ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาผู้ใช้นาฬิกาออกกำลังกายจำนวนมากรายงานความผิดปกติเหมือนๆ กัน คืออยู่ๆ นาฬิกาก็จับพิกัดผ่านดาวเทียมเช่น GPS ผิดพลาด ทำให้เส้นทางการออกกำลังกายดูแปลกประหลาด และหลายครั้งนาฬิกาก็ปรับพิกัดกลับไปถูกต้องได้เองเมื่อเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง
จุดร่วมของนาฬิกาหลากยี่ห้อเหล่านี้คือชิป GPS ของโซนี่ที่แบรนด์ดังแทบทั้งหมดใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Garmin, Polar, หรือ Suunto แต่ยังไม่แน่ชัดนักว่าทำไมนาฬิกาเหล่านี้จึงผิดพลาดเหมือนๆ กันไปทั้งหมด เว็บ DC Rainmaker ระบุว่าความเป็นไปได้หนึ่งคือไฟล์ทำนายตำแหน่งดาวเทียมผิดพลาด หรืออาจจะเป็นเพราะปี 2020 มี 53 สัปดาห์ทำให้ซอฟต์แวร์ภายในคำนวณวันผิดไป
บริษัทวิจัยตลาด IDC รายงานภาพรวมตลาดอุปกรณ์สวมใส่ของไตรมาสที่ 3 ปี 2020 มีจำนวนส่งมอบ 125 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 35.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน สินค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นสมาร์ทวอทช์ และอุปกรณ์เกี่ยวกับการฟัง IDC ระบุว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตลาดนี้เติบโต มาจากคนลดค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยว เดินทาง ทำให้เกิดการซื้อสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้น
แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 33.1% (AirPods, Apple Watch) ตามด้วย Xiaomi ในอันดับสอง มีจำนวนส่งมอบ 17 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นสายรัดข้อมือพื้นฐานถึง 12.8 ล้านชิ้น และหัวเหว่ยในอันดับที่สาม
Xiaomi เปิดตัว Redmi Watch สมาร์ทวอชภายใต้แบรนด์ Redmi เป็นครั้งแรก โดยเน้นที่ราคาย่อมเยาตามการวางตำแหน่งการตลาดของแบรนด์ Redmi
สมาร์ทวอชของ Redmi มีหน้าจอเป็นสี่เหลี่ยมพร้อมกระจกโค้งขนาด 1.4 นิ้ว มีปุ่มเดียวอยู่ข้างตัวเรือน ส่วนที่เหลือจัดการผ่านหน้าจอสัมผัสหรือแอป Mi Fit บนสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับตัวนาฬิกา
สเปคภายในตัวเครื่อง Redmi Watch มี NFC, Bluetooth 5.0, ระบบวัดอัตราการเต้นหัวใจ, กันน้ำลึกสุด 50 เมตร, แบตเตอรี่อยู่ได้ 7 วัน หรือนานสุดถึง 12 วันหากใช้โหมดประหยัดพลังงาน
แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch SE สมาร์ตวอชราคาประหยัดที่ใช้ชิปเซ็ต S5 ชุดเดียวกับ Apple Watch 5 แต่รูปร่างแบบเดียวกับ Apple Watch 6 ใส่สายรัดข้อมือแบบใหม่ได้
Apple Watch SE มาพร้อมกับ watchOS 7 ตัวเซ็นเซอร์ มี accelerometer, gyroscope, altimeter, motion sensor, และไมโครโฟน รองรับการตรวจจับการล้ม หรือเตือนเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมเสียงดังเกินไป การเชื่อมต่อมีทั้ง GPS, Wi-Fi, Bluetooth 5.0
รุ่นเริ่มต้นราคา 279 ดอลลาร์ ราคาไทย 9,400 บาท รุ่นเซลลูลาร์เริ่มต้น 329 ดอลลาร์ ราคาไทย 10,900 บาท เริ่มขายวันศุกร์ที่ 18 กันยายนนี้
Fitbit สมาร์ทวอทช์สายฟิตเนส ออกรุ่นใหม่สองรุ่นคือ Firbit Sense และ Versa 3 กับสมาร์ทแบนด์เน้นการออกกำลังกาย Inspire 2
Fitbit Sense มาแทนตระกูล Fitbit Ionic เป็นรุ่นเรือธงใหม่ของ Fitbit หน้าจอ AMOLED พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงเพื่อปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ มี GPS ในตัว มีไมค์และลำโพงไว้รับโทรศัทพ์ได้ผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth มีเซ็นเซอร์ EDA (elctro dermal activity) ใช้วัดความเครียดจากค่าความเหนี่ยวนำไฟฟ้าใต้ผิวหนังที่เกิดจากเหงื่อ มาพร้อมฟีเจอร์วัดความเครียดแบบใหม่ในแอป
Amazfit แบรนด์สมาร์ทวอทช์จากจีนในเครือ Huami บริษัทลูกของ Xiaomi อีกที เปลี่ยนชื่อแอพทั้งบน Google Play และ App Store จากเดิมชื่อ Amazfit เป็น Zepp แล้ว โดย Zepp เป็นชื่อบริษัทสร้างเซ็นเซอร์วัดค่าต่างๆ ในการเล่นกีฬาที่ Huami ซื้อกิจการมาในปี 2018
การรีแบรนด์ครั้งนี้ Huami ระบุว่าเป็นไปเพื่อการพัฒนาแอพนี้เพื่อเตรียมรองรับอุปกรณ์เพิ่มเติมหลายชนิดในอนาคต และเพื่อมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพระดับมืออาชีพที่ใช้งานง่ายให้กับผู้ใช้ และใน change log ของแอพ ก็ระบุว่าตอนนี้แอพรองรับนาฬิกา Zepp E ของบริษัท Zepp เพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว ส่วน Amazfit จะมีอุปกรณ์อะไรวางจำหน่ายอีก คงต้องติดตามกันต่อไป
Counterpoint Research เปิดข้อมูลว่าตลาดสมาร์ทวอทช์ เติบโตสวนทางตลาดมือถือในครึ่งปีแรกของปี 2020 เพราะปัจจัยความกังวลด้านสุขภาพของผู้คนทำให้ดีมานด์เพิ่มขึ้น และตลาดสมาร์ทวอทช์มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 20% จากครึ่งปีแรกของปี 2019 อันดับหนึ่งของตลาดยังเป็น Apple ที่ครองส่วนแบ่งรายได้ 51.4% ส่วนใหญ่มาจากดีมานด์ของ Apple Watch Series 5 ที่ยังสูงอยู่ รองลงมาเป็น Garmin ที่ 9.4%, Huawei 8.3%, Samsung 7.2% และ iMoo 5.1%
หลังจากหลุดกันมาหลายรอบ ในงาน Galaxy Unpacked วันนี้ Samsung ก็เปิดตัว Galaxy Watch 3 แล้ว มาพร้อมชิป Exynos 9110 มีสองขนาดคือ 41 มิลลิเมตร หน้าจอ 1.2 นิ้ว และ 45 มิลลิเมตร หน้าจอ 1.4 นิ้ว เป็นหน้าจอ OLED ครอบด้วย Gorilla Glass ตัวเรือนเป็นสแตนเลส (แต่จะมีรุ่นไทเทเนียมวางจำหน่ายทีหลัง) ตัวเรือน Samsung กล่าวว่ามีขนาดบางลง 14% เล็กลง 8% และน้ำหนักเบาลง 15% รองรับ NFC กันน้ำ 5ATM (50 เมตร) และมีรุ่น LTE
Oppo เตรียมเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ในวันที่ 31 กรกฎาคมที่จะถึง โดยจะเป็นสมาร์ทวอทช์ที่รัน Wear OS รุ่นแรกของแบรนด์ หน้าตาคล้าย OPPO Watch รุ่นที่เปิดตัวไปในจีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
แม้จะยังไม่มีข้อมูลสเปกของสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่นี้ แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้สเปกเดียวกันกับ OPPO Watch รุ่นที่วางขายในจีน โดยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่จะเปิดเผยในวันเปิดตัวสิ้นเดือนนี้
ที่มา - Engadget
Xiaomi Youpin เปิดตัว Haylou LS05 Solar สมาร์ทวอทซ์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่แสตนบายได้ถึง 30 วันพร้อมทั้งโหมดออกกำลังกาย 12 แบบ ในราคาที่จับต้องได้
Haylou LS05 Solar มีหน้าจอแบบ TFT ขนาด 1.28 นิ้ว ความละเอียด 240x240 มาพร้อมกับตัวเครื่องโลหะและสายซิลิโคน กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 นอกจากนี้ ยังจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 340 mAh สแตนบายได้สูงสุด 30 วัน
Haylou LS05 Solar ยังมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งโหมดออกกำลังกายแบบใหม่ 12 โหมด
Haylou LS05 Solar สนนราคาอยู่ที่ 179 หยวน (ประมาณ 800 บาท) วางขายแล้วบนเว็บไซต์ Xiaomi Youpin
แอคเคาท์ Weibo ของโรงงาน OEM ในจีน เผยว่า Xiaomi เตรียมเปิดตัว Mi Band 5 ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ และจะวางขายสมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ พร้อมทั้งเตรียมลดราคา Mi Band 4 ในจีนวันที่ 18 มิถุนายน ซึ่งตรงกับเทศกาลช้อปออนไลน์ 618 ของจีน
Montblanc เปิดตัวสมาร์ทวอช Summit 2+ ซึ่งเป็นนาฬิการุ่นต่อจาก Summit 2 อย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมฟีเจอร์เชื่อมต่อ LTE ในตัว แต่ยังคงใช้ Snapdragon Wear 3100 และคงรูปลักษณ์คล้าย ๆ เดิม
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Montblanc Summit 2+ คือตัวนาฬิกามี LTE และ GPS เพิ่มเข้ามาในตัว ทำให้ตัวเรือนหนาขึ้นจาก 42 มิลลิเมตรเป็น 43.5 มิลลิเมตร ซึ่งตัวนาฬิกาใช้ระบบ eSIM สามารถตั้งค่ากับค่ายโทรศัพท์ที่รองรับได้ทันที (ตอนนี้ใช้งานได้เฉพาะ Verizon) สามารถโทรศัพท์, ส่งข้อความ, ฟังสตรีมมิ่ง และอื่น ๆ จากนาฬิกาได้โดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟน
บัญชีทวิตเตอร์ของ Oppo ได้เปิดเผยหน้าตาของ Oppo Watch สมาร์ทวอทช์ตัวแรกอย่างเป็นทางการ โดยมีหน้าปัดเป็นทรงสี่เหลี่ยม ปุ่มด้านข้าง 2 ปุ่ม แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดสเป็กอื่นเพิ่มเติมในตอนนี้
อย่างไรก็ตามจากภาพที่ Oppo เปิดเผยนั้น ทำให้พอคาดเดาฟีเจอร์บางอย่างใน Oppo Watch ได้ อาทิ การโทรออก-รับสาย จนถึงส่งข้อความตอบกลับได้
ก่อนหน้านี้ Brian Shen ผู้บริหารของ Oppo ได้เผยภาพ Oppo Watch แต่ไม่ชัดเจนมาก ระบุสเป็กว่าเป็นจอโค้ง กระจกแบบ 3D
Oppo Watch กำหนดเปิดตัวในวันที่ 6 มีนาคมนี้ พร้อมกับ Oppo Find X2
Mobvoi บริษัทพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่เปิดตัวสมาร์ทวอช TicWatch Pro รุ่นใหม่ เป็นรุ่นอัพเกรดจาก TicWatch Pro สมาร์ทวอช Wear OS ที่เปิดตัวเมื่อสองปีที่แล้ว
ฟีเจอร์สำคัญของ Mobvoi คือตัวนาฬิกาผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน Military Standard 810G (MIL-STD-810G) จึงการันตีความทนทานต่ออุณหภูมิหรือสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายมากยิ่งขึ้น โดย Mobvoi เคลมว่านาฬิกาสามารถทำงานได้แบบไม่มีปัญหาตั้งแต่อุณหภูมิ -20 จนถึง 55 องศาเซลเซียส และทำงานใต้น้ำลึก 1.49 เมตรได้นานสุดถึง 30 นาที
Xiaomi เปิดตัว Watch Color สมาร์ทว็อชรุ่นใหม่ของทางบริษัทแบบเงียบ ๆ ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีกำหนดวางขายในวันที่ 3 ม.ค. นี้ ในตอนแรก Xiaomi ไม่เผยสเป็กของนาฬิกา แต่ล่าสุดมีภาพกล่องสินค้าหลุดมาใน Weibo ที่ช่วยเผยสเปกของนาฬิกา
สเป็กของ Xiaomi Watch Color ที่ทราบจากหน้ากล่อง คือ หน้าปัดเป็น AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454x454 พิกเซล, เชื่อมต่อไร้สายด้วย NFC / Bluetooth 5.0 / GPS / GLONASS, แบตเตอรีจุ 420 mAh Xiaomi เคลมว่าชาร์จแล้วใช้ได้นานสุด 14 วัน, กันน้ำมาตรฐาน 5ATM, มีฟังก์ชั่นจับอัตราการเต้นของหัวใจ ส่วนระบบปฏิบัติการยังไม่ทราบแต่ TechRadar คาดว่าใช้ Wear OS เหมือน Mi Watch ราคาของ Xiaomi Watch Color อยู่ที่ 799 หยวนหรือราว 3,400 บาท มีสีดำ, ทองและเงิน
เทรนด์การรักษาสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ผู้ใช้หันมาสนใจสมาร์ทว็อชมากขึ้น และถ้าสังเกตจะเห็นว่าแบรนด์นาฬิกาชั้นนำหลายแบรนด์ก็ผลิตนาฬิกาประเภทนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึง Huawei Watch GT 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมก็เป็นสมาร์ทว็อชอีกรุ่นที่มาพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
รีวิวนี้ผู้เขียนนำ Huawei Watch GT 2 ไปใช้งานมาหนึ่งสัปดาห์แบบผู้ใช้ทั่วไป ไม่ได้เข้าฟิตเนส ว่ามีจุดไหนน่าสนใจและมีจุดแตกต่างจาก Apple Watch ที่เคยใช้งานมาก่อนแค่ไหน
หลังจากผู้บริหาร Moto ประกาศระงับการออกสมาร์ทว็อชรุ่นใหม่แบบไม่มีกำหนดก็ผ่านไปสามปี ตอนนี้สมาร์ทว็อช Moto 360 รุ่นใหม่กลับมาทำตลาดอีกครั้งโดยร่วมมือกับบริษัท eBuyNow บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ซื้อไลเซนส์แบรนด์สินค้ามาผลิตสินค้าและทำตลาด
Moto 360 วางขายราคา 350 ดอลลาร์หรือราว 10,500 บาท เริ่มขายในสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักรก่อน ตอนนี้เปิดให้จองสินค้าที่เว็บไซต์ Moto 360 ส่วนสเปกมีดังนี้:
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics ออกรายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2019 จำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน เป็น 14.2 ล้านชิ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากความต้องการด้านฟิตเนสและตัววัดสุขภาพ จากฐานผู้ใช้สมาร์ทโฟนเดิม ผลักดันให้ยอดขายสมาร์ทวอทช์เพิ่มขึ้น
ส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ยังเป็นของแอปเปิลต่อไป ที่ 47.9% ตามด้วยซัมซุง 13.4% และ Fitbit ในอันดับ 3 ที่ 11.3%
ในภาพรวมนั้นมีเพียงแอปเปิลและซัมซุงที่ทำส่วนแบ่งยอดขายได้เพิ่มสูงขึ้น ส่วน Fitbit มีส่วนแบ่งที่ลดลง นักวิเคราะห์ของ Strategy Analytics จึงตั้งข้อสงสัยว่าหลังการขายกิจการให้กูเกิลนั้น Fitbit จะมีอนาคตอย่างไรต่อไป ซึ่งจะเห็นผลที่ส่วนแบ่งการตลาดในอนาคตนั่นเอง
Fossil เปิดตัวสมาร์ทวอชใหม่ Hybrid HR โดยเป็นนาฬิกาแบบไฮบริดสมาร์ทวอชที่ใช้หน้าจอ e-ink ที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา และรันซอฟต์แวร์ของตัวเอง ไม่ใช้ Wear OS ของ Google
หน้าจอของ Fossil Hybrid HR เป็นหน้าจอแบบ e-ink จึงทำให้ใช้งานได้แบบ always-on โดยจออยู่ด้านล่างจากหน้าปัดนาฬิกาและเข็มอีกทีหนึ่ง สามารถใส่ complication ได้ 4 ตัว เช่น ก้าวเดิน, เวลาที่ timezone อื่น หรือการแจ้งเตือนโทรศัพท์ และมีแสงใต้จอสามารถเปิดใช้งานได้เมื่ออยู่ภายใต้ที่มืด
ตัวเครื่อง Fossil Hybrid HR มาพร้อมเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและเซนเซอร์ PPG ส่วนซอฟต์แวร์จะใช้ซอฟต์แวร์ของ Fossil เอง ไม่ได้พัฒนาอยู่บน Wear OS ของ Google
Xiaomi จะจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ มีมือถือรุ่นใหม่ในชื่อ Xiaomi Mi CC9 Pro (คาดใช้ชื่อ Mi Note 10 ทำตลาดทั่วโลก) ติดกล้อง 5 ตัวกับแฟลช 4 ดวง กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ซูมได้ 5X โดยไม่เสียรายละเอียด นอกจากนี้จะมีทีวีในชื่อ Mi TV 5 กับนาฬิกา Mi Watch เปิดตัวในงานด้วย
ทาง XDA-Developers ระบุว่า Mi CC9 Pro เป็นมือถือเครื่องที่ 2 จาก 4 เครื่อง ที่จะใช้เซนเซอร์ Samsung ISOCELL Bright HMX ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล และทาง XDA-Developers คาดว่า Mi CC9 Pro น่าจะเป็นรุ่นที่ซูม 50X ได้ตามที่มีข้อมูลหลุดมา โดยเครื่องแรกเป็น Xiaomi Mi Mix Alpha ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ สเปคคร่าว ๆ ที่ทาง DroidShout คาดไว้คือ
Samsung ประเทศไทยเปิดตัวสมาร์ทว็อชรุ่นใหม่ในชื่อ Galaxy Watch Active 2 แบ่งเป็นสองขนาดคือ 40 และ 44 มิลลิเมตร เน้นผู้ใช้ที่ชอบออกกำลังกายและการวิ่ง ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจด้วยแสงเลเซอร์ ผ่านมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 + 5ATM และ MIL-STD-810G
สเปคของ Galaxy Watch Active 2 จะมีดังนี้:
Puma แบรนด์สินค้าด้านกีฬาได้เปิดตัวสมาร์ทวอชแบรนด์ตัวเองเป็นครั้งแรกในงาน IFA 2019 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Puma กับ Fossil Group ที่ใช้เวลากว่า 12 เดือนในการพัฒนา
สำหรับสมาร์ทวอชเรือนแรกของ Puma ใช้ชิพ Snapdragon Wear 3100 จาก Qualcomm พร้อมหน้าจอวงกลม AMOLED 1.19 นิ้ว มีเคสขนาด 44 มิลลิเมตร รัน Wear OS จาก Google มีพื้นที่เก็บข้อมูล 4GB, แรม 512MB, แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 24 ชั่วโมง พร้อมกับฟีเจอร์จาก Wear OS อย่างเช่น จ่ายเงินผ่าน NFC และ Google Assistant เป็นต้น
สมาร์ทวอชจาก Puma จะเน้นกลุ่มผู้ใช้งานขณะออกกำลังกายเป็นหลัก ตัวนาฬิกาจึงออกแบบให้เบา น้ำหนักเพียง 0.06 ปอนด์ และกันน้ำในตัว พร้อมกับฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ติดตามการออกกำลังกาย และอื่น ๆ
Michael Kors แบรนด์นาฬิกาในเครือ Fossil เปิดตัว Access สมาร์ทวอช Wear OS ทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ Lexington 2, Bradshaw 2 และ MKGO ซึ่งทั้งหมดอยู่บนแพลตฟอร์มสมาร์ทวอช Fossil Gen 5 ทำให้มีฟีเจอร์คล้าย ๆ กันหลายอย่าง
สำหรับนาฬิกาสองเรือนแรกคือ Lexington 2 และ Bradshaw 2 ตัวนาฬิกาใช้ Snapdragon Wear 3100 มีแรม 1GB พร้อมหน้าจอ OLED 1.28 นิ้ว มีขนาดเคส 44 มิลลิเมตร ใช้งานกับสายนาฬิกา 22 มิลลิเมตรได้ พร้อมทั้ง NFC, GPS, กันน้ำ 3 ATM, ลำโพง ซึ่งบนตัวนาฬิกามีปุ่มสามปุ่ม โดยหนึ่งในนั้นเป็นเม็ดมะยมที่หมุนได้
Michael Kors Access ทั้ง Lexington 2 และ Bradshaw 2 จะวางจำหน่ายเริ่มต้น 350 ดอลลาร์
Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอชรุ่นใหม่ Fenix 6 ซึ่งเป็นรุ่นอัพเกรดจาก Fenix 5 โดยในซีรีส์นี้มีสามรุ่นคือ Fenix 6 เป็นรุ่นปกติ, Fenix 6S และ Fenix 6X โดย Garmin เพิ่มตัวเลือกดีไซน์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าเลือกหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยมีไฮไลต์คือรุ่นท็อปสุดเป็นรุ่นชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแผงโซลาร์ และขยายหน้าจอรุ่นปกติเป็น 1.3 นิ้ว
สำหรับนาฬิกา Fenix 6 จะบางและเหมาะกับข้อมือมากกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยรุ่นปกติ Fenix 6 มีหน้าปัด 47 มิลลิเมตร และ Fenix 6X หน้าปัด 51 มิลลิเมตร ซึ่ง Garmin มีตัวเลือกหน้าจอกระจกแซฟไฟร์ที่กันรอยขีดข่วนให้ และมีตัวเลือกหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 1.4 นิ้วในรุ่น 6X ด้วย
Misfit แบรนด์นาฬิกาภายใต้ Fossil เปิดตัว Vapor X สมาร์ทวอช Wear OS รุ่นใหม่ในไลน์ Vapor ซึ่งเป็นสมาร์ทวอชพรีเมียมของ Misfit โดยเน้นการปรับปรุงเรื่องดีไซน์และสเปค ส่วนฟีเจอร์ต่าง ๆ จะยังคงคล้ายกับ Vapor 2
Vapor X ใช้หน้าจอ AMOLED 1.19 นิ้ว พร้อมเคสอะลูมิเนียมอัลลอย 42 มิลลิเมตร มีให้เลือก 5 สี น้ำหนัก 43 กรัม ใช้ชิพ Snapdragon Wear 3100 พร้อมแรม 512MB และพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวนาฬิกา 4GB โดย Misfit ได้ปรับปรุงให้ Vapor X ประหยัดแบตเตอรี่ขึ้น ชาร์จหนึ่งครั้งอยู่ได้นานกว่าเดิม รวมถึงเพิ่มโหมดประหยัดแบตเตอรี่และโหมดชาร์จไวที่ชาร์จเพียง 1 ชั่วโมงก็เกือบเต็มแล้ว