iPad อุปกรณ์สำคัญที่ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียนหรือเอ็นเตอร์เทนทั้งเล่นเกมดูหนังฟังเพลงนั้นก็ถือว่าสามารถทำได้อย่างครบถ้วน มอบประสิทธิภาพในการใช้งานได้ทั้งภายในบ้านและนอกสถานที่ หรือระหว่างการเดินทางตลอดทั้งวัน พกพาได้อย่างสะดวก และด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องนั้นก็ขอบอกเลยว่า การใช้ชีวิตนั้นสามารถทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น หยิบขึ้นมาแล้วรังสรรค์ไอเดียต่าง ๆ ลงไป แล้วส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ประหยัดเวลามากขึ้น ใครที่กำลังอยากได้อยู่แต่ไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดีก็ต้องมาลองดู 8 iPad รุ่นไหนดี 2024 ที่เรานั้นนำมาแนะนำกัน ไปดูกันว่าจะมีรุ่นไหนที่เหมาะกับคุณบ้าง

ตารางเปรียบเทียบ 8 iPad รุ่นไหนดี 2024

iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M4)

ราคาเริ่มต้น 52,900 บาท

ต้อนรับปี 2024 ด้วย iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M4) ตัวล่าสุดที่เรียกได้ว่ายกระดับทั้งตัวประสิทธิภาพรวมไปถึงดีไซน์ เพราะบางเพียงแค่ 5.1 มม. เรียกได้ว่าบางสุด ๆ และด้วยตัวชิป M4 ที่ใหม่ล่าสุด จะนำพาความเร็วมาให้อย่างที่ไม่เคยได้สัมผัส รับชมหน้าจอได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะความชัดเจนหรือขนาดที่ใหญ่ยิ่งขึ้น ให้คุณได้รับประสบการณ์ใหม่สำหรับการใช้งาน iPad ได้อย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

สเปก

• จอภาพ Ultra Retina XDR
• ขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว
• ความละเอียด 2752 x 2064
• ความสว่าง XDR: 1,000 นิต
• เทคโนโลยี ProMotion
• ชิป M4
• CPU แบบ 10‑core
• GPU แบบ 10‑core
• กล้องไวด์ 12MP
• วิดีโอระดับ 4K, ProRes
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP ในแนวนอน
• ระบบกล้อง TrueDepth
• ระบบเสียง 4 ลำโพง
• ไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ 4 ตัว
• ความจุ 256GB, 512GB, 1TB, 2TB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• ชิป M4 ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของ iPad ในขณะนี้

ข้อควรรู้

• ราคาเริ่มต้นนั้นสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

iPad Air รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M2)

ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท

ตัวต่อมาที่ได้ปล่อยมาในปีนี้ก็คือ iPad Air รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M2) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล Air เลือกใช้ชิป M2 ที่ทรงประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือดูหนังเล่นเกม จะรีดเอาพลังออกมาได้อย่างสูงสุด มาพร้อมกับตัวกล้องที่คมชัดไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังหรือกล้องหน้าก็ตาม และสีสันพาเทลสุดน่ารักที่เลือกได้ถึง 4 สี

สเปก

• จอภาพ Liquid Retina
• ขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว
• ความละเอียด 2732 x 2048
• ความสว่าง SDR: สูงสุด 600 นิต
• ชิป M2
• CPU แบบ 8-core
• GPU แบบ 9‑core
• กล้องไวด์ 12MP
• วิดีโอระดับ 4K
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP ในแนวนอน
• ระบบเสียงสเตอริโอในแนวนอน
• ไมโครโฟน 2 ตัว
• ความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• หน้าจอขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล Air

ข้อควรรู้

• ไม่มีระบบแสกนใบหน้า

iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 6

ราคาเริ่มต้น 44,900 บาท

มาเริ่มกันที่พี่ใหญ่ตัวล่าสุดกับ iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 6) ซึ่งเลือกใช้งานชิปทรงพลังของ Apple อย่าง M2 มาพร้อม CPU แบบ 8-core ที่ทำให้สามารถประมวลผลเครื่องได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับหน้าจอขนาดที่ใหญ่ ความคมชัดสวยงามสมจริงเอามาทำงานกราฟิกได้แบบลื่นไหล มอบความกระหึ่มให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสำหรับการนำไปดูหนังฟังเพลงและเล่นเกม อีกทั้งยังมีตัวกล้องที่มีความคมชัดทั้งหน้าและหลังเพื่อเก็บภาพความประทับใจได้อย่างสวยงาม

สเปก

• จอภาพ Liquid Retina XDR
• ขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้ว
• ความละเอียด 2732 x 2048
• ความสว่าง XDR: 1,000 นิต
• เทคโนโลยี ProMotion
• ชิป M2
• CPU แบบ 8-core
• GPU แบบ 10-core
• กล้องไวด์ 12MP
• กล้องอัลตร้าไวด์ 10MP
• วิดีโอระดับ 4K, ProRes
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP
• ระบบกล้อง TrueDepth
• ระบบเสียง 4 ลำโพง
• ไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ 5 ตัว
• ความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB, 2TB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• จอใหญ่คมชัดและขุมพลังที่รวดเร็วที่สุดใน iPad ตอนนี้

ข้อควรรู้

• ยิ่งความจุมากเท่าไหร่ ราคาก็สูงตามขึ้นเท่านั้น

iPad Pro 11 นิ้ว รุ่นที่ 4

ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท

สำหรับใครทีชอบความกะทัดรัดแต่ประสิทธิภาพนั้น iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 4) คือคำตอบที่ถูกต้องแล้ว ด้วยตัวประสิทธิภาพทรงพลังจากชิป M2 พร้อมหน้าจอที่ให้ความละเอียดมาสูง จะสร้างสรรค์ผลงานกราฟิกหรือจะเป็นงานตัดต่อต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้อย่างเต็มที่ เหล่า Tiktoker ทั้งหลายที่ต้องตัดคลิปในจังหวะเร่งด่วน ตัวนี้คือช่วยได้อย่างแน่นอน

สเปก

• จอภาพ Liquid Retina
• ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว
• ความละเอียด 2388 x 1668
• ความสว่าง SDR: 600 นิต
• เทคโนโลยี ProMotion
• ชิป M2
• CPU แบบ 8-core
• GPU แบบ 10-core
• กล้องไวด์ 12MP
• กล้องอัลตร้าไวด์ 10MP
• วิดีโอระดับ 4K, ProRes
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP
• ระบบกล้อง TrueDepth
• ระบบเสียง 4 ลำโพง
• ไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ 5 ตัว
• ความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB, 2TB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• น้ำหนักเบาและพกพาได้ง่าย

ข้อควรรู้

• ยิ่งความจุมากเท่าไหร่ ราคาก็สูงตามขึ้นเท่านั้น

iPad รุ่น 10

ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท

สำหรับใครที่ชอบสีสันพาสเทล iPad รุ่น 10 ตัวนี้ก็พร้อมจะตอบสนองความชอบในส่วนนี้ด้วยสีที่เลือกได้ถึง 4 สีคือ เงิน, ชมพู, ฟ้าและเหลือง ซึ่งนอกจากสีจะน่ารักแล้ว ราคาก็ยังน่ารัก สามารถเก็บเงินมาซื้อในเวลาอันสั้นได้อีกด้วย เข้าใช้งานได้ง่าย ๆ ด้วยปุ่มแสกนลายนิ้วมือที่หัวมุมของตัวเครื่อง โดยตัวเครื่องใส่ชิป A14 Bionic ที่มีประสิทธิภาพสูง ตัดต่อคลิป 4K ได้อย่างลื่นไหลไม่ต้องง้อคอมแม้แต่น้อย

สเปก

• จอภาพ Liquid Retina
• ขนาดหน้าจอ 10.9 นิ้ว
• ความละเอียด 2360 x 1640
• ความสว่าง SDR: 500 นิต
• ชิป A14 Bionic
• CPU แบบ 6-core
• GPU แบบ 4-core
• กล้องไวด์ 12MP
• วิดีโอระดับ 4K
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP แนวนอน
• ลำโพงสเตอริโอในแนวนอน
• ไมโครโฟน 2 ตัว
• ความจุ 64GB, 256GB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• เป็นรุ่นที่มีสีเครื่องที่สดใสที่สุดใน iPad

ข้อควรรู้

• เลือกความจุได้แค่ 64GB และ 256GB เท่านั้น

iPad รุ่น 9

ราคาเริ่มต้น 12,900 บาท

iPad รุ่น 9 สามารถพกพาออกไปใช้งานได้ทุกที่ ด้วยขนาดกะทัดรัดและแบตเตอรี่ที่ใช้งานข้างนอกได้ทั้งวัน มาพร้อมกับการเข้าใช้งานได้ง่ายดายจากปุ่มโฮมของเครื่อง รองรับการทำงานและความบันเทิงทุกรูปแบบ สามารถรังสรรค์งานต่าง ๆ ออกมาได้อย่างง่ายดายจาก Apple Pencil รวมไปถึงการโฟกันตรงกลางเสมอเมื่อใช้งานกล้องหน้า นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการ iPad ราคาไม่แรงแต่ตอบโจทย์การใช้งาน ต้องเครื่องนี้เลย

สเปก

• จอภาพ Retina
• ขนาดหน้าจอ 10.2 นิ้ว
• ความละเอียด 2160 x 1620
• ความสว่าง SDR: 500 นิต
• ชิป A13 Bionic
• CPU แบบ 6-core
• GPU แบบ 4-core
• กล้องไวด์ 8MP
• วิดีโอระดับ 1080p
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP
• ลำโพงสเตอริโอ
• ไมโครโฟน 2 ตัว
• ความจุ 64GB, 256GB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• พกพาได้ง่ายดายสามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่

ข้อควรรู้

• ไม่รองรับการถ่ายคลิปความคมชัดระดับ 4K

iPad Air รุ่น 5

ราคาเริ่มต้น 23,900 บาท

iPad Air รุ่น 5 เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับชิป M1 ที่มอบความรวดเร็วได้อย่างเต็มที่เสริมประสิทธิภาพด้วยมีเดียเอนจิ้น H.264 และ HEVC เร่งความเร็วได้อย่างเหนือชั้น ไม่ว่าจะเอาไปใช้ทำงาน เรียน รวมไปถึงดูหนังฟังเพลง อีกทั้งยังมีขนาดที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวก หยิบออกมาจากกระเป๋าได้อย่างถนัดมือ ส่วนเรื่องของความคมชัดก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะหน้าจอนั้นถ่ายทอดความคมชัดในระดับสูง มองเห็นทุกรายละเอียดได้อย่างเต็มตา

สเปก

• จอภาพ Liquid Retina
• ขนาดหน้าจอ 10.9 นิ้ว
• ความละเอียด 2266 x 1488
• ความสว่าง SDR: 500 นิต
• ชิป M1
• CPU แบบ 8-core
• GPU แบบ 8-core
• กล้องไวด์ 12MP
• วิดีโอระดับ 4K
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP
• ลำโพงสเตอริโอในแนวนอน
• ไมโครโฟน 2 ตัว
• ความจุ 64GB, 256GB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• Touch ID ในปุ่มด้านบน ทำให้สามารถรับชมหน้าจอได้อย่างเต็มที่

ข้อควรรู้

• เลือกใช้งานได้ 5 สี ได้แก่ เทาสเปซเกรย์, สตาร์ไลท์, ชมพู, ม่วง, ฟ้า

iPad mini รุ่นที่ 6

ราคาเริ่มต้น 19,900 บาท

ใครที่กำลังมองหา iPad รุ่นไหนดี ที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวก มีขนาดเล็กที่หยิบจับได้เพียงแค่มือเดียวก็ต้องเลือก iPad mini รุ่นที่ 6 ซึ่งเป็นรุ่นที่เล็กที่สุดในบรรดา iPad แม้จะขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพนั้นไม่ได้เล็กไปตามตัว ด้วยความแรงของชิป A15 Bionic รองรับการทำงานรวมไปถึงเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น ใช้งานได้ง่ายจาก Touch ID ด้านบน หยิบมาแล้วแสกนนิ้วได้เลยทันที

สเปก

• จอภาพ Liquid Retina
• ขนาดหน้าจอ 8.3 นิ้ว
• ความละเอียด 2360 x 1640
• ความสว่าง SDR: 500 นิต
• ชิป A15 Bionic
• CPU แบบ 6-core
• GPU แบบ 5-core
• กล้องไวด์ 12MP
• วิดีโอระดับ 4K
• กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ 12MP
• ลำโพงสเตอริโอในแนวนอน
• ไมโครโฟน 2 ตัว
• ความจุ 64GB, 256GB
• ใช้งานได้สูงสุด 10 ชั่วโมง

ข้อดี

• เป็นรุ่นที่เล็กที่สุดในบรรดา iPad พกพาได้สบาย

ข้อควรรู้

• ไม่รองรับ Magic Keyboard แต่สามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ด Bluetooth ทั่วไป

และนี่ก็คือ 8 iPad รุ่นไหนดี 2024 ที่จะเข้ามาทำให้ชีวิตของคุณนั้นสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สามารถหยิบจับขึ้นมาเพื่อใช้ทำงาน เรียน รวมไปถึงเล่นเกม พกพาออกไปใช้งานข้างนอกบ้านได้ตลอดทั้งวัน รับรองได้ว่าเมื่อได้มาใช้งานแล้ว จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คุณได้อย่างแน่นอน

ข้อมูลและภาพจาก : apple.com