Tags:
Topics: 
Node Thumbnail

สำหรับบุคคลที่หลงใหลในเสียงเพลง มักจะลงทุนซื้อหูฟังดีๆ ราคาแพง หรือไม่ก็ซื้อเครื่องเล่นแผ่นไวนิลเพื่อความคมชัดของเสียงไวโอลิน แต่ชายญี่ปุ่นนามว่า Takeo Morita เขาทุ่มมากกว่านั้น เพื่อให้เสียงเพลงจากแผ่นเสียงวง Queen คมกังวานเหมือน Queen มาเปิดคอนเสิร์ตที่บ้านเขา เขาลงทุนซื้อและจ้างบริษัทไฟฟ้ามาปักเสาสัญญาณพลังงานไฟฟ้าส่วนตัวที่บ้านเขาเลย

Morita บอกว่า พลังงานไฟฟ้าเปรียบเสมือนเลือด ถ้ามันถูกรบกวนหรือมีมลทิน ระบบร่างกายก็จะรวนและเจ็บป่วยได้ เขาเปิดแผ่นเสียง เพลง I’m in Love With My Car ของ Queen วงดนตรียุค 70 ให้นักข่าว Wall Street Journal ฟัง เขาบอกว่า ก่อนหน้าที่จะติดตั้งเสา เสียงเพลงมันไม่มีชีวิตชีวาขนาดนี้

สิ่งที่ Morita ทำไป ไม่ใช่เรื่องที่เขาคิดไปเองคนเดียว ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่ติดตั้งเสาพลังงานส่วนตัวเพื่อเสียงเพลงด้วยเหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือ Yukio Yoshihara เขาบอกว่าตอนที่เปิดแผ่นไวนิลฟังตอนกลางคืนที่ชาวบ้านนอนกันหมด ซึ่งมีคนใช้พลังงานไฟฟ้าน้อย เสียงเพลงชัดใสกว่าฟังตอนกลางวัน เขาจึงติดเสาส่วนตัวด้วย พร้อมทั้งแผงเบรกเกอร์ และสายไฟ รวมราคากว่า 40,000 ดอลลาร์

มีข้อสงสัยว่า การติดตั้งเสาส่วนตัวจะให้เสียงที่แตกต่างได้จริงหรือ Mark Bocko ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเสียงจากมหาวิทยาลัย Rochester ระบุว่า การใช้ไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน สามารถสร้างสัณญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า และส่งผลกระทบต่อเสียงเพลงจากแผ่นไวนิลได้

ที่มา - The Wall Street Journal

Get latest news from Blognone

Comments

By: waroonh
Windows
on 16 August 2016 - 15:37 #933176

ราคานี้ซื้อ Power Isolation
มาต่อเบิ้ล สองรอบเลยก็ได้นะครับ

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 16 August 2016 - 15:55 #933183
nessuchan's picture

คือ สงสัยว่า เสาโทรศัพท์เกี่ยวอะไรเหรอครับ? รบกวนผู้รู้ช่วยอธิบายทีครับ

By: sunnywalker
WriterAndroid
on 16 August 2016 - 16:43 #933203 Reply to:933183

แก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 16 August 2016 - 18:05 #933233 Reply to:933203
nessuchan's picture

อ่อ เสาไฟฟ้า 555 งงอยู่ตั้งนาน คิดไปว่าเสาโทรศัพท์ตั้งเพื่อกันคลื่นรบกวนรึเปล่าจริง ๆ คือเสาไฟฟ้า

By: PowerBerry
Android
on 16 August 2016 - 16:00 #933185

ถือเป็นโชคดีที่ไม่ได้อยู่ในระดับหูทอง

By: nrml
ContributorIn Love
on 16 August 2016 - 16:29 #933195 Reply to:933185
nrml's picture

เช่นกันครับ รู้สึกโชคดีมากที่สามารถมีความสุขกับหูฟังที่แถมมากับมือถือได้

By: JamesBond007
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 17 August 2016 - 07:27 #933330 Reply to:933185

เช่นกัน ผมหูข้างนึงจะดับละ -_-

By: Bigkung
iPhoneWindows Phone
on 16 August 2016 - 16:06 #933188
Bigkung's picture

ใช้ UPS True Online ไม่ได้เหรอครับ ผมงงกับเสาโทรศัพท์ หรือว่าที่อยู่เขาเอาสายไปลงดินไปแล้วหว่า

By: nzangel
Windows PhoneAndroidUbuntu
on 16 August 2016 - 17:01 #933211 Reply to:933188

True Online ได้ครับ มีคนลองแล้ว แต่เคร่องปั่นไฟซิแน่นอนสุด

By: confused
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 17 August 2016 - 02:35 #933321 Reply to:933188

ผมเคยลองแล้วครับ UPS แบบ True Online รุ่นไม่สูงมาก
เสียงแย่มากครับ แย่กว่าต่อตรงซะอีก สุดท้ายก็ทิ้งไปครับ

เท่าที่หาอ่านมาเหมือน ระบบไฟสายไฟ สายสัญญาณทั้งหลายใน UPS แบบ True Online ก็มีผลครับ

By: GodPapa
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 16 August 2016 - 16:08 #933189
GodPapa's picture

ตกลงมัน เสาไฟฟ้า หรือ เสาโทรศัพท์

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 16 August 2016 - 16:15 #933190
tekkasit's picture

ย่อหน้า 8 นั้นน่าจะหมายถึง private (power) line นะครับ

สามารถสร้างสัณญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า

By: sakura
ContributorWindows PhoneSymbian
on 16 August 2016 - 16:25 #933191

เข้าไปดูในที่มาแล้ว เล่นลงทุนปักเสาตั้งหลายต้น แต่คงคุ้มแหละถ้าหูเทพ

ทำแบบนี้ก็น่าจะประมาณว่าแยกระบบไฟ เพื่อไม่ให้มีการรบกวน
เหมือนเมนบอร์ดรุ่นดีๆ หน่อย จะแยกระบบไฟของชิปเสียงออกจากอันหลัก เพื่อไม่ให้ถูกรบกวนครับ

By: animateex
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 16 August 2016 - 16:22 #933194
animateex's picture

ทำไมไม่ปั่นไฟใช้เองหรือใช้จากแบตเตอรี่ที่น่าจะได้ไฟที่นิ่งกว่า

By: Bhuket
AndroidWindows
on 16 August 2016 - 16:29 #933196

เสาที่ว่านี่น่าจะเป็นเสาไฟ มากกว่า ส่วนแยกหม้อ รึ แยกสายนั้นไม่รู้

แต่ระดับหูทองนี่เกินความเข้าใจ ขนาดฟิวส์กลับเฟสยังแยกความแตกต่างกันได้ ส่วนผมฟังหูแถมโทรศัพท์ตามเดิม

By: jokerxsi on 16 August 2016 - 16:30 #933197

อาจจะซื้อ UPS True Online เกรดเครื่องมือแพทย์ได้ไหมหว่า
ไม่ก็ใช้เครื่องปั่นไฟเอาเองก็ไม่เลวนะ

By: sonkub
AndroidWindows
on 16 August 2016 - 16:34 #933199

รู้สึกสบายใจที่ไม่ใช่หูเทพ

By: worawee.b
ContributorAndroid
on 16 August 2016 - 16:43 #933200

ไม่ต้องญี่ปุ่นหรอกครับ ถ้าในเมืองไทยการไฟฟ้าทำให้่ผมมั่นใจว่ามีคนทำ
คือต้องบอกก่อนว่าโดยส่วนตัวก็ใช้เครื่องเสียงในระดับที่โอเคประมาณนึง หลายๆความเชื่อๆที่หลายๆคนเรียกว่า myth ก็เคยลองบ้าง ฟังว่าแยกได้บ้างแยกไม่ได้บ้าง
คนที่เล่นเครื่องเสียงระดับแพงๆนี่คือแพงจริงๆ ชุดนึงเป็นเกือบสิบล้านก็มี เฉพาะสายก็เป็นล้านแล้ว และหลายๆคนคิดว่าระบบไฟเป็นจุดต้นทางที่สุด ก็อยากจะทำให้มันบริสุทธิ์ที่สุดล่ะครับ และอย่างที่บอกไว้เมื่อกี๊ คือหลายๆคนรวยมากและทำได้ครับ
ปล.เครื่องเล่นไวนีลไม่น่าจะเกียวกับเสียงคมชัดของไวโอลินเลยครับ


ช่อง Youtube ของผมครับ รีวิวและชวนคุยนู่นนี่

By: pote2639
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 16 August 2016 - 16:45 #933205

ในระหว่างเดียวกันผมเปิดหน้านี้ทิ้งไว้ เพราะ ฟังเพลิน :p

By: wichate
Android
on 16 August 2016 - 16:58 #933210

มีคนบอกว่าเราไม่ได้กำลังฟังเสียงเพลง แต่เรากำลัง "ฟังเสียงอุปกรณ์"

By: loptar on 17 August 2016 - 11:19 #933400 Reply to:933210
loptar's picture

+1

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 16 August 2016 - 17:06 #933212

ถ้าถึงขั้นแกะแบตรีโมททิ้งไว้กลางห้องผมว่ามันเข้าขั้นลัทธิไปแล้วครับ เอาไปบำบัดได้เลย

อยากได้ไฟบริสุทธิ์ขนาดนั้น ทำระบบ Off-Grid SolarCell เลยดีกว่า แยะเฉพาะเครื่องเสียงไปด้วยจะได้ไม่ต้องมี Harmonic เข้ามารบกวน

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 16 August 2016 - 17:22 #933216
hisoft's picture

เอาน่าครับ ยังฟังดูดีกว่า SSD ทำให้เสียงแห้ง หรือสาย HDMI คุณภาพต่ำทำให้สีหม่น

By: KuLiKo
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 16 August 2016 - 20:32 #933261 Reply to:933216
KuLiKo's picture

ผมนี่ก๊ากเลย

ได้ยินแบบนี้แล้วไม่รู้จะท้อจนท้อยังไง กับการที่เรียนมาแต่อธิบายให้เค้าฟังไม่ได้ (กลัวโดนกระทืบ)

By: pookman
Windows PhoneAndroidWindows
on 16 August 2016 - 21:46 #933275 Reply to:933216
pookman's picture

สายยังพอว่านะครับ

แต่เจอ SSD ต่างยี่ห้อเสียงต่างนี่ไปไม่เป็นเลย สงสัยต่อไปต้องเลือกยี่ห้อแรมมาทำแคชล่ะมั้ง 5555

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 August 2016 - 10:32 #933370 Reply to:933216
Holy's picture

สาย HDMI นี่ผมเคยได้ยินมา แต่ SSD เสียงแห้งนี่เคยได้ยินครั้งแรก ยอมใจเลย.....

ปล. หรือการหมุนของ HDD จะสร้างเสียงรบกวนที่เพิ่มความกลมกล่อมของเพลงได้?

By: indyend
AndroidUbuntu
on 17 August 2016 - 11:15 #933398 Reply to:933216
indyend's picture

มันทำให้เสียงแห้งจริงครับ แต่ในทางเทคนิค และคนฟังที่เข้าใจผิดอาจจะไม่มีความรู้ แต่เค้ารู้สึกได้

"จริงๆ SSD ไม่ได้ทำให้เสียงแห้งนะ แต่ไฟ switching มันไม่ดีแล้ว SSD มันไวมากเสียงเลยออกแห้งๆบาดๆมากกว่า (seek time ปกติ 10 กว่า ms แต่ ssd ไม่ถึง 1ms คิดเอาว่าตอนเล่นเพลงจริงๆจังๆที่ playback latency 0-5ms จะเป็นไง) tweak พวก priority ต่างๆก็มีผล ที่เมืองนอกก็มีคนที่มีความรู้ computer สูงทำการวิจัยโดยใช้ความรู้ด้านไฟฟ้า คอม กับเรื่องเสียงเยอะเหมือนกันอย่าง http://www.cicsmemoryplayer.com ลองอ่านในนี้ดูได้ครับ หากลองทดสอบตามที่เค้าเขียนดูจะพบไม่ได้อุปทานจริงๆนะ ขนาดค่า Win32PrioritySeparation ยังมีผลเลย ส่วน SSD จะดีกว่า 2.5 ในเรื่องเสียงตรง seek time น้อย เกิด latency delay ต่ำกว่า กินไฟต่ำไม่สั่นทำให้ sine wave นั้นนิ่งและสะอาดกว่า ข้อมูลจาก drive ส่งไปใน sata controller ไม่ใช่เลข 0 กับ 1 แต่เป็น sine wave ซึ่งช่วงตัดจะไม่ได้เป๊ะๆพอดี ซึ่งต้องใช้ความรู้เรื่อง data communications ควบคู่ไปกับ digital audio workstation design และ sound engineering ด้วย"

ที่มา :
http://www.taf.in.th/showthread.php?t=52000&s=2c4f82584eec10296f90e199e312c04a&p=756411&viewfull=1#post756411

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 17 August 2016 - 11:42 #933408 Reply to:933398
hisoft's picture

ขนาดค่า Win32PrioritySeparation ยังมีผลเลย

อันนั้นมีผลแน่ๆ อยู่แล้วครับ

ส่วนข้ออื่นๆ อิงไปตามนู้นเลยแล้วกันครับ

H1: seek time ปกติ 10 กว่า ms แต่ ssd ไม่ถึง 1ms คิดเอาว่าตอนเล่นเพลงจริงๆ จังๆ ที่ playback latency 0-5ms จะเป็นไง
F1: seek time ของ storage ไม่มีผลกับการเล่นเพลง ไม่ว่าจะ playback latency (device buffer) เท่าไหร่ ตราบเท่าที่มันสามารถอ่านข้อมูลออกมาได้เร็วกว่า bitrate ของเพลง (ซึ่ง CD Quality PCM WAV ต้องการไม่ถึง 1 MB/s) เพราะมันมี buffer ของข้อมูลเพลง ซึ่งข้อมูลเพลงจะถูกเก็บไว้ตรงนี้ และเมื่อ Player ต้องการ ก็มาเรียกเอาจากตรงนี้ได้เลย ไม่ใช่ว่า จะ decode แล้วไปเรียกเอาข้อมูลจาก disk แล้ว disk ถึงจะ seek ไปหาข้อมูลอีกที และ buffer ตรงนี้ ไม่ก่อให้เกิด latency (เพราะ latency ในที่นี้ เกิดที่ soundcard) ข้อเสียอย่างเดียวของ buffer นี้คือ เปลืองแรม
 
H2: ข้อมูลจาก drive ส่งไปใน sata controller ไม่ใช่เลข 0 กับ 1 แต่เป็น sine wave ซึ่งช่วงตัดจะไม่ได้เป๊ะๆพอดี
F2: ข้อมูลที่ส่งใน SATA ใช้เทคนิคที่เรียกว่า differential signaling ซึ่งไม่ไม่เกี่ยวว่ามันจะเป็น square wave หรือ sine wave แต่ถ้ามันมี error ซึ่งตรวจได้ เพราะใน packet มี crc มันก็ส่งมาใหม่ ไม่ใช่ว่าส่งข้อมูลมาผิด แล้วจะเอาไปใช้ผิดๆ ไม่เช่นนั้น เราจะทำอะไรกับคอมพิวเตอร์ไม่ได้เลย เพราะโปรแกรมแต่ละโปรแกรม แค่ผิดไปบิตเดียว ก็อาจทำให้มันค้าง หรือทำงานผิดพลาดได้
 
H3: เมื่อลอง set nt timer resolution จาก 15.6 มา 0.5ms และทดลองด้วย WASAPI ที่ playback latency <= 5ms จะฟังออกว่าต่างได้อย่างไม่ยากเย็นเลย โดยปกติ application timer จะ fetch คำสั่งใหม่ๆทุก 15.6ms
F3: เรื่องฟังต่างกันไหม ไม่สามารถทราบได้ ไม่ได้ทดลอง แต่ timer ไม่ใช่ fetcher ไม่ใช่ scheduler มันเป็นเพียง counter ที่บอกว่า ตอนนี้ เวลาผ่านมาแล้วเท่าไหร่ การทำงานของคอมพิวเตอร์ จะ fetch คพสั่งต่างๆ มาจากโปรแกรมเป็นหลักพันล้านครั้งต่อวินาที (ถ้า ideal คือ เท่ากับความถี่ clock ของมันนั่นแหละ) เข้าใจว่า ที่เค้าพูดถึง อาจจะหมายถึงการเขียนโปรแกรมแบบ timer-driven ที่มันจะทำงานได้ด้วยความถี่สูงสุดเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แต่ละครั้ง ที่โปรเซสนั้นทำงาน มันจะทำได้อย่างเดียว
 
อื่นๆ
H4: buffer มากๆ ทำให้เสียงดีเลย์ และเพี้ยน?
F4: ในกรณีนี้ เข้าใจว่าเป็น device buffer ของ sound card, เสียงดีเลย์ ใช่ครับ แต่ดีเลย์ไปพร้อมๆ กันหมด ไม่ได้เลือกว่า ความถี่นี้ดีเลย์เยอะ ความถี่นี่ดีเลย์น้อย ซึ่งมันก็ทำให้เสียงมันเหมือนเดิม มันไม่เพี้ยนไปหรอก มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะบอกว่า buffer มาก แล้วเสียงทุ้ม ไม่ลื่นไหลเพราะมีข้อมูลมากเกินไป
H5: เซ็ต soundcard device buffer น้อยๆ แล้วต้องมี storage ที่ความเร็วสูง latency ต่ำ ถึงจะใช้งานได้
F5: กลับไปอ่านที่ F1 และ 2.2 ครับ device buffer มันไม่ได้มีกงการอะไรกับ storage buffer เลยซักนิดเดียว มันเป็นคนละตัวกัน
อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าสงสัยอะไรถามต่อได้ครับ และสามารถสรุปได้เลยว่า access time ของ SSD/HDD ไม่มีผลอะไรกับเสียงที่ออกมา

ที่มา - http://ipats.exteen.com/20110204/ssd-vs-hdd

By: Holy
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 August 2016 - 13:20 #933437 Reply to:933408
Holy's picture

อธิบาย Data Flow ให้คนไม่ได้เรียนสายคอมอย่างผมเข้าใจได้ง่ายดี (ยกเว้น H3) ขอบคุณครับ

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 August 2016 - 13:52 #933445 Reply to:933411
McKay's picture

- - ชัดเลย


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)

By: McKay
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 17 August 2016 - 13:44 #933439 Reply to:933398
McKay's picture

สงสัยคนโพสไม่รู้จัก data cache + buffer หรือเปล่า

ก่อนไฟล์จะถูกเล่นไม่ว่าจะมาจากไหน HDD/SSD มันก็ถูก cache เก็บไว้ใน RAM หมดแล้ว ไม่ได้ fetch กันทีละ ms ซะหน่อย แถมยังต้องผ่าน render buffer อีก

จริงๆที่อ้างอิงก็เป็นเว็บ ควรลิ้งไปหน้า information ให้ศึกษา

ที่โพสถึง computer latency ก็มีแต่ข้อมูลเรื่อง CD audio jitter/computer latency ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ SSD เลย แถมเนื้อหาในนั้นก็แปลกๆ มีพูดถึง cache L1 L2 L3 อีก แถมพูดถึง delay เยอะทำให้เสียงไม่สมจริง+ท่อตันอีก

ถ้าจะพูดถึงปัญหาสำคัญของ audio jitter ที่พบบน PC(และ มือถือทั้งหลาย) ที่ไม่เกี่ยวกับ CD คือปัญหาเรื่อง clock accuracy และ CPU multiplier scaling(+voltage swing) ที่ทำให้ clock accuracy มันแกว่งง่ายมากกว่า

นอกจากนี้ CPU multiplier scaling มันยังส่งผลต่อ Deferred Procedural Calls (DPC) Latency ด้วย ทำให้เกิด stuttering

jitter: [1],[2]
PLL clocks and jitter: [1],[2] , DPC

สรุป
1. HDD หรือ SSD ไม่มีผลต่อ jitter/stutter เพราะก่อน render ข้อมูลถูก cache โดย RAM เหมือนกันทั้งคู่อยู่แล้ว
2. jitter เกิดจาก clock accuracy ที่ไม่ดี
3. buffer size ใหญ่/delay เยอะไม่ได้ทำให้เสียงไม่สมจริงหรือท่อตัน แต่---
4. buffer size เล็กๆ/delay น้อยช่วยลด jitter ได้บ้างเพราะช่วย maintain clock accuracy ทางอ้อม(CPU ไม่ได้โหลดครึ่งวิแล้วลด clock ครึ่งวิต่อมาเพิ่ม clock มาโหลดใหม่) ซึ่งไม่เกี่ยวกับท่อตันแต่อย่างใด แต่---
5. อาการท่อตัน(หรือ stream drop-out) เกิดขึ้นได้หาก CPU ประมวลผลของ stream ในช่วง DPC ไม่ทัน แต่อาการนี้ไม่ใช่เรื่อง harmonic, microdetail อะไรเลย แต่เป็นอาการ stutter หรือกระตุกในส่วนที่ถูก drop-out
6. ดังนั้นผมไม่แน่ใจว่าเรื่อง harmonic, microdetail นั้นมีจริงหรือเปล่า ถ้ามีก็คงไม่ได้เกิดจากข้อ 5 แต่มาจากข้อ 4 'ถ้ามันเกิดจริง' แต่โดยปกติ jitter พวกนี้ยากมากที่หูคนเราจะแยกออกเป็น harmonic เป็น microdetail ได้
7. สรุปสุดท้ายว่าสิ่งที่มีผลต่อ jitter ก็คือ clock accuracy ที่ไม่ดี ซึ่งเกิดจาก voltage ที่ไม่นิ่ง, การปรับ clock multiplier ที่ส่งเสริมให้ voltage ไม่นิ่ง และสัญญาณรบกวนอื่นๆ(บ้าง)


Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)

By: itpcc
ContributoriPhoneRed HatUbuntu
on 16 August 2016 - 17:31 #933221
itpcc's picture

ไม่แน่ใจว่าเป็น DBX ด้วยมั้ย แต่ที่แน่ๆ โหดขนาดตั้งเสาระบบไฟต่างหากคงต้องสุดๆ จริงๆ
//สงสัยว่าระหว่างสำเนา Master Tape กับฟังไวนิลอันไหนจะคมกว่าครับ ผมว่าเงินขนาดนั้นซื้อ Master มาฟังยังได้เลยนะนั่น - -)?


บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P

By: Hadakung
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 16 August 2016 - 17:44 #933229

เอาไฟฟ้าธรรมดามายัดลงแบต ลงทุนกับ tranformer เทพๆสักตัว ก็ไม่ต้องทำอะไรยุ่งยากขนาดนี้แล้ว แค่เครื่องเล่นไวนิลตัวเดียวังกินไฟไม่เท่าเตารีดเลย...

By: obtheair on 16 August 2016 - 18:38 #933236 Reply to:933229

ถ้ามีเงินระดับตั้งเสาไฟส่วนตัวแล้ว เขาไม่ได้ฟังสดจากเครื่องเล่นแน่ๆ ครับ ต้องต่อ amplifier ก่อนเข้าลำโพงด้วย เผลอๆ มี amp 2 ตัวแยกซ้ายขวา นั่นแหละรวมแล้วเตารีดเครื่องนึงน่าจะได้ อาจเป็นแอมป์หลอดอีกต่างหาก นี่ยังไม่รวมว่าอาจมี av receiver อีกตัวต่อจากเครื่องเล่นก่อนแยกเข้า amp อีก

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 16 August 2016 - 18:56 #933237 Reply to:933236
hisoft's picture

ผมนึกว่าเครื่องเล่นแผ่นไวนิลนี่สะกิดร่องเสียงออกมาเป็นเสียงตรงๆ ไม่ผ่านวงจรไฟฟ้านะครับเนี่ย

By: itpcc
ContributoriPhoneRed HatUbuntu
on 16 August 2016 - 19:01 #933239 Reply to:933237
itpcc's picture

ถ้าแผ่นเก่ายุค 78rpm ที่เป็นแช็ลแล็คก็ใช่นะครับ แต่ยุคหลังเป็น microgroove หมดแล้ว ผมยังไม่เคยเห็นที่ไม่ใช้ไฟฟ้าเลย


บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P

By: KittenWIthoutACause
AndroidWindows
on 17 August 2016 - 11:03 #933388 Reply to:933237

มันสะกิดรองเสียงออกมาเป็นเสียงตรงๆถูกครับ คือคุณเอาหูไปฟังใกล้ๆ ก็ได้ยินเสียง แต่ว่ามอเตอร์มันหมุนด้วย ไฟฟ้านั่นคือข้อแรกเลย แล้วเสียงถูกจับจากตัวเข็มวงจรตรงนั้นไม่รู้ทำงานยังไง ส่งไปที่แอมป์ต้องเป็นภาค phono ด้วยนะถึงจะขยายเสียงออกมาเพียงพอต่อการเปิดฟัง ถ้าเจอแอมป์ที่ไม่มีภาค phono เข้าเสียงก็จะเบามากๆ จนแทบไม่ได้ยิน

นอกจากเครื่องสมัยใหม่ที่ built phono เข้าไปในเครื่องเลย ซึ่งแน่นอนนั่นย่อมสร้างปัญหาสัญญาณกวน

นี่เรายังไม่ได้พูดถึง ระบบมอเตอร์ที่ มีทั้งระบบ direct drive ที่ตัวมอเตอร์หมุนจานโดยตรง กับ belt drive ที่ต่อแยก motor ออกมา แล้วพาดสายพานเข้าไปหมุนจาน เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนที่มอเตอร์ทำกับจานอีก เรื่องไฟนี่เยอะมากครับ กับเครื่องเล่นแผ่นเสียงถ้าจะเอาแบบสุดๆ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 17 August 2016 - 11:13 #933395 Reply to:933388
hisoft's picture

เรื่องมอเตอร์เรื่องชุดขับนั่นเข้าใจครับ แต่ผมนึกว่าสัญญาณจากร่องเสียงมันออกมาเป็นเสียงโดยไม่ผ่านการแปลงเป็นไฟฟ้าก่อนน่ะครับ ห่ะๆๆ (พวกตกยุค เคยเห็นเครื่องเล่นครั้งสุดท้ายเป็นแบบต้องไขลานครับ 5555)

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 17 August 2016 - 13:11 #933433 Reply to:933395

ผมเคยนึกว่ามันสลักร่อง แล้วเอาเข็มขีดออกมาเป็นเพลง เหมือนกล่องเสียงซะอีก -_-"

By: KittenWIthoutACause
AndroidWindows
on 17 August 2016 - 13:59 #933450 Reply to:933433

ใช่ครับแต่มันต้องมีภาคขยายเพราะสัญญาณที่เล่นจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงนี่เบามาก ๆ ๆ ๆ
จนต้องใช้ ภาคขยายที่เรียกว่า phono ซึ่งภาคขยายนี้ใช้กับเครื่องเล่นแผ่นเสียงเท่านั้น consumer amplifier ช่วงกลางๆ 90's ขึ้นมา ไม่มีรูนี้แล้วอะครับ อาจจะกลับมาใหม่ตอนนี้หรือเปล่าผมไม่ได้ตามเหมือนกัน

พวก portable หรือว่าพวกเครื่องรุ่นถูกๆ ก็จะมี ภาคขยายภาคนี้อยู่ในตัวเลย เอาสะดวก
ถ้าดู mixer dj line in จะมี ชุดสัญญาณ 2 ชุด ชุดหนึ่งเอาไว้ต่อ CD หรืออุปกรณ์อะไรก็ตาม เข้าปกติ อีกชุดเอาไว้ต่อ turntable เพราะจะต้อง ใช้ phono ขยาย

http://c1.zzounds.com/media/fit,2018by3200/quality,85/Numark_X1USB_back_-dbf3116ca33b92212d6f1a26c77c5ab8.jpg

แต่จริงๆผมว่าประเด็นของเฟสไฟที่สร้างปัญหามันไม่ได้สร้างกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงโดนตรงหรอกครับมันสร้างกับ ภาคขยายมากกว่า คือมันก็คงมีกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วย แต่ถ้าภาคขยายมันมีปัญหานำมาแล้วแน่ๆ และมันชัดเจนกว่า

By: Hadakung
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 16 August 2016 - 19:59 #933249 Reply to:933236

เอ๋แล้วไม่ฟังจากเครื่องเลยแล้วจะใช้ไวนิลทำไมหรอครับถ้าจะไปแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าก่อนจะออกมาเอา lossless มาต่อแอมป์หลอดความถูกต้องของเสียงยังดูจะมากกว่า?!?

By: ZeaBiscuit
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 16 August 2016 - 21:34 #933272 Reply to:933249
ZeaBiscuit's picture

ต่อแอมป์หลอดไม่น่าจะเน้นความถูกต้องนะครับ หลอดแต่ละตัว THD เยอะๆทั้งนั้น แต่เสียงมันอิ่มกว่า

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 17 August 2016 - 11:14 #933396 Reply to:933249
hisoft's picture

lossless มันเป็นดิจิตอลครับ ถ้าจะทำจริงๆ สัญญาณจากไวนิลไปถึงลำโพงมันเป็นอะนาล็อกทั้งหมดได้

By: worawee.b
ContributorAndroid
on 16 August 2016 - 22:13 #933286 Reply to:933236

เข้าไปดูต้นทางมา เค้าพูดถึงเครื่องเสียงสองชุดครับ เป็นแยกชิ้นหลายๆตัวทั้งสองอัน
มีอยู่ชุดนึงที่ไม่แน่ใจว่าTurn Table กับลำโพงยี่ห้ออะไร แต่เครื่องเล่น Digital Disc เป็น Esoteric ที่น่าจะเป็นรุ่นท็อปๆราคาหลักล้านครับ
เฉพาะเครื่องเล่นอย่างเดียวก็แบ่งตัวนึงเป็น Transport อีกตัวนึงเป็น DAC ครับ ยังไม่ต้องพูดถึงแอมป์


ช่อง Youtube ของผมครับ รีวิวและชวนคุยนู่นนี่

By: mr_tawan
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 16 August 2016 - 19:18 #933241
mr_tawan's picture

ผมคิดว่า CD เสียงดีกว่าแผ่นเสียงครับ #SonyFanboy


  • 9tawan.net บล็อกส่วนตัวฮับ
By: doanga2007
AndroidSymbianUbuntu
on 16 August 2016 - 20:01 #933251 Reply to:933241
doanga2007's picture

ผมคิดว่า SACD ดีกว่า CD เพราะบันทึกแบบ DSD ไร้เสียงรบกวนครับ

By: frameonthai
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 17 August 2016 - 14:52 #933464 Reply to:933251
frameonthai's picture

+2.8 ครับ

By: Fourpoint
Windows PhoneAndroidSymbian
on 16 August 2016 - 20:18 #933254

ตั้งเสาไฟส่วนตัว หมายถึง ขอติดตั้งหม้อแปลง step down จากเสาไฟแรงสูง22kVเองหรือเปล่า?

ถ้าใช่ บ้านเราก็ทำได้ครับ จ่ายราวๆสองแสนบาท(จำตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้แล้ว) บ้านญาติเคยทำแล้ว เพราะสร้างบ้านใหม่กลางทุ่ง ห่างจากหมู่บ้าน เสาไฟเดิมจ่ายไม่ถึง ต้องจ่ายเงินติดตั้ง transformer เอง แล้วบริจาคให้การไฟฟ้า(ถ้าบริจาคแล้วการไฟฟ้าจะดูแลต่อเอง) หลังจากนั้นมีคนมาปลูกบ้านใกล้ๆเต็มเลย เพราะมีไฟฟ้าเข้าถึงแล้ว(ชาวบ้านได้อานิสงค์ไปฟรีๆ)

แต่จะว่าไป แม้จะลดการกวนกันของการดึงไฟจากเพื่อนบ้านได้ แต่สุดท้ายไฟฟ้าก็มาจากแหล่งอื่น สู้ทำ power isolation แบบ UPS true online ,เครื่องปั่นไฟพลังงานน้ำมัน ไม่ได้อยู่ดีหรือเปล่า?

ป.ล. UPS true online 2-3kva เห็นขายกันแถวๆ 2-3หมื่นก็น่าจะพอสำหรับเครื่องเสียงชุดใหญ่แล้วนะ

By: Polwath
ContributoriPhoneWindows PhoneAndroid
on 16 August 2016 - 22:41 #933292
Polwath's picture

ถ้าจะทำแบบนี้ ใช้ Powerplant เล็กๆ หลังบ้านเลยน่าจะดีนะ ไม่ต้องพึ่งไฟจากภายนอกและปลอดสัญญาณรบกวนแน่นอน


Get ready to work from now on.

By: olan16
AndroidWindowsIn Love
on 16 August 2016 - 23:38 #933305
olan16's picture

ดูข่าวนี้แล้ว ข่าวสาย Lan เส้นละแสนดูธรรมดาไปเลย

By: maoIndie
Ubuntu
on 17 August 2016 - 10:10 #933364
maoIndie's picture

เรื่องปกติของคนรวยเขาแหละ

By: KittenWIthoutACause
AndroidWindows
on 17 August 2016 - 11:03 #933389

เรียนตามตรงด้วยความเคารพ ผมว่าน่าจะเอา vdo จาก WSJ มาแปะมากกว่า ใช้ vdo queen นะ

By: garmin
Android
on 17 August 2016 - 14:56 #933465

กระทู้น่าสนใจจากเวปมั่นคง >> ไม่ต้องเทียบเม็มแล้ว เม็มเดียวกันเสียงก็ต่างกันได้

วันนี้ลองก็อปไฟล์เพลงฟังกับเพื่อนดู ทดสอบกับ AK380 พูดว่า ไฟล์เดียวกัน Windows 10 เหมือนกัน ก็อปกันคนละเครื่อง เสียงยังต่างกัน เปลี่ยนโปรแกรมก็อป เสียงก็เปลี่ยน เปลี่ยนขนาด buffer เสียงก็เปลี่ยน ต่อไปผมคงต้องทำเครื่องก็อปเพลงรึเปล่าเนี่ย

คห 2.
1.เปลี่ยน internet ด้วยครับผม AIS fiber เสียงจะได้อีกแบบ / true highspeed ก็จะได้เสียงอีกแบบ
2.เปลี่ยนการ์ดจอด้วยครับ การ์ดจอค่ายเขียวก็จะได้เสียงอีกแบบ ค่ายแดงก็ได้อีกแบบ
3.แรมก็มีผลนะครับ kington เสียงแบบหนึ่ง corsair ก็อีกแบบหนึ่ง
4.MB ก็สำคัญครับ gigabyte เสียงอาจจะโปร่งๆ แต่ถ้าเป็น asus โดยเฉพาะซีรีย์ ROG เสียงอาจจะขุ่นติดดาร์ก
5.cpu cooling ก็สำคัญมากครับผม ควรจะใช้แบบ น้ำปิด liquid cooling น่าจะทำให้เสียงนุ่มเนียนไหลลื่นเหมือนน้ำ ถ้าใช้แบบเดิมๆติดพัดลม เสียงอาจจะอุ่นๆร้อนๆตามความร้อนของ CPU ครับ
6.เคส PC ก็สำคัญครับ เอาอันใหญ่ๆเลยอย่างพวก Corsair obsidian 900D ราคาหมืนกว่าบาทครับ รับรองเสียงที่ได้อลังการงานช้างตามเคสแน่ๆครับ แต่ถ้าจะให้สมศักดิ์ศรีกับ AK ผมแนะนำเคสของ in win ครับ แพงสมใจเหมาะสมระดับเดียวกับ AK เลยครับผม
7.เมาส์และคีย์บอร์ดก็สำคัญใช่ย่อยครับ เมาส์ดีๆเวลาเราลาก/คลิกไฟล์จะได้นุ่มเนียนสมูทครับ สำคัญมากๆ อย่าลืมแผ่นรองเมาส์ด้วยนะครับ ยิ่งแพงยิ่งดี เอาแบบ Speed นะครับ จะได้ลื่นๆ เสียงใสๆ แต่ถ้าอยากได้ดาร์กๆขุ่นๆแนะนำแบบ control
8.monitor ครับสำคัญมาก จอดีภาพเนียน ภาพสวย เสียงมาแน่ครับ

อันนี้แถมครับสุดท้ายและไม่ท้ายสุด สภาพแวดล้อมก็สำคัญนะครับ เช่นโต๊ะทีเอาไว้วาง PC หรือเครื่องริปเครื่องก๊อป ถ้าทำจากวัสดุห่วยๆฐานมันจะไม่แน่น เดี๋ยวไฟล์ไม่หนักแน่น เสียงไม่มานะครับ

ห้องที่ใช้ copy หรือ rip ก็สำคัญนะครับ ห้องเช่ากากๆราคาถูกๆอย่างผมนี่บอกเลยให้เสียงที่ห่วยมาก แย่ ไม่โปรง sound stage แคบมาก อึดอัด ถ้าได้ห้องหรูหราระดับตึก เบิร์จคาลิฟา (burj khalifa) ที่นครดูไบ รับรองครับ คุณจะได้คุณภาพเสียงระดับเอเลี่ยนฟังยังเคลิ้มครับผม แนะนำจองตั๋วแล้วไป RIP ที่ เบิร์จคาลิฟา เลยครับ แจ่ม

คห 22. จัดเต็มมาแบบนี้ผมก็อยากจะช่วยแนะนำจากประสบการณ์ที่มาให้ตามนี้นะครับ

1.เปลี่ยน internet ด้วยครับผม AIS fiber เสียงจะได้อีกแบบ / true highspeed ก็จะได้เสียงอีกแบบ
อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ พวกเน็ตไม่ดี latency เยอะๆเกิด fragmentation มากๆนี่โหลดมาแล้วต้องมานั่งก็อปใหม่อยู่เรื่อย แย่จุง
2.เปลี่ยนการ์ดจอด้วยครับ การ์ดจอค่ายเขียวก็จะได้เสียงอีกแบบ ค่ายแดงก็ได้อีกแบบ
จากที่ทดสอบมาใช้การ์ดจอ onboard ของ intel เดิมๆไปเลยได้เสียงที่ดีสุดครับเพราะมี noise ที่รบกวนในภาคจ่ายไฟน้อยกว่าชัดเจน
3.แรมก็มีผลนะครับ kington เสียงแบบหนึ่ง corsair ก็อีกแบบหนึ่ง
ถั่วต้มเลยครับ เครื่อง music server รุ่น premium ผมก็จัด Corsair แทน Kingston เหมือนกัน เรื่อง RAM server grade ที่มี ECC ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้เลยว่าใช้หรือไม่ใช่จะดีกว่า นี่ก็นั่งถกกับลูกค้า Fidelizer และผู้พัฒนา AudiophileOptimizer อยู่เหมือนกัน
4.MB ก็สำคัญครับ gigabyte เสียงอาจจะโปร่งๆ แต่ถ้าเป็น asus โดยเฉพาะซีรีย์ ROG เสียงอาจจะขุ่นติดดาร์ก
Gigabyte จะชุบทองแดงหนาหน่อยครับ นำสัญญาณดีกว่าและการรบกวนในบอร์ดจะน้อยกว่า ASUS โดยทั่วไป แต่ ASUS บางรุ่นก็ทำได้ดีนะครับพวกที่เป็น product แบบ niche หน่อย
5.cpu cooling ก็สำคัญมากครับผม ควรจะใช้แบบ น้ำปิด liquid cooling น่าจะทำให้เสียงนุ่มเนียนไหลลื่นเหมือนน้ำ ถ้าใช้แบบเดิมๆติดพัดลม เสียงอาจจะอุ่นๆร้อนๆตามความร้อนของ CPU ครับ
แบบนั้นไม่ดีครับ ระบบ liquid cooling จะเกิดแรงสั่นสะเทือนจากน้ำไหลทำให้ในเครื่องไม่นิ่ง ระบบที่ดีจะต้องไม่มี moving part อะไรเลย แนะนำให้ติด heatsink ใหญ่ๆเป็น fanless แล้วไม่มีอะไรขยับเลยดีกว่าครับ
6.เคส PC ก็สำคัญครับ เอาอันใหญ่ๆเลยอย่างพวก Corsair obsidian 900D ราคาหมืนกว่าบาทครับ รับรองเสียงที่ได้อลังการงานช้างตามเคสแน่ๆครับ แต่ถ้าจะให้สมศักดิ์ศรีกับ AK ผมแนะนำเคสของ in win ครับ แพงสมใจเหมาะสมระดับเดียวกับ AK เลยครับผม
case ดีน่าสนับสนุนครับ ถ้าทำ stainless steel แบบ AK240SS ได้ก็จะดีไม่น้อยแต่แพงมากๆ มีเพื่อนผมคนนึงแกทำ chassis aluminium แล้วเอา heatsink ตัวใหญ่ไปวางทับเลย เครื่องเย็นลงเยอะเลย แกจะเอามา rip เพลงไทยเก่าๆฟัง หาแผ่น RS ปั้มแรก rip มาฟังเพลงพกพา เปลี่ยนแล้วเสียงนิ่งขึ้นเยอะครับ อาการ resonance ก้องๆกวนๆจาก plastic หายไปแล้ว อุณหภูมิก็นิ่งขึ้นไม่แกว่งหรือสูงแบบตอนแรกๆ
7.เมาส์และคีย์บอร์ดก็สำคัญใช่ย่อยครับ เมาส์ดีๆเวลาเราลาก/คลิกไฟล์จะได้นุ่มเนียนสมูทครับ สำคัญมากๆ อย่าลืมแผ่นรองเมาส์ด้วยนะครับ ยิ่งแพงยิ่งดี เอาแบบ Speed นะครับ จะได้ลื่นๆ เสียงใสๆ แต่ถ้าอยากได้ดาร์กๆขุ่นๆแนะนำแบบ control
ตัวแผ่นรองเมาส์ถ้าวางข้างๆกับเครื่องก็มีผลเหมือนกันครับ บางคนเลือกแผ่นไม่ดีดูดเสียงเบสไปเลยก็มี ทางที่ดีต้องแยกเครื่องกับที่ใช้ mouse ห่างกันไป ที่สำคัญ mouse ที่ต่อ USB นั้นกวนเครื่องด้วยครับ ควรจะเลี่ยง USB ที่ไม่จำเป็นออกโดยการต่อ teamviewer remote เข้ามาใช้ดีกว่า มีเพื่อนผมคนเดิมนี่แหละแกขี้เกียจเปิดหลายเครื่องเลยหา mouse PS/2 มาต่อใช้แทนก็ดีขึ้นครับ
8.monitor ครับสำคัญมาก จอดีภาพเนียน ภาพสวย เสียงมาแน่ครับ
ใช่ครับผม monitor นี่เป็นตัวก่อกวนตัวร้ายที่หลายคนคาดไม่ถึงเลย ยิ่งบ้านไหนมีไฟรั่วนะ ผมเอาไขควงวัดไฟจิ้มคอมเช็คดูปรากฎว่าไฟรั่วทันทีที่ต่อ monitor เลยก็มี ดังนั้นจอดีๆจะช่วยลดการรบกวนจากตัวหน้าจอได้ด้วยครับ อย่าลืมจัดสายไฟหัวเลข 8 แบบเดิมๆมาใช้ด้วยนะครับ ผมเคยโมจอ Sony 60EX700 เปลี่ยน inlet เป็น furutech gold ต่อ ground ภาคจ่ายไฟลง inlet จากนั้นเอาสาย audiophile ASR Magic Cord ที่มี Capacitor bank ในตัวต่อ ภาพและเสียงดีขึ้นเยอะเลยล่ะครับผม

ปล. ทั้งหมดนี้ไม่ใช่มุขนะครับ นี่พูดจากประสบการณ์ตรงจริงๆทั้งนั้นเลยครับ จะให้ผมสาบานต่อหน้า micro SD card ของ Sony Premium Sound เลยก็ยังได้ วันนี้ก็มีลูกค้าถามหาอยากได้อีกเหมือนกัน ไปญี่ปุ่นเดินหาซื้อไม่เจอแล้ว :D

By: ZeaBiscuit
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 18 August 2016 - 11:25 #933613 Reply to:933510
ZeaBiscuit's picture

โห... ถ้าคุณภาพเพลงเปลี่ยนตาม Medium แบบนี้ สงสัยพวกตากล้องต้องไปหา SD Card เทพๆมาใช้แล้วละ เดี๋ยวรูปไม่สวย O_o