หลังจากที่เปิดตัวและเผยราคารวมถึงเริ่มวางจำหน่ายกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้สเปคและความสามารถก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วครับ
เริ่มจากวัสดุที่ใช้ทำตัวแบนด์ครับ มันคือ Thermal plastic elastomer พร้อมตัวปรับให้พอดีกับแต่ละคน ซึ่งตัว Microsoft Band นั้นมาในสามขนาด และต้องเลือกขนาดตั้งแต่ตอนซื้อเลยครับ
Nintendo มีแผนเตรียมฉีกแนวจากการขายเกมและเครื่องเล่น มาสร้างผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพออกวางขายเป็นตัวแรกในรูปแบบของอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ
Satoru Iwata ซีอีโอของ Nintendo ได้กล่าวว่าบริษัทมีแผนริเริ่มทำออกผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพออกวางขาย โดยจะประเดิมชิ้นแรกเป็นเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งงานนี้เป็นการร่วมพัฒนากับบริษัทอเมริกัน ResMed Inc. ที่เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาความผิดปกติระหว่างการนอนหลับ
Nintendo ตั้งใจที่จะสร้างอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับนี้ให้ทันขายก่อนเดือนมีนาคม 2016
ที่มา - Ubergizmo
นอกเหนือจากการเปิดตัว Microsoft Band แล้ว Microsoft ยังเปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับอุปกรณ์สายสุขภาพที่เรียกว่า "Microsoft Health" (คนละตัวกับ Microsoft HealthVault) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีบริการด้านคลาวด์ในการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพและความแข็งแรง (health and fitness data) ของร่างกาย และทำการวิเคราะห์รวมถึงแนะนำทางสุขภาพต่างๆ ด้วย
Microsoft ระบุว่าจะมีพันธมิตรมากมาย โดยในชุดแรกจะมีทั้ง UP by Jawbone, MapMyFitness, RunKeeper และ MyFitnessPal นอกจากนั้นแล้วจะเปิดให้นักพัฒนาเข้าถึง API ของระบบได้ด้วย ที่สำคัญคือทำงานร่วมกับ Microsoft HealthVault ได้ด้วยเช่นกัน
Microsoft ให้คำมั่นสัญญาว่า จะปล่อย SDK ออกมาในเร็ววันนี้
อาจจะไม่ต้องรอในอีกวันสองวันแล้ว เมื่อวันนี้ Microsoft ประกาศเปิดตัว Microsoft Band อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่อย่างเป็นทางการวันนี้
ตัว Microsoft Band จะทำหน้าที่เหมือนตัว Fitness tracker หรือตัวตรวจจับกิจกรรมของร่างกายทั่วไปแบบที่มีอยู่ในตลาด แต่สิ่งที่ Microsoft บอกมากกว่านั้นคือเรื่องของการมีแพลตฟอร์มที่ดีกว่า และสามารถทำงานได้ทั้งบน Windows Phone, Android และ iOS (ข่าวเก่า) โดยมีเซนเซอร์อัจฉริยะภายในจำนวนมาก (ที่ระบุมาแน่นอนคือมีตัวตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ) และสามารถแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ บนหน้าจอได้ สามารถอยู่ได้ 48 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
นอกจากแอพ Microsoft Health โผล่บนมือถือ 3 แพลตฟอร์ม ใช้กับสายรัดข้อมือ Microsoft Band ยังมีแอพ Microsoft Band Sync ที่โชว์หน้าตาของสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพโผล่บน Mac App Store ด้วย
จากภาพ (ดูได้ที่ท้ายข่าว) สายรัดข้อมือจากไมโครซอฟท์มีหน้าตาคล้าย Gear Fit จากซัมซุง ส่วนฟีเจอร์ของแอพนี้คือซิงค์ข้อมูลการออกกำลังกายผ่านสายยูเอสบีไปยังคอมพิวเตอร์ซึ่งจะซิงค์ต่อไปยังกลุ่มเมฆอีกที ใช้แก้ไขโปรไฟล์ของผู้ใช้ และอัพเดตเฟิร์มแวร์ของอุปกรณ์ - WMPoweruser
เมื่อเร็วๆ นี้เราเพิ่งมีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Smart Watch ในเร็วๆ นี้ โดยมีแบตเตอรี่อยู่ได้ 2 วัน วันนี้ข่าวไม่ลือแล้วเพราะไมโครซอฟท์ออกแอพ Microsoft Health มารอบนอุปกรณ์พกพาทั้งสามแพลตฟอร์มคือ Android, iOS, Windows Phone
ทีม Google X เริ่มมีผลงานพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ออกมามากขึ้น ไล่ตั้งแต่การพัฒนารอยสักดิจิทัลและเม็ดยาดิจิทัลที่สานต่องานพัฒนาจากทีมของ Motorola เดิม รวมทั้งการสร้างคอนแทคเลนส์วัดปริมาณน้ำตาลในเลือด ล่าสุด Google ก็ได้ประกาศเรื่องโครงการใหม่ของทีม Google X ในการสร้างอนุภาคนาโนที่สามารถไหลกระจายตัวไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายผ่านทางกระแสเลือดเพื่อทำหน้าที่ตรวจหาเนื้อร้ายที่จะกลายเป็นมะเร็ง
เมื่อช่วงกลางปีในงาน Google I/O ได้มีการเปิดตัว Google Fit แพลตฟอร์มเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ใช้งานอุปกรณ์พกพาหรืออุปกรณ์สวมใส่ และหลังจากนั้นในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Google ก็ได้ปล่อยชุดเครื่องมือพัฒนาแอพสำหรับ Google Fit ให้นักพัฒนาได้ลองสัมผัสกันมาแล้ว ตอนนี้ Google ได้พัฒนาแอพ Google Fit สำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ Android จนแล้วเสร็จพร้อมให้ผู้ใช้ทั่วไปดาวน์โหลดไปใช้งานได้แล้ว
ซัมซุงมาแหวกแนวโดยการประกาศบริจาคสมาร์ทโฟน 3,000 เครื่องให้กับสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (Office for the Coordination of Humanitarian Affairs - OCHA) เพื่อใช้ในสถานพยาบาลรักษาโรคอีโบลา 60 แห่งในกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ที่กำลังต่อสู้กับอีโบลาอย่างหนักในขณะนี้
มือถือที่ซัมซุงบริจาคเป็นรุ่น Galaxy S3 Neo โดยมันจะติดตั้งแอพ Smart Health Pro ของสหประชาชาติ เพื่อให้บุคลากรด้านสาธารณสุขและการแพทย์ให้รวบรวมข้อมูลการรักษา รวมถึงให้ผู้ป่วยที่ถูกกักกันสามารถติดต่อกับครอบครัวได้ทางโทรศัพท์ นอกจากนี้ซัมซุงยังให้การสนับสนุนเป็นเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์กับประเทศกานา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกด้วย
Breathometer บริษัทเกิดใหม่สัญชาติอเมริกัน เปิดตัว Breeze เครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจขนาดพกพาที่สามารถต่อกับอุปกรณ์พกพาอื่นผ่านเทคโนโลยี Bluetooth LE ได้ (ดูภาพการใช้งานได้ที่ท้ายข่าว)
ฟากแอพบนอุปกรณ์พกพานั้นรองรับ Android และ iOS, ผนวก Uber ข้อมูลร้านอาหารและโรงแรม และสามารถแสดงผลผ่าน HealthKit ของแอปเปิลได้ แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 16 เดือนก่อนที่จะต้องเปลี่ยนใหม่
Breeze ผ่านการรับรองจาก FDA สหรัฐแล้ว มีวางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของบริษัทและ BestBuy.com แล้ว สนนราคาที่ 99.99 ดอลลาร์ (ราว 3,250 บาท) และจะมีวางจำหน่ายในร้าน Best Buy ตั้งแต่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา IBM ประกาศข่าวเกี่ยวกับแพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Watson หลายอย่าง เขียนรวมเป็นข่าวเดียวนะครับ
ไม่ได้มีแต่แอปเปิลและกูเกิลที่หันมาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ แต่ Facebook เองก็เล็งว่าจะทำเช่นกัน โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า ในเดือนที่ผ่านมานั้น Facebook ได้จัดการประชุมและมีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมทางการแพทย์และนักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อรวบรวมงานวิจัยและพัฒนาให้กลายเป็นแอพเพื่อสุขภาพ โดย Facebook หวังเอาไว้ว่า แอพตัวนี้จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในเว็บมากขึ้น
Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่จากจีน บุกเข้าตลาดสุขภาพอย่างเป็นทางการแล้วด้วยเครื่องวัดความดันโลหิต จากการร่วมมือกับ iHealth Labs ห้องวิจัยสายสุขภาพจากสหรัฐฯ
เครื่องวัดความดันโลหิตของ Xiaomi หน้าตาเป็นแท่นสีขาวสำหรับวางสมาร์ทโฟนที่ใช้รันแอพสำหรับแสดงผล ต่อสายเข้ากับเครื่องวัดแบบพันรอบแขน โดยตัวแอพสามารถแสดงความดันโลหิต อัตราชีพจรแบบเรียลไทม์
การร่วมมือกันในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจาก Xiaomi ไปลงทุนในห้องวิจัย iHealth Labs เป็นเงิน 25 ล้านเหรียญ ซึ่งตัว iHealth Labs เอง แท้จริงแล้วก็เป็นบริษัทแยกของ Andon Health ที่มีผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพครบวงจรนั่นเอง
Royal Philips บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง ประกาศแยกบริษัทเป็นสองส่วน โดยจะยังใช้แบรนด์ Philips ทำตลาดด้วยกันทั้งคู่
พร้อมกับการปล่อยอัพเดต iOS 8 วันนี้ เป็นนิมิตหมายสำหรับนักพัฒนาที่ทำแอพมารองรับฟีเจอร์ใหม่เพื่อสุขภาพอย่าง HealthKit ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างนั้น หลังจากแอปเปิลจัดการเอาแอพที่รองรับ HealthKit ทั้งหมดลงจาก AppStore ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้ใช้งานเสียแล้ว
แอพที่อยู่ในข่ายโดนเก็บมีตั้งแต่แอพออกกำลังกาย Carrot Fit, แอพนับแคลอรี่ MyFitnessPal และแอพเพื่อสุขภาพอย่าง WebMD ที่ถูกเอาออกไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังมีแอพในกลุ่มเดียวกันอีกหลายตัวที่แอปเปิลติดต่อไปให้หยุดการรองรับ HealthKit ไว้ก่อน อันเนื่องมาจากว่าแอปเปิลไปเจอบั๊กใน HealthKit ก่อนจะเปิดตัวจริงไม่นาน และปัญหาต่างๆ ไม่ได้เกิดจากฝั่งนักพัฒนาแต่อย่างใด
ซัมซุงประกาศความร่วมมือกับ Nike โดยนาฬิกาอัจฉริยะ Samsung Gear S ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวานนี้จะพรีโหลดแอพ Nike+ Running มาให้ด้วย ช่วยเพิ่มจุดขายสำหรับคนชอบออกกำลังกายที่ใช้งานแพลตฟอร์มเก็บข้อมูลฟิตเนสของ Nike อยู่แล้ว
ความร่วมมือนี้ทำให้ Gear S กลายเป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกที่รองรับ Nike+ Running มาในตัว และตัวแอพก็ดึงศักยภาพของเซ็นเซอร์ต่างๆ ใน Gear S มาใช้งานอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์วัดค่าต่างๆ ของร่างกาย, GPS, ตัวเล่นเพลง, การเชื่อมต่อ 3G
ที่มา - Samsung Mobile Press
อินเทลประกาศความร่วมมือกับ Michael J. Fox Foundation for Parkinson's Research (ก่อตั้งโดย Michael J. Fox นักแสดงชื่อดังที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน) เพื่อนำเทคโนโลยี wearable และ big data เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ป่วยโรคนี้
อินเทลรุกคืบเข้ามาในตลาดเพื่อสุขภาพอีกระลอกด้วยการจับมือกับ SMS Audio ผู้ผลิตเครื่องเสียงที่ก่อตั้งโดยแรปเปอร์ชื่อดัง 50 Cent เปิดตัวหูฟังที่มาพร้อมกับเซนเซอร์วัดชีพจรในตัว
หูฟังรุ่นนี้ชื่อรุ่น SMS Audio BioSport เป็นหูฟังแบบอินเอียร์ที่มีเซนเซอร์วัดแสงอยู่ภายใน เมื่อทำงานร่วมกับเซนเซอร์ตัวอื่นๆ จึงสามารถวัดชีพจรได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเสียบไฟเพิ่ม หรือใช้แบตเตอรี่ เพราะสามารถดึงไฟจากสมาร์ทโฟนผ่านพอร์ต 3.5 มม. ได้เลย
การทำงานกับสมาร์ทโฟนจะควบคุมผ่านแอพ ในเบื้องต้นรองรับร่วมกับ RunKeeper และมีแผนเพิ่มแอพรองรับอีกในอนาคต
หลังจากที่เปิดตัวคอนแทคเลนส์อัจฉริยะไปเมื่อต้นปี ล่าสุดทางกูเกิลประกาศจับมือกับ Novartis บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติสวิต ในการร่วมพัฒนาคอนแทคเลนส์นี้ โดยพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาให้ตรวจวัดระดับน้ำตาล และให้รองรับสายตาสำหรับคนสายตายาว
ทางฝั่งกูเกิลจะอาศัยองค์ความรู้เกี่ยวกับดวงตาและเลนส์จาก Alcon แผนก eye care ของ Novartis ในการพัฒนาคอนแทคเลนส์ โดยเป้าหมายของความร่วมมือ นอกจากคอนแทคเลนส์จะสามารถวัดระดับน้ำตาลจากน้ำตาแล้ว จะสามารถรองรับสายตายาวได้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดีทางกูเกิลและ Novartis ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะเปิดตัวหรือวางขายคอนแทคเลนส์นี้เมื่อใด
ในการอัพเดต iOS 8 beta 3 ล่าสุด ทางแอปเปิลได้เพิ่มความสามารถให้แอพ Health ให้สามารถตรวจจับก้าวเดินได้โดยตรง จากชิปประมวลผล M7 และเพิ่มคาเฟอีนเข้าไปในหมวดสารอาหารด้วยเช่นกัน
ความสามารถใหม่นี้ทำให้ iPhone สามารถตรวจจับก้าวเดินได้โดยไม่พึ่งพาอุปกรณ์หรือแอพภายนอก โดยภายหลังการทดลองใช้พบว่าตรวจจับได้ค่อนข้างแม่นยำเลยทีเดียว รวมไปถึงคำนวณระยะทางที่เดินมาให้ พร้อมทั้งสามารถแชร์ข้อมูลของจำนวนก้าวเดินให้กับแอพอื่นๆ ได้ด้วย ขณะเดียวกันการอัพเดตนี้ได้เพิ่มตัวเลือกของ คาเฟอีน ในกลุ่มสารอาหารด้วยเช่นกัน
สมมติว่าเจอกับคนที่ล้มลงและหยุดหายใจ ผู้คนมักจะรีบโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือก่อน หากไม่มีความรู้พื้นฐานในการช่วยชีวิตคน ในระหว่างที่รอทีมแพทย์มาช่วยเหลือพวกเขาก็อาจพยายามหาข้อมูลการช่วยชีวิตขั้นต้นจากแหล่งต่างๆ อาทิ WebMD, YouTube หรือ Wikipedia เป็นต้น แต่ในห้วงเวลาวิกฤตินั้นการงมหาข้อมูลแบบนี้คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
บริษัทสตาร์ทอัพชื่อ UpRight เผยอุปกรณ์ติดแผ่นหลังเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ปรับท่าทางให้เหมาะสม โดยอุปกรณ์นี้จะมีเซนเซอร์วัดอัตราเร่ง (accelerometer) เพื่อคำนวณมุมของแผ่นหลัง ซึ่งสามารถช่วยระบุได้ว่าผู้ใช้ยืน นั่ง เดิน หรือวิ่งอยู่, เซนเซอร์กะระยะความใกล้ไกล (stretch sensor) และอัลกอริทึมเพื่อคำนวณว่าผู้ใช้อยู่ในท่าทางที่เหมาะสมหรือไม่ อุปกรณ์นี้ยังสามารถส่งข้อมูลไปแอพบนยังอุปกรณ์พกพาได้ด้วย
หลังจากที่ Sami ของซัมซุงและ HealthKit ของแอปเปิลซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสุขภาพของทั้งสองบริษัทเปิดตัวไป ดูเหมือนว่าทาง Google จะไม่อยู่เฉยเหมือนกัน เมื่อนิตยสาร Forbes รายงานว่า Google เตรียมเปิดตัว Google Fit แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพจากอุปกรณ์สวนใส่ต่างๆ ในงาน Google I/O ที่จะถึงนี้
Google Fit เป็นแพลตฟอร์มเปิดสำหรับนักพัฒนาและผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ สำหรับนำไปปรับแต่งใช้กับอุปกรณ์ตนเอง ขณะเดียวกันตัวแพลตฟอร์มก็จะรวบรวมข้อมูลผ่าน APIs เปิด อย่างไรก็ดี ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า Google Fit นี้จะเป็นบริการที่มาพร้อมกับแอนดรอยด์เวอร์ชันถัดไป หรือแยกออกมาเป็นแอพ ให้ดาวน์โหลดต่างหาก
Alison Hardacre ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท HealthKit บริษัทด้านซอฟต์แวร์สุขภาพจากออสเตรเลีย ออกมาให้สัมภาษณ์โวยแอปเปิลที่ออก API ชื่อ HealthKit บน iOS 8 มาชนกัน
Alison บอกว่าเธอไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากแอปเปิลในการเจรจาขอใช้ชื่อนี้ และอาจพิจารณาใช้มาตรการด้านกฎหมายกับแอปเปิลด้วย
HealthKit เปิดกิจการตั้งแต่ปี 2012 และมีธุรกิจหลักอยู่ในออสเตรเลีย แต่ก็เริ่มหาเงินลงทุนจากนักลงทุนฝั่งสหรัฐอเมริกาบ้างแล้ว
ในคีย์โน้ตงาน WWDC เมื่อวานนี้ ในระหว่างการเดโม iOS 8 แอปเปิลได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับสายสุขภาพอย่าง Health และ HealthKit อันเป็นหัวหอกสำคัญในการเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดนี้
Health ถูกวางตัวเป็นแอพสำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพที่อ่านได้ง่าย ส่วนติดต่อผู้ใช้หลักๆ เป็นกราฟ และตารางข้อมูลสุขภาพที่เข้าใจได้ สามารถดึงข้อมูลได้จากหลายแหล่ง พูดง่ายๆ คือใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เพื่อสุขภาพแทบทุกประเภท
ข้อมูลที่แอพเก็บมาได้เรียกได้ว่ากว้างขวางมาก ตั้งแต่ชีพจร อัตราการเผาผลาญพลังงาน น้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล ฯลฯ โดยข้อมูลที่ว่าสามารถเลือกแสดงในแดชบอร์ดหน้าตาแบบการ์ดได้ และสามารถตั้งแชร์ข้อมูลได้อีกด้วย (เดี๋ยวอ่านต่อว่าแชร์ไปไหนกัน)