เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal (WSJ) รายงานว่า Samsung กำลังกลับมาแย่งส่วนแบ่งตลาดในจีน อินเดีย และอินโดนีเซีย ได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ต้องเสียตำแหน่งเจ้าตลาดไปในปี 2014 และ 2015 ซึ่งกลยุทธ์ของ Samsung ก็คือการตัดราคาและผลิตโทรศัพท์มือถือในราคาที่ถูกลง ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น
WSJ ได้ไปสัมภาษณ์ผู้ใช้รายหนึ่ง ซึ่งเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์อย่าง Galaxy J2 ที่เป็นโทรศัพท์ตอบโจทย์ตลาดล่าง ซึ่งผู้ใช้ระบุว่ามีคุณภาพที่ดีกว่าแบรนด์ของท้องถิ่นมาก และได้รับความนิยมจากทั้งในอินเดียและอินโดนีเซีย ส่วนในจีน Galaxy A ก็ถือว่าทำให้ Samsung ที่ตอนนี้เป็นอันดับ 6 ของตลาด มีที่ยืนได้ดีขึ้น แสดงให้เห็นว่า Samsung เองมุ่งไปสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือในระดับกลางและล่างมากขึ้น สอดคล้องไปกับแนวทางของการลดต้นทุนที่บริษัทกำลังทำอยู่
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ที่ให้สัมภาษณ์กับทาง WSJ ระบุว่า Samsung เองมีความเสี่ยงในการลงมาเล่นตลาดล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนต่างกำไรที่จะลดลงมาก นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องของการลดมูลค่าของแบรนด์ลงไปด้วย
ที่มา - The Wall Street Journal
Comments
จ้าวตลาด => เจ้าตลาด
ผมว่าตอนนี้ผมซื้อมือถือโดยไม่แคร์มูลค่าของแบรนด์แล้วล่ะครับ ใครจะซื้อมือถือเพราะแบรนด์มันพรีเมียม มีแต่รุ่นแพงๆ ก็เชิญ แต่สำหรับผม แม้แบรนด์มันยังเป็นตัววัดความน่าเชื่อถือของคุณภาพผลิตภัณฑ์อยู่ แต่เรื่องใช้แล้วทำให้ภาพลักษณ์ตัวเองดูดีนี่กลายเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับผมไปแล้ว
ส่วนตัวผม ตราบใดที่ซัมซุงยังทำมือถือได้ดีทุก segment ก็ทำไปเถอะครับ สมัยก่อน Nokia เองก็ทำมันทุก segment ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร แบรนด์ก็ยังแข็งแกร่งดีในสมัยนั้น
ถึงซัมซุงจะมีรุ่นถูกๆ เยอะ แต่ถ้ารุ่นเรือธงมันยังมีจุดขายเด่นๆ อยู่อย่างปากกาหรือกล้องเทพ (DxO Mobile เจอมือถือซัมซุงกวาดตำแหน่ง top ten ไปเพียบ) ผมว่ามันก็ยังขายได้ดีแหละครับ ดูอย่าง S7 เป็นต้น
คนยังจำมือถือรุ่นบอร์ดพังรัวๆ กับบริการหลังการขายที่... ได้อยู่นะครับ
เรือธงซัมซุงหลังๆ นี่น่าสนใจแต่พอเห็นราคาแล้วผมว่าก็ยังต้องฟัดกับแบรนด์จีนอีกหลายเฮือกครับ
ช่วงนั้นนี่ซัมซุงน่ายี้จริงๆ แหละครับ 55
แต่ช่วง Note 3, S5 มานี้ ซัมซุงเริ่มพิสูจน์ได้แล้วว่าทำของที่ "ไม่พังง่าย" ในระดับนึงก็เป็นเหมือนกัน และก็น่าไว้ใจขึ้นเรื่อยๆ ในรุ่นต่อๆ มา รุ่นหลังมานี้ก็ไม่ค่อยมีคนบ่นเรื่องพังถี่ๆ ละ แม้จะมีระแวงๆ บ้างก็ตาม (กลายเป็น LG G4 ที่รับช่วงต่อแทน)
ส่วนบริการหลังการขาย ที่อ่านๆ ประสบการณ์คนอื่นมา ก็ยังไม่ค่อยน่าคบหาซักเท่าไหร่ ของแอปเปิลยังดูดีกว่ามาก แต่จากประสบการณ์ตรง เรื่องเสียนิดๆ หน่อยๆ นี่ศูนย์ซัมซุงบริการดีนะครับ แถมทึ่งที่อะไหล่ค่อนข้างถูกด้วย ถ้าไม่ใช่บอร์ดกับจอที่เสียนี่ อย่างอื่นผมว่าราคาอะไหล่ไม่แพงเลย
ส่วนจุดเด่นซัมซุงรุ่นเรือธง ผมว่าอยู่ที่เรื่องกล้อง ที่เคยใช้ S5 Note 4 Note 5 มา ผมว่าแบรนด์จีนยังสู้ไม่ได้ครับ คือทำดีแล้วแต่ยังไม่ได้ดีที่สุด ส่วนกล้องซัมซุงรุ่นเรือธงนี่ใช้แล้วรู้เลยว่า R&D มาอย่างดี โดยเฉพาะถ่ายกลางคืนนี่ใช้แล้วรักเลย ไม่แปลกที่ DxO Mark จะให้คะแนนระดับหัวแถวมาตลอด ตราบใดที่ยังคงจุดเด่นตรงนี้ไปตลอดผมก็ยอมกำเงินซื้อมากกว่าไปเอามือถือแบรนด์จีนล่ะครับ
ตัวมูลค่าของแบรนด์มันยังมีความสัมพันธ์กับความคาดหวังในเรื่องของบริการหลังการขายได้ครับ ถึงแม้บางแบรนด์จะลุ่มๆ ดอนๆ แต่เมื่อเทียบกับแบรนด์เล็กๆ แล้วก็ยังคงสู้ไม่ได้
สัปดาห์ที่ผ่านมา คั้งใจจะไปซื้อ ssgs7 edge ไปถึงลองจับสองเครื่อง ที่ตั้งขาร์ตโชร์ที่ร้าน มันช๊อตมือผมทั้งสองเครื่อง สุดท้าย ก็ถอย ip6s+
เรื่องง่ายๆที่ทำให้ตัดสินใจไม่ยาก
ซังซุงก็มีมือถือตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ได้เพิ่มจะมาเล่นระดับล่างถึงกลาง
แต่ที่ซังซุงทำได้ดีก็คือการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของโทรศัพท์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดูพรีเมี่ยมขึ้นมากโดยเฉพาะ A series
a series นี่ดูเหมือนจะแพงเมื่อเทียบสเปคนะ แต่ใช้จริงแล้วผมว่าคุ้ม ดีกว่าแบรนด์จีนอยู่มาก ที่มักจะแรงอย่างเดียว ลองใช้ a5 a7 ตัว 2016 ฟีลลิ่งนี่ไม่ต่างกับ s7 เลย ผิดกันแค่สเปค ราคาครึ่งเดียว
อาจจะยังใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพเองหรือเปล่าครับ