By: mk 
on 24 August 2008 - 03:22
Tags:
Topics:
ราคาหุ้นของซันไม่ค่อยดีมาได้พักใหญ่ นักวิเคราะห์ทางธุรกิจหลายเจ้าเลยมองว่า ซันอาจถูกบริษัทที่ใหญ่กว่าควบกิจการก็เป็นได้
บริษัทที่คาดว่าอาจจะเข้ามาซื้อคือ Fujitsu ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับซันมานาน หรือ HP ซึ่งเป็นคู่แข่งตรงในตลาดเซิร์ฟเวอร์ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางรายมองตรงข้ามว่า ถึงแม้กิจการจะไม่ค่อยดี แต่ว่าผู้บริหารของซันยังไม่มีท่าทีจะขายบริษัทออกไป
ราคาหุ้นของซันดูได้จาก Yahoo! Finance ตามลิงก์ จุดที่ตกลงฮวบคือการประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของปี 2008 ซึ่งกำไรหล่นจาก 329 ล้านดอลลาร์ลงมาอยู่ที่ 88 ล้าน เหตุผลหนึ่งที่กิจการไม่ค่อยดีนักอาจเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐ ทำให้ลูกค้าของซันชะลอการซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ และฮาร์ดแวร์ของซันมักเป็นเครื่องใหญ่ราคาแพง ที่ลูกค้าเลือกตัดสินใจไม่ซื้อเป็นอันดับต้นๆ
ปัจจุบันซันมีพนักงาน 35,000 คนทั่วโลก มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของบริษัทใน Silicon Valley
ที่มา - Linux Insider
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
มาแววคล้าย SGI อีกแล้ว
คล้ายตรงที่เคยมี platform ของตัวเอง แค่โดน x86 ตีตลาด จนต้องปรับตัวมาทำขายด้วย แต่สุดท้ายจะเหมือนกันกันไหม ต้องค่อยดูต่อไป
แล้ว Java ล่ะ...
ไม่ตายไม่เลิก
ถ้า MS ซื้อไป อีกหน่อย Solaris คงมีจอฟ้า
CMDEVHUB
เขียนเอามันส์ ลองเข้าไปดูความมันส์ได้ครับ
แล้วต่อไปจาวาคงรันบน CLI
คงจะได้เวอรืชั่น อภิมหาโค-ต-ร อืดเลยล่ะครับ
sun set
งงอ่ะครับ ไตรมาสที่ 4 ของปี 2008 มันมาถึงแล้วเหรอครับ
ในสหรัฐฯ บริษัททางเทคโนโลยีมักนิยมนับปีงบการเงิน ไม่เหมือนกับบริษัทอย่างในไทยครับ
ไตรมาสที่1ของปี จะเริ่มเดือนกรกฎาคมก่อนหน้า (เช่น Q1 ของ2009 จะเริ่มต้น กรกฎาคม 2008) และงบการเงินไปสิ้นสุดที่มิถุนายนของปีนั้นๆ
ก็แปลว่าไตรมาสที่4ของ 2008 ได้ผ่านไปแล้วครับ ตอนนี้เริ่มปีงบการเงิน 2009 กันแล้ว
ตามนั้นครับ
โอมาย จริงๆผมเคยทราบข่าวเช่นนี้ได้สัก 5 - 6 ปีแล้วครับ ยิ่งตอนผมทำงานอยู่ Sun ก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง ตอนนั้นได้ยินว่า Microsoft HP หรือไม่ก็ IBM จะเทคครับ เคยถามผู้บริหารบางท่านเขาก็บอกว่าเป็นข่าวลือ (ไม่รู้ว่าเขาทราบแล้วปิดหรือเปล่า) แต่พอดูหุ้นและผลประกอบการแล้ว ข่าวลือก็เหมือนว่าจะเป็นข่าว "หรือว่ามันจะจริง" อย่างไรก็ดี ก็ขอภาวนาให้ผ่านวิกฤตไปโดยดีนะ เป็นห่วงและก็รักนะ จุ๊บๆ
Sivadon Chaisiri (JavaBoom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
น่าสนใจครับ
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
อนาคต คงไม่เหลือแม้แต่อย่างเดียว เพราะปัจุบันมันมั่วไปมากแล้ว MS ขาดคนพัฒนาต่อ, Apple iCEO ไม่สบาย , Sun ถูกครอบงำ (ผลกระทบ กรุงไทยแบงค์), Google ไร้วีแวว ใน Lab, Yahoo ร่อแร .. อยากสาบแช่งทีมพัฒนาที่ลาออกจากบริษัทที่เคยทำงานจัง พวกไร้ซึ่งจรรยาบรรณ
แมคไซด์ โปรไฟล์
ประโยคสุดท้ายของคุณฟังดูน่ากลัวมากๆเลยครับ อืม...วิกฤติเช่นนี้มีเกิดกันได้ทุกบริษัททุกโรงงานทุกครัวเรือนครับ จะเป็นบริษัทคอมหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้ก็อยู่ที่ทีมบริหารน่ะครับว่าจะพาบริษัทรอดไปได้มากแค่ไหน ดูอย่างรัฐบาลของหลายๆประเทศเป็นตัวอย่าง (เซฟไว้ก่อนไม่ได้บอกว่าของไทยนะ) ไม่ได้ต่างไปจากบริษัทเหล่านั้นเลยครับ
Sivadon Chaisiri (JavaBoom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
ผมว่ามันเป็นวัฒจักรเสร็จมันก็ loop ไปเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องทีมพัฒนาลาออกเป็นเรื่องธรรมดาแหละครับ เงินดี ก็ไปครับ
meddlesome.tech.blog
เห็นด้วยครับ เงินดีหรืองานดีก็ไป นอกจากนี้ ที่เก่างานอาจน่าเบื่อ ที่ใหม่งานน่าตื่นเต้นและก้าวหน้า ตำแหน่งดี เงินดี หรือเงินไม่ดีแต่น่าอยู่ ยิ่่งมีเมีย มีลูก เยอะๆ (หมายถึงมีเมีย 1 ลูกหลายคน) ยิ่งต้องคำนึงเรื่องเงินๆทองๆ ส่วนเรื่องผิดจรรยามันจะเกี่ยวก็ตอนเอาความลับของที่เก่าไปเปิดเผย แต่การเปลี่ยนงานเป็นเรื่องธรรมดาไม่ผิดจรรยาครับ ผมเองก็เปลี่ยนหลายที่กว่าจะลงตัว
Sivadon Chaisiri (JavaBoom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
ความผิดต้องโทษผู้บริหารครับที่ทำผิดพลาด กำไรน้อย พอกำไรน้อยสวัสดีการก็ไม่ดีพอ แล้วใครอยากจะอยู่ครับ
ส่วนหนึ่งครับ
แต่สำหรับผม คับที่อยู่ได้ แต่คับใจอยู่ยาก
แต่สาวๆ คับอกคับใจไว้ ดีครับ \(=o=)/
CMDEVHUB
เขียนเอามันส์ ลองเข้าไปดูความมันส์ได้ครับ
Sure and Confirm! แต่ถ้าใน office มีแต่คับอก คับซีคับดีอยู่รายรอบ ผมเองก็ทำงานไม่รู้เรื่องนะครับ ดังนั้น สรุปว่าดีอย่างเสียอย่างครับ
Sivadon Chaisiri (JavaBoom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
ถ้ามีสามีกันหมดแล้ว คับไหนๆ ก็ไม่น่าสนใจครับ :(
ไม่ตายไม่เลิก
ความคิดคนเราจะเปลี่ยนไป เมื่อเราไม่ได้อยู่เพราะตัวเราคนเดียว แต่คนที่อยู่กับเราด้วย เช่นมีแฟน (เมีย), ลูก และครอบครัว ความเป็นอยู่เข้ามาเกี่ยวข้องครับ
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
คิดกลับกันครับ สมมติว่าพนักงานผู้ภักดี ซื่อสัตย์คนนั้นไม่เคยเปลี่ยนใจ ใครเสนอเงินดีกว่าเท่าไรก็ไม่ไป
รอ 10/15-years service award แต่เกิดอยู่มาวันหนึ่งป่วยหนัก ทำงานไม่ได้อีกต่อไป
บริษัทมิล่มจมรึครับ
พูดยากครับ ในมุมมองของบริษัท จำเป็นเหลือเกินที่ต้องพัฒนา/สร้าง
สิ่งที่เรียกว่า วัฒนธรรมองค์กร ทำให้องค์กรมีชีวิตได้เอง แม้ขาดคีย์แมนบางคนไป
หรือ มือรอง/มือสอง เตรียมรับมือสิ่งที่ไม่ขาดฝันตลอดเวลา
AWY !
Sivadon Chaisiri (JavaBoom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
ถ้าซื้อจริง JAVA กับ MySQL จะเป็นยังไงล่ะเนี่ย
เป็น opensource อยู่แล้วนี่ครับ ไม่เป็นไรมั้ง
Opensource ก็จริงอยู่แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะได้ไปนี่สิครับ
เอาน่า อนาคตเป็น unseen ครับ รอดูอีกนิดครับ ส่วน OpenSource มันอยู่ที่ว่าคนอุ้มได้มั่นคงแค่ไหนน่ะครับ
ถ้ามันตายจริง โอ้...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ไม่อยากนึกถึง แต่ที่แน่ๆถ้ามันตายจริง IT ทั่วโลกที่ใช้JavaกับMySQL (รวมถึง Solaris) เขาคงไม่รีบโละระบบ IT ของเขาในเร็ววันหรอกครับ ระบบมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า Legacy System บริษัทพวก Maintain/Support มันก็ยังคงดูแลระบบคุณปู่อยู่ต่อไป พวก maintain ก็ยังดั้นด้นดูแลมันไม่ห่างหาย (เหมือนพยาบาลให้น้ำเกลือข้างๆ) ตราบใดที่มี demand ตราบนั้น supply และ support ยังคงอยู่ (อาจจะไม่รุ่งเรืองเหมือนอดีตเมื่อยังเอ๊่าะๆวัยรุ่นก็ตาม) แต่เมื่อไหร่ที่ demand หมดไป แน่นอนครับต่อให้ supply มากเท่าไหร่ก็ตาม support ย่อมหมดไปตามๆกันครับ และท้ายที่สุด supply ก็หมดไปครับ ... นี่คือธรรมชาติของกลไกตลาด ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ... สาธุ
อย่างไรก็ดี support ที่แปรตาม demand/supply อาจไม่จีรังกับบริษัทบางบริษัทก็ได้ อย่างผมใช้ XP วันนี้ ในวันหน้า support อาจจะหมดก็ได้ (สาเหตุเพราะมีคนผูกขาด เป็นธรรมชาติของ monolithic) ... เออ นี่ก็คือ Supply กลั่นแกล้ง Demand ครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อีกแล้ว
Sivadon Chaisiri (JavaBoom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
ม่ายยย ... อนาคตของลูกชาย
คงจะเหมือนกับโนเวลล์เมื่อก่อนรุ่งเรืองมากแต่ขาดการพัฒนา โอเอสแข็งมากและการจัดการทำได้ง่าย ไม่ยอมพัฒนาเรื่องระบบ LFN(Long file name) พอไมโครซอฟท์พัฒนาตรงนี้เข้าเสร็จเลย เจ๊ง ตอนหลังโนเวลล์พัฒนาให้ใช้ LFN ได้โดยใช้ Java เป็นอินเตอร์เฟส แต่.....แมร่งโข้ดอืด คนไอทีอดทนไม่พอเลยถอดใจ นี่ถ้าปล่อยให้คนก๊อปใช้เยอะๆ หรือปล่อยให้เป็นโอเพนซอร์สมันคงจะไม่วูบง่ายขนาดนี้
ถ้าขายให้ Fujitsu ก็ไม่ได้มีความสามารถพอที่จะฝ่านาวาให้ถึงฝั่งได้ ไอบีเอ็มก็มีของตัวเองอยู่แล้ว ไมโครซอฟท์เป็นไปได้ยาก เอชพีก็มีแต่อาจซื้อไปแล้วทำให้ดับเพื่อไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ หรือจะขายให้เลโนโวดี