ก่อนหน้านี้กูเกิลเปิดเผยว่า Pixel 8 จะได้ไม่ใช้งาน AI Gemini Nano เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งสร้างคำถามตามมาเพราะข้อจำกัดเดียวที่มีคือแรม และปริมาณแรม 8GB นี้ ก็เท่ากับ Galaxy S24 ล่าสุดกูเกิลเปลี่ยนใจแล้ว
โดย Pixel 8 จะได้ใช้งาน Gemini Nano ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมาพร้อมกับ Pixel Feature Drop รอบถัดไป คาดว่าอยู่ช่วงเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้กูเกิลก็พูดถึงข้อจำกัดฮาร์ดแวร์อีกครั้งด้วยว่า การรันโมเดล LLM บนโทรศัพท์ที่มีขนาดแรมแตกต่างกัน ย่อมให้ประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้กูเกิลได้ทดสอบการใช้งานบน Pixel 8 แล้วตัดสินใจอัปเดตให้ใช้งานได้ด้วยนั่นเอง
กูเกิลประกาศฟีเจอร์ใหม่ให้ Circle to Search ค้นหาสิ่งต่างๆ จากภาพบนหน้าจอ ให้รองรับการแปลภาษาด้วย
ปกติแล้วเราอาจใช้ Google Lens หรือฟีเจอร์กล้องใน Google Translate แปลภาษาสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในชีวิตจริงรอบตัว แต่หากเราต้องการแปลหน้าเว็บหรือรูปภาพที่แสดงผลบนหน้าจออาจทำได้ลำบาก (ต้องแคปหน้าจอก่อนแล้วค่อยเข้า Google Translate อีกที)
ฟีเจอร์ Circle to Search ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ ตัวอย่างการใช้งานคือเข้าหน้าเว็บร้านอาหาร ที่มีภาพเมนูในภาษาต่างประเทศ สิ่งที่ต้องทำมีเพียงกดปุ่ม Home ค้างเพื่อเรียก Google to Search ขึ้นมา มีปุ่มแปลภาษาเข้ามาใหม่ด้านล่าง กดแล้วแปลสิ่งที่อยู่บนจอได้ทันที
Google Maps มีฟีเจอร์ชื่อ Lists เป็นการสร้างรายการสถานที่ของเราเอง และแชร์แบ่งปันให้คนอื่นได้ ล่าสุดกูเกิลอัพเดตฟีเจอร์ Lists เพิ่มรายชื่อสถานที่ยอดนิยมในพื้นที่นั้นๆ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับพร้อมไอคอนที่แสดงในแผนที่ ดังนี้
ฟีเจอร์นี้ยังเปิดใช้งานเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา รองรับข้อมูลประมาณ 40 เมือง
กูเกิลออก Chrome for Windows รุ่นรองรับสถาปัตยกรรม Arm อย่างเป็นทางการ หลังทดสอบรุ่น Canary มาตั้งแต่เดือนมกราคม
ในประกาศของกูเกิลเป็นความร่วมมือกับ Qualcomm ในฐานะผู้ผลิตชิป Arm สำหรับพีซี และกำลังจะมีสินค้ากลุ่มที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite ออกจำหน่ายช่วงกลางปีนี้ การที่มี Chrome รุ่นเนทีฟบน Arm แก้ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพได้หมดจด ก็ย่อมลดอุปสรรคสำคัญของการขายพีซี Arm ลงไปได้อีกข้อหนึ่ง
เว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับ Windows on Arm แบบเนทีฟ ตอนนี้มี Microsoft Edge และ Firefox
MediaTek เป็นผู้ผลิตชิป SoC สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมสูงสุด โดยเฉพาะในตลาดล่างที่แข็งแกร่งมาก แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของชิป MediaTek คืออาจยังติดขัดเรื่องงานประสิทธิภาพสูงๆ อย่างการเล่นเกม
กูเกิลออก Android 15 Developer Preview 2 (DP2) มีการเปลี่ยนแปลงที่ระดับ OS หลายอย่าง ดังนี้
กูเกิลเผยแพร่งานวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature ว่าด้วยเทคโนโลยี Machine Learning ที่ถูกใช้ในการพยากรณ์การเกิดน้ำท่วมในสเกลทั่วโลก ซึ่งกูเกิลเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2008 ผ่านเครื่องมือ Flood Hub รองรับข้อมูลใน 80 ประเทศ
กูเกิลบอกว่า AI ปัจจุบันสามารถพยากรณ์การเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ได้ล่วงหน้าถึง 7 วัน จึงสามารถแจ้งข้อมูลในหน่วยงานรัฐบาลของประเทศนั้น ตลอดจนองค์กรมนุษยธรรมที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมการช่วยเหลือและลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติ
กูเกิลประกาศควบรวมเฟรมเวิร์ค Angular เข้ากับเฟรมเวิร์คภายในบริษัทอีกตัวชื่อ Wiz
Wiz เป็นเฟรมเวิร์คที่ถูกใช้งานภายในกูเกิลมานานแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยต่อคนนอก แนวทางการใช้งาน Wiz มักเป็นแอพฝั่งคอนซูเมอร์ เช่น Search, Workspace, YouTube ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ตอบสนองเร็ว ในขณะที่ Angular ใช้กับแอพฝั่งองค์กร แต่ภายหลังความแตกต่างของเฟรมเวิร์คสองตัวนี้ก็น้อยลงเรื่อยๆ ทำให้ทั้งสองทีมมาหารือกัน และตัดสินใจควบรวมมันเข้าด้วยกัน
เป็นอีกครั้งที่กูเกิลถูกทางการฝรั่งเศสสั่งปรับเงิน คราวนี้หน่วยงานป้องกันการผูกขาดฝรั่งเศส (Autorité de la concurrence) ได้สั่งปรับเงินอีก 250 ล้านยูโร หรือประมาณ 9,800 ล้านบาท จากความผิดละเมิดลิขสิทธิ์ของสำนักข่าว นำคอนเทนต์ไปเทรน AI โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ
เมื่อปี 2021 กูเกิลก็ถูกฝรั่งเศสสั่งปรับเป็นเงิน 500 ล้านยูโร เนื่องจากไม่เจรจาจ่ายเงินค่าใช้จ่ายบนหน้าเว็บไซต์ได้ทันตามกำหนด
สำหรับคำสั่งปรับเงินล่าสุดนี้ กูเกิลชี้แจงว่าจะไม่อุทธรณ์และยอมจ่ายเงิน โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้ทุกอย่างเดินต่อไปข้างหน้าได้ กูเกิลต้องการนำเนื้อหาข่าวที่มีคุณภาพส่งมอบกับผู้ใช้งาน และยินดีทำงานร่วมกับสำนักข่าวในฝรั่งเศสในประเด็นดังกล่าว
กูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดตให้อุปกรณ์ Android 12 ขึ้นไป สามารถใช้ตัวเลือกรูปภาพ (photo picker) แบบใหม่ ที่รองรับทั้งไฟล์รูปภาพในเครื่อง (local media library) และไฟล์รูปภาพบนคลาวด์ได้พร้อมกัน
photo picker แบบใหม่ถูกออกแบบมาตอบสนองการใช้งานรูปภาพในยุคหลัง ที่ภาพจากมือถือมักซิงก์ขึ้นคลาวด์ มีภาพจากหลายอุปกรณ์ถูกส่งขึ้นไปเก็บบนพื้นที่คลาวด์เดียวกัน ส่งผลให้ photo picker ตัวเดิมที่รองรับเฉพาะไฟล์ภาพแบบ local ไม่ตอบโจทย์ เราอาจต้องใช้วิธีดาวน์โหลดภาพจากคลาวด์ลงมาเก็บไว้ในเครื่องก่อนแล้วค่อยเลือกภาพไปใช้งานอีกที
จากรายงานข่าวก่อนหน้านี้ของ Bloomberg ว่าแอปเปิลกำลังเจรจากับกูเกิล รวมทั้งผู้พัฒนา AI รายอื่น เพื่อนำ Generative AI หรือ AI สร้างเนื้อหา มาใส่ใน iPhone ล่าสุด The New York Times ก็ร่วมยืนยันข่าวนี้จากแหล่งข่าวของตนเอง ว่าแอปเปิลกำลังเจรจากับกูเกิลจริง
The New York Times อ้างแหล่งข่าว 3 ราย บอกว่าการเจรจาของสองฝ่ายตอนนี้ยังเป็นขั้นต้น รายละเอียดข้อตกลงยังไม่มีการกำหนดออกมา ขณะเดียวกันแอปเปิลก็พูดคุยกับบริษัท AI อื่นด้วยเช่นกัน เป้าหมายเพื่อนำโมเดลภาษาขนาดใหญ่หรือ LLM มาใช้เรียนรู้ข้อมูลใน iPhone แล้วจัดการกับสร้างเนื้อหาขึ้นมา
กูเกิลประกาศความคืบหน้าเรื่อง AI เพื่อการแพทย์หลายอย่าง โดยมีทั้งการใช้โมเดลรุ่นเดิม PaLM 2 และโมเดลรุ่นใหม่ Gemini
PaLM 2
ปีที่แล้วกูเกิลนำ PaLM 2 โมเดลภาษารุ่นของปี 2023 มาปรับแต่ง (fine-tune) เพื่อการแพทย์ในชื่อ Med-PaLM 2 แล้วพัฒนาต่อเป็นชุดของโมเดลหลายๆ ตัวชื่อ MedLM เปิดให้เช่าใช้งานบนบริการ Vertex AI ของ Google Cloud
ล่าสุดกูเกิลออก MedLM for Chest X-ray นำโมเดลไปช่วยอ่านฟิล์มเอกซเรย์หน้าอก (เช่น ปอดและหัวใจ) ตอนนี้เริ่มเปิดให้ลูกค้าทดสอบแบบจำกัดวงแล้ว
กูเกิลปรับเปลี่ยนตำแหน่งฝ่ายบริหาร ส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการ Search โดยแต่งตั้ง Liz Reid หัวหน้าทีมเสิร์ชหลัก ขึ้นเป็นหัวหน้าฝ่าย Search ที่ดูแลทั้งหมด ขึ้นตรงกับรองประธาน Prabhakar Raghavan ที่ดูแลภาพรวมกูเกิลหลายผลิตภัณฑ์
Liz Reid ทำงานกับกูเกิลตั้งแต่ปี 2003 ดูแล Google Maps ในช่วงแรก ตลอดจน Local Search และการนำ AI มาช่วยพัฒนาแผนที่ ส่วนผลงานช่วงที่ดูแลบริการเสิร์ช ได้แก่ Multisearch, การค้นหาด้วยเสียง และล่าสุดการนำ AI มาผนวกกับเสิร์ชเดิม Search Generative Experience
Google Research เผยแพร่งานวิจัยหัวข้อ "VLOGGER: Multimodal Diffusion for Embodied Avatar Synthesis" เป็นโมเดล AI ที่ใช้อินพุทภาพบุคคล 1 ภาพ และไฟล์เสียง สามารถสร้างวิดีโอที่ขยับได้ตามเสียงทั้งปาก ใบหน้า ศีรษะ ตลอดจนมือ
โมเดลนี้มีจุดเด่นคือไม่ต้องอาศัยการเทรนข้อมูลบุคคลนั้นมาก่อน ไม่ต้องระบุตำแหน่งใบหน้าและส่วนต่าง ๆ ก็สามารถสร้างการเคลื่อนไหวในทุกจุดในภาพ โมเดลนี้จึงมีโอกาสนำไปต่อยอดใช้ในการนำเสนอผลงาน งานประกอบการสอน หรืองานที่เดิมมีข้อมูลเฉพาะตัวหนังสือ ให้เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามมีความเสี่ยงในการนำไปใช้งานอย่างไม่เหมาะสมด้วยเช่นกัน
Mark Gurman ขาประจำข่าววงใน Apple รายงานเพิ่มเติมจากจดหมายข่าว Power On ประจำสัปดาห์ ว่า Apple กำลังเจรจากับ Google ในการนำ Gemini มาใช้งานบน iPhone
กูเกิลปรับโลโก้ของเว็บไซต์ Fitbit อย่างเงียบๆ โดยยังไม่มีประกาศใดๆ จากเดิมโลโก้ของ Fitbit เขียนด้วย f ตัวเล็ก และมีสัญลักษณ์รูปจุดสีฟ้าต่อกันเป็นสี่เหลี่ยม ตอนนี้กลายเป็นคำว่า Google Fitbit เขียนด้วย F ตัวใหญ่ ใช้ฟอนต์ Google Sans และเอาสัญลักษณ์สีฟ้าออกไปแล้ว
ช่วงที่กูเกิลซื้อกิจการ Fitbit เสร็จใหม่ๆ เลือกใช้ชื่อแบรนด์ว่า Fitbit by Google โดยยังใช้โลโก้แบบเดิม ตอนนี้เวลาผ่านมา 3 ปีกว่าก็ได้เวลาปรับแบรนด์แล้ว
กูเกิลประกาศเพิ่มความสามารถของ Chrome ในการตรวจสอบเว็บไซต์ที่อันตรายหรือ Safe Browsing ตามที่ประกาศก่อนหน้านี้ จากเดิม Chrome ใช้ข้อมูลเว็บไซต์ที่เก็บใน local และอัพเดตทุก 30-60 นาที แต่กูเกิลบอกว่าเว็บไซต์อันตรายปัจจุบันมีระยะเวลาปรากฏเฉลี่ยที่ 10 นาทีเท่านั้น เบราว์เซอร์จึงต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยเวลาที่สั้นลง
กูเกิลประกาศปรับกระบวนการทำงานของ Google Safe Browsing ใน Chrome ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ ที่ผ่านมาการทำงานของ Safe Browsing ใช้วิธีดาวน์โหลดรายชื่อเว็บไซต์อันตรายมาเก็บไว้ในเครื่องเป็น local list แล้วค่อยตรวจสอบว่าเว็บที่ผู้ใช้เข้าตรงกับรายชื่อหรือไม่ รายชื่อจะอัพเดตทุกๆ 30-60 นาที ทำให้เกิด "ช่องว่างเวลา" ที่อาจมีเว็บเกิดใหม่ขึ้นมา หรือเว็บอันตรายที่ใช้วิธีเปิดๆ ปิดๆ เพื่อหลบการตรวจจับ (สถิติของกูเกิลบอกว่าเว็บอันตรายเหล่านี้จะเปิดมาเฉลี่ยประมาณ 10 นาทีแล้วปิดไป)
แนวทางใหม่ของ Safe Browsing เปลี่ยนมาทำงานออนไลน์ทั้งหมด Chrome จะเช็คกับรายชื่อเว็บอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์แบบเรียลไทม์ รายชื่อนี้จะอัพเดตตลอดเวลา อัพเดตทันทีเมื่อตรวจพบเว็บอันตรายเกิดใหม่ในตอนนั้น
กูเกิลประกาศจัดงาน Google I/O 2024 ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2024 โดยยังจัดงานที่ Shoreline Amphitheatre หน้าสำนักงานใหญ่ของกูเกิลที่เมือง Mountain View เช่นเดิม
สิ่งที่จะประกาศข่าวในงานมีทั้งเรื่อง AI, mobile, web, multiplatform development, cloud เราคงได้เห็นการประกาศข้อมูล Android 15 และการเปิดตัว Google Pixel 8a แบบเดียวกับปีก่อนๆ เช่นเดิม
ระหว่างรอ 2 เดือนกว่าจะถึงวันงาน กูเกิลก็ออก Google I/O Puzzle ให้เล่นกันตามธรรมเนียมด้วย
ที่มา - Google for Developers
กูเกิลรายงานการจ่ายเงินรางวัล สำหรับผู้แจ้งบั๊กช่องโหว่ของโครงการ Vulnerability Reward Program (VRP) ในปี 2023 โดยจ่ายเงินไป 10 ล้านดอลลาร์ ให้นักวิจัย 632 ราย ใน 68 ประเทศ
ตัวเลขนี้ลดลงจากปี 2022 ซึ่งกูเกิลจ่ายเงินไป 12 ล้านดอลลาร์ โดยในปีที่ผ่านมา การจ่ายเงินสูงสุดกับนักวิจัยหนึ่งการรายงานคือ 113,337 ดอลลาร์ ตัวเลขสะสมที่กูเกิลจ่ายมาตลอดโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2010 คือ 59 ล้านดอลลาร์
VRP ส่วนของการรายงานบั๊ก-ช่องโหว่ใน Android มีการจ่ายเงินไปรวม 3.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปีที่ผ่านมาขอบข่ายรวมไปถึง Wear OS ด้วย, Chrome มีการจ่ายเงินไป 2.1 ล้านดอลลาร์ จากการรายงานช่องโหว่ทั้งหมด 359 รายการ และส่วน Generative AI ที่เพิ่งเพิ่มมา มีทั้งหมด 35 การรายงาน จ่ายเงินไป 87,000 ดอลลาร์
กูเกิลมี Google Play Games บนวินโดวส์มาตั้งแต่ปี 2022 โดยเป็นการนำเกมเวอร์ชันแอนดรอยด์มาให้เล่นบนวินโดวส์ด้วย แนวคิดของกูเกิลคือใช้ฐานผู้เล่นเกมบนมือถือจำนวนมหาศาล ที่อาจต้องการเล่นเกมเดียวกันบนพีซี สร้างช่องทางจัดจำหน่ายเกมของตัวเองบนพีซี ปัจจุบัน Google Play Games มีเกมให้บริการมากกว่า 3,000 เกม ใน 140 ประเทศ
ล่าสุดกูเกิลประกาศขยาย Google Play Games เวอร์ชันวินโดวส์ ให้รองรับเกมเวอร์ชันพีซีด้วย เท่ากับว่าตอนนี้ Google Play Games จะมีสถานะเป็นคู่แข่งของร้านขายเกมบนพีซีรายอื่นๆ เช่น Steam, GOG, EA App (Origin เดิม), Ubisoft Connect (Uplay เดิม), Microsoft Store ทันที
กูเกิลประกาศแนวทางเพื่อรับมือการค้นหาข้อมูล ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งปีนี้จะมีการจัดการในหลายประเทศทั่วโลก โดยจำกัดการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งบนแชทบอต Gemini มีผลแล้วตั้งแต่วันนี้สำหรับผู้ใช้งานในอเมริกาและอินเดียก่อน
กูเกิลบอกว่าคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เป็นหัวข้อที่ต้องให้ข้อมูลคุณภาพสูงและแม่นยำ จึงจำกัดการค้นหาที่เกี่ยวข้องนี้บนผลิตภัณฑ์ที่เป็น Generative AI ทั้งหมด อยู่ในระดับเดียวกับคำค้นหาอื่นที่เป็นการก่อกวนซึ่งถูกจำกัดอยู่แล้ว
ผู้ใช้มือถือซัมซุงคงคุ้นเคยกับฟีเจอร์ DeX ที่ใช้มือถือต่อจอนอก แล้วแสดงผล UI เหมือนระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อป ถึงแม้ซัมซุงทำ DeX มายาวนาน แต่ฝั่งกูเกิลกลับไม่มีฟีเจอร์ลักษณะเดียวกันออกมาสักที แม้ว่า Android มีฟีเจอร์ desktop mode มาตั้งแต่ Android 10 แต่ก็ไม่เคยเปิดให้คนทั่วไปใช้งาน
กูเกิลร่วมมือกับโครงการ AI Singapore เปิดโครงการ SEALD (Southeast Asian Languages in One Network Data) สร้างชุดข้อมูลภาษาสำหรับใช้งานกับ large language model (LLM) ที่เน้นชาติอาเซียนโดยเฉพาะ โดยภาษาชุดแรกได้แก่ อินโดนีเซีย, ไทย, ทมิฬ, ฟิลิปปินส์, และพม่า
ตัวโครงการไม่ได้จำกัดเฉพาะชุดข้อมูล แต่รวมถึงการพัฒนาโมเดลแปลภาษา, สร้างแนวปฎิบัติในการสร้างชุดข้อมูล, สร้างเครื่องมือแปลงภาษา (translocalization), และเผยแพร่แนวทางการสร้างโมเดลในภาษาในชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขุดข้อมูลที่ได้จากโครงการนี้จะเป็นโอเพนซอร์สให้หน่วยงานอื่นๆ นำไปสร้าง LLM ได้ต่อไป
ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทำชุดข้อมูล และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะเปิดให้คนทั่วไปดาวน์โหลดได้
สำนักข่าว Reuters รายงานปัญหาที่เกิดขึ้นในสำนักงานใหญ่กูเกิลที่ Mountain View ซึ่งมีอาคารใหม่ Bay View ที่เพิ่งเปิดใช้งาน โดยพนักงานจำนวนมากพบปัญหา Wi-Fi ไม่สามารถใช้งานได้ดี ในหลายกรณีพนักงานต้องลากสายแลน หรือใช้โทรศัพท์เป็นฮอตสปอตแทนเลย
ตัวแทนของกูเกิลยืนยันปัญหานี้ โดยบอกว่าบริษัทกำลังปรับปรุงแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยคาดว่าจะดีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
มีรายงานว่าในบางกรณี ผู้จัดการทีมได้แนะนำให้พนักงานออกไปนั่งทำงานด้านนอกพื้นที่อาคาร หรือไปนั่งทำงานบริเวณคาเฟ่ เนื่องจากมีสัญญาณ Wi-Fi แรงกว่า หรือบางรายก็ได้แล็ปท็อปเครื่องใหม่ที่มีชิป Wi-Fi รุ่นใหม่กว่าเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวไปเลย