ต่อเนื่องจากที่มีรายงานว่า iFlix กำลังประสบปัญหาการเงิน ล่าสุดทุนใหญ่จากจีนอย่าง Tencent ประกาศซื้อกิจการ iFlix เรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่า
การซื้อกิจการ iFlix ก็เพื่อใช้เป็นฐานขยายตลาดของ WeTV บริการสตรีมมิ่งของ Tencent ที่ให้บริการนอกจีน โดยต่อยอดจากเทคโนโลยี เครือข่ายลูกค้ากว่า 25 ล้านคนและคอนเทนท์ของ iFlix ที่มีและเคยให้บริการเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งจากแถลงของโฆษก Tencent ก็คาดว่าน่าจะใช้ชื่อ WeTV ทำตลาดในภูมิภาคนี้ไปเลย
ที่มา - Campaign Asia
เว็บไซต์การเงิน DealStreetAsia รายงานข่าวว่า iflix บริการดูหนังสตรีมมิ่งสัญชาติมาเลเซีย เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน และต้องปลดพนักงานออกจำนวนหนึ่ง
iflix ยืนยันข่าวการปลดพนักงานกับ DealStreetAsia แต่ไม่ระบุจำนวนที่ชัดเจน บอกเพียงว่าต้องการลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้บริษัทอยู่รอดได้จากวิกฤต COVID-19 และยังตั้งเป้าว่าจะทำเงินเท่าทุน (break even) ได้ในปี 2021 ตามแผนเดิม
DealStreetAsia รายงานว่า iflix มีหนี้สะสมอยู่จำนวนหนึ่ง และต้องชำระหนี้ก้อนนี้ในเดือนกรกฎาคม 2020 หลังจากบริษัทเลื่อนแผนการขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย
TikTok จับมือกับ iflix ทำช่อง Channels On Demand ที่ผู้ใช้งาน iflix สามารถดูคลิปสั้น TikTok ได้แม้จะไม่ได้โหลดแอป TikTok มาใช้ โดยจะมีคลิปประเภทต่างๆ คัดแยกไว้ให้ดูสนุกๆ
เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานแอปหรือเว็บไซต์ iflix จะเห็นช่อง iflix and TikTok Present ตรงหมวด Channels On Demand ที่รวมเอาวิดีโอจากแหล่งผลิตอื่นๆ เข้ามาไว้ด้วยกัน
ประโยชน์ที่ TikTok จะได้คือ สร้างแบรนด์ตัวเองให้เป็นที่รู้จักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น และ iflix ก็มีคอนเทนต์ที่จะดึงดูดผู้ใช้งานให้ดูไปนานๆ
iflix แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งจากมาเลเซีย ประกาศรับเงินเพิ่มทุนรอบใหม่จากกลุ่มนักลงทุนนำโดย กองทุน Fidelity International รวมทั้งกลุ่มสื่อจากหลายประเทศ อาทิ MNC อินโดนีเซีย, Yoshimoto Kogyo ญี่ปุ่น และ JTBC เกาหลีใต้
ทั้งนี้ iflix ไม่ได้บอกจำนวนเงินเพิ่มทุนรอบนี้สุทธิ แต่บอกเพียงมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการระดมทุนรอบสุดท้ายก่อนที่บริษัทจะเตรียมไอพีโอต่อไป
จำนวนผู้ใช้งาน iflix ล่าสุดอยู่ที่ 17 ล้านบัญชี เน้นให้บริการในพื้นที่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, แอฟริกา และเอเชียตะวันออกกลาง
ที่มา: Telecom Paper
ผู้ให้บริการวิดีโอออนดีมานด์แบบสมัครสมาชิกในอาเซียน ได้แก่ ASTRO, dimsum, Fox+, HOOQ, iflix, Netflix, tonton และ TVB ร่วมมือกันประกาศแนวปฏิบัติด้านเนื้อหาเพื่อกำกับดูแลกันเองในอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ผู้บริโภค และให้แน่ใจว่าเนื้อหาถูกลิขสิทธิ์ ปราศจากถ้อยคำแสดงความเกลียดชัง อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง สื่อลามกอนาจาร และเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ
iFlix ประกาศเพิ่มตัวเลือกการให้บริการ เพิ่มตัวเลือกดูฟรี ไม่เสียเงิน แต่จำกัดจำนวนคอนเทนท์ ดูหนังได้แค่บางเรื่องหรือบางรายการ ขณะที่ซีรีส์ก็ได้แค่บางตอนเท่านั้น พร้อมมีโฆษณาด้วย
Mark Britt หนึ่งในผู้ก่อตั้งและซีอีโอระบุว่า โมเดลการจ่ายเงินค่าสมาชิกรายเดือนแบบของตะวันตกนั้น ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในตลาดใหม่ (emerging market) ที่ iFlix เน้นทำตลาดเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้แต่แรก จึงเป็นที่มาของการใช้โมเดลฟรีแต่มีโฆษณาครั้งนี้ ขณะที่คอนเทนท์สำหรับดูฟรีตอนนี้มีอยู่ราวๆ 5,000 คอนเทนท์ ซึ่ง Britt ระบุว่าจะเพิ่มให้เป็นราว 10,000 คอนเทนท์ในสิ้นปี
ที่มา - Tech in Asia
ตลาดบริการสตรีมมิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย การแข่งขันที่สำคัญที่สุดคือการหารายการยอดนิยมมาลงแพลตฟอร์มตัวเองให้ได้มากที่สุด Patrick Grove ผู้บริหาร iflix ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ระบุว่าวิธีการหารายการที่ควรซื้อมาลงแพลตฟอร์มคือปริมาณการดูเถื่อนนั่นเอง
ตามปกติแล้วช่องทีวีมักอาศัยข้อมูลจากรายงานราคาแพงที่ออกโดยบริษัทวิจัย
เช่น Nielsen แต่ทีมของ Grove ที่เน้นตลาดเกิดใหม่อย่างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะอาศัยทีมงานไปเดินกวาดซื้อแผ่นดีวิดียอดนิยม หรือไปหาผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อขอข้อมูลการดาวน์โหลดเถื่อน
วิธีการเช่นนี้ทำให้ทาง iflix ได้ข้อมูลที่หาได้ยาก เช่น รายการยอดนิยม 1,000 รายการแรกในซาอุดิ อารเบีย
Netflix ประสบความสำเร็จได้ด้วยการทำออริจินัลคอนเทนต์หรือคอนเทนต์ที่เป็นลิขสิทธิ์ของตัวเองโดยเฉพาะ iflix สตรีมมิ่งจากมาเลเซียที่ได้รับความนิยมไม่น้อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็พยายามแย่งส่วนแบ่งการตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ iflix ประกาศระดมทุนได้เพิ่ม 133 ล้านดอลลาร์ ผลักดันโปรดักชั่น และตั้งเป้าจะมีผู้ใช้พันล้านราย
iflix ผู้ให้บริการสตรีมภาพยนตร์ออนไลน์จากมาเลเซีย ที่พยายามชูจุดเด่นเรื่องคอนเทนท์ local ล่าสุดประกาศทำซีรีย์ออริจินัลของตัวเองแล้วชื่อ Magic Hour เป็นซีรีย์ความยาว 8 ตอน รีเมกมาจากภาพยนตร์สัญชาติอินโดนีเซียในชื่อเดียวกัน
นอกจากนี้ iflix ยังเริ่มดีลกับค่ายหนังในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อดึงเอาหนังใหม่ที่เพิ่งออกจากโรง โดยตอนนี้มีเพียงค่ายหนังในมาเลเซียเท่านั้น ที่ทาง iflix จะได้หนังใหม่หลังจากออกโรงราว 20 วัน
ที่มา - TechCrunch
iflix ผู้ให้บริการ Video On-Demand ประกาศความร่วมมือกับดารา นักแสดง นักร้องและผู้มีชื่อเสียง เปิดตัวฟีเจอร์ Playlists สำหรับการติดตามลิสต์ภาพยนตร์จากดาราและผู้มีชื่อเสียงคนโปรด โดยฟีเจอร์ Playlists จะแยกย่อยเป็นหน้าย่อยดังนี้
People รายชื่อดารานักแสดงและผู้มีชื่อเสียง พร้อมลิสต์ภาพยนตร์โปรดของพวกเขา ซึ่งผู้ใช้สามารถกดติดตามได้ โดยในอนาคตจะมีการเพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือน หากลิสต์ภาพยนตร์ที่เราติดตามมีการอัพเดต
Collection แยกประเภทของภาพยนตร์/ซีรีส์เป็นหมวดหมู่
My Playlist รายชื่อภาพยนตร์/ซีรีส์ที่เราบันทึกไว้เป็น Playlist จะย้ายมาอยู่ตรงแทน พร้อมด้วยรายชื่อ People ที่เรากดติดตาม
ลูกค้า TrueMove H รับสิทธิ์ดูภาพยนตร์และซีรีส์หลายพันเรื่องบน iflix นาน 90 วัน (มูลค่า 300 บาท) มีทั้งหนังฝรั่งฮอลลีวู้ด หนังเอเชียจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และการ์ตูน-อนิเมะมากมาย รองรับทั้งบนมือถือ แล็ปท๊อป แท็บเล็ต ทีวี สามารถดาวน์โหลดและดูออฟไลน์ได้
ลูกค้า TrueMove H สามารถกดรับสิทธิ์ได้เลย ไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรวุ่นวาย ดูได้ทันที โดยต้องกดรับสิทธิตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2559 เท่านั้น
ในขณะที่ผู้ให้บริการสตรีมวิดีโอรายใหญ่จากสหรัฐฯ ยังขยายออกไปต่างประเทศไม่ได้มาก ฝั่งรายย่อยแถบภูมิภาคต่างๆ ก็เริ่มเดินหน้าขยายบริการแข่งอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด iflix ผู้ให้บริการวิดีโอออนไลน์ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้จะระดมทุนเพิ่มอีก 150 ล้านเหรียญเพื่อขยายบริการไปยังภูมิภาคอื่นแล้ว
แผนขยายบริการครั้งนี้เป็นไปตามที่เคยมีข่าวว่า iflix เคยบอกว่าจะเปิดบริการเพิ่มในภูมิภาคอื่นเมื่อครั้งระดมทุนเพิ่ม 30 ล้านเหรียญเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากระดมทุนครั้งนี้เรียบร้อยก็จะเปิดให้บริการเพิ่มทั่วเอเชีย และขยายไปยังแถบตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยจะมีแผนการเข้าถึงลูกค้าเพิ่มด้วยการจับมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเพิ่มเติมไปพร้อมกัน
จากข่าวศึกยักษ์ชนยักษ์ ที่รีวิวผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ในประเทศไทย จะเห็นว่าช่วงนี้ธุรกิจนี้แข่งขันกันดุเดือดมาก
ล่าสุดทาง iflix ประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบจัดหนักเพื่อดึงลูกค้าเข้าระบบ โดยสมัครสมาชิกแบบรายปี 1 ปีแถมอีก 1 ปี พูดง่ายๆ คือ ได้อายุใช้งาน 2 ปีในราคา 1,000 บาท (ตกเดือนละ 41.6 บาท) หากเป็นสมาชิกและยังมีระยะเวลาใช้งานเหลืออยู่ ก็สามารถซื้อโปรนี้เพิ่มได้ ระบบจะทบอายุสมาชิกให้อัตโนมัติ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความเร็วของอินเทอร์เน็ตทั้งในบ้าน และนอกบ้านของประเทศไทยกำลังเติบโตด้วยความเร็วระดับก้าวกระโดด ผลักให้เกิดบริการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น หนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นบริการดูวิดีโอออนไลน์ที่เริ่มต้นด้วยการเป็นช่องทางใหม่ในการดูทีวีออนไลน์ ก่อนจะขยับไปสู่การเป็นช่องทางใหม่สำหรับดูหนังแบบตามสั่ง (on-demand) ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
เฟซบุ๊กเพจ iflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรีส์แบบบอกรับสมาชิกสัญชาติมาเลเซียที่เพิ่งเปิดบริการในไทยไม่นานนี้ โพสต์ประกาศว่า ตัวแอพ iflix สามารถดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอมาดูแบบออฟไลน์ได้แล้ว โดยเริ่มให้ทดลองใช้กับแอพบนระบบ Android ก่อน รองรับทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ส่วน iOS กำลังตามมา นับเป็นข่าวดีสำหรับคอหนังลิขสิทธิ์แต่อินเทอร์เน็ตไม่อำนวยครับ
ช่วงเวลา 16 นาฬิกาที่ผ่านมา iflix ได้ส่ง Invitation ให้ผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าเข้าไปสมัครสมาชิก และดูหนังเป็นที่เรียบร้อย หลังจากประกาศเตรียมเปิดตัวและลงทะเบียนล่วงหน้าเมื่อเดือนก่อน แต่ทาง Facebook ของ iflix ยังไม่แจ้งรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการส่งอีเมล
โดย iflix จะมีทั้งรายการทีวี การ์ตูนสำหรับเด็ก Anime โดยส่วนภาพยนตร์ส่วนมากจะเป็นภาพยนตร์เก่าเมื่อหลายปีที่แล้ว โดยมีซับไตเติ้ล ไทย มาเลย์ และอังกฤษ (ไม่มีพากย์ไทย) ลองชมภาพได้ท้ายข่าวครับ
iflix บริการ Subscription Video on Demand จากมาเลเซียเตรียมให้บริการในประเทศไทยเดือนหน้า ค่าบริการเดียวทั้งดูหนังและซีรีส์ไม่จำกัดเพียง 100 บาทต่อเดือน
iflix เป็นบริษัทในกลุ่มของ Catcha Group ซึ่งมีบริการในประเทศไทยอย่าง One2Car และ Ensogo ซึ่งได้จับมือกับผู้บริหารและโปรดิวเซอร์จาก Hollywood ในการแก้ปัญหาภาพยนตร์และซีรีส์ผิดลิขสิทธิ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย iflix ได้เปิดบริการไปแล้วในมาเลเซียและฟิลิปปินส์และค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก และประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาค