เว็บไซต์ Healthcare IT News ซึ่งเป็นเว็บข่าวด้านการแพทย์และเทคโนโลยี ระบุว่างานวิจัยชิ้นล่าสุดของคณะแพทย์จาก Harvard Medical School ที่ตีพิมพ์ลงวารสาร Journal of the American Medical Informatics Association (JAMIA) เผยให้เห็นว่าการเก็บข้อมูลผู้ป่วยจากเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Medical Record: EMR) ในกรณีของผู้ป่วยจิตเวช มีการเก็บข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ข้อมูลจาก EMR เหล่านั้นไม่สามารถใช้วิเคราะห์และรักษาผู้ป่วยที่มีโรคทางจิตได้อย่างแม่นยำ
ช่วงนี้ผู้คนรอบตัวผมหันไปทางไหนก็มีแต่คนชวนไปวิ่งงานวิ่งชิคๆ ถอยจักรยานสวยๆ ไปปั่นคูลๆ ที่สนามจักรยานยอดนิยม แต่ในทางกลับกันก็นัดถล่มเนื้อย่าง ชาบู จนที่เอาเข้าเยอะกว่าเอาออก แผนการลดน้ำหนักก็ล้มไม่เป็นท่า
และนี่เป็นครั้งแรกกับผมและอุปกรณ์กลุ่ม fitness tracker ครับ ผมได้รับ Garmin vivosmart HR มาลองใช้ ซึ่งเป็นสายรัดข้อมืออ่านค่าสุขภาพ วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ ตลอดจนนับแคลอรี่และก้าวเดิน พร้อมสรุปผลรายงานวันต่อวัน เหมาะกับคนที่ต้องการแรงจูงใจในการออกกำลังกาย
เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ในเวทีการประชุมสุขภาพระดับโลกครั้งที่ 13 ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา IBM และสมาคมโรคมะเร็งอเมริกัน (American Cancer Society: ACS) ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางสังคมสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งในสหรัฐอเมริกา ประกาศความร่วมมือในการสร้างระบบแนะนำด้านสุขภาพให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ โดยใช้ประโยชน์จากระบบประมวลผลข้อมูล Watson ซึ่งมีความชำนาญด้านโรคมะเร็ง (Watson for Oncology) อยู่แล้ว
ระบบดังกล่าวนี้จะใช้ข้อมูลจากทั้งที่ IBM Watson มีอยู่แล้ว และข้อมูลจากทาง ACS ในการพัฒนาระบบ จากนั้นก็จะนำข้อมูลเหล่านี้มาจัดระบบ และให้ Watson เรียนรู้ เป้าหมายเพื่อให้มีระบบคำแนะนำในการใช้ชีวิตสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่มีโรคมะเร็งที่แตกต่างกันทั้งชนิดและขั้นของโรคมะเร็ง รวมไปถึงให้ข้อมูลที่จำเพาะเจาะจงแก่คนไข้แต่ละรายได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ยังไม่มีเป้าหมายว่าจะออกสู่สาธารณะได้เมื่อใด (น่าจะต้องผ่านการทดสอบภายในอีกสักระยะหนึ่งก่อน) แต่ทั้งสองหน่วยงานเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ป่วยมะเร็งทั่วสหรัฐอเมริกาครับ
ที่มา - IBM
Pfizer บริษัทด้านเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ประกาศความร่วมมือกับ IBM ในการสร้างระบบสำหรับวิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์ รวมไปถึงการดูแลผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ด้วยเทคโนโลยี Internet of Things อย่างเป็นทางการในวันนี้
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวนี้ ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนาระบบที่มีทั้งตัวตรวจวัด (sensor), อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถนำส่งผลให้กับผู้ป่วย นักวิจัย และแพทย์ทำการรักษาได้ทันทีและตลอดเวลา โดยจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือช่วงทดลองทางคลินิก (clinical trial) และช่วงที่ใช้จริงในตลาด (commercial) ซึ่งในช่วงหลังทาง Pfizer กำลังหาทางที่จะผลักดันเทคโนโลยีเข้าตลาดตามกลไกการควบคุม (regulatory path) โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มทดลองในปี 2018 และน่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน
เมื่อวานเราเพิ่งเห็นข่าวว่าแพทย์ในสหรัฐฯ บางส่วนต้องรับมือกับเทคโนโลยีและพฤติกรรมคนไข้ที่เปลี่ยนไป มาวันนี้ Jenna Wortham คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์ The New York Times ระบุว่าคนเรานั้นกล้าใส่และระบุข้อมูลด้านสุขภาพบนสมาร์ทโฟน มากกว่าที่จะบอกแพทย์โดยตรงเสียอีก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Medscape เว็บไซต์ด้านการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ได้จัดงานเสวนาว่าด้วยเรื่องของการใช้ข้อมูลที่เกิดจากผู้ป่วย (patient-generated data) ในการรักษาทางการแพทย์และผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคต โดยแพทย์หลายคนบนเวทีเสวนาดังกล่าวเห็นว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีหลายอย่าง ทำให้วิธีการรักษาผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงไป และวงการแพทย์จำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้
ที่ผ่านมาเราอาจจะเคยได้ยินอยู่บ่อยครั้งถึงเรื่องการใช้อุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ (wearable devices) ว่ามีข้อจำกัดมากมายในการตรวจที่ให้ผลอย่างแม่นยำ ล่าสุดวารสารทางการแพทย์อย่าง JAMA Internal Medicine ของสมาคมแพทยศาสตร์อเมริกัน ออกมาเผยแพร่งานวิจัยขนาดสั้นชิ้นหนึ่งจากคณะแพทย์ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยระบุว่าแม้แต่คุณสมบัติพื้นฐานอย่างการวัดกิจกรรมร่างกาย หรือการเผาผลาญของร่างกาย ก็ยังมีความไม่แม่นยำ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา IBM ประกาศความร่วมมือกับ University of Nottingham มหาวิทยาลัยในอังกฤษ เปิดตัวโครงการ "Help Stop TB" โดยเป็นโครงการวิจัยที่ใช้ IBM World Community Grid เข้ามาประมวลผลเพื่อช่วยให้การป้องกันวัณโรคทำได้ดียิ่งขึ้น
ภายใต้โครงการดังกล่าวนี้ ระบบ IBM World Community Grid จะถูกนำมาใช้เพื่อประมวลผลในการหาพฤติกรรมของเชื้อวัณโรค โดยหวังว่าในอนาคตจะพบจุดอ่อนของเชื้อและพัฒนายาชนิดใหม่เพื่อกำจัดเชื้อดังกล่าว เพราะถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมียารักษาแล้ว แต่วัณโรคสามารถดื้อยาได้หากผู้ป่วยไม่มีวินัยมากพอที่จะทานยาตามที่แพทย์กำหนด (ตัวอย่างเช่น การทานยาไม่ต่อเนื่อง) หรือการไม่สามารถเข้าถึงการรักษาที่ต่อเนื่องได้
เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา IBM ประกาศโครงการที่มีชื่อว่า IBM Health Corps ซึ่งเป็นโครงการที่ IBM จะแจกทุนให้กับงานวิจัยทางการแพทย์ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากบริษัทจำนวน 5 โครงการทั่วโลก ในรูปของบริการและผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท รวมไปถึงพิมพ์เขียว กลยุทธ์ เทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ของ IBM คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 แสนเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 17 ล้านบาท) ในแต่ละโครงการ
สำนักข่าวบีบีซีของสหราชอาณาจักร รายงานว่าระบบสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ของโรงพยาบาล 3 แห่งในสหรัฐอเมริกาฯ ถูกโจมตีจาก ransomware ทำให้ระบบถูกเข้ารหัสทั้งหมด แต่สามารถแก้ไขและเรียกคืนระบบทั้งหมดกลับมาได้ โดยไม่มีการระบุว่าในท้ายที่สุดทางโรงพยาบาลทั้งสามแห่งได้จ่ายเงินเพื่อปลดล็อกข้อมูลหรือไม่ และสำนักงานหน่วยสอบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) ได้เริ่มเข้ามาสอบสวนหาสาเหตุแล้ว
ที่งานแถลงข่าวของ Apple วันนี้ ทางบริษัทได้แถลงเปิดตัวชุดเครื่องมือทางด้านสุขภาพอันใหม่ต่อเนื่องจาก ResearchKit โดยเรียกว่า CareKit สำหรับแอพและอุปกรณ์ของสาย iOS อย่างเป็นทางการ
CareKit เป็น framework สำหรับแอพในการช่วยให้แพทย์ พยาบาล และผู้ดูแลสุขภาพของผู้ป่วย สามารถติดตามความเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพของผู้ป่วย โดยการใช้เซนเซอร์ต่างๆ ของอุปกรณ์ ในการตรวจวัดค่าต่างๆ แล้วแจ้งให้กับผู้ดูแลผู้ป่วย พยาบาล หรือสามารถแชร์ผลความคืบหน้าให้แพทย์ เพื่อปรับแนวทางการดูแลรักษาได้ทันที
แอพที่ใช้ ResearchKit หลายตัว เริ่มประกาศแล้วว่าจะใช้ CareKit อย่างเป็นทางการ แต่ยังไม่ระบุว่าจะเริ่มใช้กันเมื่อใด (น่าจะแล้วแต่แอพด้วย)
พร้อมกับความนิยมของสมาร์ทวอทช์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา ก็เริ่มมีบริษัทนำสมาร์ทวอทช์ที่เรียกได้ว่าฟีเจอร์น้องๆ สมาร์ทโฟนไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ นานา ล่าสุดบริษัทผู้ให้บริการสนับสนุนด้านสุขภาพพนักงานในองค์กรอย่าง Vitality Group เปิดโครงการใหม่ที่พนักงานในองค์กรสามารถเป็นเจ้าของ Apple Watch ได้ในราคาเพียง 25 เหรียญผ่านโครงการ Vitality Active Rewards
ในยุคที่อะไรๆ ก็สามารถวัดได้ด้วยแอพในโทรศัพท์มือถือ การวัดความดันโลหิตด้วยแอพเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจ แต่บางทีการวัดด้วยเครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
นักวิจัยจาก John Hopkins ได้ทำการเปรียบเทียบแอพ Instant Blood Pressure บน iPhone กับวิธีการวัดความดันโดยใช้เครื่องมือวัดแบบปกติ แอพดังกล่าวนั้นใช้วิธีวางโทรศัพท์ลงบนหน้าอกแล้วบอกค่าความดันโลหิตออกมา (ไม่เปิดเผยอัลกอริทึม) แอพนี้เคยได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Top 50 ของ App Store ด้วย
Google ประกาศข่าวให้ความร่วมมือกับ UNICEF ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำแผนที่เฝ้าระวังดูการระบาดของไวรัส Zika โดยส่วนหนึ่งจะอาศัยข้อมูลการติดเชื้อไวรัสของเด็กแรกเกิดในบราซิลซึ่ง UNICEF กำลังเก็บข้อมูลอยู่
Google บอกด้วยว่าก่อนหน้านี้บริษัทได้บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้แก่ UNICEF เพื่อสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอาสาสมัครภาคสนามซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ทำงานอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนเพื่อให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับไวรัส Zika ได้เร็วและทั่วถึงยิ่งขึ้นด้วย
วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นที่สหรัฐอเมริกา IBM ร่วมกับสมาคมโรคหยุดหายใจสหรัฐอเมริกา (American Sleep Apnea Association: ASAA) เปิดตัวแอพที่มีชื่อว่า SleepHealth สำหรับ iPhone และ Apple รวมไปถึงการศึกษาที่เป็นชื่อเดียวกันด้วย
ตัวแอพและโครงการศึกษานี้จะศึกษาพฤติกรรมของผู้ใช้ ตลอดจนถึงภาวะการนอนหลับและการหยุดหายใจกะทันหันขณะหลับ (obstructive sleep apnea) โดยจะใช้เซนเซอร์จำนวนมากทั้งใน iPhone และ Apple Watch ในการวิเคราะห์พฤติกรรม ทั้งหมดจะใช้ ResearchKit ที่เป็นชุดคำสั่ง API และ framework ในการทำการศึกษาทางการแพทย์ของ Apple ส่วนระบบประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล จะใช้ Watson Health Cloud เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง (แบบเดียวกับที่ใช้ในกรณีของโรคมะเร็ง)
DeepMind บริษัทลูกของ Google ที่อยู่ในอังกฤษ (มีผลงานคือ AlphaGo ที่เตรียมจะแข่งกับแชมป์โกะโลกในเดือนหน้า) ประกาศว่าจะเข้าสู่ตลาดการแพทย์อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นตั้งแผนกใหม่ที่มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 15 คน และให้ชื่อว่า DeepMind Health
แผนกใหม่ดังกล่าวนี้จะถูกกำกับและดูแลโดยแพทย์สองคนของบริษัท หนึ่งในนั้นคือ Dominic King แพทย์เจ้าของสตาร์ทอัพ Hark ที่เป็นระบบจัดการงานของแพทย์ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดย DeepMind จะร่วมมือกับ Imperial College London และมูลนิธิ Royal Free London NHS ในการพัฒนาโซลูชั่นต่างๆ
เรียกว่าเป็นการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องของ IBM ในการขยายตัวด้านสุขภาพ โดยเฉพาะกับแผนก IBM Watson เมื่อทางบริษัทประกาศเข้าซื้อบริษัท Truven Health Analytics บริษัทที่ทำธุรกิจด้านข้อมูลทางการแพทย์ (แพทย์และเภสัชกรหลายคนอาจจะเคยใช้แอพอย่าง Micromedex Drug Reference) ด้วยตัวเลขการเข้าซื้อสูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 92,000 ล้านบาท)
การเข้าซื้อดังกล่าวจะทำให้ IBM ได้ทั้งลูกค้าของบริษัทกว่า 8,500 ราย, พนักงานกว่า 2,500 คน ไปจนถึงข้อมูลของ Truven ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้บริหารของ IBM ระบุว่าการเข้าซื้อในครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม IBM Watson ในตลาดการแพทย์ได้เป็นอย่างดี
LG Innotek บริษัทลูกของ LG ที่เน้นการพัฒนาเซ็นเซอร์หลากชนิด วันนี้ออกมาเปิดตัวเซ็นเซอร์ตัวใหม่สำหรับอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ขนาดบางเพียง 1 มม.
เซ็นเซอร์ตัวใหม่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ชีวภาพที่รองรับฟีเจอร์อย่างการวัดชีพจร วัดออกซิเจน วัดระดับความเครียด (stress levels) โดยในความบาง 1 มม. ตัวเซ็นเซอร์นี้ประกอบไปด้วยโฟโตไดโอด ไฟ LED 5 ตัว และแผงวงจร
นอกจากความบางแล้ว LG Innotek ยังระบุว่าเซ็นเซอร์ตัวนี้กินพลังงานน้อยกว่ารุ่นอื่นในตลาดถึง 20% และแม่นยำกว่า โดยมีอัตราความผิดพลาดในการวัดชีพจรบวกลบไม่เกิน 5 ครั้งต่อนาที เทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่บวกลบ 8 ครั้งต่อนาที
นอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากประเภทแล้ว ช่วงหลังมานี้ซัมซุงดูจะสนใจนำเทคโนโลยีไปผนวกกับเครื่องแต่งกายมากขึ้นเป็นพิเศษ หลังจากเพิ่งโชว์ผลงานของทีมภายในอย่าง Welt เข็มขัดอัจฉริยะไปในงาน CES 2016 ล่าสุดก็ถึงคิวของรองเท้าอัจฉริยะแล้ว
Jason Jacobs ผู้ก่อตั้ง Runkeeper แอพสุขภาพที่ตรวจจับการออกกำลังกาย ได้ประกาศผ่าน Medium ว่า Runkeeper ได้บรรลุข้อตกลงที่จะขายกิจการทั้งหมดให้กับ ASICS Corporation บริษัทผู้ผลิตรองเท้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬาจากประเทศญี่ปุ่น
แอพ Runkeeper ก่อตั้งในปี 2008 มีผู้ใช้งานปัจจุบันหลายล้านคน โดยแอพรองรับการตรวจจับการออกกำลังกาย ทั้งการวิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยาน โดย Jacobs บอกว่าการร่วมมือกับ ASICS เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะแอพ Runkeeper นั้นเน้นที่กิจกรรมการวิ่งเป็นหลักอยู่แล้ว
ด้าน ASICS กล่าวว่าการซื้อ Runkeeper เข้ามา จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการแก่ลูกค้าที่รักการออกกำลังกายได้ดีมากขึ้น
เมื่อปี 2014 เราเห็นข่าว Nintendo ผุดแผนใหม่สร้างอุปกรณ์วัดคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของนินเทนโดที่จะขยายไปทำตลาดสุขภาพ "Quality of Life" หรือ QOL
แต่ล่าสุดประธานนินเทนโด Tatsumi Kimishima กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าโครงการ QOL ถูกยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่สามารถพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพระดับขายจริงได้ อย่างไรก็ตาม นินเทนโดจะยังมองหาโอกาสในตลาด QOL ต่อไปในอนาคต
จุดที่น่าสนใจคือ Kimishima พูดเรื่อง QOL ขึ้นมาเอง เพราะ "ไม่มีนักลงทุนคนไหนถามถึงโครงการนี้เลย"
ที่มา - Wired
ช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้โดยเฉพาะสมาร์ทวอทช์ และสายรัดข้อมือเริ่มไปสู่จุดที่ฟีเจอร์แต่ละเจ้าไม่ต่างกัน แต่ไปเน้นออกแบบให้แตกต่างแทน ตอนนี้ Fitbit ผู้นำตลาดรายแรกๆ ของตลาดที่หลายคนบอกว่าออกแบบได้ "เห่ย" ก็เริ่มหันมาสนใจทำอุปกรณ์ที่หน้าตาดูดีบ้างแล้วในชื่อรุ่น Alta
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สถาบันการศึกษาจะมีมาตรการสำหรับตรวจสุขภาพประจำปีของนักศึกษาภายใน แต่สำหรับระเบียบใหม่ของมหาวิทยาลัยโอรัล โรเบิร์ตส ในรัฐโอคลาโฮมาอาจจะดูล้ำไปอีกระดับด้วยการให้นักศึกษาใหม่ต้องใช้ Fitbit เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดังกล่าวแล้ว
ระเบียบใหม่นี้ถูกรายงานโดยสำนักข่าว Washington Post โดยระบุว่ามหาวิทยาลัยโอรัล โรเบิร์ตส จะให้นักศึกษาใหม่กว่าพันคนสวมสายรัดข้อมือ Fitbit Charge HR เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพ และส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย (ไม่มีข้อมูลส่วนตัว) ซึ่งตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ นักศึกษาใหม่จะต้องเดินอย่างน้อย 10,000 ก้าวต่อวัน ออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ โดยสถิติเหล่านี้จะมีผลกับเกรดของวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา
มีเรื่องราวของ Koby Soto นักศึกษาสาขากฎหมายจากอิสราเอล (และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์ตอัพ Guesty ระบบดูแลบ้านที่ให้เช่าบน Airbnb) ที่แสดงอัตราการเต้นของหัวใจในวันที่ถูกแฟนหนุ่มตัดความสัมพันธ์ จากการที่เขาสวมใส่อุปกรณ์ wearable tech อย่าง Fitbit Charge HR ตลอดวันนั้น พบว่าตั้งแต่เช้า ชีพจรเฉลี่ยของเขาอยู่ที่ 88bpm จนถูกบอกเลิกทางโทรศัพท์ แม้ไม่ได้ออกกำลังกายใดๆ ชีพจรวิ่งขึ้นไปถึง 88 และ 118bpm ตามลำดับ กว่าจิตใจจะสงบก็เป็นช่วงค่ำเข้าไปแล้ว ...ร่างกายไม่เคยโกหก และอุปกรณ์พวกนี้ก็ช่วยบันทึกเรื่องราวชีวิตของผู้ใช้ได้ในรูปแบบกราฟอย่างจริงจัง
นอกจาก Jack Dorsey และ Ev Williams แล้ว Dick Costolo ถือเป็นหนึ่งอดีตซีอีโอในประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของทวิตเตอร์ ลองหาประวัติอ่านดูครับ หนังสือภาคแปลไทยอ่านสนุกมากๆ
ล่าสุด Dick เผยข้อมูลในทวิตเตอร์ของตนว่ากำลังจะเปิดตัวสตาร์ตอัพเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย จับใจความได้ว่า "เป็นได้มากกว่าการวัดค่าสุขภาพ สร้างแรงบันดาลใจให้ออกกำลังกาย แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ที่สนุกและมีสังคมกับเพื่อนฝูงมากขึ้น" แม้ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมจากนี้มากนัก แต่ก็เปิดเผยว่าเป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ใช้งานกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย มาดูกันว่าเขาจะทำอะไรออกมา