แอปเปิลออกอัปเดตระบบปฏิบัติการทั้งหมดได้แก่ iOS 18.1, iPadOS 18.1, macOS Sequoia 15.1 ซึ่งสามตัวแรกนี้มีของใหม่สำคัญคือ Apple Intelligence นอกจากนี้ยังออกอัปเดตระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์อื่นด้วย รายละเอียดดังนี้
แอปเปิลออกอัปเดตย่อยให้กับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS เพื่อแก้ไขปัญหาหลายอย่างที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ เช่น ปัญหาจอทัชตอบสนองช้าใน iPhone 16 Pro หรือปัญหาเครื่องดับไปเลยสำหรับ iPad Pro ชิป M4
รายละเอียดอัปเดตทั้งหมดมีดังนี้
ในวันนี้แอปเปิลออกอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ประจำปี ให้กับผู้ใช้งานทั่วไป หลังจากออกรุ่นทดสอบให้นักพัฒนาไปก่อนหน้า ซึ่งครั้งนี้มาครบทั้งของ iPhone, iPad, Apple Watch, Mac, Apple TV, Apple Vision Pro และ HomePod มีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลออกอัปเดตระบบปฏิบัติการทั้งหมดในเครือ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป โดยทั้งหมดเป็นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยต่าง ๆ เนื่องจากมีการแก้ไขช่องโหว่หลายรายการรวมทั้งเคอร์เนล Siri และ WebKit ผู้ใช้งานจึงควรอัปเดต
รายละเอียดอัปเดตทั้งหมดมีดังนี้
หนึ่งในไฮไลท์ที่แอปเปิลประกาศในงาน WWDC24 คือการแยกแอปสำหรับจัดการรหัสผ่านของบริการต่าง ๆ Passwords ออกมาโดยเฉพาะ โดยจะมีให้ใช้งานทั้งใน iOS 18, iPadOS 18, macOS Sequoia และ visionOS 2
Passwords ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่สำหรับแอปเปิล เพราะความสามารถจัดการรหัสผ่านแบบข้ามอุปกรณ์นั้นมีอยู่ใน Settings ซิงก์ข้อมูลผ่านบัญชี iCloud มานานแล้ว แต่หลายคนอาจไม่ทราบ แอปเปิลจึงเลือกเปิดตัวแอปแยกออกมาเพื่อผลักดันให้คนใช้งานมากขึ้น
หน้าตาของแอป Passwords นั้นคล้ายกับ Reminders โดยแยกหัวข้อย่อยตามการจัดการรหัสผ่านต่าง ๆ ได้แก่ All, Passkeys, Codes, Wi-Fi, Security และ Deleted รวมทั้ง Family Passwords หากมีการใช้งาน Family Sharing
ในงานแถลงข่าวคีย์โน้ต WWDC24 แอปเปิลได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ประจำปีของอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้มีสถานะพรีวิวเบต้า ให้นักพัฒนาได้นำไปทดสอบใช้งาน ก่อนที่จะเปิดให้อัปเดตทั่วไปช่วงปลายปี
ประเด็นที่วนกลับมาทุกปีก็คือ แล้วอุปกรณ์รุ่นไหนบ้างที่สามารถอัปเดตไประบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่นี้ได้ และรุ่นไหนที่หยุดการอัปเดตไว้ที่ตรงนี้
iPhone รุ่นที่สามารถอัปเดตเป็น iOS 18 ได้มีดังนี้
แอปเปิลนำเสนอ visionOS 2 ระบบปฏิบัติการ Spatial Computing สำหรับเฮดเซต Apple Vision Pro เวอร์ชันใหม่ ซึ่งเพิ่มความสามารถในการแสดงรูปภาพ, คำสั่งมือ และเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา
Photos เพิ่มความสามารถสร้างรูปภาพแบบ Spatial ที่มีมิติความลึกมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแชร์อัลบั้มภาพระหว่างผู้ใช้คนอื่นผ่าน SharePlay ทำให้ได้ประสบการณ์ดูรูปภาพร่วมกันแบบใหม่ นอกจากนี้แอปเปิลยังประกาศว่า Canon จะออกเลนส์ Spatial ตัวใหม่สำหรับกล้อง EOS R7 ภายในปีนี้ ทำให้ครีเอเตอร์สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Spatial ได้ จากปัจจุบันมีใน iPhone 15 Pro
ไมโครซอฟท์ประกาศนำ OneNote ลงเฮดเซต Vision Pro ของแอปเปิล ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ปรับปรุงสำหรับ visionOS โดยเฉพาะ ต่อจาก Teams, Word, Excel, PowerPoint และ Outlook ที่มีให้ใช้งานก่อนหน้านี้
OneNote บน Vision Pro มีฟีเจอร์หลายอย่างเหมือนกับเวอร์ชันบน iPad ทั้งการจดบันทึก จดบันทึกสั้น ตั้งรายการต้องทำ สร้างบันทึกแบบมีรหัสผ่าน ทั้งหมดสามารถซิงก์กับบัญชี OneDrive เพื่อใช้งานบนแพลตฟอร์มอื่นได้ อินพุทที่รองรับมีทั้งโหมดแฮนด์ฟรี และแบบใช้เมาส์-คีย์บอร์ด
ไมโครซอฟท์บอกว่า OneNote บน Vision Pro ในเวอร์ชันถัด ๆ ไปที่จะออกมา จะรองรับการทำงานร่วมกับ Copilot รองรับการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน และรองรับการนำเข้ารูปจากแอป Photos ได้ด้วย
แอปเปิลออกอัพเดตระบบปฏิบัติการ iOS 17.4.1 สำหรับ iPhone, iPadOS 17.4.1 สำหรับ iPad และ visionOS 1.1.1 สำหรับ Vision Pro ซึ่งเป็นอัพเดตย่อย สองสัปดาห์หลังจากแอปเปิลออกอัพเดต iOS 17.4
ในอัพเดตนี้แอปเปิลไม่ได้ระบุรายการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ บอกเพียงเป็นการแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย และแก้ไขบั๊กทั่วไป โดยมี iPadOS 17.4.1 ที่แอปเปิลอธิบายเพิ่มเติมว่าผู้ใช้ iPad 7th Gen, iPad 6th Gen, iPad Pro 12.9 นิ้ว 2nd Gen และ iPad Pro 10.5 นิ้ว ที่พบปัญหาแอปกล้องไม่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้ ปัญหานี้ได้แก้ไขแล้วใน iPadOS 17.4.1
แอปเปิลเพิ่มช่องทางในการค้นหาแอปบน Apple Vision Pro ใน App Store โดยเฉพาะ ด้วยการเพิ่มหน้าเว็บไซต์รวมแอปบน Apple Vision Pro ซึ่งมีเนื้อหาครบแบบในแอป App Store ทั้งคอลเลกชันแอปที่บรรณาธิการคัดเลือก, สตอรีประจำวัน และอื่น ๆ
ตัวอย่างแอปที่แนะนำในช่วงนี้ ได้แก่ Callsheet แอปดูรายชื่อทีมงานหนัง-ละครทีวี, Television แอปดูคอนเทนต์ YouTube, Windora แอปสร้างบรรยากาศเสมือนแบบพาโนรามา เป็นต้น
สามารถดูหน้าเว็บไซต์ App Store for Apple Vision Pro ได้ที่นี่
ที่มา: 9to5Mac
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการในเครือ ตามหลังจาก iOS 17.4 และ iPadOS 17.4 ที่ออกมาก่อนหน้านี้
แอปเปิลออกอัพเดต visionOS เวอร์ชัน 1.0.3 ระบบปฏิบัติการของเฮดเซต Vision Pro ซึ่งเป็นอัพเดตย่อยครั้งแรกสำหรับลูกค้าทั่วไป นับตั้งแต่สินค้าเริ่มขายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์
เหตุผลที่เลขเวอร์ชันกระโดดเป็น 1.0.3 เลย เพราะว่าเวอร์ชัน 1.0 และ 1.0.1 ถูกอัพเดตไปก่อนหน้านี้แล้วในช่วงส่งสินค้าเพื่อรีวิวทดสอบ แต่ก่อนจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าทั่วไป ก็มีเวอร์ชัน 1.0.2 ออกมาแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยอีกครั้ง
Webex ประกาศนำแอปลง Apple Vision Pro ซึ่งออกแบบมาให้ได้ประสบการณ์ immersive ในการประชุมออนไลน์บน Spatial Computing
แอป Webex บน Vision Pro นี้ ยังรองรับฟีเจอร์สร้างใบหน้าเสมือน Persona รวมทั้งรองรับระบบเสียง Spatial Audio ด้วย
ฟีเจอร์การประชุมอื่นที่มีใน Webex ก็จะได้ใช้งานบน Vision Pro เช่นกัน อย่าง Webex AI ที่ตัดเสียงรบกวน, การแปลภาษาเรียลไทม์, การขึ้นคำบรรยายข้อความ, ทำแบบสอบถามขณะประชุม และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังรองรับการเปลี่ยนอุปกรณ์การประชุมแบบต่อเนื่อง เช่น สลับจาก Vision Pro มา Mac หรือ iPhone นั่นเอง
ก่อนหน้านี้ Webex เพิ่มประกาศออกแอปรองรับ Apple TV 4K ด้วย
The Verge ได้สอบถามไปยังตัวแทนของ YouTube เกี่ยวกับแผนการพัฒนาแอปเวอร์ชันสำหรับเฮดเซต Apple Vision Pro ซึ่ง Jessica Gibby โฆษกของ YouTube ก็ตอบกลับมาว่า เราตื่นเต้นกับการเปิดตัว Vision Pro และตอนนี้ได้สนับสนุนให้ผู้ใช้งาน YouTube ได้ประสบการณ์ดีที่สุดบน Safari ส่วนแผนงานอื่นยังไม่มีรายละเอียดในตอนนี้ แต่ยืนยันได้ว่าแอปบน Vision Pro นั้นอยู่ในแผนของเราแล้ว
ก่อนหน้านี้ YouTube ให้ข้อมูลว่าไม่มีแผนพอร์ตแอปมาลง Vision Pro แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าจะมีการทำแอปโดยเฉพาะในอนาคตหรือไม่ ซึ่งเป็นประกาศคล้ายกับ Spotify และ Netflix ทำให้ Vision Pro ขาดแอปประเภทคอนเทนต์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ก่อนการส่งมอบ Vision Pro กับลูกค้ากลุ่มแรก
แอปเปิลประกาศความพร้อมของ App Store สำหรับเฮดเซต Apple Vision Pro ที่จะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วไปในสหรัฐอเมริกาวันนี้ โดยมีแอปที่รองรับ visionOS ให้ดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านแอป และมีมากกว่า 600 แอป ทั้งหมวดแอปและเกม ที่พัฒนามาใหม่รองรับ Vision Pro โดยเฉพาะด้วย
ทั้งนี้ App Store ของ Vision Pro ได้พอร์ตแอปของ iPhone และ iPad ขึ้นสโตร์ให้อัตโนมัติ แต่นักพัฒนาสามารถเลือกไม่ส่งแอปขึ้นสโตร์ได้ (opt-out) ซึ่งมีแอปรายใหญ่ที่ประกาศไม่ส่งแอปเช่น YouTube, Netflix และ Spotify
ถึงแม้สินค้าจะยังไม่ได้เริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วไปในสหรัฐอเมริกา แต่เฮดเซต Apple Vision Pro ก็ได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ visionOS เวอร์ชัน 1.0.2 แล้ว
ในอัพเดตนี้แอปเปิลไม่ได้ระบุรายการฟีเจอร์ที่สำคัญ แต่บอกว่าเป็นการแก้ไขช่องโหว่ WebKit ที่มีรายงานการโจมตีแล้ว ซึ่งแอปเปิลก็แก้ไขช่องโหว่เดียวกันนี้ไปใน iOS 17.3 และ macOS Sonoma 14.3 ที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เนื่องจากอัพเดต visionOS 1.0.2 นี้ สื่อที่ได้เฮดเซตไปรีวิวพบว่าแอปเปิลเพิ่งออกอัพเดตมา จึงคาดว่าลูกค้าที่รับสินค้ากลุ่มแรก ก็น่าจะต้องเปิดกล่องมาแล้วอัพเดตซอฟต์แวร์ให้เป็น 1.0.2 นี้ด้วยเช่นกัน
ไมโครซอฟท์ประกาศนำแอปในกลุ่ม Microsoft 365 มาลงใน App Store ของเฮดเซต Apple Vision Pro ซึ่งจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าในอเมริกาวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้
โดยไมโครซอฟท์บอกว่าแอปที่นำมาลงได้แก่ Microsoft Teams, Word, Excel, PowerPoint, Outlook, OneNote และ Loop ทั้งหมดมาพร้อมกับฟีเจอร์ด้าน AI Copilot
ฟีเจอร์เฉพาะสำหรับ Vision Pro ในแต่ละแอปตัวอย่างเช่น PowerPoint กับ Word มีโหมดทำงานแบบ Immersive Environment เพื่อให้ทดลองซ้อมนำเสนอหรือเพิ่มโฟกัสในการทำงาน, Excel เพิ่มพื้นที่แสดงผลตาราง-กราฟ, Teams รองรับฟีเจอร์ persona ที่แสดงใบหน้า
แว่น Apple Vision Pro เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกาวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ล่าสุดบรรดาสื่อ และอินฟลูเอนเซอร์ของสหรัฐฯ เริ่มปล่อยบทวิจารณ์เบื้องต้นแล้ว หลายสื่อมีความเห็นว่าเป็นอุปกรณ์ที่ดูมีอนาคต และดูดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แต่คำว่าอนาคตที่ว่านั้นกลับยังไม่มาถึง บางส่วนยังต้องปรับปรุงแม้ประสบการณ์ที่ได้รับจะดีมากก็ตาม แต่ที่อุปกรณ์ตัวนี้มีราคาแพงเกินไป โดยมีตัวอย่างบทวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ดังนี้
Zoom เปิดตัวแอปใหม่บน Apple Vision Pro ซึ่งเป็นการนำแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์เข้าสู่โลก Spatial Computing ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ใกล้กันมากขึ้น โดยแอปจะออกมาในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมกับการส่งมอบ Vision Pro ลอตแรกในสหรัฐอเมริกา
Zoom บนระบบปฏิบัติการ visionOS ของ Vision Pro มีฟีเจอร์เด่นที่ดึงความสามารถของเฮดเซตนี้มาใช้งานด้วย ได้แก่ Personas ระบบสแกนใบหน้าผู้สวมใส่เฮดเซต เพื่อให้แสดงผลใบหน้าและการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ขณะประชุม นอกจากนี้ยังสามารถเปิดการทำงาน immersive เพื่อสร้างบรรยากาศโดยรอบให้เสมือนอยู่ในห้องประชุมเดียวกับผู้ร่วมประชุมคนอื่นได้ด้วย
ก่อนหน้านี้ Netflix ออกมายืนยันว่าจะไม่มีแอปในสโตร์ของ Apple Vision Pro โดยให้เข้าใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ Safari แทน ถึงแม้บริการสตรีมมิ่งหลายรายจะพัฒนาแอปมารองรับ และแอปเปิลเองก็เปิดให้พอร์ตแอปเวอร์ชัน iPad มาลงได้เลย
Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข่าวแอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On โดยคราวนี้เขาพูดถึงปัญหาเฮดเซต Apple Vision Pro ที่อาจมีแอปภายนอกจากนักพัฒนาไม่มากพอ ซึ่งมาจากหลายสาเหตุรวมกัน
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังแอปเปิลเปิดให้สั่งจอง Vision Pro ก็มีแอปรายใหญ่เช่น Netflix, YouTube และ Spotify ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีแอปเวอร์ชัน Vision Pro ออกมา และบอกให้ใช้งานผ่าน Safari บน Vision Pro แทน ถึงแม้ในฝั่งนักพัฒนาจะสามารถกดส่งแอป iPad มาใช้บนสโตร์ Vision Pro ได้เลย แต่ผู้พัฒนาเหล่านี้ก็เลือก opt-out
YouTube และ Spotify เป็นสองบริการล่าสุด ที่ประกาศว่าจะไม่ทำแอปสำหรับเฮดเซต Apple Vision Pro โดยเฉพาะ หลังจากที่ Netflix ประกาศไปก่อนหน้านี้
โดยทั้ง YouTube และ Spotify บอกว่า จะไม่มีการทำแอปสำหรับ Vision Pro รวมทั้งไม่มีแผนที่จะพอร์ตแอปเวอร์ชัน iPad มาลงสโตร์สำหรับ Vision Pro ในตอนนี้ โดยให้ผู้ที่ต้องการใช้งาน ไปเข้าผ่าน Safari เหมือนกับ Netflix นั่นเอง
เมื่อวานนี้แอปเปิลประกาศรายชื่อแอปสตรีมมิ่งและวิดีโอ ที่รองรับการแสดงผลบนเฮดเซต Vision Pro โดยเฉพาะ แต่กลับไม่มีชื่อสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ซึ่งแปลว่าผู้ใช้งานจะยังไม่เห็นแอป Netflix บน Vision Pro ในตอนนี้
Kumiko Hidaka ตัวแทนของ Netflix ชี้แจงว่า ผู้ใช้ Vision Pro ยังสามารถชม Netflix ได้ผ่านการล็อกอินในเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการชม Netflix บน Mac
แอปเปิลเคยบอกว่า visionOS รองรับการพอร์ตแอปจาก iPhone และ iPad มารันบน Vision Pro ได้เลย แต่นักพัฒนาสามารถเลือกให้แอปไม่รองรับได้ ซึ่งกรณีของ Netflix นั้นก็ชัดเจนว่าบริษัทเลือกไม่รองรับก่อนในตอนนี้นั่นเอง
นอกจากที่แอปเปิลประกาศวันวางขายเฮดเซต Apple Vision Pro ในอเมริกาอย่างเป็นทางการ, อัพเดต Xcode สำหรับนักพัฒนาเพื่อรองรับการส่งแอป visionOS ขึ้น App Store แอปเปิลยังอัพเดตคำแนะนำในการส่งแอปเพิ่มเติมสำหรับ visionOS โดยเฉพาะด้วย
โดยคำแนะนำที่แอปเปิลระบุเพิ่มเติม สำหรับการส่งแอปขึ้น visionOS App Store นั้น มีทั้ง การทดสอบแอป, การทำสกรีนชอต, การทำไอคอนที่เป็น 3D ตลอดจนคำสะกดชื่อ visionOS หรือ Apple Vision Pro ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ดูเป็นเรื่องปกติดี แต่มีประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ
แอปเปิลออกอัพเดต Xcode 15.2 และ TestFlight 3.5 ซึ่งเป็นอัพเดตเพื่อรองรับเฮดเซต Vision Pro ที่แอปเปิลเพิ่งประกาศวันจำหน่ายวันแรกในอเมริกา คือวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้
Xcode 15.2 เปิดให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปบน visionOS ระบบปฏิบัติการของ Vision Pro ได้ รวมทั้ง SDK ของ iOS 17.2, iPadOS 17.2, tvOS 17.2, watchOS 10.2 และ macOS Sonoma 14.2 ส่วน TestFlight 3.5 เปิดให้นักพัฒนาสามารถทำแอปเวอร์ชันทดสอบเบต้าได้ รองทั้งรองรับการใช้แอป iOS และ iPadOS บน Vision Pro