ไมโครซอฟท์จะเปิดบ้านของตัวเองที่เรดมอนด์ จัดงาน TechFest 2010 โชว์ผลงานวิจัยจาก Microsoft Research

หนึ่งในผลงานที่น่าสนใจคือ Microsoft Surface เวอร์ชันย่อส่วน ซึ่งเรียกว่า "Mobile Surface"

Microsoft Surface เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ไม่กี่ตัวของไมโครซอฟท์ ที่สร้างความฮือฮาได้ในช่วงหลังๆ หลักการทำงานของมันคือเป็นโต๊ะที่มีกล้องวิดีโออยู่ข้างใต้ แล้วจับความเคลื่อนไหวของนิ้วและมือเรา อย่างไรก็ตาม Surface มีราคาแพง และไมโครซอฟท์ยังไม่ผลิตมันในเชิงการค้ามากนัก

กูเกิลประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Bitnik เจ้าของบริการแต่งภาพออนไลน์ Picnik โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่า

แต่ความน่าสนใจอยู่ที่ Picnik มีความตกลงกับบริการรับฝากรูป Flickr ของยาฮู ทำให้ Picnik กลายเป็นตัวแก้ไขรูปภาพมาตรฐานของ Flickr (ใครใช้ Flickr ลองกด Edit ที่ภาพ) คำถามคือ หลังจาก Picnik กลายเป็นของกูเกิลไปแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่?

คำตอบของกูเกิลคือ Picnik จะยังใช้กับบริการอื่นๆ ได้ดังเดิม ส่วนยาฮูยังไม่ตอบเรื่องนี้

สำนักข่าวหลายแห่งคาดการณ์ว่า กูเกิลจะรวมความสามารถของ Picnik เข้ากับ Picasa อย่างแน่นอน

ยุโรปนั้นมีปัญหาคล้ายบ้านเราในเรื่องที่ผู้ใช้จำนวนมากไม่รู้ตัวว่าโทรศัพท์ของตัวเองต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ทำให้ค่าบริการบางเดือนเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหายในกรณีที่การใช้งานเกินแพคเกจที่กำหนดจนสร้างเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ทางสหภาพยุโรปจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการออกกฏให้ผู้ใช้ทุกคนต้องกำหนดเพดานค่าบริการของตัวเองภายในวันที่ 1 กรกฎาคม

ผู้ใช้ที่ไม่ได้กำหนดเพดานค่าบริการของตัวเองจะถูกตั้งไว้ที่ 50 ยูโรโดยอัตโนมัติ หากผู้ใช้ใช้ค่าบริการถึงร้อยละ 80 ของเพดานจะต้องมีการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้และเมื่อครบเพดานแล้วจะใช้งานไม่ได้อีกต่อไป

ใครๆ ก็ต้องการให้ iPhone ของเราทำงานได้เพิ่มเติมมากที่สุด หรือให้เล่นเกมส์ได้เยอะๆ ซึ่งความต้องการนี้ก็มีมาเรื่อยๆ อย่างไม่ขาดสาย ทำให้บริษัท Unioo ได้เปิดเผยแบตเตอรรี่แบบใหม่ 3 แบบ และสองในสามนั้นสามารถต่อกับแท่นชาร์จของ iPhone ได้

i800 เป็นแท่นชาร์จของ iPhone/iPod touch ซึ่งสามารถทำงานกับ iPod อื่นๆ ที่มี docking connector ได้ โดยติดแบตเตอรี่ที่ด้านใต้ของอุปกรณ์ สามารถให้กระแสไฟได้ 800 mAh (mAh คือกระแสไฟที่จ่ายให้กับอุปกรณ์ ได้ในระยะเวลา 1 ชั่วโมง) ซึ่งทำให้คุยหรือดูวิดิโอมากกว่า 3 ชั่วโมง

i1500 เป็นอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน แต่มีการจ่ายกระแสไฟ 1500mAh ซึ่งสามารถคุยหรือดูวิดิโอได้มากกว่า 5 ชั่วโมง

เรารู้กันมานานแล้วว่าอินเทอร์เน็ตกำลังเป็นสื่อที่ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คำถามคือมันทรงพลังซักแค่ไหนกันในวันนี้ ผลสำรวจล่าสุดจาก Pew Internet and American Life Project ชี้ให้เห็นว่าอินเทอร์เน็ตเพิ่งแซงหน้าหนังสือพิมพ์ (แบบรูปเล่ม) ไปแล้วในสหรัฐฯ

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ทั้งท้องถิ่นและระดับชาติยังคงครองอันดับหนึ่งและสองของสื่อที่ชาวอเมริกาบริโภคมากที่สุด อินเทอร์เน็ตก้าวขึ้นมาเป็นที่สาม และผลักหนังสือพิมพ์ลงไปเป็นอันดับสี่

หลังจากโนเกียโชว์หน้าจอต้นแบบซิมเบียน^4 ใหม่ ที่พัฒนาจาก Qt เฟรมเวิร์ค ไม่ใช่ C++ แล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามูลนิธิซิมเบียน (Symbian Foundation) ก็ได้เปิดเผยคลิปวีดีโอแสดงแนวคิดส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Symbian^4 (อ่านว่า ซิมเบียน 4) ทั้งหน้าจอ Homescreen และ Photos ให้ดูกัน

ผู้ลงข่าวใน Engadget บอกว่า "มันเป็นไปตามที่คาดหวังไว้คือส่วนติดต่อผู้ใช้นี้เน้นการใช้นิ้วสัมผัส แต่มันก็ไม่ได้ปฏิวัติ [การออกแบบ] แต่อย่างไร" ส่วนผู้อ่าน Blognone มีความคิดอย่างไรก็ลองดูคลิปท้ายข่าวแล้วแสดงทรรศนะกันได้ครับ

หลังการเปิดตัว WellcoM A88 เรื่องหนึ่งที่คนพูดถึงกันมากคือมันมีภาษาไทยมาในตัว โดยก่อนหน้านี้เราไม่เคยมีข้อมูลว่าคนทำภาษาไทยในส่วนนี้เป็นใครกัน วันนี้ nuuneoi ผู้ก่อตั้งเว็บ DroidSans ก็ได้ออกมาเขียนบล็อกว่าฟอนต์นี้เขาเป็นผู้ทำขึ้นเอง

nuuneoi ระบุว่าฟอนต์นี้ทำขึ้นด้วยความตั้งใจแรกว่าจะขายให้กับโรงงานในไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์ให้กับแบรนด์ต่างๆ ในไทยอีกที แต่เมื่อฟอนต์เสร็จจนส่งมอบแล้วพบเกิดปัญหาบางอย่างจน nuuneoi ตัดสินใจยกฟอนต์ให้ใช้ฟรี และเตรียมแจกฟรีแก่สาธารณะ

ผมทราบว่า nuuneoi เองก็อ่านเว็บนี้อยู่บ่อยๆ มาตอบในนี้ก็หลายครั้งยังไงถ้าจะเปิด chip-in เพื่อเป็นกำลังใจกับคงลงแรงกันบ้างก็แจ้งมาได้เลยครับ

ผมเคยเขียนข่าว dtac ขาย iPhone ผ่านทาง Vodaphone ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ตามมาด้วยการยืนยันหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน และวันนี้ข่าวงานเปิดตัวก็แถลงการกันอย่างเป็นทางการแล้ว ด้านวันที่นั้นแม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็น่าจะเป็นวันที่ 13-14 มีนาคมที่จะถึงนี้ และคำตอบจากหลายๆ คำถามคงได้คำตอบกันในงานนี้

WellcoM เพิ่งเปิดตัวโทรศัพท์ Android ไปเมื่อสิบกว่าวันก่อน วันนี้ก็เริ่มมีบางคนซื้อเครื่อง A88 มาใช้กันแล้ว จุดสำคัญของเรื่องนี้คือการเปิดเผยราคาว่าจะอยู่ที่ 8,990 บาท

รายงานนี้มาจากคุณ Ballang ที่เขียนรีวิวโทรศัพท์รุ่นนี้จากการไปซื้อมาจากศูนย์พระรามเก้า เมื่อสอบถามไปทาง WellcoM จึงได้รู้ว่าตัวเครื่องเข้ามาจำหน่ายแล้ว แต่เนื่องจากอยู่ระหว่างการกระจายสินค้า ในตอนนี้จึงมีขายเฉพาะที่ศูนย์พระรามเก้าที่เดียวเท่านั้น

เรามาทายยี่ห้อต่อไปกันดีกว่า

ที่มา - Pantip.com

จากที่เคยมีการแนะนำ Microsoft Tag กันไปเมื่อนานมาแล้ว ที่นี่ และรีวิวเป็นบทความแรกของผม ที่นี่ ทางไมโครซอฟท์ก็ได้ปรับปรุง Tag เพิ่มเติมอีกหลายครั้งทีเดียว แต่มาแบบเงียบๆ ไม่มีข่าวอะไรเลยจนกว่าจะกดเข้าไปดูนั่นแหละครับ อาจจะเป็นเพราะสถานะยังเป็น Beta อยู่ก็เป็นได้ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างหลังจากนั้น

เท่าที่ผมหาเจอในหน้าการสร้างจะมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะส่วนของการเรนเดอร์ภาพขึ้นมาใหม่เท่านั้นเอง แต่ก็มีผลเปลี่ยนแปลงไปจากเก่าพอสมควรเลยทีเดียว โดยเมื่อเราสั่งเรนเดอร์ครั้งแรกจะมีคำอธิบายขึ้นมาว่า

การแข่งเรื่องความเร็วในการประมวลผลจาวาสคริปต์กำลังจะกลับมาอีกครั้ง หลังจากค่าย Opera เปิดตัว "Carakan" ใน Opera 10.5 ซึ่งเร็วกว่า Chrome และ Safari ถ้าเทียบเวอร์ชันบนแมคด้วยกัน

Palm ออก webOS รุ่น 1.4 ซึ่งมีความสามารถใหม่ที่สำคัญคือมันสามารถถ่ายวิดีโอได้ และตัดต่อวิดีโอได้ในตัว

การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เป็นการแก้บั๊กและปรับปรุงโปรแกรมมาตรฐานบางตัว เช่น อีเมลหรือปฏิทิน ในจุดเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าใช้ Palm Pre (Pixi ไม่เกี่ยว) จะสามารถดาวน์โหลด Flash Player 10.0 (ไม่ใช่ 10.1) ได้จาก Palm App Catalog ได้แล้ว

ที่มา - Gizmodo, Palm

หลังจาก Engadget ลงข่าวไปเมื่อหลายวันก่อนว่า แอลจียืนยันแล้วว่ามือถือตัวแรกที่ใช้วินโดวส์โฟน 7 จะออกขายอย่างเร็วสุดเดือนกันยายน (ดูข่าวเก่า โดยคุณ mk) เมื่อวานนี้พนักงานของไมโครซอฟท์ที่ถูกเชิญมาพูดคุยในรายการ The Engadget Show ได้โชว์ต้นแบบมือถือของแอลจีที่มีคีย์บอร์ด QWERTY แบบสไลด์ออกด้านข้างและลงวินโดวส์โฟน 7 ด้วย

ทาง Engadget บอกว่าเครื่องหนากว่าไอโฟนและ Nexus One แน่ๆ นอกจากนั้นยังมีกล้องและปุ่ม back, home, และ search เหมือนกับตัวโชว์ใน MWC ที่ผ่านมา ส่วนรายละเอียดอื่นยังไม่มีในตอนนี้ หน้าตาจะเป็นอย่างไรดูภาพได้จากท้ายข่าว

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศชิลี กูเกิลได้เปิดหน้าเว็บสำหรับตามหาคนหายชื่อ Person Finder: Chile Earthquake ซึ่งเป็นตัวกลางสำหรับการแปะประกาศตามหาคน หรือแปะข้อมูลของคนที่ถูกตามหาว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร

เครื่องมือค้นหานี้ใช้ App Engine/AppSpot และมีให้เลือกสองภาษาคืออังกฤษกับสเปน (ซึ่งเป็นภาษาราชการของชิลีและหลายประเทศในอเมริกาใต้) กูเกิลเคยเปิดให้ใช้เครื่องมือนี้สำหรับแผ่นดินไหวในเฮติเช่นกัน ล่าสุดของชิลี ขณะที่ผมเขียนข่าวนี้ มีข้อมูลจำนวน 11700 ชิ้นถูกส่งเข้ามา

ที่มา - AFP

หลายๆ คนอาจบ่นกับภาพหลุดคราวที่แล้วของหน้าจอรายชื่อผู้ติดต่อของ Windows Live Messenger Wave 4 (ดูข่าวเก่า) ที่ดูใหญ่เทอะทะและรกรุงรัง แต่น่าจะใจชื้นขึ้นเล็กน้อยกับข่าวนี้นะครับ

เมื่อสัปดาห์ก่อนก็มีภาพหลุดหน้าจอ Windows Live Messenger (อีกแล้ว) พร้อมกับรายละเอียด ดังนี้

ถ้าได้อ่าน ข่าวเก่า มาแล้วก็คงจะทราบกันดีว่ากูเกิลกับจีนนั้นไม่ถูกกัน แล้วยังตัดสินใจโทรไปยัง Android Developer Lab ที่กรุงปักกิ่งว่าอีก 1 สัปดาห์จะจัด event ซึ่งล่าสุดได้ออกมาบอกแล้วว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ที่จริงแล้ว มีแลปสามที่ในเอเชียที่จะไปคือสิงคโปร์ ไทเป และฮ่องกง ไม่ได้มีแผนจะชะลอที่จะไปปักกิ่งแต่อย่างใดเพราะไม่ได้อยู่ในแผน

มีพนักงานของอะโดบีตอบคำถามในฟอรั่มของบริษัท ใจความดังนี้

• Flash บนแอนดรอยด์มาประมาณกลางปีนี้ โทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติทางฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ตามความสเปกขั้นต่ำจะรองรับ Flash
• วินโดวส์โมบาย 7 (วินโดวส์โฟน 7) เป็นต้นไปถึงจะรองรับ Flash เนื่องจากวินโดวส์โมบาย 6.5 ไม่รองรับ API ที่จำเป็นต้องใช้
• HTC Hero ไม่รองรับ Flash เนื่องจากไม่มีเวอร์ชั่นของแอนดรอยด์ที่ถูกต้อง และชิปเซ็ตแรงไม่พอ

ที่มา: อะโดบี ผ่าน Ars Technica

หลังจากที่ Opera ได้ปล่อย Opera 10.50 Beta for Mac มาให้ได้ทดสอบกัน ซึ่งมีจุดเด่นๆ ดังนี้

• ใช้ Cocoa
• Unified tool bar
• รองรับ Growl notifications
• รองรับ Multi-touch gestures

ตอนนี้ทาง Computerworld ได้ทำการทดสอบ quick JavaScript benchmarks พบว่า Opera 10.50 Beta for Mac สามารถประมวลผลได้เร็วกว่า Safari 4 ที่ราวๆ 10% (ส่วน Nightly Build ช้ากว่าเป็นเท่าตัว) และยังเร็วกว่า Chrome อีกด้วย (ดูภาพประกอบการทดสอบได้จากที่มา)

อย่างไรก็ตาม ส่วนต่างความเร็วนี้อาจจะเห็นได้ไม่ชัดเจนมากนัก

บริษัท AdMob ซึ่งเป็นผู้นำด้านโฆษณาในโปรแกรมบนมือถือ (ปัจจุบันเป็นของกูเกิลไปแล้ว) เปิดเผยสถิติที่เก็บได้จากโปรแกรมที่ลงโฆษณา

สถิติบอกว่าคนใช้ iPod touch โหลดโปรแกรมมากที่สุด เฉลี่ย 12.1 ตัวต่อเดือน ตามมาด้วย iPhone ซึ่งเฉือน Android เล็กน้อย และ Palm webOS ตามลำดับ

สัดส่วนของโปรแกรมจ่ายเงินกับโปรแกรมฟรีก็เป็นไปตามที่คาด คือยังไม่เยอะมาก อย่างในกรณีของ iPod touch มีคนเสียเงินโปรแกรมเพียง 1.6 ตัวต่อเดือนเท่านั้น (จากทั้งหมด 12.1 ตัว) ตัวเลขอื่นๆ ดูได้จากกราฟครับ

ที่มา - AdMob

โฆษกของไมโครซอฟท์ตอบคำถามบางประการเกี่ยวกับ Windows Phone Starter Edition

• เป็น Windows Phone 6
• "Starter" แบบเดียวกับ Vista/7 Starter Edition แต่ยังไม่บอกว่าจำกัดจำนวนโปรแกรมที่รันหรือไม่
• ไม่รองรับ 3G มีแค่ GSM/EDGE/CDMA
• ขายเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา
• มีสองเวอร์ชันย่อย คือรุ่นที่มี Office Mobile 2010 กับไม่มี
• มี OEM บางรายเซ็นสัญญากับไมโครซอฟท์แล้ว เครื่องจะออกภายในปีนี้

แปลว่าตอนนี้ไมโครซอฟท์มีระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือถึง 3 ตัว คือ Windows Phone 7, Windows Phone Classic และ Windows Phone Starter? - ZDNet

เมื่อปี 2008 กูเกิลได้เปิด Gmail Labs สำหรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Gmail ที่ให้ผู้ใช้ทดสอบก่อนว่าเวิร์คแค่ไหน ถ้าโอเคแล้วค่อยนำไปใส่ใน Gmail จริงๆ ที่ผ่านมากูเกิลก็ทยอยเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาใน Gmail Labs มากมาย เช่น แปลจดหมายด้วย Google Translate, ค้นกูเกิลจากหน้า Gmail, Undo Send

ฟีเจอร์ที่คนใช้กันแพร่หลายบางตัว ก็ถูกเพิ่มเข้ามาใน Gmail สายหลักบ้าง เช่น Tasks ล่าสุดกูเกิลคัดเข้ามาเพิ่มอีกทีเดียว 6 อย่างพร้อมกัน

ผมคิดว่าผู้อ่าน Blognone มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องแอพพลิเคชันบนมือถือเป็นอย่างดี แอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนนี่คงไม่ต้องพูดถึง (เพราะเราโหมข่าวกันอยู่ทุกวัน: P) แต่จริงๆ แล้ว แอพพลิเคชันบนมือถือนั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยของ feature phone โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเกม Java ME ทั้งหลาย ผมเชื่อว่าสมัยก่อนมีหลายๆ คนซื้อมือถือเพราะมันรัน Java ME ได้แล้วมันรู้สึกดี (ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ไม่ค่อยได้ใช้กันเท่าไร) อย่างน้อยผมก็คนนึงละ

เรื่องมีอยู่ว่า Thibault Imbert กับ Michael Chaize ได้ทดสอบการเล่น Flash Player 10.1 บน Nexus One (วิดีโอสาธิตอยู่ที่ Vimeo) ซึ่งพบว่าแบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว อยู่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น เรื่องนี้ถูกขยายผลโดย John Gruber บล็อกเกอร์สายแมคชื่อดัง และเว็บแมคชื่อ Macgasm ตั้งข้อสังเกตว่า Flash บนมือถือจะไปได้จริงๆ งั้นหรือ

ตลาด e-Book อาจเป็นของยอดฮิตประจำปีนี้ เพราะนินเทนโดประกาศว่า Nintendo DSi XL (ชื่อในญี่ปุ่นคือ DSi LL) ซึ่งจะขายในสหรัฐเดือนมีนาคมนี้ จะสามารถอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย

นินเทนโดจะขาย "หนังสือคลาสสิก" จำนวน 100 เรื่องในวันที่ 14 มิถุนายน โดยตั้งราคาที่ 19.99 ดอลลาร์ต่อทั้งชุด ตอนนี้ยังไม่มีรายชื่อหนังสือทั้ง 100 เรื่อง แต่ตามข่าวบอกว่ามีทั้งหนังสือของ Shakespeare และ Mark Twain ผู้อ่านสามารถปรับขนาดตัวอักษรได้ตามต้องการ

นินเทนโดบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะลุยตลาด e-Book เท่าไรนัก แต่มันช่วยให้การเล่น DSi นั้นสนุกมากขึ้น