Docker ออกรุ่นใหม่ 1.12 มีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือผนวก container orchestration (การจัดการ container แบบข้ามเครื่องจำนวนมาก multi-host, multi-container) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวซอฟต์แวร์หลัก Docker Engine ส่งผลให้ต่อจากนี้ไป ตัวแกนของ Docker จะรองรับฟีเจอร์นี้โดยตรง
Docker ระบุว่าออกแบบวิธีการใช้งานให้เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ทนทานต่อความผิดพลาด และเข้ากันได้ย้อนหลัง (backward compatibility) กับเวอร์ชันเก่าๆ ด้วย
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ Kind สตาร์ทอัพจากแอลเอในการพัฒนาระบบและโซลูชันติดตามการปลูกและการขายกัญชาอย่างถูกกฎหมาย โดยทางไมโครซอฟท์ ซึ่งนับเป็นบริษัทใหญ่บริษัทแรกที่ประกาศทำธุรกิจเกี่ยวโยงกับกัญชา จะเข้ามาดูแลเรื่องการทำงานบนคลาวด์ Azure
ความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์กับ Kind มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือภาครัฐระดับท้องถิ่นที่รองรับกัญชาตามกฎหมาย ติดตามกระบวนการตั้งแต่การปลูกจนไปถึงการขายเพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการเหล่านั้น ยังคงอยู่ภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ Kind เป็นบริษัทที่พยายามผลักดันธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับกัญชาในสหรัฐ อย่างการผลักดันตู้ kiosk ที่ขายกัญชาเป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าไมโครซอฟท์ไม่ได้เข้าไปมีส่วนกับ Kind ในประเด็นเหล่านี้แต่อย่างใด
เมื่อกลางปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์รองรับ Apache Spark ประมวลผลข้อมูลในหน่วยความจำบน Azure HDInsight โดยมีสถานะเป็นรุ่นพรีวิว หนึ่งปีผ่านมา ไมโครซอฟท์ปรับสถานะเป็นรุ่นใช้งานจริง (general availability - GA) แล้ว รุ่นที่ใช้งานคือ Apache Spark v1.6.1
ไมโครซอฟท์ระบุว่า Spark ได้รับความนิยมสูงในหมู่ผู้ใช้ HDInsight และการเข้าสถานะ GA น่าจะยิ่งทำให้ Spark ได้รับความนิยมมากขึ้น
HDInsight คือการนำแพลตฟอร์มประมวลผลข้อมูล big data อย่าง Hadoop ไปรันบนคลาวด์ Azure ของไมโครซอฟท์ ส่วน Spark เป็นซอฟต์แวร์ในชุดเดียวกันที่ประมวลผลข้อมูลทั้งหมดในแรม เพื่อประสิทธิภาพที่สูงขึ้นจาก Hadoop ปกติ
ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Azure Container Service สำหรับการรันแอพพลิเคชันใน container บน Azure โดยมีเป้าหมายให้ผู้ใช้สามารถนำแอพพลิเคชันใน container ของตัวเองไปรันบนคลาวด์ Azure ได้ง่ายและเร็วที่สุด
Azure Container Service รองรับระบบจัดการ container (orchestration) ยอดนิยมสองตัวคือ DC/OS ของ Mesosphere ที่เพิ่งรับเงินลงทุนจากไมโครซอฟท์ไปเมื่อไม่นานมานี้ และ Docker Swarm ของค่าย Docker โดยตรง
ราคาของ Azure Container Service คิดตามขนาดของ instance รุ่นถูกที่สุดให้ซีพียู 1 คอร์, แรม 0.75GB, ดิสก์ 20GB คิดค่าใช้งานชั่วโมงละ 0.02 ดอลลาร์ หรือประมาณเดือนละ 15 ดอลลาร์ มีเครื่องรุ่นสเปกแรงใช้ SSD ให้เลือกด้วย
โตโยต้ามอเตอร์สหรัฐอเมริกาประกาศร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ตั้งบริษัทลูกในชื่อ Toyota Connected ที่สำนักงานใหญ่ประจำสหรัฐอเมริกา ณ เมือง Plano รัฐเท็กซัส เพื่อดูแลและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) ให้กับบริษัทโตโยต้าหลัก
Zack Hicks ซีไอโอของโตโยต้าอเมริกาเหนือ และซีอีโอของ Toyota Connected กล่าวว่าองค์กรใหม่นี้ “จะทำให้ชีวิตดีขึ้น” โดยมีเป้าหมายเช่น การพัฒนาระบบประกันภัยแบบที่เบี้ยประกันขึ้นอยู่กับนิสัยการขับของเจ้าของรถ (เช่นรถตรวจจับได้ว่าขับหวาดเสียว เบี้ยประกันก็แพง), การติดต่อระหว่างรถยนต์แต่ละคันเพื่อแบ่งปันข้อมูลการจราจรและสภาพอากาศ เช่นถนนมีน้ำแข็งเกาะ และการบริการข้อมูลเฉพาะสำหรับผู้ขับขี่แต่ละคน เช่นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับน้ำตาลในเลือด และข้อมูลด้านสุขภาพอื่นๆ
ไมโครซอฟท์เริ่มจริงจังกับเทคโนโลยี blockchain มากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงปลายปีที่แล้วเราเห็นบริการ Blockchain as a Service บน Azure กันไปแล้ว วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับกลุ่มธนาคาร นำระบบนี้ไปทดสอบในวงกว้างมากขึ้น
กลุ่มธนาคารที่ไมโครซอฟท์ไปเป็นพันธมิตรด้วยคือ R3 Consortium ซึ่งมีสมาชิกเป็นธนาคารกว่า 40 รายทั่วโลก ภายใต้ความร่วมมือนี้ ไมโครซอฟท์จะทำหน้าที่ให้บริการคลาวด์และเครื่องมือด้าน blockchain แก่สมาชิกของ R3 ในการพัฒนาเทคโนโลยี blockchain ต่อไป ในทางกลับกัน R3 จะเลือก Azure เป็นคลาวด์ที่แนะนำให้ธนาคารใช้งาน
ไมโครซอฟท์ออกซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล Power BI มาตั้งแต่ปี 2014 และในงาน Build 2016 มันก็ก้าวไปอีกขั้น โดยไมโครซอฟท์เปิดให้นักพัฒนาแอพสามารถ "ฝัง" บริการวิเคราะห์ข้อมูลของ Power BI ลงในแอพของตัวเองได้ โดยไม่ต้องมาเขียนโค้ดส่วนการควบคุมและ visualization เอง
บริการตัวนี้เรียกว่า Power BI Embedded ถือเป็นบริการตัวหนึ่งในชุด Azure โดยผู้สร้างรายงานไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเป็น แต่สามารถใช้โปรแกรม Power BI Desktop รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ก่อน แล้วนำมาฝังผ่านแอพได้เลย
ค่าใช้งานของ Power BI Embedded คิดตามการใช้งานเหมือน Azure โดยนับตามจำนวนการเรนเดอร์ คิดราคา 2.5 ดอลลาร์ต่อการเรนเดอร์ 1 พันครั้ง โดยมีโควต้าให้ใช้ฟรี 1 พันเรนเดอร์ต่อเดือน ตอนนี้ยังเปิดให้ทดสอบฟรีทุกกรณีจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2016
เมื่อต้นปี ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Azure IoT Hub คลาวด์สำหรับรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ IoT ไปแล้ว ในงาน Build 2016 ไมโครซอฟท์เปิดตัวชุดพัฒนา IoT ชื่อว่า Microsoft Azure IoT Starter Kits ซึ่งประกอบด้วยฮาร์ดแวร์จากผู้ผลิตต่างๆ หลากหลายรุ่น
ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลกยังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในปี 2014 เราเห็น Amazon ออกบริการ AWS Lambda ตัวช่วยประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ระบุ (event-driven)
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ออกบริการแบบเดียวกันในชื่อ Azure Functions รูปแบบการใช้งานก็เหมือนกัน เราสามารถตั้งค่าเหตุการณ์ที่เป็นตัว trigger เพื่อให้ Azure Functions ทำงานตามที่กำหนดได้
Azure Functions รองรับภาษาโปรแกรมมิ่งหลากหลาย ทั้ง JavaScript, C#, Python, PHP รวมถึงสคริปต์แบบ Bash, Batch, PowerShell และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ DevOps ยอดนิยมในท้องตลาด เช่น Visual Studio Team Services, GitHub, BitBucket
ในงาน Build 2016 ทางไมโครซอฟท์ได้นำเสนอบ็อตปัญญาประดิษฐ์บน Skype หนึ่งในนั้นคือ Project Murphy บ็อตสนทนาโต้ตอบกับเรา ด้วยการป้อนคำสั่ง "What if..." (ตัวอย่างดูได้ท้ายข่าว)
ไมโครซอฟท์เผยว่าได้ใช้เทคโนโลยีหลายอย่าง ได้แก่ Bing Image Search, Microsoft Bot Framework, Azure Stream Analytics, Azure Data Lake และ PowerBI
Project Murphy เปิดให้ใช้แล้วใน Skype บน iOS, Android และ Windows โดยต้องเพิ่ม Project Murphy เข้าไปในรายชื่อผู้ติดต่อเสียก่อน ที่นี่
ที่มา - Project Murphy via Windows Central
ไมโครซอฟท์เสริมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยให้บริการคลาวด์ของตัวเองหลายตัว
เมื่อปลายปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ Red Hat วันนี้ผลลัพธ์อย่างรูปธรรมเกิดขึ้น เมื่อไมโครซอฟท์จะขาย Red Hat Enterprise Linux (RHEL) บน Azure Marketplace เฉกเช่นเดียวกับการขายระบบปฏิบัติการมีไลเซนส์อื่นๆ บน Azure
RHEL ที่ขายจะมีให้เลือกทั้ง 6.2 และ 7.2 ตอนนี้ใครที่อยากสร้าง VM รัน RHEL ก็สามารถกดซื้อและสั่งดีพลอยได้จาก Azure โดยตรงครับ
ในโอกาสเดียวกัน ไมโครซอฟท์ยังขยายบริการ Azure Container Service รุ่นพรีวิวให้กับทุกคนที่สนใจ สามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์ได้ตามชอบ ทั้ง Docker Swarm และ Mesosphere Marathon
ไมโครซอฟท์เปิดบริการ Microsoft Azure IoT Hub อย่างเป็นทางการ มันคือระบบคลาวด์สำหรับรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ IoT จำนวนมหาศาลที่อาจกระจายตัวกันอยู่ทั่วโลก
Azure IoT Hub รองรับอุปกรณ์ทุกรูปแบบ ทั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ลินุกซ์ และระบบปฏิบัติการฝังตัว (พวก real-time OS ทั้งหลาย) ส่วนโพรโทคอลรับส่งข้อมูลที่ใช้ได้ก็หลากหลาย ทั้งการส่งแบบ HTTP ตรงๆ และ Advanced Message Queuing Protocol (AMQP), MQ Telemetry Transport (MQTT) ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม การส่งข้อมูลใช้งานได้ทั้งสองทาง คือจากคลาวด์ไปยังอุปกรณ์ และจากอุปกรณ์มายังคลาวด์
จากข่าว Parse ปิดตัว นักพัฒนาแอพที่ใช้ระบบหลังบ้านของ Parse จำเป็นต้องย้ายหาที่อยู่ใหม่
คู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์ที่มีบริการแบบเดียวกัน Azure App Service (ชื่อเดิมคือ Azure Mobile Services) ย่อมไม่พลาดโอกาสนี้ และชักชวนให้ลูกค้า Parse ย้ายมาใช้ระบบของตัวเองแทน
Azure App Service ใช้ระบบหลังบ้านที่เขียนด้วย Node.js เหมือนกับ Parse การย้ายจึงไม่ยากนัก สิ่งที่ขาดหายไปคือระบบส่งข้อความพุช ซึ่งไมโครซอฟท์ก็แนะนำให้ย้ายมาใช้ Azure Notification Hubs แทน
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปีการเงินบริษัท 2016 (ตุลาคม-ธันวาคม 2015) รายได้รวม 25,693 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 6,275 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8%
กลุ่มธุรกิจ Productivity and Business Processes (Office) และ More Personal Computing (Windows) ต่างมีรายได้ลดลงเล็กน้อย ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Intelligent Cloud มีรายได้เพิ่มขึ้น 5% โดยเฉพาะ Azure ที่ไมโครซอฟท์บอกว่ารายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นถึง 140% และหากตัดปัจจัยความผันผวนของค่าเงินจะเติบโตถึง 200% เลย
ซีอีโอ Satya Nadella กล่าวในรายงานโดยพูดถึงความสำเร็จของกลุ่ม Microsoft Cloud ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจ ขณะที่ Windows 10 ก็มีการใช้งานแล้วมากกว่า 200 ล้านอุปกรณ์
หลังจากประกาศไปช่วงกลางปีที่แล้ว วันนี้ไมโครซอฟท์ออกมาระบุว่า Azure Stack ชุดซอฟต์แวร์บริการแบบ IaaS และ PaaS สำหรับการใช้งานแบบในองค์กร (on-premise) พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในรูปแบบของ Technical Preview
Microsoft Philanthropies หน่วยงานการกุศลของไมโครซอฟท์ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปลายปี เปิดตัวมาไม่นานก็จู่โจมด้วยการบริจาคเครดิต "บริการคลาวด์" ของไมโครซอฟท์เอง (เช่น Azure, Power BI, CRM Online) ให้องค์กรไม่หวังผลกำไรใช้งานฟรี คิดเป็นมูลค่ารวม 1 พันล้านดอลลาร์ในอีก 3 ปีข้างหน้า เป้าหมายคือเข้าถึง 70,000 องค์กร
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังขยายโครงการ Microsoft Azure for Research หรือการให้เครดิต Azure ฟรีกับหน่วยงานด้านวิจัยอีก 50% จากของเดิม (ปัจจุบันโครงการนี้มีโครงการวิจัยเข้าร่วม 600 โครงการ จะเพิ่มเป็น 900 โครงการ) และสุดท้ายคือไมโครซอฟท์จะช่วยลงทุนด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลอีก 20 โครงการใน 15 ประเทศทั่วโลกด้วย
ไมโครซอฟท์ประกาศหั่นราคาค่าเช่า Azure Virtual Machine แบบ D (optimized compute) ลงสูงสุด 17% (อัตราการลดลงขึ้นกับประเภทของ virtual machine) ตามนโยบายของบริษัทที่ต้องการให้ราคาแข่งกับ Amazon Web Services ได้
ตัวอย่างราคาที่ไมโครซอฟท์นำมาโชว์ ลดลงจากเดิม 10-17% โดยเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการลินุกซ์จะลดราคาเยอะกว่าเครื่อง Windows Server
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังโฆษณาว่าเครื่องของ Azure ยังแถมฟีเจอร์ load balancing และ auto scaling มาให้เลย ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเหมือนกับเครื่องของ Amazon แถมยังคิดค่าใช้บริการละเอียดตามนาที ในขณะที่ Amazon คิดเป็นรายชั่วโมง
ไมโครซอฟท์ร่วมกับ IAV บริษัทรับพัฒนาสินค้าให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ พัฒนาระบบ Connected Highly Automated Driving (CHAD) ที่เชื่อมต่อระหว่างรถไร้คนขับกับอุปกรณ์อื่นโดยรอบ อาทิ สมาร์ทโฟน หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ตามแนวทางการสื่อสารแบบ Vehicle-2-X (V2X) และใช้ข้อมูลเหล่านั้นเพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุกับรถยนต์คันอื่นหรือคนเดินถนนและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง
หากใครยังจำได้กันได้ เกม Titanfall ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้วได้ใช้เทคโนโลยีการประมวลผล AI ผ่าน Azure ของไมโครซอฟท์ ที่ในอนาคตเตรียมนำมาใช้กับเกม Crackdown 3 บน Xbox One
Phil Spencer หัวหน้าทีม Xbox ได้ตอบคำถามผ่านทาง Twitter เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับเกมอื่นๆ ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่า บริการของ Azure สามารถใช้งานกับเกมไหนก็ได้ และไม่จำกัดแพลตฟอร์มของเครื่องเล่นนั้นๆ
ข้อดีของการยกงานประมวลผลไว้บนกลุ่มเมฆ คือการที่สามารถรองรับการปริมาณผู้เล่นได้มากขึ้น, ไม่ต้องดูแลเซิร์ฟเวอร์เองและเครื่องที่เล่นสามารถนำทรัพยากรไปมุ่งเน้นที่กราฟิกได้มากขึ้น
ไมโครซอฟท์ประกาศรองรับ Debian เป็นดิสโทรลินุกซ์ที่แนะนำให้ใช้งาน (endorsed distribution) บนแพลตฟอร์ม Azure แล้ว
Debian ที่ Azure รับรองมีทั้ง Debian 7 (wheezy) และ Debian 8 (jessie) แบบ 64 บิต ผ่านความร่วมมือกับบริษัท credativ ผู้เชี่ยวชาญด้านโอเพนซอร์สจากเยอรมนี ในอนาคต credativ ยังจะออกอิมเมจของ Debian รุ่นใหม่ๆ ให้เลือกใช้งานผ่าน Azure Marketplace อีกด้วย
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์รองรับดิสโทรลินุกซ์หลายค่ายบน Azure ได้แก่ Ubuntu, CentOS, Oracle, SUSE Enterprise (SLES), OpenSUSE และ CoreOS
ที่มา - Microsoft Azure Blog
Hewlett Packard Enterprise (HPE) ประกาศข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ ว่าจะช่วยขาย Azure ให้กับลูกค้าองค์กรของตัวเอง โดย Azure จะมีสถานะเป็น "preferred cloud alternative" หรือบริการคลาวด์ที่ HP แนะนำให้เลือก ส่วนไมโครซอฟท์จะตั้ง HP เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่แนะนำให้ลูกค้าใช้งาน
เมื่อเดือนตุลาคม HP (ก่อนแยกบริษัท) ประกาศยอมแพ้ เลิกทำบริการคลาวด์ Helion Public Cloud ของตัวเอง ให้กับลูกค้าทั่วไปในตลาด public cloud เพราะตลาดแข่งขันสูง ไม่สามารถต่อสู้กับ AWS, Azure, Google Cloud Platform และ IBM SoftLayer ได้ จนสุดท้าย HP จึงหันมาจับมือกับไมโครซอฟท์ตามข่าวนี้
เทคโนโลยีการประมวลผลแบบ Blockchain ที่ริเริ่มใช้งานใน Bitcoin กำลังได้รับความสนใจจากโลกการเงินการธนาคารมากขึ้นเรื่อยๆ โดยแวดวง FinTech (เทคโนโลยีด้านการเงิน) เริ่มมีบริษัทหน้าใหม่เข้ามาบุกเบิกตลาดนี้ รวมถึงธนาคารใหญ่หลายแห่งของโลก และบริษัทไอทียักษ์ใหญ่อย่าง IBM ด้วย
ผู้เล่นรายล่าสุดที่เข้ามาในตลาดนี้คือไมโครซอฟท์ โดยจับมือกับบริษัท ConsenSys นำบริการสร้าง Blockchain แบบปรับแต่งตามต้องการ Ethereum Blockchain as a Service (EBaaS) มารันบน Azure
หน่วยงานที่อยากได้ระบบ Blockchain ของตัวเอง (สำหรับใช้ในงานอื่นๆ นอกเหนือจาก Bitcoin) สามารถเช่าใช้บริการนี้บน Azure ได้ทันทีโดยไม่ต้องเตรียมระบบเอง
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือครั้งใหญ่กับเรดแฮท ข้อตกลงแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ดังนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศรองรับ Cloud Foundry บนแพลตฟอร์มคลาวด์ Azure อย่างเป็นทางการ (general availability) หลังเริ่มทดสอบรุ่นเบต้ามาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
Cloud Foundry เป็นเทคโนโลยีคลาวด์แบบ PaaS โอเพนซอร์สที่ริเริ่มโดย VMware และภายหลังตั้งมูลนิธิมาดูแล เพื่อไม่ให้ผูกกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเกินไป ตัวของ Cloud Foundry ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่อย่าง IBM และ HP