 50% ถ้าจะเป็นไปได้อาจจะเป็นในส่วนภาคของ Manufacturing แต่นั่นก็คงเป็นตัวเลข GP เพราะถ้าจะคำนวณหา NP จริงๆ พวกงบวิจัย ค่าบริหารจัดการ ค่าคนงาน ค่าการลงทุนตั้งต้นสำหรับระบบการผลิต(ที่ไม่ใช่ค่าวัตถุดิบ) ค่าความเสี่ยงที่ถือ พวกนี้ต้องเอามาคิดหมด ตัวเลขก็น่าจะมีความคลาดเคลื่อนออกไปบ้าง หรือถ้าคุณ sugree มีข้อมูลชัดเจนตรงนี้สำหรับจะแชร์ ก็ถือว่าแลกเปลี่ยนกันครับ และขอบคุณสำหรับข้อมูล
แต่ถ้าเป็นในภาคการขายและการตลาดอย่างที่ Vendor ดูแลกันอยู่นี่ ความเป็นไปได้ที่จะถึง 50% นี่ยากมากครับต้องลองดูจากโครงสร้างที่เค้าขายกัน คิดมาตั้งแต่ค่าขนส่ง, ค่า Regional Vendor Margin Cap, ค่าต้นทุนการดำเนินการของสำนักงานประจำประเทศ, ค่ากำไรสำหรับ Distributor แล้วยังต้องไปบวกค่ากำไรของ Dealer อีกสุดท้ายด้วย หรือถ้าจะข้ามไปขายเองในงาน Exhibition ค่าพื้นที่และตบแต่ง Booth ก็เป็นล้านเข้าไปแล้ว ยังจะค่าพนักงานขายในงาน/พริตตี้ นี่ยังไม่รวมว่าต้องกันงบสำหรับส่วนลดพิเศษ และ/หรือ ของแถมเล็กๆ น้อยๆ อีก ยังไงๆ ก็น่าจะถึง 50% ยากครับ
เมื่อประมาณปีที่แล้วได้เข้าไปคุยกับ Product Manager ของ Notebook ฝั่ง HP เพื่อชวนทำโปรแกรม Bundle ที่ใช้งบประมาณ 1,000 บาท ต่อหนึ่งหน่วยการขาย ฟังแล้วเจ้าตัวก็สะดุ้งบอกว่าถ้า Bundle ไปใกล้เคียงกับคำว่าไม่ได้อะไรแถมบางรุ่นอาจจะขาดทุนด้วย สำทับต่อว่าเมื่อครั้งที่ Bundle กับหูฟัง Sennheiser นั่นคือต้องไปดึงงบ Ads. บางส่วนมา Absorb ด้วย เล่าไว้เผื่อเป็นข้อมูลได้ครับ
จริงๆ มันอยู่ที่ความพอใจทั้งสองฝ่าย
ถ้าคุณไม่พอใจคุณก็ไม่ต้องซื้อ จบ
เพราะไม่มีใครเอาปืนไปจี้คุณ หรือก่อม๊อบประท้วงคุณ
ว่าคุณต้องซื้อ
คุณ Sajal ก็ไปซื้อจากเมืองนอกเรียบร้อยแล้วหนิครับ
ผมมองว่าจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่การประท้วงอะไรเลย คุณ Sajal ไม่ได้เรียกร้องให้คนไม่ซื้อคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีทางเลือกแต่อย่างใด สิ่งที่ผมเห็นคุณ Sajal ทำคือการ "บอก" ไปยังผู้ผลิตว่าการลดทางเลือกผู้บริโภคไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง อย่างน้อยๆ ก็สำหรับเขา บังเอิญว่าในเว็บนี้มีคนเห็นด้วยกับเขาเยอะสักหน่อย ก็ออกมาบอกว่า "เออ มันน่าจะมีทางเลือกให้คนซื้อจริงๆ"
ผมว่านี่เป็นโอกาสดีมาก ถ้าจะมีซักบริษัทออกมาบอกว่า บริษัทขานรับจดหมายฉบับนี้แล้วพร้อมจะให้ทางเลือกที่จะใช้หรือไม่ใช้วินโดวส์ก็ได้สำหรับโน๊ตบุ๊กทุกรุ่น หรือไม่ก็ออกมาระบุว่าบริษัทมีช่องทางการขอเงินค่าวินโดวส์คืนอยู่แล้วทาง XXXX..... โดยจะได้เงินคืนเป็นจำนวน YYYY.....
ผมมองว่าคุณ sajal เป็นตัวอย่างที่ดีมากสำหรับผู้บริโภคที่พยายามจะติดต่อกับผู้ผลิตเพื่อบอกความต้องการของตัวเอง ตรงนี้เราก็พร้อมเป็นสื่อให้เท่านั้นล่ะครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
แต่เท่าที่ผมซื้อ notebook ผมก็สามารถสั่งให้เอา os หรือไม่ก็ได้นะ
ผมกลับมองว่าในnotebook ในไทยมี OEM เพื่อลดการละเมิดลิขสิทธิ์
ฝึกการเคารพในลิขสิทธิ์เสียมากกว่า เพียงแต่ผมคิดว่านาย sajal ไปซื้อ
ร้านค้าย่อยในไทยมากกว่า ซึ่งคิดว่าร้านค้าเหล่านี้ก็ไม่ได้สั่ง notebook
ที่ไม่มี OEM ไว้ในสต๊อก
บังเอิญรุ่นที่เค้าอยากได้มันไม่มีให้เลือกน่ะครับตรงนี้เค้าเขียนไว้แล้วในฟอรั่ม
รุ่นเล็กมีให้เลือกเอาหรือไม่เอาวินโดวส์นี่ปรกติครับ เครื่องผมเองตอนที่ซื้อก็ไม่มีวินโดวส์เหมือนกัน แต่เครื่องรุ่นใหญ่มันไม่มีให้เลือก แล้วเป็นปัญหา เค้าก็ออกมาสื่อสารให้ผู้ผลิตได้ยิน
วันนี้ผมลองเดินดู รุ่นกลาง-สูง ก็แถมวินโดวส์หมดจริงๆ นะ อย่างพวก ThinkPad Txx กับ Xxx นี่แถม Vista Business หมดเลย
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw
ต้องฝึกกันเลยหรือ?
PoomK
ผมมองว่าการผูกขาด OS ในลักษณะนี้กลับไม่ได้ช่วยให้ผู้ใช้เห็นความสำคัญในลิขสิทธิ์ซักเท่าไรเลยนะครับ แต่กลับจะยิ่งทำให้ละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ
การที่ MS ผูกขาดแบบนี้ก็เพื่อที่จะยิ่งทำให้ Windows เป็น OS มาตรฐาน และผู้ใช้อื่นๆ ก็จะปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องใช้ Windows เนื่องจากต้องปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐาน
ซึ่งมันก็ทำให้การผลักดัน OS ที่เป็น opensource หรือ free software ต่างๆ นั้นยากขึ้นไปด้วย
และสุดท้ายผู้ใช้ระดับกลางถึงระดับล่างก็ต้องหันมาใช้ Windows เถื่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Dell Vostro สั่งไม่เอา Windows license ได้นะครับ พวกร้านที่เอามาขายเขาสั่งเป็นล็อต ฮั้วๆ กันมาจะได้ถูกครับ ต้องหาดูบางที่ก็ไม่มี windows มา หรือ สั่งเองตรงกับเซลล์เลยครับ
"โน้ต" ใช้ไม้โทครับผม
Oakyman.com
เป็นคำที่คนไทยใช้ผิดบ่อยมาก แม้แต่ชื่อเล่นตัวเองยังเขียนผิด
น หนู เป็นอักษรต่ำ
แก้ไขแล้วนะครับ ขอบคุณมากครับ
...........แต่ถ้าไม่พอใจ คุณก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องจ่ายเงิน
ดูผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ซื้งตรงกับความต้องการ จะดีกว่า.............
นอกประเด็นนิดนึง
กระทู้นี้ฮิตฮอตมาก ไม่ได้อ่านวันกว่าๆไล่อ่านตามไม่ทันเลย
PoomK
จำได้ว่า เมื่อราวสามปีก่อนที่ผมซื้อ Thinkpad X32 มันมีทั้งดอส และวินโดว์เอ็กซ์พี ให้เลือกครับ สเป็คฮาร์ดแวร์ตรงกันทุกอย่าง ถ้าเลือกแบบมีวินโดว์ราคาจะแพงกว่าประมาณสี่พันบาท
เขียนไว้เป็นข้อมูลครับ เพราะเห็นยกตัวอย่างส่วนต่างราคาแค่ห้าร้อยบาท ดูออกจะห่างไกลความจริงที่ผมเจออยู่มากโข
......คนทุกคนที่จะซื้อคอมพิวเตอร์ซักเครื่อง
ไช่ว่าทุกคนจะรู้ว่ามันควรจะได้ OS & Software อะไรติดมา
แต่เขาเหล่านั่นคิดว่าจะนำมาใช้งานด้านไหน............
..................................................
.....หลายคนไม่รู้ด้วยว่า OS คืออะไร..............
...................................................
ว่าแต่คนที่ให้ลบผม คงไม่เข้าใจธุรกิจซินะ
............
ผมมองว่าความถูกต้องกับเรื่องของธุรกิจมันเป็นคนละเรื่องกัน ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่แคร์เลยถ้าไมโครซอฟท์จะครองตลาดไปร้อยละ 99 ไปอีกห้าสิบปี
คำถามที่เรากำลังถามกันคือควรหรือที่คนอีกร้อยละหนึ่งจะถูกลืม และมันถูกต้องหรือไม่ที่บริษัทอื่นๆ ที่ขายซอฟต์แวร์ที่มีส่วนแบ่งในตลาดร้อยละหนึ่งจะถูกกีดกันให้ทำตลาดได้ยากกว่าปรกติ
ในรูปแบบเดียวกัน ผมก็เชื่อว่าคนร้อยละ 99 ไม่ได้ใส่ใจอะไรถ้าไมโครซอฟท์จะใส่ Media Player หรือพ่วงบราวเซอร์ไปกับโอเอส แต่ประเด็นเหล่านี้ก็ก็ยังคงทำให้ไมโครซอฟท์ถูกปรับอยู่ดี ในแนวทางเดียวกันผมเชื่อว่าคนจำนวนมากก็อยากให้คอมพิวเตอร์ที่เขาซื้อมามีโอเอสในตัวอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่จะโปรโมทเฉพาะเครื่องที่ติดกับวินโดวส์ไปด้วย แต่ยังคงให้ทางเลือกกับผู้ที่ต้องการอยู่
โดยปรกติแล้วผู้ครองตลาดเป็นส่วนใหญ่ได้เปรียบในหลายๆ เรื่องอยู่แล้วครับ ผมไม่คิดว่ากฎหมายการค้าประเทศไหนจะสนับสนุนผู้ครองตลาดหลักให้ครองตลาดมากขึ้นไปเรื่อยๆ ตรงข้ามกฏหมายหลายฉบับในหลายประเทศพยายามคุ้มครองผู้ประกอบการรายเล็กๆ โดยให้การรับประกันว่าผู้ผลิตรายใหญ่ๆ จะไม่ทำลายการแข่งขันด้วยการวิธีการบางวิธีเช่นการลดราคาต่ำกว่าทุน หรือการขายพ่วง กรณีบ้านเราที่ชัดที่สุดคงเป็นเบียร์ที่คล้ายๆ กัน
ย้ำอีกที ธุรกิจกับความถูกต้องไปคู่กันไปครับ
LewCPE
lewcpe.com, @wasonliw