มาตรฐาน 5G ที่ดูแลโดยกลุ่มอุตสาหกรรม 3GPP ประกอบด้วยส่วนย่อยหลายส่วน ส่วนสำคัญอันหนึ่งเกี่ยวกับการส่งข้อมูลทางคลื่นที่เรียกว่า New Radio (NR) ซึ่งก็แบ่งเป็นสองส่วนย่อยอีก (อย่าเพิ่งงงนะครับ)
เมื่อปลายปีที่แล้ว 3GPP โหวตรับรองสเปก 5G New Radio ส่วนแรกที่เรียกว่า Non-Standalone (NSA) หรือการส่งข้อมูลแบบ 5G บนระบบโครงข่าย 4G LTE เดิม (ข้อมูลวิ่งบน 5G แต่การสื่อสารเพื่อสั่งการระหว่างอุปกรณ์กับเสาใช้โพรโทคอล 4G)
3GPP กลุ่มมาตรฐานอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ประกาศโหวตรับรองมาตรฐาน 5G ฉบับแรกคือ 5G NR (New Radio) แล้ว ถือเป็นก้าวแรกของการผลักดัน 5G ในการใช้งานจริง
ตามแผนของการออกมาตรฐาน 5G จะออกเวอร์ชันเต็ม (Standalone) ในเดือนมิถุนายน 2018 แต่ทางกลุ่ม 3GPP ตัดสินใจรีบออกส่วนที่เกี่ยวกับการใช้คลื่นวิทยุ (New Radio) มาก่อน เพื่อให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์อย่าง Qualcomm หรือ Intel มีเวลาพัฒนาอุปกรณ์ของตัวเองให้รองรับคลื่นชุดใหม่ได้ก่อน
ตามสเปกของ 5G รองรับคลื่นหลายย่าน ตั้งแต่คลื่นความถี่ต่ำ 600-700MHz ไปจนถึงคลื่นความถี่สูงถึง 50GHz ตัวเอกสารฉบับเต็มจะออกตามมาภายในสัปดาห์นี้
กลุ่มมาตรฐาน 3GPP ผู้กำหนดมาตรฐานด้านโทรคมนาคม ประกาศโลโก้ 5G อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีลักษณะคล้ายกับโลโก้ LTE ของเดิม แต่ปรับรูปลักษณ์ของคลื่นใหม่ให้โฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิม
โลโก้ LTE และ LTE-Advanced ใช้คลื่นสีแดง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสีเขียวใน LTE-Advanced Pro ส่งผลให้เทคโนโลยี 5G ยังคงใช้คลื่นสีเขียวตามมาด้วย
ตัวมาตรฐาน 5G ยังไม่เสร็จดี โดยมาตรฐานเวอร์ชันแรก 5G Phase 1 (Release 15 เลขเวอร์ชันนับต่อจาก LTE) มีกำหนดเสร็จช่วงปลายปี 2018 ตามด้วย 5G Phase 2 (Release 16) ในปี 2020