เนื่องมาจากมีหลายคนสงสัยว่าทำไมผมสนับสนุน Drupal กับ Plone อย่างออกหน้าออกตา และมีอีกหลายคนกำลังต้องเลือก CMS คู่ใจซักตัว ผมก็เลยอยากจะเปรียบเทียบซักหน่อย ทีนี้เรื่องมันยาว เลยขอเอามาแปะไว้ที่นี่ดีกว่า ถ้าจะเอามาเปรียบเทียบคงต้องดูหลายประเด็น ไม่งั้นจะมีคนหาว่าผมไม่มีจริยธรรมมากพอ
เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อมากเกินไปผมเลือกมาแค่ 4 ตระกูลใหญ่ Nuke Mambo Drupal Plone โดยที่ Nuke จะรวม PHPNuke กับ PostNuke และ Mambo จะรวม Joomla ด้วย (สงสัยจะยาวไปเลยต้องย้ายมาเป็น Special Report)
หลังจากเปิดตัวบริการ A9 มานานพอสมควร สัญญาระหว่างอเมซอนและกูเกิลก็หมดลง พร้่อมๆ กับการเปลี่ยนผู้ให้บริการค้นหามาเป็นไมโครซอฟท์แทน โดยการเปลี่ยนระบบค้นหานี้เป็นการเปลี่ยนทั้งบริษัทเลยทีเดียว นั่นหมายถึงเมื่อคุณเข้าเว็บอเมซอนแล้วค้นหาหนังสือ ก็จะเป็นการค้นหาด้วยเอนจินของทางไมโครซอฟท์
แม้ในตอนนี้ทาง A9 ไม่ได้มีส่วนแบ่งอะไรสำคัญ แต่การเปลี่ยนครั้งนี้ก็มีผลในแง่ของภาพลักษณ์ของทั้งกูเกิลและไมโครซอฟท์ค่อนข้างมาก จนน่าสงสัยว่าเป็นรายการโปรโมทตัวเองของไมโครซอฟท์ เหมือนครั้งที่ GoDaddy ย้ายไปใช้ไมโครซอฟท์ด้วยเหมือนกันรึเปล่า
หลังจากที่รอมาเป็นปี ในที่สุด Drupal 4.7.0 ตัวเต็มก็ลืมตาดูโลกวันนี้นี่เอง คนที่ใช้ Drupal อยู่แล้วและไม่ได้ใช้โมดูลแปลกๆ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอันดีที่จะอัพเกรด จริงๆ จังๆ ซักที บักหายไปเยอะมาก มีการเพิ่ม ajax แฝงเข้ามาเท่าที่จำเป็น โดยรวมแล้วดูดีมากๆ โดยเฉพาะ Form APIs ที่เห็นแล้วต้องลองเขียน
ถ้าไม่เคยใช้ Drupal หรือกำลังมองหาทางเลือกใหม่ ผมสนับสนุนเต็มตัว หนึ่งเดียวที่พอจะเทียบกับ Plone ได้ ตัวอื่นอย่าไปนับ โดยเฉพาะตระกูล Nuke Mambo Joomla
หลายๆ คนคงเคยใช้บริการ Youtube ซึ่งเป็นบริการแชร์ไฟล์วิดีโอ และในปัจจุบันได้มียอดผู้ชมมากกว่า Flickr ซึ่งเป็นบริการเก็บอัลบัมรูปส่วนตัวไปมากพอสมควรแล้ว (เกือบสองเท่า) นี่อาจจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตของอินเตอร์เนตความเร็วสูง ว่าเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้อินเตอร์เนตไปอย่างไร ข่าวนี้ ที่ digg เขียนถึงไว้สั้นๆ ว่า
"People have more fun watching TV than a photo album. Maybe the couch potato just won."
สำหรับผู้ที่สนใจ มีกราฟแสดงอยู่ที่ vowe.net ครับ
Apache เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ราวๆ 70% ที่สองคือ IIS อยู่ที่ 20% แต่ตัวเลขนี้นับเฉพาะ HTTP เท่านั้นไม่รวม HTTPS
ผลสำรวจล่าสุดของ Netcraft ในตลาด HTTPS ประจำเดือนเมษา Apache ได้แซง IIS ก้าวเป็นอันดับหนึ่งแทนแล้ว (44.0% เทียบกับ 43.8%) และดูจากแนวโน้มก็พุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ Apache ลุยตลาด SSL ได้ไม่ดีนัก เนื่องจากกฎหมายของสหรัฐที่ห้ามส่งออกวิธีการเข้า-ถอดรหัสมากกว่า 56 บิต ทำให้โมดูล SSL ใน Apache 1 ต้องแยกออกมาและพัฒนาโดยทีมจากประเทศอื่น แต่ทุกวันนี้กฎหมายนั้นถูกแก้ไข ทำให้ Apache 2 รวม mod_ssl มาได้ในตัวเลย
สงครามเว็บเมลยังคงร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังการพัฒนาเว็บจาก Hotmail มาเป็น Windows Live ไมโครซอฟท์เริ่มใช้กลยุทธ์เพิ่มเติมขึ้นมาด้วยการเสนอให้ หน่วยงานการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยย้ายมาใช้บริการเมลจากทางไมโครซอฟท์ แทนที่จะตั้งเว็บเมลเอง โดยเรียกชื่อโครงการนี้ว่า Live@edu
ไมโครซอฟท์เสนอบริการให้กับเหล่านักศึกษาโดยให้สิทธิพิเศษคือ จะไม่มีโฆษณาในบริการของ Live@edu ตลอดเวลาที่นักศึกษาเหล่านั้นเรียนอยู่ แต่ไมโครซอฟท์สงวนสิทธิในการใส่โฆษณาเมื่อนักศึกษาคนนั้นเรียนจบแล้ว
คู่แข่งตลอดกาลของไมโครซอฟท์ในตลาดอินเทอร์เน็ตนั้นคงเป็นลินุกซ์กับ Apache ที่กินกันไม่ลงโดยตลอดมา ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่าผู้ให้บริการโฮสต์รายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกอย่าง GoDaddy นั้น ได้ย้ายไปใช้โครงสร้างพื้นฐานจากไมโครซอฟท์เรียบร้อยแล้ว
ผลการสำรวจประชากร IM พบว่า MSN Messenger (รวมถึงตระกูลๆ นี้ของไมโครซอฟท์ทุกตัว ที่ชื่อต่างกันนิดหน่อยแต่ใช้เครือข่ายเดียวกัน) เป็นแชมป์ด้วยส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกรวม 61%
ในสหรัฐนั้นตลาดถูกยึดครองมายาวนานจาก AOL IM แต่พอออกมาข้างนอกแล้วหนังคนละม้วน ในละตินอเมริกานั้น MSN กินไป 90% ส่วนเอเชียกับยุโรปอยู่ที่ 70% ที่สามคือ Yahoo! ตามคาด
สถิติที่น่าสนใจอื่นๆ คือ 49% ของประชากรที่ออนไลน์ IM ทั้งหมดมาจากยุโรป แต่ถ้าเทียบอัตราคนใช้ IM ต่อภูมิภาคแล้ว ละตินอเมริกาชนะเพราะมีคนใช้ IM จำนวน 64% ของคนที่ใช้เว็บทั้งหมด
Flickr สร้างมาตรฐานให้กับเว็บอัพโหลดรูปไปแล้ว มาถึงคิวของวิดีโอกันบ้าง อันที่คุ้นๆ ตากันหน่อยก็มี Google Video กับ YourTube แต่เอาเข้าจริงยังมีอีกเยอะ
ที่ DVguru มีรีวิวเว็บอัพโหลดวิดีโอจำนวน 10 แห่ง มีตัวที่น่าสนใจอย่าง Revver (คนอัพโหลดคลิปได้ตังจากค่าโฆษณาด้วย) หรือ Jumpcut (ตัดต่อวิดีโอมันออนไลน์เลย) ผลสรุปก็คือยังไม่มีตัวไหนชนะกันเด็ดขาด ขึ้นกับวัตถุประสงค์มากกว่าว่าอยากได้อะไร
ที่มา - DVguru
หลังจากเปิดให้ลงทะเบียนไม่ถึง 12 ชม. ก็มีคนเข้าไปจดนามสกุล .eu เกินล้านชื่อเข้าไปแล้ว (ตอนที่ผมเขียนนี่ 1.2 ล้าน) ซึ่งคาดว่าจะแซง .uk กลายเป็นโดเมนอันดับสองรองจาก .com ได้ภายในไม่นานนี้ (.uk มี 4 ล้าน)
ตัวแทนที่รับจดทะเบียนมีมากกว่า 1,000 ราย แต่ละรายได้รับอนุญาตให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ EU แค่ 1 connection เท่านั้น เพื่อความยุติธรรม
ที่มา - Slashdot
ในขณะที่เว็บไซต์ social network อย่าง Myspace, Friendster และ Facebook ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ตอนนี้ก็เกิด network แบบใหม่ แต่เป็น antisocial network แทนที่จะหาเพื่อน กลับเป็นการรวบรวมคนที่คุณไม่ชอบแทน ก่อนหน้านี้ก็มี isolatr และ introvertster
ล่าสุดมีบริการใหม่ชื่อว่า Snubster ที่ให้คุณใส่ email รายชื่อคนที่คุณไม่ชอบ แล้วเว็บนี้ก็จะส่ง email ไปหาคนที่คุณเกลียด พร้อมกับเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ชอบคน ๆ นั้น Bryant Choung คนพัฒนาให้เหตุผลว่า ตัวเขาเองเบื่อกับการที่ได้รับ emails จากพวกเว็บ social network ให้เป็นเพื่อนกับคนอื่น ๆ
ปีที่แล้วมีข่าวว่าแผนการนำโดเมน .xxx ถูกยกเลิกไป เนื่องจากสหรัฐอเมริกาใช้สิทธิ์ Veto เพราะได้รับการกดดันจากกลุ่มศาสนา ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนนั้นให้เหตุผลว่าการใช้โดเมน .xxx นั้นจะช่วยให้การป้องกันการเข้าถึง เป็นไปได้ง่ายขึ้น (เพราะกรองจากโดเมนเลย)
อาทิตย์ที่แล้วได้มีการนำเข้าที่ประชุมอีกครั้งในที่ประชุมของ ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) และก็ตกไปอีกรอบเป็นที่เรียบร้อย
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาติอื่นๆ ไม่พอใจสหรัฐเป็นอย่างมาก เพราะการดูแลโดเมนของ ICANN นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการขององค์กรอื่นๆ ในโลก จะเห็นได้จากการเริ่มสร้างระบบโดเมนเองของจีน
ตอนนี้ทาง Mozilla ได้ปล่อย Firefox 2.0 เวอร์ชั่น Alpha ให้ลองของกันแล้วครับ
เวอร์ชั่นนี้เป็น Alpha ซึ่งนับเป็นเวอร์ชั่นก่อน Beta ซะอีก ดังนั้นอย่าหวังอะไรกับมันมากครับ
หลังจากทำหน้าที่รายงานเว็บยอดแย่มาทั้งปี Web Page That Suck ก็รายงานรางวัลยอดแย่ประจำปีออกมา ว่าสุดยอดเว็บยอดแย่มีเว็บใดบ้าง
อาจจะไม่น่าตื่นเต้นเท่าใหร่กับคนไทย เพราะเว็บเน่าๆ กว่านี้หาได้ในบ้านเราถมไป ไม่เชื่อลองเข้าเว็บตระกูล .go.th ดู แต่ที่น่าสนใจคือเว็บอันดับแรกที่ให้กับบัณฑิตวิทยาลัยของมหาวิทยาลัย Brown ที่ดูดีมากๆ เว็บหนึ่ง จนกระทั่งคุณได้ลองทดสอบระบบ Navigation ของเว็บนี้ถึงจะรู้ซึ้ง
มาตั้งเว็บแบบรีวีวแบบนี้ในไทยนี่ท่าจะมีเรื่องให้เขียนเยอะดีนะ....
หลังจากที่ Safari และ KHTML ผ่านการทดสอบความเข้ากันได้กับ CSS 2.1 ด้วยการทดสอบ Acid2 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ในวันนี้ก็มีการทดสอบ Opera 9 ซึ่งยังเป็นเบต้าอยู่ว่าได้ผ่านการทดสอบนี้เป็นที่เรียบนร้อยแล้ว
โดยการผ่านการทดสอบนี้ทำให้เราเดาได้ไม่ยากกว่า Opera 9 ตัวจริงก็จะผ่านการทดสอบนี้แน่ๆ ตอนนี้ก็คงต้องลุ้นไฟร์ฟอกซ์ของเราให้ผ่านกันซักที ซึ่งถ้าผ่านก็จะมีบราวเซอร์อีกหลายตัวผ่านตามๆ ไปเพราะ Gecko ซึ่งเป็นแกนกลางการเรนเดอร์ภาพของไฟร์ฟอกซ์นั้นมีคนนำไปใช้กันเยอะอยู่
แล้ว IE7 ล่ะ?....
ที่มา - Stranger, yet...
แล้วเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็เกิดจนได้ เมื่อรัฐบาลจีนเริ่มเดินหน้าตั้งเซิร์ฟเวอร์สำหรับ TLD (Top Level Domain) ที่เราเห็นเป็น .com, .org, หรือ .net กันในทุกวันนี้เป็นของตัวเอง
โดยจีนสร้างเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับสาม TLD ด้วยกันคือ .cn, .com และ .net ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ของทางจีนจะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับทางสหรัฐแม้แต่น้อย
Unipage เป็นการจัดเก็บ web page ไว้ในไฟล์เพียงไฟล์เดียวรูปแบบหนึ่ง โดยต่างกับ PDF ตรงที่ รูปแบบของไฟล์จะเป็น HTML ที่มี content แบบ binary ทั้งหลาย เช่น ภาพ หรือ flash animation และ Javascript รวมอยู่ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
หลังอเมซอนเดินหน้าขยายธุรกิจหลังจากทำ A9 มาได้พักใหญ่ ตอนนี้ก็เตรียมสยายปีกไปเข้าธุรกิจดนตรีด้วยอีกทาง โดยอาศัยความได้เปรียบที่มีความสัมพันธ์กับค่ายเพลงอยู่ก่อนหน้านี้ และฐานลูกค้าอเมซอนกว่า 55 ล้านราย
แหล่งข่าวระบุว่า แนวทางการใช้งานของอเมซอนนั้นจะเป็นแบบเดียวกับ Napster ที่ให้สมัครสมาชิกแล้วฟังเพลงไม่จำกัด พร้อมกับเครื่องเล่นเพลงที่ลดราคาเป็นพิเศษให้กับลูกค้าที่สมัครสมาชิก
ข่าวไม่ได้ระบุ แต่คงใช้ระบบของไมโครซอฟท์ค่อนข้างแน่
ข่าวเก่าคือ ทีม IE7 ตัดสินใจใช้ไอคอนสำหรับ Feed อันเดียวกับของ Firefox เพื่อลดความสับสนของผู้ใช้ในเรื่อง Feed, RSS และ Atom ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี
ตอนนี้ Opera เป็นค่ายที่สามที่ประกาศใช้ไอคอนนี้แล้ว เท่าที่ผมอ่านในเว็บของ Opera คร่าวๆ เสียงต่อต้านจะมาประมาณว่าทำไมต้องลอก Firefox มากกว่า แต่ส่วนมากก็ยินดีที่ไอคอนเป็นมาตรฐานเดียวกัน
เหลืออีกหนึ่งค่ายแถวๆ Cupertino
ที่มา - Opera Desktop Team
ช่วงหลังมานี้ยาฮูทำตัวเป็นมิตรกับกลุ่มโอเพนซอร์สขึ้นมาก ตั้งแต่การเปิด API ของบริการต่างๆ มาเรื่อยๆ ไปจนถึงการซื้อ Konfabulator มาแจกฟรี ล่าสุดก็มีการแจกอีกครั้งกับไลบรารี AJAX ซึ่งเป็นชุดจาวาสคริปต์ชุดใหญ่ที่เอาไว้ทำ UI ของส่วนต่างๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลกับการพอร์ตข้ามเบราว์เซอร์
งานนี้เชื่อว่ายาฮูเองก็มีส่วนได้คือการใช้งานที่กว้างขวางขึ้น จะทำใ้ห้มีการพัฒนาไลบรารีชุดนี้มากขึ้นไปเรื่อยๆ โดยยาฮูปล่อยไลบรารีนี้ออกมาในแบบ BSD License ทำให้ผู้ที่พัฒนาไลบรารีนี้ต่อไป ต้องคืนไลบรารีส่วนที่พัฒนาแล้วให้เป็นโอเพนซอร์ส ซึ่งอาจจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลไลบรารีนี้ให้กับยาฮูเองในอนาคต
ถ้ายังจำกันได้สมัยสงครามเบราว์เซอร์ สมรภูมิหลักคือไอคอนบนเดสก์ท็อปของคุณ ไมโครซอฟท์โดนคดีผูกขาดอ่วมเพราะไอคอน IE บนเดสก์ท็อปนั้นมันลบไม่ได้ หรือถ้าย้อนกลับไปกว่านั้นหน่อย หลายๆ คนน่าจะจำไอคอน AOL หรือ CompuServ ที่คนไทยใช้ไม่ได้ไม่รู้จะเอามาทำไม ไอคอนพวกนั้นเป็นผลจากบรรดาไอเอสพีจ่ายเงินให้ไมโครซอฟท์ เพื่อให้บริการของตนเด่นสะดุดตากว่าใคร
บริการใหม่ตัวนี้ที่กูเกิ้ลให้ชื่อว่า Gmail Chat นั้น จะเป็นความสามารถใหม่ใน Gmail ที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความให้กับผู้ใช้ Gmail ด้วยกันได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านโปรแกรมสนทนาใดๆ อีกต่อไป นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถมองเห็นเพื่อนของตัวเองที่ออนไลน์อยู่ และสามารถเก็บบันทึกข้อมูลการสนทนาไว้ใน Gmail ได้ด้วย
นับเป็นการปรับกลยุทธอย่างหนึ่งเพื่อจะแย่งลูกค้าจาก AOL,Yahoo และ MSN แต่สงครามนี้กูเกิ้ลยังต้องสู้อีกยาวไกล แต่ที่แน่ๆ เว็บอย่าง gtalkr.com ที่ทำตัวเป็นเว็บให้บริการ GTalk ก็อาจจะถึงคราวซวย เมื่อกูเกิ้ลหันมาทำเองซะงั้น
สองผู้ให้บริการอีเมลรายใหญ่เตรียมตัวเปิดบริการเก็บเงินค่าส่งอีเมลเข้ามาหาสมาชิก
โดยปกติแล้ว สำหรับการส่งอีเมลหาคนที่ใช้อีเมลของ AOL หรือยาฮู อีเมลนั้นจะต้องผ่านระบบกรองจดหมายขยะก่อนจะถึงมือผู้รับ แต่บริการนี้เสนอให้ผู้ส่งจ่ายเงิน 0.15 - 1 เซนต์ ต่ออีเมลหนึ่งฉบับ เพื่อเป็นค่าส่งอีเมลหาผู้ใช้โดยตรง ไม่ต้องผ่านระบบกรองจดหมายขยะ และได้เครื่องหมายรับรองว่าเป็น Certified Email
สำหรับอีเมลที่ส่งหาสมาชิกของ AOL หรือยาฮูโดยไม่ได้ใช้บริการนี้ จะต้องผ่านเข้าระบบกรองจดหมายขยะตามปกติ
เพิ่งจับมือกันเพียงเดือนเดียว ค่ายทีวีอย่างซีบีเอสก็มีทีท่าว่าจะปันใจไปจากกูเกิลเสียแล้ว โดยเมื่อ Google Video เปิดตัวนั้น มีพันธมิตรรายใหญ่อย่างซีบีเอส นำคอนเทนต์จำนวนมากลงมาให้ดาวน์โหลด แต่ในวันนี้เองทาง ซีบีเอสก็แสดงท่าทีว่าจะขายรายการโทรทัศน์ต่อไปด้วยตัวเอง
โดยรายการแรกที่ทางซีบีเอสจะเริ่มขายเองคือ Survivor อันโด่งดัง ซึ่งรายการนี้จะมีให้โหลดในเว็บของทางซีบีเอส และผู้ซื้อต้องดูเมื่อกำลังออนไลน์เท่านั้น โดยรายการที่โหลดมาจะดูได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ตอนนี้ทางกูเกิลเองคงต้องหัวปั่น หารายการมาใส่เพิ่มกันอีกยกใหญ่
เมื่อวานนี้ศาลเยอรมันนีมีคำสั่งปิดเว็บวิกิพีเดียภาษาเยอรมันลงด้วยการฟ้องร้องของครอบครัวของแฮกเกอร์ชาวเยอรมันที่รู้จักกันในชื่อ Tron โดยครอบครัวของ Tron เนื่องจากมีการเปิดเผยชื่อจริงของแฮกเกอร์รายนี้ในวิกิพีเดีย
Tron เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1998 โดยครอบครัวของเขาเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เรื่องของเขาถูกเผยแพร่ในวิกิพีเดียโดยใช้ชื่อจริงทำให้ศาลสั่งปิดเว็บ wikipedia.de ลง อย่างไรก็ตามบทความนี้ยังหาอ่านได้ใน de.wikipedia.org