Wall Street Journal รายงานข่าวว่าไมโครซอฟท์จ้างนักร้องเพลงร็อคชื่อดัง Sting ไปแสดงคอนเสิร์ตส่วนตัวให้ผู้บริหารระดับสูง 50 คน ระหว่างการเข้าร่วมประชุม World Economic Forum ที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้
ข่าวนี้อาจไม่เป็นประเด็นเลย หากไม่ออกมาในช่วงเดียวกับที่ไมโครซอฟท์ประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ถึง 10,000 คน ทำให้เกิดคำถามว่าทำไมยังมีงบฟุ่มเฟือยกับคอนเสิร์ตอยู่ ในขณะที่คนจำนวนมากต้องตกงาน
ถึงแม้เป็นไปได้สูงว่า การตกลงว่าจ้าง Sting มาแสดงคอนเสิร์ตอาจเกิดขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว และฝ่ายที่จัดจ้างคอนเสิร์ตไม่น่าจะรู้เรื่องการปลดคนล่วงหน้าก็ตาม แต่ข่าวลักษณะนี้คงไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทนัก
ที่มา - Wall Street Journal, The Register
Comments
ก้อ ยกเลิกสัญญา จ่ายค่ามัดจำ/ปรับไปก็ได้นี่นะ
อันนี้สำนักข่าวก็จับแพะชนแกะเกิน ผมว่าคนใน Microsoft เองอาจไม่ได้คิดอะไรเลยก็ได้ นักข่าวคิดให้เสร็จ เพราะประชุมนี้มันเป็นนโยบายหลักของ CEO เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์กัน โดยเฉพาะผู้บริหารหน้าใหม่ได้ทำความรู้จักกับผู้บริหารเดิมเพื่อทำให้การประสานงานราบรื่น บริษัทที่มีเครือข่ายทั่วโลกก็มักทำแบบนี้ โอกาสที่ผู้บริหารระดับสูงมาเจอหน้าพร้อมๆ กันมันยาก การทำให้ผู้บริหารมาเจอหน้า พบปะสังสรรค์พร้อมกัน มันจะทำให้การทำงาน ประสานงานมันง่ายขึ้น คนรู้จักกันเคยเจอกันมันคุยง่ายกว่าใครก็มารู้มัน conference คุยกัน แล้วมันมีมานานแล้วไม่ใช่พึ่งมี
ดังนั้นถ้าทราบจุดประสงค์หลัก ก็ต้องเข้าใจว่าถ้าให้การพูดคุยมันเกิดได้ง่าย ก็ต้องมีบันเทิงเข้ามาเพื่อให้คนในงานรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจที่จะคุยกัน มันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกที่จะมีดนตรี และความบันเทิงอื่นๆ ในงานด้วย ส่วนเรื่องปลด หรือไม่ปลดพนักงาน คนจัดงานก็น่าจะไม่รู้เรื่อง เพราะมันอยู่ในแผนงานประจำปี ต้องจัดทุกปีอยู่แล้ว
จากคนที่เคยโดนบีบให้ออกกลาย ๆ นะครับ ถึงจุดนั้นคือ คิดหมดทุกอย่างแหละ ทำไมไม่ทำอย่างโน้นอย่างนี้ ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมพูดแบบนั้นแล้วทำแบบนี้ ฯลฯ
อย่างอันนี้คือ เออ รู้่อยู่แล้วว่าต้องประหยัด ทำไมไม่จัดที่เล็ก ๆ อยากมีดนตรีทำไมต้องจ้างระดับตำนานมา ฯลฯ ซึ่งมันก็จะกลับกับไอ้ข้อความที่ว่า เรามีความจำเป็นจริง ๆ เราเสียใจที่ต้องปล่อยคุณไป ฯลฯ ที่ว่ามาทั้งหมดก็แค่ตอแหล อะไรแบบนี้ครับ
เหตุการณ์มันอาจจะไม่เกี่ยวกันเลยก็ได้ครับ แต่คนที่โดนปลดนี่มีคนคิดแน่ ๆ ว่า ทำไม ทำไม ทำไม และทำไม
การปลดคนออกไม่ใช่ว่าสถานการณ์บริษัทกำลังแย่ ต้องรัดเข็มขัด ตัดงบฟุ่มเฟือย(มันคือสวัสดิการอย่างหนึ่ง)เสมอไป
รายได้หดตัว -> ลดค่าใช้จ่าย เพื่อรักษาสภาพคล่องและ ผลกำไรของผู้ถือหุ้น การลดคน เป็นการลดรายจ่ายที่ไวที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่า บ. กำลังจะเจ๊ง
การลดคน ไม่น่าจะไวสุดนะ เพราะต้องจ่ายเงินชดเชย เพราะงั้นปลดวันนี้ กว่าต้นทุนค่าจ้างจะลดก็อีก 3-6เดือนนู้น
มันมีวิธีที่ไวกว่านี้ที่ยังนับว่าเวิร์คอยู่เหรอครับ หรืองดจ่ายค่าเช่าสำนักงานกับแม่บ้านหรือตัดไฟตัดน้ำไปเลยดีนะ 🤔
10,000 คนของเค้ามันคือ 5% เอง
มันเหมือนโอกาสที่จะตัด ของไม่มีคุณภาพ5% ออกได้โดยไม่มีปัญหากับ สหภาพ หรือ กลุ่มพนักงานมากนัก เพราะมันมีเหตุผลเรื่องเศรษฐกิจให้อ้างได้
เรื่องปลดคนออก จริงๆ ก็ไม่เชิงว่าเป็นคนที่ไม่มีคุณภาพซะทีเดียว หลายๆ ครั้งมันเกี่ยวกับ "คุณเป็นคนของใคร" ด้วยครับ คือทำตัวถูกใจใคร เป็นปรปักษ์กับใคร ใครขึ้นมามีอำนาจ ใครที่โดนปลด ฯลฯ
เรื่องการเมืองในองค์กรณ์นี่ล่ะที่เป็นตัวบอกว่า ใครจะโดนปลด ใครจะไม่โดน เพราะมันไม่ใช่แค่ปลดมันหมดทุกคน บางทีคนที่มีพรรคพวกเยอะก็อาจจะถูกพรรคพวกทีว่าดึงไปอยู่ทีมที่ไม่โดนปลดก็ได้เหมือนกันครับ
แล้วมันก็ไม่เชิงเป็นเรื่องคอรัปชั่นด้วย เพราะคนทำงานทุกคนก็อยากทำงานกับคนที่เข้ากับเราได้ คนบางคนอาจจะดีแต่มีปัญหากับคนอื่น ๆ ก็อาจจะต้องโบกมือบ๊ายบายเหมือนกัน
กรณีที่แบบโดนกันหมดแบบไม่เลือกหน้า น่าจะเกิดกับการปลดคนขนาดใหญ่ แบบ 20-30% ขึ้นไปมากกว่าครับ แค่ 5% นี่ผมยังว่าไม่เยอะขนาดนั้นนะ
มีแต่ในโลกอดุดมคติเท่านั้นละครับที่ 5% จะเป็นการคัดที่คุณภาพล้วนๆ
The Dream hacker..
ยุคก่อน ต้อง บ.ขาดทุน แบกไม่ไหว ถึงปลดคน
ยุคนี้ แค่กำไรน้อยลงก็ปลดแล้ว แต่ยังเคยตัวบอกว่าแบกไม่ไหวอยู่
ผู้ถือหุ้นไม่ชอบกำไรน้อยๆไง เดี๋ยวราคาหุ้นกับเงินปันผลไม่งาม บริษัททำได้ไม่ดีก็แห่ถอนเทหุ้นกัน มูลค่าบริษัทจะร่วงยิ่งกว่าการเลิกจ้างพนักงานบางส่วน มันคือความจริงที่โหดร้าย เว้ยแต่ซีอีโอจะเก่งโน้มน้าวให้ทั้งผู้ถือหุ้น พนักงาน และลูกค้า ที่มาจากร้อยพ่อพันแม่ ตรรกะดี ตรรกะป่วย หัวดี หัวหมอ สมดุลกัน
ชอบครับ ตัดงบฟุ่มเฟือย แต่ค่าจ้างแค่นี้ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอกเนาะ จ้างพนักงานต่อได้แป๊บเดียวนิดเดียวเอง ผลาญเล่นบ้างจะเป็นไรไป
1.ให้ออกตามวัฏจักรธุรกิจ ถ้าดูจากผลประกอบการรวม ไมโครซอฟท์จ้างต่อได้สบายๆ
2.ให้ออกเป็นหนึ่งใน KPI ของผู้บริหารที่ตั้งไว้
3.เป็นการปรับโครงสร้างไปในตัว BU ไหนศักยภาพต่ำ ประสิทธิภาพต่ำ หรือไม่ตรงกับโร้ดแมปข้างหน้าก็ปรับลด ยุบกันไป
4.มายด์เซ็ทการบริหารธุรกิจในตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกาไม่เหมือนกับที่เราคุ้นเคยในวัฒนธรรมบ้านเรา การจ้างออกเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการบริหาร ไม่ใช่ว่าบริษัทต้องเข้าตาจน หรือไปต่อไม่ได้ค่อยจ้างออก การถูกให้ออกหรือจ้างออกเลยไม่ใช่ความผิดของพนักงานเสมอไป คนที่ออกเป็นแค่คนที่ได้รับผลกระทบจากทิศทางการบริหารที่มีการปรับเปลี่ยน ไม่ได้สะท้อนถึงศักยภาพหรือความสามารถอะไรของเขา คนทางนั้นหลายคนเลยมักจะทะเยอทะยานขึ้นไปเป็นผู้บริหารมากๆ เพราะเป็นทางเดียวที่จะ secure job ของตัวเองไว้ได้
ลดคนเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเฉยๆ ส่วนวงดนตรีมันจำเป็น ถ้าไม่มีคนจ้างวงดนตรีเลยอ้างลดค่าใช้จ่าย วงดนตรีก็ตกงานนะ