ไมโครซอฟท์เปิดบริการใหม่เอาใจคนใช้ฮอตเมลแบบจ่ายเงิน โดยเพิ่มความสามารถที่ชื่อว่า Outlook Live! ที่ให้บริการจัดตารางเวลา และนัดหมายให้แก่ผู้ใช้
ราคาค่าใช้งานตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 30-40 ปอนด์ต่อปี โดยรวมถึงค่าเมลขนาด 2 กิกะไบต์
คนจะใช้เยอะขึ้นมั๊ยนี่.....
ที่มา PC Pro: News: Outlook Live! hooks PIM functions to MSN Hotmail
มีภาพลับของบิล เกตส์ถ่ายแฟชั่นลงนิตยสาร Teen Beat ตั้งกะปี 1983 โน่น เลยนำมาให้ดูกันขำๆ น่ะครับ อยากบอกแค่ว่าท่าโพสของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกนี่'สาว'มากเลยนะ Neowin.net
มันเล็กขนาดนั้นข้างในยัดกันยังไง สงสัยใช่มั้ยครับ ดูภาพกันน่าจะดีกว่านะ ข่าวนี้สั้นๆ แค่นี้แหละ Mini ITX.com
ออกมาแล้วครับ โปรแกรมฐานข้อมูลโอเพ่นซอร์สที่หลังๆ รู้สึกจะมาแรงกว่า MySQL ซะอีก เวอร์ชัน 8.0.0 อ่านรายละเอียดได้จากที่นี่โดยตรง ส่วนการนำมาใช้จริงคงต้องใช้เวลากันอีกนานพอสมควร กว่าดิสโทรต่างๆ จะเริ่มนำมารวมเข้ากับตัวดิสโทร ซึ่งไม่น่าห่วงอะไรมากนักเพราะว่าโปรแกรมด้านเซิร์ฟเวอร์เราไม่จำเป็นต้องใช้ major version ที่ใหม่สุดๆ อยู่แล้ว (แต่ minor version ควรใหม่สุดๆ นะเพื่อความปลอดภัย)
เวอร์ชั่น 2.0 ของ Picasa โปรแกรมจัดการรูปจาก Google ออกมาให้ใช้กันแล้ววันนี้ ความสามารถใหม่เด่นๆ คือ การ "ติดดาว" รูปที่ชอบเป็นพิเศษ (ยืมมาจาก Gmail) การให้รูปรูปนึงอยู่ในหลายอัลบั้มโดยใช้ไฟล์เดียว คำกำกับภาพที่ใช้มาตรฐาน IPTC (คล้าย EXIF คือฝังอยู่ในภาพเลย) แสดงข้อมูล EXIF และ histogram (แยกสี RGB ด้วย) ส่วนความสามารถที่พัฒนาขึ้นจากของเดิมนั้น หลักๆ ก็คือการแต่งภาพ ที่มีตัวเลือกให้มากขึ้น และมี photo effect ให้ใช้หลายอัน ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดโปรแกรมตัดต่อภาพอื่นสำหรับงานง่ายๆ
GNOME 2.10 ตัวต่อไปจะออกเดือนมีนาครับ ฟีเจอร์ใหม่ๆ จะไม่ค่อยหวือหวามากนัก เพราะว่าช่วงหลัง GNOME เปลี่ยนแผนการออกจากอิงตามฟีเจอร์ว่าฟีเจอร์เสร็จจะออก กลายมาเป็นออกตามช่วงระยะเวลาแทน (แบบว่ามีอะไรใหม่เพิ่มเท่าไรก็ตาม ถึงเวลาก็จะออก) ในรีลีสนี้ก็เน้นไปทางปรับแต่งโปรแกรมที่มีอยู่แล้วให้ใช้ดีมากขึ้นแทน เช่น Panel เป็นต้น พรีวิวนี้อ่านง่ายและมีรูปประกอบหมด ลองไปอ่านกันดูครับ
ผลการทดสอบด้านความปลอดภัย พบว่าลินุกซ์แข็งแกร่งขึ้นต่อการแครก โดยหมายถึงแข็งแกร่งแบบดีฟอลต์ด้วย
จากการทดสอบพบว่าลินุกซ์ในปี 2002 จะต้องใช้เวลา 3 เดือนในการเจาะ (แบบ brute force หรือถึกแรนดอมไปเรื่อย) เทียบกับ 72 ชั่วโมงในปี 2001 นี่หมายถึงลินุกซ์ที่ลงแล้วไม่ได้อัพเดตแพตช์นะครับ ในขณะที่วินโดว์ที่ไม่ได้แพตช์นั้นใช้ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง และโซลาริสใช้ประมาณสามสัปดาห์
สรุปง่ายๆ ว่าผลมาจากความนิยมในการนำลินุกซ์มาทำเซิร์ฟเวอร์เพิ่มมากขึ้น ทำให้นโยบายการปิดเซอร์วิสไม่สำคัญในดิสโทรต่างๆ เพิ่มขึ้นตาม รวมไปถึง SELinux ที่หลายๆดิสโทรเริ่มนำมาใช้ และซอพท์แวร์สำคัญอย่าง OpenSSH
ซิสโก้สร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดด้านไวร์เลสแลนมากขึ้น ด้วยการซื้อบริษัท Airespace ซึ่งเป็นผู้ผลิตอันดับสามในปีที่แล้ว
การซื้อครั้งนี้ช่วยให้ซิสโก้ทิ้งห่างบริษัทอย่าง Symbol Technologies ที่สองซึ่งครองตลาดอยู่ 15.9% ไปเป็นตลาดรวมเกือบๆ 50% ตามการวิจัยของบริษัท Synergy Research
หลังปี 2004 มานี่ ยังซื้อกันไม่หยุดเลยครับ.....
ที่มา Fool.com: Cisco Takes Up Airespace [Motley Fool Take] January 14, 2005
มีหลายข่าวนะครับ เขียนรวมๆ เลย ข่าวแรกคือ Mozilla จะสนับสนุนมาตรฐาน U3 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตแฟลชไดรว์อย่าง SanDisk คิดขึ้น ทำให้เราสามารถลงและรันโปรแกรมได้ในแฟลชไดรว์ ต่อไปเวลาไปใช้เครื่องชาวบ้าน ก็ไม่ต้องห่วงว่าไม่มี Firefox อีกต่อไป (ที่มา)
โซลาร์เซลล์เป็นพลังงานสะอาดที่เรารู้จักกันดี แต่การใช้งานยังไม่กว้างนัก เพราะขาดความสะดวกสบายเรื่องจากโซลาร์เซลล์ต้องการแสดงอาทิตย์ตลอดเวลา
ล่าสุดมีการประกาศโซลาร์เซลล์ที่ใช้แสงย่านอินฟราเรดได้แล้ว โดยแสดงย่านดังกล่าวสามารถทะลุเมฆหมอกได้ ทำให้มีความหวังว่าจะสามารถผลิตพลังงานได้แม้จะเป็นฟ้าครึ้มก็ตาม
ที่สำคัญคือวัสดุที่ใช้ผลิตโซลาร์เซลล์นี้เป็นพลาสติกครับ ทำให้มีความหวังว่าจะสามารถนำมาผลิตเป็นเสื้อผ้าได้ในอนาคต นั่นอาจจะหมายถึงเราไม่ต้องการแบตเตอรี่สำหรับสารพัดสิ่งที่เราพกไปใช้ เช่น โทรศัพท์ เครื่องเล่น MP3
ถึงวันนั้นเราจะใส่เสื้อตราแอปเปิล!!!
ผู้บริหารแอปเปิลที่ญี่ปุ่นได้ออกมาให้สัมภาษย์ว่าตั้งเป้าเครื่องเล่น MP3 ตัวใหม่ของแอปเปิลคือ iPod Shuffle ไว้ว่าจะครองตลาดเครื่องเล่น MP3 ของญี่ปุ่นได้ถึงร้อยละ 80 ด้วยการตั้งราคาไว้ที่หนึ่งหมื่นเยน พร้อมทั้งระบุว่าเครื่องเล่นรุ่นใหม่นี้มียอดจองล่วงหน้าสูงกว่าุรุ่นเดิมอย่าง iPod mini มาก
โซนี่ยอมได้หรือนี่.....
ที่มา E-Commerce News: Global : Apple Guns for 80 Percent of Japan Music Player Market
รายงานสัมภาษย์ครั้งล่าสุดจากออราเคิลโดย AME Info มีการถามถึงการซัพพอร์ตลินุกซ์ของออราเคิล งานนี้ออราเคิลยืนยันครับ ว่าจะซัพพอร์ตลินุกซ์แน่นอน
ที่จริงแล้วบทความนี้เป็นเหมือนบทความโฆษณาออราเคิลไปในตัว เพราะตัวบทความเองก็ได้รับการสนับสนุนจากออราเคิล แต่ที่น่าสนใจคือคำถามสุดท้ายครับ เพราะคำถามนั้นคือ ออราเคิลใช้ลินุกซ์ในธุรกิจของออราเคิลเองหรือไม่
ออราเคิลตอบคำถามนี้โดยระบุว่าจากการวิเคราะห์แล้ว ลินุกซ์มีราคาถูกกว่าและให้ประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่า
คำตอบนี้เป็นเหมือนหมัดสวนเล็กๆ ที่ออกมาต้านโฆษณาชุด Get the fact ของไมโครซอฟท์ ที่บ่นเช้าเย็นครับว่าลินุกซ์นั้นแพงกว่า
ถ้าว่างอยากให้ลองอ่านบทความเกี่ยวกับเครื่องเล่น MP3 ทำเอง ที่เอากล่องลูกอมแบบกล่องเหล็กเป็นเคส และราคาแค่ 50 เหรียญ (ถูกว่า iPod Shuffle ตั้งครึ่ง) ถ้าใครทำตามนี้ได้ เดี๋ยว Blognone โปรโมทให้ อันนี้คงเป็นฝีมือเด็ก MIT ครับ Minty MP3
หลังจากพยายามซื้อกิจการ Peoplesoft มานานจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล สิ่งแรกที่ Oracle ทำคือปลดพนักงานบางส่วนของ Peoplesoft ทิ้ง!
ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติครับ เพราะว่าการควบกิจการทำให้มีพนักงานที่ทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันอยู่แล้ว Oracle ปลดไปประมาณ 5 พันคน ซึ่งคิดเป็น 9% ของบริษัทใหม่ที่รวมกันแล้ว Larry Ellision ซีอีโอของ Oracle ได้บอกว่าจะไม่มีปัญหาต่อการสนับสนุนลูกค้าของ Peoplesoft แต่อย่างใด เป้าหมายของ Oracle คือโปรแกรมด้าน ERP ของ Peoplesoft ที่จะแข่งกับผู้นำตลาดอย่าง SAP นั่นเอง
ช่วงนี้มีแต่ข่าวแอปเปิลนะครับ :P
ข่าวลือมาจากไต้หวันว่า Quanta และ Asustek ได้รับออเดอร์ในการผลิต Powerbook G5 เรียบร้อยแล้ว และกำหนดส่งของคือไตรมาสที่สองของปีนี้ แอปเปิลปล่อย G5 ออกมาในเครื่องเดสก์ท็อปนานแล้ว แต่ยังไม่สามารถนำมาใส่เดสก์ท้อปได้เพราะว่า G5 มีปัญหาเรื่องความร้อน อย่างไรก็ตามการที่ช่วงหลังมา แอปเปิลสามารถเอา G5 ไปยัดในอะไรที่มันเล็กๆ อย่าง iMac ใหม่ (Mac mini ใช้ G4 นะครับ ประมาณว่าโละซีพียูที่ยังเหลือนั่นล่ะ) ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าปัญหาเรื่องความร้อนเริ่มแก้ได้แล้ว
ข่าวจาก Osnews มาจากใน IRC อีกทีว่า Patrick Volkerding ผู้นำโครงการ Slackware ที่เพิ่งหายป่วยกลับมา เตรียมจะถอด GNOME ออกจาก Slackware 11 ตัวต่อไปแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่ายากต่อการดูแล เนื่องจากระบบ GNOME นั้นขาดเอกสาร และต้องใช้ความรู้ความสามารถค่อนข้างมาก ในการคอมไพล์และจัดการแพกเกจให้เวิร์คได้ ทำให้ Slackware จะมุ่งเน้นไปทาง KDE มากขึ้นในอนาคต
Avalon เทคโนโลยีด้าน GUI ที่จะมีใน Longhorn นั้น เปิดให้ดาวน์โหลดมาลองเล่นกันแล้ว โดยตัวนี้จะเป็นตัวเดียวกับสมาชิกของ MSDN สามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่เดือนพ.ย.
5 ปีที่แล้วมีข่าวช็อกโลกข่าวนึง คือ บิลเกตส์ลงจากตำแหน่ง CEO ของไมโครซอพท์ และให้สตีฟ บอลเมอร์ เพื่อนคู่ใจที่ตั้งบริษัทกันมา (บอลเมอร์ไม่ใช่สมาชิกก่อตั้ง แต่ก็มาทีหลังไม่นาน) ขึ้นเป็น CEO แทน ด้วยสาเหตุที่ว่าเกตส์ไม่ชอบงานบริหาร และจะหันไปรับผิดชอบงานเทคโนโลยีโดยตรงแทน ให้บอลเมอร์ที่จบบริหารมารับช่วงต่อไป
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า Longhorn จะมีอินเทอร์เฟซแบบสามมิติ และจะต้องการการ์ดจอที่ค่อนข้างจะ "ทรงพลัง" ทีเดียว เพราะว่า Longhorn จะใช้ส่วนกราฟฟิกใหม่ที่เรียกว่า WGF (Windows Graphic Foundation) ซึ่งจะรวมเอาทั้ง 2D และ 3D มาอยู่ใน WGF และวาดพร้อมกันทีเดียวเลย (ปัจจุบัน 3D นั้นใช้ Direct3D ใน DirectX อยู่) การ์ดที่จะใช้งานกับ Longhorn ได้จะต้องเป็นการ์ดที่สนับสนุนชุดคำสั่ง Shader 2.0 (มันคืออะไรครับเนี่ย คาดว่าคงเป็นอันเดียวกับ Pixel Shader นะ) ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเราคงได้อัพเกรดเครื่องกันค่อนข้างแน่ ถึงจะใช้ Longhorn ได้ และด้วยสาเหตุด้านฮาร์ดแวร์ ผมว่าอาจจะต้องถึงปี 2010 กว่าจะย้ายไปสู่ Longhorn
Google เซิร์ชเอ็นจินยอดนิยมอันดับหนึ่งคงต้องเริ่มระวังตัวบ้างแล้ว เมื่อผลการสำรวจที่ออกมา ถึง Google จะยังรั้งที่หนึ่งอยู่เช่นเดิม แต่คู่แข่งทั้งหลายตั้งแต่ Yahoo!, MSN และ Ask Jeeves เริ่มกินส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้น แต่จากที่เราติดตามข่าวกันมาทั้งปีจะพบว่าแล็บของ Google ก็ซุ่มพัฒนาอะไรแปลกๆ อยู่เสมอ การรักษาตำแหน่งนี่ยากกว่าการแย่งตำแหน่งสมัยที่ Google ชิงมาจาก Yahoo หลายเท่านะครับ
ชื่อน่ารัก แต่ไม่ใช่ของใช้ตามบ้านครับ วันนี้กูเกิลเปิดตัวสินค้าตัวใหม่คือ กูเกิลมินิ เซิร์ชเอจินต์สำหรับเครือข่ายภายในองค์กร ที่มีความสามารถในการค้นหาเอกสารในเครือข่ายได้ถึง 50000 ฉบับ และรองรับไฟล์กว่าสองร้อยชนิด
แต่ขนาดมินิ เห็นราคาก็หนาวเอาเหมือนกันครับ เพราะค่าตัวมันปาเข้าไปตั้งห้าพัน ดอลล่าห์สหรัฐ
ความจริงแล้วกูเกิลขายเซิร์บเวอร์แบบเดียวหันนี้มานานแล้ว ในชื่อว่า Search Appliance ที่สามารถค้นหาเอกสารได้ถึงกว่าสิบห้าล้านฉบับ และรองรับ XML เพื่อค้นเอกสารเก่า แต่ความสามารถที่มากกว่าของมันมาพร้อมกับราคาที่น่าสยองกว่ามาก คือ 32,000 ดอลล่าห์
ราคาไม่น่ารักเหมือนแมคมินิ
ยกคำพูดมาจากเรื่อง Armageddon เพราะข่าวนี้คือการเปิดเผยถึงแหล่งผลิตของสินค้าสุดร้อนสองตัว อย่าง Mac mini กับ iPod Shufftle
ผู้ผลิตสองรายที่ได้รับออเดอร์ในคราวนี้คือ แอซัสเท็คกับ ฟ๊อกคอนอิเล็กทรอนิกส์ (Foxconn electronic) โดยแอซัสได้รับออเดอร์ของไอพอดตัวใหม่ไป ส่วนฟ๊อกคอนได้รับออเดอร์ของแมคนมินิ
ที่น่าสนใจคือจำนวนครับ จำนวนของไอพอดนั้นคาดว่าจะสูงถึง ห้าแสนตัวต่อเดือน ส่วนแมคมินินั้นน่าจะอยู่ที่แสนตัวต่อเดือน จำนวนขนาด สร้างกำไรมหาศาลให้กับทั้งสองบริษัทแน่ๆ
เมื่อวานนี้หุ้นของแอปเปิลพุ่งทะยานขึ้นไป 14 เปอร์เซนต์ในวันเดียว ด้วยแรงผลกำไรของไตรมาศที่เพิ่งประกาศออกมา
ตัวเลขกำไร 295 ล้านดอลล่าห์ ทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นแอปเปิ้ลเป็นการใหญ่ ทำให้หุ้นปิดตัวที่ราคา 74.90 ดอลล่าห์ สูงสุดนับแต่เปิดบริษัทมา โดยสถิติก่อนหน้าคือ 72.09 ดอลล่าห์ เมื่อเดือนมีนาปี 2000
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แอปเปิ้ลกลับมาผงาจในวงการได้อีกครั้งคือเจ้าไอพอดนั่นเองครับ โดยไตรมาศที่แล้วไตรมาศเดียวแอปเปิ้ลลงเจ้าตัวเล็กนี่ลงตลาดไปถึง 4.58 ล้านตัว นับว่ากระแสไอพอดฉุดไม่อยู่กันจริงๆในชั่วโมงนี้