ใครซื้อ Athlon64 ไว้ก็เตรียมตัวกันได้แล้วครับ หลังจากที่มันทำงานที่ 64 บิตได้แต่ไม่มีโอเอสรันมานาน ความฝันในการรัน Windows แบบ 64 บิตก็ใกล้ความจริงเข้าทุกที ล่าสุดไมโครซอพท์ได้ออก Windows XP Professional x64 Edition RC2 และ Windows Server 2003 x64 Editions RC2 มาแล้ว ส่วนใครรักฝั่งอินเทลมากกว่า ก็ไม่ต้องกลัวเสียโอกาสครับ เมื่อเพนเทียม 4 ตัวถัดไป ที่จะมีรหัสขึ้นต้นด้วยเลข 6 ก็จะมีส่วนขยาย 64 บิตแบบเดียวกับฝั่ง AMD มาให้ด้วยเหมือนกัน ไม่นานเกินรอ Ars Technica

กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเข้าสัมภาษย์ไมโครซอฟท์ถึงประเด็นการผูกขาดของระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดนี้ การสัมภาษย์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อยืนยันว่าโปรแกรมต่างจะสามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของไมโครซอฟท์ได้ ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมเล่นเพลง หรือบราวเซอร์ เป็นต้น นับว่าเป็นความคิดที่ดีที่ไปสอบถามไว้ก่อนออกขาย เพราะการออกคำสั่งแยกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกจากกันในตอนหลังนั้น แทบไม่มีผลแต่อย่างใดเลย

ที่มา CIOL : Product News : Microsoft's Longhorn to face U.S. antitrust review

หลังจากแพ้คดีการผูกขาดด้านโปรแกรมมัลติมีเดีย จากคำสั่งของคณะกรรมการยุโรป (European Commission) ทำให้ไมโครซอพท์จำเป็นต้องถอด Windows Media Player ออกจากวินโดว์ และใช้ชื่อว่า Windows XP Reduced Media Edition มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมานี้ ไมโครซอพท์บอกว่าสินค้าจะถึงร้านขายปลีกในหนึ่งสัปดาห์ และเริ่มแจกจ่ายให้บรรดาผู้ผลิตพีซีเพื่อลงไปกับพีซีเครื่องใหม่แล้ว

จาก eWeek

ข่าวลือจาก The Inquirer ว่า Windows XP 64 Edition สำหรับสถาปัตยกรรม x86-64 ของเอเอ็มดี จะวางตลาดวันที่ 29 เมษายนนี้ครับ

Avalon เทคโนโลยีด้าน GUI ที่จะมีใน Longhorn นั้น เปิดให้ดาวน์โหลดมาลองเล่นกันแล้ว โดยตัวนี้จะเป็นตัวเดียวกับสมาชิกของ MSDN สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่เดือนพ.ย.

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า Longhorn จะมีอินเทอร์เฟซแบบสามมิติ และจะต้องการการ์ดจอที่ค่อนข้างจะ "ทรงพลัง" ทีเดียว เพราะว่า Longhorn จะใช้ส่วนกราฟฟิกใหม่ที่เรียกว่า WGF (Windows Graphic Foundation) ซึ่งจะรวมเอาทั้ง 2D และ 3D มาอยู่ใน WGF และวาดพร้อมกันทีเดียวเลย (ปัจจุบัน 3D นั้นใช้ Direct3D ใน DirectX อยู่) การ์ดที่จะใช้งานกับ Longhorn ได้จะต้องเป็นการ์ดที่สนับสนุนชุดคำสั่ง Shader 2.0 (มันคืออะไรครับเนี่ย คาดว่าคงเป็นอันเดียวกับ Pixel Shader นะ) ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเราคงได้อัพเกรดเครื่องกันค่อนข้างแน่ ถึงจะใช้ Longhorn ได้ และด้วยสาเหตุด้านฮาร์ดแวร์ ผมว่าอาจจะต้องถึงปี 2010 กว่าจะย้ายไปสู่ Longhorn

ZDNET มีรีวิวของวินโดว์ XP รุ่น 64 บิต (ตัวทดสอบ RC1) สำหรับสถาปัตยกรรม x86-64 ของเอเอ็มดี อันได้แก่ Athlon64, Athlon64-FX และ Opteron และเพนเทียม 4 ตัวใหม่ๆ (ส่วนสถาปัตยกรรม IA-64 ที่อยู่ใน Itanium จะไม่มีวินโดว์ XP ใช้ครับ เหลือแต่ 2003 รุ่น x64 เท่านั้น จาก The Register) ส่วนใจความรวมๆ ของรีวิวคือระบบค่อนข้างเสถียรและใช้งานได้ดี ประสิทธิภาพจากการทดสอบเล่นเกมก็ใกล้เคียงกับ XP ตัวปัจจุบันมาก ปัญหาใหญ่ที่ยังรออยู่ไม่ใช่ฝั่งระบบปฏิบัติการซะแ

ไมโครซอพท์เตรียมเพิ่มเวลาการสนับสนุน WindowsNT 4 ที่จะหมดในปลายปี 2004 นี้ต่อไป หลังจากสนับสนุนมาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว แต่ต่อไปนี้อยากได้แพตช์ต้องจ่ายเงินแล้วล่ะ จาก OSNews

มีข่าวลือว่ามาจากเอกสารภายในของไมโครซอพท์ที่รั่วออกมา ว่า Beta 1 ของ Longhorn มีกำหนดออกวันที่ 12 ก.พ. ปีหน้านี้ ส่วนอีกแหล่งข่าวบอกว่ายังไม่ออกจนกว่าจะเดือนพฤษภาคมครับ จาก OSNews

ไมโครซอฟท์ประกาศถึงมาตราการใหม่ในการหยุดซอฟท์แวร์เถื่อน ด้วยการแจกวินโดว์ให้กับผู้ที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงซอฟท์แวร์เถื่อนไปแล้ว ฟรี!

โดยผู้ใช้วินโดว์เถื่อนต้องแจ้งเข้ามายังไมโครซอฟท์และแนบใบเสร็จ พร้อมกับเอกสารการเป็นพยานว่าได้ซื้อซอฟท์แวร์ผิดกฏหมายมา

มาตราการนี้มุ่งชัดว่าไมโครซอฟท์จะเล่นงานผู้ขายซอฟท์แวร์เถื่อนอย่างเต็มที่

ที่มา Microsoft proposes piracy amnesty | Tech News on ZDNet

อย่าไปสับสนกับ SP2 นะครับ Ars Technica มีบทวิเคราะห์คำพูดของสตีฟ บอลเมอร์ CEO ของไมโครซอพท์ว่าวินโดว์ XP จะไม่หยุดแค่ SP2 แต่จะมีรุ่นย่อยตามมาอีกตัว ซึ่งอาจเป็น Release 2 หรือ Service Pack 3 ก็ได้ สาเหตุรวมๆ คือ SP2 ยังไม่พอเพียงกับความต้องการ และ Longhorn ยังอีกนานกว่าจะมา (คาดกันว่าฟีเจอร์ WinFS จะมาในปี 2007 เลยนะ) รวมไปถึงแผนการที่ไมโครซอพท์จะออกแอนตี้ไวรัสเอง ซึ่งปรากฎให้เห็นใน Security Center ของ SP2 ด้วย

OSNews มีรายงานการประชุมที่ Computer History Museum โดยมีผู้บรรยายรับเชิญที่ชื่อบิล เกตส์

เกตส์ให้ความเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยีไว้หลายอย่าง เขาบอกว่าระบบจดจำเสียงพูด (Speech Recognize) จะมีความสำคัญ และเกตส์ยังบอกอีกว่าเครื่องของเขาลงโปรแกรม Ad-Aware เพื่อป้องกันสปายแวร์ต่างๆ และหวังว่าวินโดว์รุ่นหน้าจะรวมโปรแกรมป้องกันมาเลย

เรื่อง Digital Right Management เกตส์พูดถึงการแครกการป้องกันการก็อปปี้ว่า ยังไงก็ควรจะมีต่อไป ไม่ใช่ว่ากลัวการแครกจนทำให้ธุรกิจการขายหนังและเพลงไม่เกิดขึ้นเลย

ไมโครซอฟท์ออกโรงเตือนให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าๆ ให้อัพเกรดมาใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP เพื่อให้ได้ใช้ระบบปฏิบัติการที่มีความปลอดภัย

ตามรายงานข่าวของสำนักข่าว ZD Net ไมโครซอฟท์แนะนำให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการเก่าๆ หันมาใช้ Win XP เพื่อความปลอดภัยโดยระบุว่าเป็นทางเดียว ที่จะได้รับความปลอดภัยสูงสุด เพราะไมโครซอฟท์ได้เลิกให้การอัปเกรดซอฟท์แวร์เก่าๆ ตามที่ Blognone ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้

การแนะนำนี้มีขึ้นโดยที่ปัจจุบัน ลูกค้าของไมโครซอฟท์ครึ่งหนึ่งไม่ได้ใช้ WinXP

ที่มา ZD Net

Windows XP Starter Edition หรือ XP รุ่นตัดความสามารถลง (เช่น เปิดได้ครั้งละสามโปรแกรม, จำกัดหน้าจอที่ 800x600) ซึ่งไมโครซอพท์เตรียมวางจำหน่ายไปกับพีซีออกใหม่ จะเปิดตัวใน 5 ประเทศ ที่เปิดเผยแล้วมีสาม คือ ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ประเทศที่สี่เปิดตัวแล้วคือรัสเซียครับ ส่วนประเทศที่ห้านั้นไม่บราซิล ก็เป็นอินเดีย ข่าวจาก CNET

จาก CNET : Microsoft to secure IE for XP only (ละเอียดยิบเลยครับ) ถ้าคุณใช้ IE อ่านข่าวนี้อยู่ และไม่ได้ลง XP SP2 คุณเป็นหนึ่งในสองร้อยล้านคน ที่ควรต้องอัพเกรดบราวเซอร์ หรือไม่ก็วินโดว์แล้วครับ

ไมโครซอฟท์ประกาศว่าในอนาคต เมื่อคุณเข้าไปดาวน์โหลดตัวเสริมต่างๆ ของไมโครซอฟท์ จะมีการขออนุญาตตรวจสอบลิขสิทธิ์ของซอฟท์แวร์บนเครื่องของคุณ

โดยการตรวจสอบดังกล่าวจะไม่เป็นการบังคับแต่อย่างใด และผู้ที่ไม่เข้าร่วมการตรวจสอบ ตลอดจนผู้ที่ใช้ซอฟท์แวร์เถื่อนจะยังคงสามารถเข้าดาว์นโหลดตัวเสริมต่างๆ ได้ตามปรกติ

มาตรการนี้เป็นเหมือนมาตรการกดดันผู้ที่ใช้ซอฟท์แวรเถื่อนมากกว่าที่จะเป็นการลงดาบจริง

จากการวิจัยของ Acadys ร่วมกับ Microcost เอง โดยอาศัยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ 1.2 ล้านเครื่องจากบริษัทนับพัน สรุปได้ว่า การเปิดวินโดว์หนึ่งครั้ง มีโอกาสที่จะพังจนต้องบูตใหม่อยู่ 8% ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขรวมๆ ครับ แยกย่อยตามแต่ละเวอร์ชันได้ว่า วินโดว์ 2000 มี 4% วินโดว์ NT4 มี 3% และ XP เยอะหน่อย 12% (ไม่มีสิ่งที่อยากรู้ว่าลินุกซ์เท่าไร)

ต้นฉบับมาเป็นภาษาฝรั่งเศส แปะที่มาจาก Slashdot ไว้ให้ครับ

The Register สำนักข่าวดังจากอังกฤษ วิเคราะห์ความปลอดภัยที่ไมโครซอพท์อ้างว่าเพิ่มขึ้นใน Service Pack 2 ว่าปลอดภัยจริงสมคำโฆษณาหรือไม่

ช้ากว่ากำหนดการไปเยอะสำหรับ Longhorn วินโดว์แห่งอนาคต กำหนดการล่าสุดคือ ออกตัวทดสอบในปี 2005 และตัวจริงภายในครึ่งแรกของปี 2006 แต่ไมโครซอพท์ก็ออกมาประกาศว่า จะยอมตัด WinFS ออกไปซะแล้ว

ฟีเจอร์หลักๆ ใน Longhorn มีสามอย่างหลักๆ ดังนี้