Narayana Murthy หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Infosys ผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อการทำธุรกิจในอินเดียระบุว่า ประเทศเรายังห่างไกลกับคำว่า Smart City มากนัก สาเหตุเพราะเรายังขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการลงทุนทำสิ่งใหม่

สืบเนื่องจาก Internet.org ถูกสั่งแบนในอินเดียเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดเฟซบุ๊กพยายามเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของชาวอินเดียอีกครั้ง ด้วยการร่วมมือกับ ISP, โอเปอเรเตอร์และนักลงทุนท้องถิ่น ในการทดสอบการให้บริการ Express Wifi by Facebook แต่คราวนี้ไม่ฟรีเหมือนเดิม

Express Wifi เป็นบริการ Wi-Fi สาธารณะที่ชาวอินเดียจะต้องซื้อแพ็คเกจจากผู้ให้บริการท้องถิ่นเพื่อใช้งาน โดยในช่วงการทดสอบให้บริการนี้ ได้มีการติดตั้ง HotSpot กว่า 125 จุดในพื้นที่ชนบทด้วย

ที่มา - Express Wifi by Facebook via BBC

บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics เผยสถิติสมาร์ทโฟนในประเทศอินเดีย ประจำไตรมาส 2/2016 พบว่า Android ครองตลาดอินเดียได้เกือบทั้งประเทศแล้ว มียอดขาย 29.8 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 97.1%

ในขณะที่แอปเปิลขาย iPhone ได้เพียง 8 แสนเครื่อง มีส่วนแบ่ง 2.4% และสมาร์ทโฟนระบบอื่นๆ มีส่วนแบ่งรวมกัน 0.5% เท่านั้น สภาพตลาดรวมโตขึ้น 19% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตอนนี้อินเดียถือเป็นตลาดสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ของโลก เป็นรองแค่จีนและสหรัฐอเมริกา

ไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว Android มีส่วนแบ่งตลาด 90% ส่วน iPhone มีส่วนแบ่ง 4.5% และระบบปฏิบัติการอื่นๆ มีส่วนแบ่ง 5.5%

สำนักงานกำกับการโทรคมนาคมอินเดีย (Telecom Regulatory Authority of India - TRAI) เผยแพร่รายงานสอบทานการสนับสนุนการเข้าถึงบริการธนาคาร เลียนแบบหลายชาติที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น M-Pesa ของเคนยา, G-Cash ของฟิลิปปินส์ แต่หลังจากเปิดระบบมาเกือบสองปี สถิติเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กลับมี "ความพยายามใช้งาน" เพียง 3.7 ล้านครั้ง เท่านั้นทั้งที่อินเดียมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือถึงพันล้านคน และมีผู้ใช้ในพื้นที่ห่างไกลถึง 450 ล้านคน

กูเกิลเปิดตัวโครงการ Android Skilling Program ในอินเดีย ตั้งเป้าสร้างนักพัฒนา Androdi จำนวน 2 ล้านคนให้ได้ภายใน 3 ปี

โครงการประกอบด้วย 3 ส่วนคือ

ซัมซุงเปิดตัวมือถือใหม่ 2 รุ่นในประเทศอินเดีย ได้แก่ Galaxy J2 รุ่นปี 2016 และ Galaxy J Max มือถือจอใหญ่ 7 นิ้ว

Galaxy J2 (2016) เป็นตัวต่อของ Galaxy J2 มือถือราคาถูกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในอินเดีย ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือ Smart Glow หรือวงแหวนรอบเลนส์กล้องหลัง สามารถเรืองแสงเป็นสีต่างๆ ได้ตามการแจ้งเตือนแอพที่ตั้งไว้ ฟีเจอร์อื่นที่น่าสนใจคือ Turbo Speed Technology (TST) ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องให้ดีขึ้น ปรับแต่งแอพของระบบให้กินแรมน้อยลง และโหมด S Bike สำหรับการใช้งานบนมอเตอร์ไซค์

สเปกคร่าวๆ คือหน้าจอ 5" 720p Super AMOLED, กล้อง 8MP/5MP, ซีพียู Spreadtrum ควอดคอร์, แรม 1.5GB, ความจุ 8GB + microSD, รองรับสองซิม, Android 6.0 ขายราคาตัวละ 9,750 รูปี หรือประมาณ 5,000 บาท

เมื่อปีที่แล้ว Google นำ Wi-Fi ฟรีความเร็วสูงให้บริการทั่วสถานีรถไฟในอินเดีย โดยเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลและ Railtel ซึ่งเป็นแผนกโทรคมนาคมของการรถไฟอินเดีย โดยในเฟสแรกจะเปิดให้บริการใน 100 สถานีที่คนพลุกพล่านก่อน และจะขยายไปให้ถึง 400 สถานี

ตอนนี้โครงการได้เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่ง Google ได้เผยว่าตอนนี้ได้ติดตั้ง Wi-Fi ฟรีไปแล้วกว่า 19 สถานี มีผู้ใช้งานรวม 1.5 ล้านคน และถ้าติดตั้งถึง 100 สถานีน่าจะมีผู้ใช้งานถึง 10 ล้านคน

หากยังพอจำกันได้ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา Ringing Bell ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติภารตะได้เปิดตัว Freedom 251 สมาร์ทโฟนราคาประหยัดเพียง 130 บาท จนมียอดสั่งจองอย่างล้นหลามและทำให้ผลิตไม่ทัน ล่าสุดผู้ที่สั่งจองดังกล่าวเตรียมจะได้รับเครื่อง หลังวันที่ 30 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป

Mohit Goel ซีอีโอของบริษัทระบุด้วยว่าแท้จริงแล้ว บริษัทขาดทุนอยู่ที่เครื่องละประมาณ 80 บาท แต่ที่ทำไปก็เพื่อต้องการให้ให้ชาวอินเดียที่มีฐานะยากจนได้มีโอกาสติดต่อสื่อสารถึงกัน ตามแนวคิดดิจิทัลอินเดีย (Digital India) โดยคนอินเดีย (Make in India)

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีชื่อว่า Watt a Box ลักษณะเป็นกล่องใส่อาหารธรรมดาที่ประกอบ power bank ไว้ในตัว มีช่องเสียบชาร์จแบตเตอรี่เหมือน power bank มีราคา 149 รูปีหรือ 3 ดอลลาร์ ราคารวมอาหารในกล่องแล้ว และไม่ใช่ทุกคนที่ซื้อได้ ทางร้านจะคัดเลือกจากผู้โชคดีจาก Facebook ที่เข้าร่วมการแข่งขันออนไลน์

IDC เปิดเผยข้อมูลของตลาดอุปกรณ์สวมใส่ในอินเดียในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ที่ขายไปได้แล้วกว่า 400,000 ชิ้น โดยกว่า 88% เป็นสัดส่วนของอุปกรณ์ด้านสุขภาพ (Fitness Tracker)

บริษัทที่มีส่วนแบ่งมากที่สุดในช่วงไตรมาสแรกคือ Xiaomi ที่ 27% ตามมาด้วย GOQii บริษัทที่ทำฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้านสุขภาพจากแคลิฟอร์เนียที่ 18% และ Fitbit ที่ 6%

สาเหตุสำคัญที่ตลาดนี้ของอินเดียเติบโตมากขึ้น มาจากกระแสการรักสุขภาพที่เพิ่มขึ้น, การเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดีย และราคาของอุปกรณ์สวมใส่ด้านสุขภาพที่ถูกลงเรื่อยๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตีตลาดก็หนีไม่พ้น Mi Band ของ Xiaomi

ที่มา - Business Insider

การเก็บภาพสถานที่ถนนหนทางต่างๆ ของโครงการ Google Street View เพื่อให้ผู้ใช้แผนที่สามารถดูสถานที่ได้ด้วยภาพถ่ายจริงทั้ง 360 องศา สร้างความกังวลในหลายประเทศ เช่น ปี 2010 ชาวเยอรมันถึง 250,000 คนต้องการให้ Google เบลอภาพบ้านของพวกเขาที่อยู่ในภาพถ่าย Google Street View และรัฐบาลเช็กแบน Google ห้ามเก็บภาพใดๆ เพื่อนำไปใช้

ล่าสุดถึงคราวอินเดียออกมาห้ามอีกรายโดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงปลอดภัย

เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงอินเดียแสดงความกังวลต่อเรื่องนี้ เพราะเมื่อปี 2008 เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่เมืองมุมไบ เชื่อว่า ส่วนหนึ่งของแผนการคือการลาดตระเวนถ่ายภาพเป้าหมาย ส่วน Google ออกมาบอกว่ายังไม่ได้รับเอกสารจากรัฐบาลที่ห้ามนำรถของ Google ไปตระเวนเก็บภาพแต่อย่างใด

ที่มา - BBC

Google ของประเทศอินเดียประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Smart Offline บน YouTube ให้กับผู้ใช้ภายในประเทศ สำหรับการตั้งเวลาให้วิดีโอดาวน์โหลดในช่วงกลางคืน ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มักคิดค่าบริการอินเทอร์เน็ตในช่วงดึก ถูกกว่าช่วงเวลาอื่น

ทาง Google ระบุว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงผู้ใช้ไม่ต้องอยู่จนดึกเพื่อดาวน์โหลดวิดีโอ โดยฟีเจอร์นี้จะใช้ไม่ได้หากสมาร์ทโฟนเชื่อมต่อกับ Wi-Fi อยู่ รวมไปถึงใช้ได้เฉพาะกับลูกค้าของเครือข่าย Airtel และ Telenor ก่อนเท่านั้น และจะขยายไปยังผู้ให้บริการเจ้าอื่นต่อไป

ที่มา - Google India Blog

ถึงแม้จะปิดบริการและสำนักงานทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอีกหลายประเทศในยุโรป แต่ล่าสุดดูเหมือน Rakuten ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซจากญี่ปุ่นกำลังเตรียมจะกระโดดเข้าไปทำตลาดในประเทศอินเดีย

The Economic Times รายงานว่า Rakuten ได้จากอดีตผู้บริหารของบริษัทอีคอมเมิร์ซท้องถิ่นของอินเดียไว้แล้ว รวมถึงกำลังมองหาที่ตั้งของโกดังเก็บสินค้า บริเวณตอนเหนือของประเทศ

เราเพิ่งเห็นข่าว HTC เปิดตัว One M9 Prime Camera Edition ที่โปแลนด์ แต่ปฏิบัติการซอยรุ่นย่อยยังไม่จบลงแค่นั้น เพราะยังมี HTC One M9+ Prime Camera Edition อีกรุ่นเปิดตัวที่อินเดีย (ถ้าหาความแตกต่างไม่เจอ มันมี + เพิ่มเข้ามาครับ)

จุดต่างกันของสเปกมีเพียงอย่างเดียวคือหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 5.2" (รุ่นปกติ 5") ส่วนสเปกข้างในเหมือนกันคือ MediaTek Helio X10, แรม 2GB, ความจุ 16GB, แบตเตอรี่ 2,840 mAh, กล้องเป็น 13MP เท่ากับตัว M9 Prime Camera

ราคาขาย 23,990 รูปี หรือประมาณ 13,000 บาท

ผู้ผลิตมือถืออย่างซัมซุง อาจถูกวิจารณ์เรื่องการอัพเดตซอฟต์แวร์ที่ไม่รวดเร็วทันใจใครหลายคน แต่ในอีกมุมหนึ่งของโลก ซัมซุงกลับพบปัญหาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นั่นคือผู้ใช้ไม่ยอมอัพเดตซอฟต์แวร์ ด้วยเหตุผลว่ามือถือราคาถูกอาจมีพื้นที่เก็บข้อมูลจำกัด ถ้าจะอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบก็ต้องลบแอพออกก่อน

ตามข่าวบอกว่าซัมซุงประเทศอินเดีย ถึงขนาดแจกคูปองให้กินพิซซ่าจาก Dominos ลดราคา 20% ถ้าหากผู้ใช้ยอมอัพเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุด (ถ้าไม่มี Wi-Fi สามารถไปที่ร้านของซัมซุงแทนได้) โดยโปรโมชั่นนี้จะผูกกับเบอร์มือถือของผู้ใช้ และต้องกดรับสิทธิผ่านแอพ My Galaxy ด้วย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Samsung อินเดีย แถลงเปิดตัว Galaxy Tab Iris แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่รวมเอาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านม่านตา (Iris) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแท็บเล็ต และรองรับระบบชำระเงินของรัฐบาลอินเดีย Aadhaar ด้วย

แท็บเล็ตดังกล่าวนี้ได้รับการรับรองว่าผ่านมาตรฐานทั้ง STQC, UIDAI (ระบบยืนยันตัวตนของรัฐบาลอินเดีย) และของ Aadhaar โดยพัฒนาขึ้นจากแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทที่ตั้งอยู่ในอินเดีย Samsung ระบุว่าการเพิ่มคุณสมบัติยืนยันตัวตนผ่านการสแกนม่านตา จะทำให้ประชาชนชาวอินเดียเข้าใช้บริการที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และจะเปิด SDK ให้นักพัฒนาสามารถใช้คุณสมบัติดังกล่าวได้ด้วย (ตัวสแกนม่านตาอยู่ด้านหลังของเครื่อง คู่กับกล้อง)

มีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของ Tinder แอพหาคู่ ที่นอกจากจะฮิตที่สหรัฐฯ, ยุโรป, ออสเตรเลีย และไทยแล้ว ที่อินเดียแอพนี้ก็ได้รับความนิยมไม่เบา ล่าสุดมีผู้ใช้ในประเทศนี้สูงถึง 400% เพิ่มขึ้นจากปี 2015 มีอัตราการปัดจอซ้ายขวากว่า 14 ล้านครั้งต่อวัน

สาเหตุที่ทำให้แอพแบบนี้ได้รับความนิยมในอินเดีย ส่วนหนึ่งมาจากวัฒนธรรมการเลือกคู่ครองของประเทศนี้จะถูกจำกัดด้วยจารีตและประเพณี ทั้งการเลือกคู่ที่ฝ่ายชายทำได้ หรือการจับคู่โดยบิดามารดา ซึ่งจากสถิติปี 2013 มีชาวอินเดียอายุ 18 ถึง 35 ปีกว่าร้อยละ 75 เปิดเผยว่าตนยังต้องการแต่งงานแบบจัดการให้

Tinder สนองเทรนด์นี้ด้วยการทำโฆษณา (ชิ้นแรกของบริษัท) ว่าด้วยคุณแม่และลูกสาวกำลังคุยกันและแต่งตัวเพื่อไปเดทกับหนุ่มที่ปัดขวาเจอในแอพ แทนที่จะจับคู่แบบคลุมถุงชน ก็เป็นการให้มารดาช่วยสกรีนหนุ่มให้แทน

ที่มา - CNET

Apple ประกาศว่าทางบริษัทได้เปิดสำนักงานแห่งใหม่ในเมือง Hyderabad ประเทศอินเดีย ซึ่งสำนักงานแห่งนี้จะเน้นการพัฒนาแผนที่ Apple Maps ซึ่งจะมีการสร้างงานกว่า 4 พันตำแหน่งในท้องถิ่น

ออฟฟิศแห่งใหม่ของ Apple นี้ จะช่วยเร่งการพัฒนาแผนที่ Apple Maps ของ Apple เพื่อป้อนให้เป็นผลิตภัณฑ์บริษัท โดยก่อนหน้านี้ Apple ก็เพิ่งเปิดศูนย์บ่มเพาะนักพัฒนา iOS ในอินเดีย

สำนักงานแห่งใหม่ของ Apple นี้จอยู่ใน Waverock campus โดยจะเป็นอาคารระดับโลกและได้รับมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงาน LEED ด้วย

ที่มา - Apple Press

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลกำลังเดินทางไปเยือนประเทศอินเดีย และล่าสุดบริษัทก้ได้ประกาศจัดตั้ง Design and Development Accelerator ในเมืองบังกะลอร์ เมืองที่เปรียบเสมือน Silicon Valley ของอินเดีย และจะเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2017

ศูนย์แห่งนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญจากแอปเปิล คอยช่วยเหลือและสนับสนุนนักพัฒนาในอินเดีย ทั้งการเขียนโปรแกรมภาษา Swift การเขียนและดีไซน์แอพ บนแพลตฟอร์มต่างๆ ของแอปเปิลทั้ง iOS, Mac, Apple TV และ Apple Watch

ที่มา - The Next Web

เมื่อวานนี้ที่อินเดีย MediaTek บริษัทผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน ประกาศความร่วมมือกับ Intex บริษัทผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของอินเดีย เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะสองรุ่นคือ iRist Junior และ iRist Pro

ทั้งสองตัวใช้หน่วยประมวลผลจากทาง MediaTek โดยรุ่น Junior ใช้หน่วยประมวลผลเป็น MT6261 ที่มี GPS ซึ่งทำให้ผู้ปกครองติดตามได้ว่าบุตรหลานกำลังอยู่ที่ใด, ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65, หน้าจอขนาด 0.96 นิ้ว แบตเตอรี่ความจุ 580 mAh และหนัก 48.5 กรัม รองรับทั้ง Android และ iOS ส่วนรุ่น Pro ใช้หน่วยประมวลผล MT2502 เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth 4.0 และกันน้ำ โดยรองรับเฉพาะ Android ตั้งแต่รุ่น KitKat เป็นต้นไปเท่านั้น ไม่ระบุระบบปฏิบัติการทั้งสองรุ่น

Mike Hayes ผู้บริหารของกูเกิล ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Economic Times ของอินเดีย ถึงโครงการมือถือราคาถูก Android One ว่ากูเกิลปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ ให้ Android One เป็นส่วนหนึ่งของ "ยุทธศาสตร์ด้านฮาร์ดแวร์" ของบริษัท

Hayes ระบุในบทสัมภาษณ์ว่าพาร์ทเนอร์ OEM จะมีความยืดหยุ่นในการเลือกสเปกฮาร์ดแวร์ การสั่งซื้อชิ้นส่วน การตั้งราคาและช่วงเวลาวางขายมากขึ้น (เทียบกับ Android One ช่วงแรกๆ ที่สเปกฮาร์ดแวร์ของทุกยี่ห้อเกือบเหมือนกัน เพราะกูเกิลสั่งซื้อชิ้นส่วนล็อตใหญ่ให้) ในขณะที่กูเกิลจะปรับบทบาทของตัวเองไปเน้นที่ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว

อินเดียนับเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่ง โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนระดับล่าง ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายเจ้าทั้งระดับโลกและท้องถิ่น พยายามทำตลาดสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 5,000 บาทในประเทศที่มีประชากรเป็นอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนตลาดอันเย้ายวนเช่นนี้ แอปเปิลที่เน้นไปที่ตลาดไฮเอนด์มีส่วนแบ่งเค้กเพียง 2% เท่านั้น

เหตุนี้แอปเปิลยื่นเรื่องต่อรัฐบาลอินเดีย ในการนำ iPhone ที่ผ่านการซ่อม (refurbish) และมีอยู่จำนวนมากเข้าไปขาย ซึ่งทางกระทรวงโทรคมนาคมของอินเดียปฏิเสธคำขอนี้ โดยให้เหตุผลเพียงว่าเป็นนโยบายของรัฐ ขณะที่เมื่อปีที่แล้วแอปเปิลเคยยื่นเรื่องในลักษณะนี้และโดนกระทรวงสิ่งแวดล้อมปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่ง

นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว ต้นปีที่ผ่านมาแอปเปิลยังได้ยื่นเรื่องขอเปิด Apple Store แห่งแรกในประเทศอินเดียและยังอยู่ระหว่างกระบวนการตัดสินใจของภาครัฐอีกด้วย

ที่มา - Bloomberg

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียประกาศให้มือถือทุกเครื่องที่วางขายในประเทศตั้งแต่ 1 ม.ค. ปีหน้าเป็นต้นไป ต้องมีปุ่มที่ผู้ใช้กดครั้งเดียวสามารถโทรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ (authority) ได้ทันที

สำหรับสมาร์ทโฟนที่ไม่สามารถเพิ่มปุ่มข้างต้นได้ ผู้ผลิตต้องเพิ่มฟังก์ชันดังกล่าวในปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง โดยให้กดติดต่อกันสามครั้งเพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนฟีเจอร์โฟนนั้นให้เพิ่มลงปุ่ม 5 หรือ 9 แทน

การประกาศนี้มีขึ้นหลังรัฐบาลตั้งเบอร์ 112 เพื่อการติดต่อขอความช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งตำรวจ รถฉุกเฉิน และหน่วยดับเพลิง ได้จากที่เดียว

นอกจากนั้น รัฐบาลอินเดียยังบังคับให้มือถือทุกเครื่องที่วางขายตั้งแต่ 1 ม.ค. 2018 เป็นต้นไป ต้องมากับ GPS

ที่มา: Windows Central

โมโตโรลาได้ร่อนบัตรเชิญสื่อมวลชนให้ไปร่วมงานแถลงข่าวในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ โดยไม่ได้บอกรายละเอียด ซึ่งหลายฝ่ายก็คาดกันว่าน่าจะเป็น Moto G รุ่นใหม่หลังจากที่โมโตโรลาเปิดตัว Moto G (2015) ที่อินเดียเมื่อปีที่แล้ว

ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดของ Moto G รุ่นใหม่ออกมาซึ่งคาดว่าจะออกมาเป็น 2 รุ่นย่อยคือ Moto G4 และ Moto G4 Plus โดย ณ ตอนนี้ความแตกต่างของสองรุ่นนี้คาดกันว่าเป็นกล้อง ที่รุ่น G4 จะใช้กล้องความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ขณะที่ G4 Plus จะใช้กล้องความละเอียด 16 เมกะพิกเซล

ที่มา - FoneArena, ภาพจาก @evleaks

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่ารัฐบาลอินเดียได้เปิดตัวระบบรับชำระและส่งเงินแบบใหม่ที่เรียกว่า Unified Payment Interface (UPI) โดยสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้หลายประเภท ขอแค่เพียงเข้าถึงการสื่อสารที่กำหนดเอาไว้ได้เท่านั้น ระบบดังกล่าวนี้พัฒนาต่อมาจากระบบฐานข้อมูลประชาชนและข้อมูลทางชีวภาพ (biometrics) ของประเทศที่เรียกว่า Aadhaar (ภาษาฮินดีแปลว่าพื้นฐาน, รากฐาน) ซึ่งมีประชาชนอยู่ในฐานข้อมูลนี้แล้วกว่าร้อยละ 80 ของประชากร