ข่าวใหญ่สัปดาห์นี้คงเป็นเรื่องของ Carly Fiorina ซีอีโอหญิงเหล็กของ HP และวงการคอมพิวเตอร์ ได้ประกาศลาออกแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุหลักๆ คือ เธอขัดแย้งกับบอร์ดในเรื่องวิธีการบริหารงานตามกลยุทธของบริษัท ผลงานที่โดดเด่นของแคร์ลีก็คือการควบกิจการครั้งใหญ่ของ HP และคอมแพค ถึงแม้ว่าการควบกิจการคราวนี้จะมีผลดีกับ HP มาก แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลในทางลบด้วยเช่นกัน (HP ขายของให้กับธุรกิจ ขณะที่คอมแพคขายของคอนซูเมอร์) จาก News.com

ห้องปฏิบัติการของเอชพีประกาศความสำเร็จในการสาธิตการทำงานของ "Crossbar Latch" ที่สามารถสร้างเป็นเกตพื้นฐานในการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ โดยเชื่อว่าในวันหนึ่งแล้ว เทคโนโลยีนี้จะเข้าไปแทนที่เทคโนโลยีซิลิกอนที่เราใช้งานกันอยู่อย่างสิ้นเชิง

น่าจะเป็นเรื่องในห้าปีข้างหน้าขึ้นไปนะ.....

โครงการ Itanium ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง HP กับอินเทล เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อ HP ประกาศถอนตัวจากโครงการนี้ โดยทีมงานจากฝั่ง HP จะกลายมาเป็นพนักงานของอินเทลแทน แต่ HP เองจะยังใช้สถาปัตยกรรม IA-64 ของ Itanium ในเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองต่อไป จาก Ars Technica

หลังจากข่าวไอบีเอ็มขายธุรกิจพีซีออกไปแล้ว มีกระแสวิจารณ์ออกมาว่ารายต่อไปที่อาจจะต้องลาจากธุรกิจนี้คือเอชพีครับ

เหตุที่มีกระแสนี้ออกมาเพราะจริงๆ แล้ว เอชพีก็มองธุรกิจพีซีของตนเองไม่ต่างจากไอบีเอ็มเท่าใหร่ คือให้บริารคำปรึกษาเรื่องการวางระบบไอที พร้อมๆ กันนั้นก็ขายเครื่องพีซีไปด้วยเลย

แต่แนวคิดแบบนี้ก็ทำให้ไอบีเอ็มถังแตกไปแล้วทีนึง จึงมีกระแสว่าเอชพีอาจจะชิงถอนตัวออกจากตลาดนี้ก่อนจะเจ็บตัวแบบเดียวกัน เพราะแม้ตลาดพีซีจะยังโตวันโตคืน แค่ส่วนต่างกำไรนั้น หดหายไปจนแทบไม่เหลือ

เอชพี ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศยืนยันแล้วว่ามีแผนการที่จะใส่ ไดรฟ์บลูเรย์ไว้ในผลิตภัณฑ์ของตน เรื่องที่ทำให้ออกจะแน่นอนแล้วว่ายุคต่อไปของการส่งข้อมูลขนาดใหญ่จะเป็นบลูเรย์

บลูเรย์คือดิสก์ฟอร์แมตใหม่ที่ให้ความจุต่อชั้นข้อมูลถึง 23 กิกะไบต์ หรือมากกว่าแผ่นดีวีดีในปัจจุบันประมาณห้าเท่า แผ่นแบบสองชั้นข้อมูลนั้นสามารถจุข้อมูลได้เกือบห้าสิบกิกะไบต์ นั่นหมายถึงรายการทีวี 26 ชั่วโมง

บลูเรย์ออกมาในสามรูปแบบด้วยกันคือ BD-ROM แผ่นเขียนอย่างเดียว BD-RE แผ่นเขียนได้เรื่อยๆ BD-R แผ่นเขียนทีเดียว

เตรียมพบกับมันได้ในคอมพิวเตอร์บ้านท่าน..... ไม่นานเกินรอ..

ฟลอริน่า หญิงเหล็กแห่งวงการไอที ไปเยือนเกาหลีวันที่ 10 ถึง 12 เริ่มแต่เปิดศูนย์วิจัยใหม่ที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็มีข่าวการเพิ่มความสัมพันธกับซัมซุง ผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ไปเรียบร้อยแล้วครับ แต่ข่าวอย่างเป็นทางการยังไม่ออกมา

เฮชพีผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลกประกาศเตรียมลงทุนในเกาหลี สี่สิบล้านดอลล่าห์ในช่วงห้าปีข้างหน้า เพื่อเปิดศูนย์วิจัยชิป RFid

การลงทุนครั้งนี้ประเดิมด้วยการจ้างนักวิจัยจำนวน 42 คนและจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงห้าปีข้างหน้านี้

RFid คือชิปที่ใช้ในการระบุตัวตนของเจ้าของชิปโดยที่ไม่ต้องสัมผัสกับตัวชิป โดยอาจใช้ในการระบุตัวประชาชน สินค้าในห้างสรรพสินค้า หรือสัตว์ในฟาร์มปศุสัตว์ โดยนักวิเคราะห์คาดกันว่าในอนาคตตลาดของชิปขนิดนี้จะเพิ่มมูลค่าขึ้นอย่างมหาศาล โดยอาจไปถึง 7 พันล้านดอลล่าห์ในปี 2010 ทำให้ทั่วโลกเร่งพัฒนาและวิจัยชิปชนิดนี้กันอย่างหนัก

หลังจากประกาศว่าจะขายโน้ตบุ้คที่ลงลินุกซ์ ท่าทาง HP คงหันมาเอาจริงทางลินุกซ์กับเค้าบ้าง โดยออก thin client ที่ใช้ลินุกซ์ (รุ่นเดิมเป็น Windows CE) ตัวเครื่องใช้ Transmeta Crusoe TM5800 800MHz การ์ดจอเป็น Radeon 7000 ส่วนหน่วยความจำแบ่งเป็นแรมและ flash สำหรับเก็บข้อมูล มีให้เลือกแบบ 32MB และ 128MB รัน Embeded Linux ที่ใช้ XFCE เป็นตัวจัดการเดสก์ท็อป บน OSNews มีรีวิว พร้อม screenshot ครับ

ช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ HP มีความเปลี่ยนแปลงไปหลายๆ อย่าง จากบริษัทสากกระเบือยันเรือรบ เริ่มแยกออกเป็นบริษัทเฉพาะทางมากขึ้น หลายปีก่อนข่าวใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็นการแยกตัวบริษัท Algilent Technology ออกจาก HP ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดย Algilent นั้นจะรับส่วนของเครื่องมือวัดในห้องแลปออกไปทั้งหมด

ในัวันนี้ HP ก็ออกมาประกาศแยกอีกบริษัทแล้ว คือ Viviera โดยเป็นการแยกเอาส่วนของผลิตพัณฑ์น้ำหมึกออกมาจากบริษัทแม่ โดยให้มีแผนกการวิจัยน้ำหมึกคุณภาพสูงเป็นของตัวเองเลย

ข่าวที่น่าตื่นเต้นในวันนี้ คือ เอชพี พยายามเปลี่ยนตัวเองจากสินค้าสำนักงาน มาทำตัวฮิปเอาใจผู้บริโภคทั่วไปแทน

ข่าวจาก CNET : HP's iPod to lead consumer push สิ่งที่ CEO หญิงเหล็กแห่งวงการไอที แครี่ ฟิออริน่า แถลงต่อสื่อมวลชน คือ ต่อไปนี้ เอชพี จะขายทีวี, กล้องดิจิทัล และ iPod