หลังจากที่ Microsoft ทยอยส่งมอบแว่น HoloLens รุ่นสำหรับการทหารให้ทางกองทัพสหรัฐฯ ตอนนี้มีรายงานผลการทดสอบภาคสนามออกมาว่าในการใช้งานจริงนั้นไม่เป็นที่ประทับใจของเจ้าหน้าที่ทหารเท่าไหร่นัก
สำนักข่าว Bloomberg และ Business Insider อ้างว่าได้เห็นรายงานผลการทดสอบโดยระบุว่าทหารหลายรายรู้สึกไม่สบายในการทดสอบใช้งานแว่นตา AR นี้ และมองว่าอุปกรณ์นี้จะกลายเป็นจุดอ่อนสำหรับการใช้ในระหว่างปฏิบัติภารกิจด้วย
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการออก DirectStorage 1.1 ที่มีฟีเจอร์ใหม่ GPU Decompression ให้นักพัฒนาเริ่มใช้งานในช่วงปลายปี 2022
ไมโครซอฟท์เปิดตัว DirectStorage 1.0 มาตั้งแต่กลางปี 2021 (อัพเดตให้ผู้ใช้จริงๆ ในเดือนมีนาคม 2022) ช่วยให้ดึงไฟล์ assets ของเกมจากสตอเรจแบบ SSD NVMe ได้ประหยัดพลังซีพียูมากขึ้น โหลดไฟล์เร็วขึ้นสูงสุด 40% (ตัวอย่างเกมที่นำไปใช้งานคือ Forspoken ของ Square Enix)
หลายคนอาจเคยเจอสถานการณ์โชว์หรือแก้เอกสารร่วมกันระหว่างคนในทีม พร้อมกับประชุมออนไลน์ไปด้วย วิธีการที่คนส่วนใหญ่ใช้คือส่งลิงก์ของเอกสารที่ต้องการให้เพื่อนร่วมงานดูทางช่องแชท ซึ่งอาจมีปัญหาการส่งผิดลิงก์, เปลี่ยนลิงก์ หรือลืมส่งลิงก์ให้หลังพรีเซนต์เอกสารไปแล้ว
ไมโครซอฟท์พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยฟีเจอร์ Microsoft Edge Workspaces แชร์กลุ่มแท็บทั้งกลุ่มให้เพื่อนร่วมงานได้เลย
วิธีการใช้งานคือเราเปิดแท็บทั้งหมดที่ต้องการ ตั้งชื่อกลุ่ม (ในภาพตั้งชื่อ Consoto Mark 8) แล้วมีปุ่มกด Share ให้เพื่อนร่วมงานเข้ามาดู ซึ่งเราจะเห็นไอคอนของเพื่อนร่วมงานเป็นรูปวงกลม บอกว่าใครกำลังดูแท็บไหนอยู่บ้าง
เราเห็นไมโครซอฟท์รีแบรนด์ Office 365 มาเป้น Microsoft 365 ตั้งแต่ปี 2020 แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์กำลังไปไกลกว่านั้น ถึงขั้นจะเลิกใช้แบรนด์ "Office" ไปเลย และเปลี่ยนมาเป็น Microsoft 365 แทน
การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะตัวแบรนด์คำว่า Office เท่านั้น ไม่มีผลต่อแอพในชุดอย่าง Word, Excel, PowerPoint ที่ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
สิ่งที่จับต้องได้ที่สุดคือแอพ Office ทั้งบนมือถือ, บนวินโดวส์ และเว็บแอพ Office.com จะถูกรีแบรนด์ใหม่เป็นแอพชื่อ Microsoft 365 แทน พร้อมโลโก้ใหม่เป็นวงหกเหลี่ยมสีม่วง แทนตัว O สีส้มแดงที่เราคุ้นเคยกันมานาน
สินค้าอีกตัวที่น่าสนใจของไมโครซอฟท์ ที่เปิดตัวมาคู่กับ Microsoft Audio Dock คือ Presenter+ รีโมทสำหรับควบคุมเลื่อนหน้าสไลด์ พร้อมพอยเตอร์ชี้ตำแหน่งบนสไลด์ PowerPoint
สิ่งที่มันต่างจากรีโมท-พอยเตอร์ธรรมดาทั่วไปคือ รองรับ Microsoft Teams เต็มรูปแบบ การกดเลื่อนสไลด์-ชี้ตำแหน่งบนหน้าจอ ไม่ได้มีผลเฉพาะบนเครื่องของเราเองเท่านั้น ผู้ชมการพรีเซนต์ผ่าน Microsoft Teams จะเห็นการชี้ตำแหน่งสไลด์ของเราด้วยเช่นกัน
บนรีโมทยังมีปุ่มเอาไว้เปิด-ปิดไมโครโฟน พร้อมไฟบอกสถานะว่า mute อยู่ และปุ่ม Teams สำหรับกดยกมือในห้องประชุมได้ด้วย
ราคาขายตัวละ 79.99 ดอลลาร์
Microsoft เปิดตัวฮาร์ดแวร์เสริมสำหรับการประชุมชุดใหม่ อันที่น่าสนใจคือ Microsoft Audio Dock เป็นลำโพงสำหรับใช้ในการประชุมออนไลน์ แต่จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือสามารถทำตัวเป็น docking station ต่อจอนอกได้ถึง 2 จอ
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Microsoft Teams Premium ซึ่งเพิ่มเครื่องมือต่าง ๆ ให้กับการใช้งาน Microsoft Teams เดิม ทั้งระบบจัดการความปลอดภัย, AI เสริมประสิทธิภาพใช้งาน ตลอดจนระบบบันทึกเนื้อหาย้อนหลัง
ตัวอย่างเครื่องมือที่เพิ่มมาเช่น Intelligent Recap ใช้ AI ตัดสรุปเนื้อหาการประชุมที่สำคัญ เช่น ส่วนที่เราถูกพูดถึง, เนื้อหาแชร์บนหน้าจอที่สำคัญ เพื่อให้การดูย้อนหลังไม่ต้องใช้เวลาเท่ากับความยาวการประชุม เหมือนมีคนช่วยจัดบันทึกการประชุมให้อีกที
ไมโครซอฟท์เปิดตัวแอป Places ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft 365 ซึ่งอธิบายว่าเพื่อรองรับการทำงานยุคใหม่แบบไฮบริด ที่มีทั้งคนทำงานออนไลน์ และคนที่ทำงานในสำนักงาน
Microsoft Places ให้ทีมงานอัพเดตข้อมูลแต่ละคน ว่าวางแผนทำงานจากที่บ้าน ในที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นในวัน-เวลาใดบ้าง เพื่อให้พนักงานแต่ละคนสามารถบริหารจัดการเวลาที่เหมาะสม เช่น เวลานี้ควรเดินทางไปพบทีมงานที่ใด หรือควรออกจากบ้านเวลาใดเพื่อเลี่ยงการจราจร เป็นต้น
บริการนี้ยังสามารถรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โต๊ะทำงานที่ว่าง ห้องประชุมที่ว่าง ห้องประชุมที่ใกล้ที่สุดสำหรับการนัดหมาย ในภาพรวมองค์กรยังสามารถบริหารจัดการการใช้พื้นที่ได้ดีขึ้นอีกด้วย
นอกจาก Surface Pro 9 และ Surface Laptop 5 ไมโครซอฟท์ยังมีฮาร์ดแวร์ใหม่อีกตัวคือ Surface Studio 2+ ซึ่งเป็นการอัพเกรดสเปกของ Surface Studio 2 ที่ออกขายเมื่อปี 2018 พีซีแบบออลอินวันที่พับจอลงมาได้
Surface Studio 2+ ยังใช้ดีไซน์ภายนอกเหมือนเดิม อัพเกรดแค่สเปก (ที่ไม่ได้อัพเกรดมา 4 ปี) และพอร์ตเชื่อมต่อ ซีพียูเปลี่ยนมาใช้ Core i7-11370H (ของเดิม 7th Gen), จีพียูเป็น GeForce RTX 3060, แรม 32GB, สตอเรจ 1TB, เพิ่มพอร์ต USB-C with Thunderbolt 4, รองรับ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.1
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับแอปเปิลหลายอย่าง โดยแอพ Photos ของ Windows 11 จะรองรับการซิงก์รูปกับบัญชี iCloud Photos (นอกเหนือจากการซิงก์ OneDrive ที่มีอยู่ก่อนแล้ว) ตอนนี้เริ่มใช้ได้แล้วสำหรับ Windows Insiders Dev Channel
นอกจากนี้ แอปเปิลยังออกแอพ Apple Music เวอร์ชัน Xbox และประกาศว่าจะออกแอพ Apple TV กับ Apple Music เวอร์ชันวินโดวส์ให้ด้วยในปีหน้า 2023
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Laptop 5 โน้ตบุ๊กรุ่นอัพเดตจากปีก่อน ที่ยังคงแนวทางเป็นโน้ตบุ๊กรองรับการใช้งานแบบดั้งเดิม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี
Surface Laptop 5 มีสองขนาดหน้าจอให้เลือกคือ 13.5 นิ้ว และ 15 นิ้ว เหมือนรุ่นก่อนหน้า จอภาพแสดงผล PixelSense ฟอร์แมต 3:2 รองรับ Dolby Vision IQ, ลำโพงรองรับ Dolby Atmos 3D สามารถให้เสียงแบบ spatial ตามตำแหน่งได้
ไมโครซอฟท์เปิดบริการเว็บแอปใหม่ในชื่อ Designer เป็นบริการสร้างภาพกราฟิกสำหรับโพสโซเชียลหรือใช้ในสไลด์นำเสนอ โดยเบื้องหลังใช้ปัญญาประดิษฐ์สร้างภาพ DALL∙E 2 ของ OpenAI
ตอนนี้ Designer ยังเป็นบริการระดับพรีวิว ต้องลงทะเบียนแสดงความสนใจรอคิวเข้าใช้งาน แต่ไมโครซอฟท์ก็ระบุว่าในอนาคตมันจะเป็นบริการฟรี พร้อมกับฟีเจอร์พรีเมี่ยมจะกันให้กับผู้สมัคร Microsoft 365 และยังมีแผนจะรวมบริการนี้ไว้ใน Edge
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Pro 9 โดยมีให้เลือกทั้งรุ่น Intel Core รุ่นที่ 12 และซีพียู Microsoft SQ 3 สำหรับรุ่น 5G ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
รุ่น x86 ซีพียูมีให้เลือกทั้ง Core i5-1235U และ Core i7-1255U เลือกแรม LPDDR5 ได้สูงสุด 32GB ส่วนรุ่น Arm ใส่แรม LPDDR4X ได้สูงสุด 16GB ทั้งสองรุ่นใช้จอ PixelSense 13 นิ้ว ความถี่ 120Hz กระจก Gorilla Glass 5
เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้ ราคาเริ่มต้น 999.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่น x86 และ 1,299.99 ดอลลาร์สำหรับรุ่น 5G
ที่มา - Microsoft
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ Meta โดยนำผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ มาเป็นพาร์ตเนอร์ที่รองรับการทำงานกับแพลตฟอร์ม VR ของ Meta ซึ่งมีทั้งส่วนการนำ VR มาใช้ในการทำงาน การเล่นเกม ตลอดจนความบันเทิงต่าง ๆ
อย่างแรกคือระบบอวตารเสมือน Mesh for Microsoft Teams จะรองรับการทำงานกับเฮดเซต Meta Quest ช่วยให้เชื่อมต่อกันได้สมจริงกว่าเดิม
ความร่วมมือถัดมาคือตระกูลแอป Microsoft 365 จะรองรับการทำงานบนอุปกรณ์ Meta Quest ทำให้เปิดอ่านและใช้งานไฟล์ Word, Excel, PowerPoint, Outlook และ SharePoint ได้บน VR ซึ่งไมโครซอฟท์บอกว่าในอนาคตจะรองรับการเปิดคลาวด์พีซีที่รัน Windows 365 ได้ด้วย
Xbox Game Pass ถือเป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์ใช้เปลี่ยนวงการเกม ที่เดิมทีอิงอยู่กับการซื้อเกมแยกขาดเป็นรายเกม มาเป็นการจ่ายเหมารายเดือนแทน คำถามที่ทุกคนสงสัยคือไมโครซอฟท์ทำเงินจาก Game Pass ได้จริงๆ ใช่ไหม หรือเป็นแค่การอัดเงินทุ่มตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่
ไมโครซอฟท์เก็บเงียบเรื่องรายได้ของ Game Pass มาตลอด และในงานแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสก็บอกเพียงรายได้รวมของธุรกิจเกมทั้งหมด ไม่แยกรายการให้เห็นความลับนี้
ไมโครซอฟท์เขียนบล็อกเล่าประสบการณ์ย้ายระบบจัดการธุรกรรมภายในของตัวเอง ที่เรียกรวมๆ ว่า Microsoft Commerce (มีเซอร์วิสประมาณ 700 ตัว) จากเดิมที่เขียนด้วย .NET Framework รันบนวินโดวส์ มาสู่ .NET Core ที่รันบนลินุกซ์
เหตุผลในการย้ายมาจากไมโครซอฟท์ต้องการย้ายระบบไปรันบน Azure ใช้สถาปัตยกรรม container/kubernetes (AKS) แต่พบว่ารันด้วยลินุกซ์จะเหมาะสมมากกว่า ดังนั้นไมโครซอฟท์จึงต้องย้ายจาก .NET Framework มาเป็น .NET Core ที่รันได้ข้ามแพลตฟอร์มก่อน
CADE หน่วยงานกำกับดูแลด้านการแข่งขันทางธุรกิจของบราซิล ที่สอบสวนดีลไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard จนมีเอกสารรายละเอียดของฝั่งไมโครซอฟท์-โซนี่เปิดเผยต่อสาธารณะจำนวนมาก อนุมัติให้ดีลนี้ผ่านเรียบร้อยแล้ว
คำอนุมัติของ CADE ให้เหตุผลว่าภารกิจขององค์กรคือรักษาสภาพการแข่งขันเอาไว้เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค หลังการสอบสวน CADE พบว่าถ้าเกมของ Activision Blizzard โดยเฉพาะ Call of Duty กลายเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ อาจส่งผลให้ลูกค้า PlayStation บางส่วนย้ายไป Xbox บ้าง แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดเกมคอนโซล
ไมโครซอฟท์รายงานถึงกลุ่มแฮกเกอร์ ZINC ที่มีฐานอยู่ในเกาหลีเหนือพยายามโจมตีองค์กรจำนวนมาก ทั้งในสหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, อินเดีย, และรัสเซีย โดยอาศัยการหลอกเหยื่อประกอบกับการแปลงโปรแกรมโอเพนซอร์สที่ใช้งานได้จริง แต่มีฟีเจอร์มุ่งร้ายฝังอยู่ภายใน
ช่วงเริ่มต้นกลุ่ม ZINC จะแสดงตัวเป็นฝ่ายบุคคลที่ตามหาผู้สมัครให้กับบริษัทใหญ่ๆ แล้วติดต่อเหยื่อผ่านทาง LinkedIn จากนั้นจะพยายามหลอกล่อให้เหยื่อไปคุยกันผ่านทาง WhatsApp และส่งโปรแกรมให้เหยื่อ โดยโปรแกรมทำงานได้ตามปกติแต่แอบติดต่อเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายเพื่อขโมยข้อมูล
ภาษา TypeScript เปิดตัวต่อโลกครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2012 มาถึงวันนี้มีอายุครบ 10 ปีพอดี ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา TypeScript เติบโตขึ้นมาก จนมีความนิยมแซงหน้า JavaScript แล้วจากสถิติของบางสำนัก
Daniel Rosenwasser หัวหน้าโครงการ TypeScript ของไมโครซอฟท์ เขียนบล็อกเล่าความหลังว่าในช่วงแรกๆ คนไม่เข้าใจว่าไมโครซอฟท์กำลังทำอะไร และมองว่าการกำหนดชนิดตัวแปร (type) ให้ JavaScript เป็นเรื่องเลวร้ายด้วยซ้ำ แต่สุดท้าย TypeScript ก็พิสูจน์ตัวเองว่ามีข้อดีจริงๆ และกลายเป็นภาษายอดนิยมในทุกวันนี้
ไมโครซอฟท์ออกมายืนยันช่องโหว่ Zero-day 2 รายการ มีผลกระทบกับ Microsoft Exchange Server 2013, Exchange Server 2016 และ Exchange Server 2019 ซึ่งมีรายงานการถูกโจมตีด้วยช่องโหว่นี้แล้วในวงจำกัด
สองช่องโหว่คือ CVE-2022-41040 ที่เป็นช่องโหว่ใน Server-Side Request Forgery หรือ SSRF และ CVE-2022-41082 ที่โจมตีผ่าน Remote Code Execution หรือ RCE หากผู้โจมตีเข้าถึงสิทธิ PowerShell ได้ โดยในการโจมตีนั้นต้องเข้าถึงผ่าน CVE-2022-41040 ก่อน แล้วจึงส่งคำสั่งผ่าน CVE-2022-41082
ไมโครซอฟท์เริ่มให้บริการ Azure Arc บริการจัดการคลาวด์แบบไฮบริด ให้กับลูกค้าในประเทศไทย ผ่านพาร์ทเนอร์ในไทยคือ AIS Cloud X
Azure Arc เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 นิยามตัวเองว่าเป็นระบบจัดการ Azure ที่อยู่ในเครื่องต่างถิ่นฐานกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบนคลาวด์ไมโครซอฟท์ หรือเครื่อง on-premise ในองค์กร (ที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ของ Azure เช่น Azure Stack) โดยบริหารงานจากที่เดียว ข้อดีจากการมีระบบจัดการกลางคือเรื่องความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ และการจัดการทั้งเซิร์ฟเวอร์-คอนเทนเนอร์ไปพร้อมๆ กัน
บริการคลาวด์กลายเป็นส่วนประกอบมาตรฐานของโครงสร้างระบบไอทีระดับองคค์กรในปัจจุบัน จากความสะดวกในการเพิ่มหรือลดขนาดโครงสร้างตามการใช้งานจริง หรือการปลดภาระการดูแลโครงสร้างให้ปลอดภัยทำให้องค์กรสามารถทุ่มเทไปกับการปรับปรุงธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ แต่องค์กรจำนวนมากอาจจะมีเงื่อนไขที่ไม่ต้องการนำระบบสำคัญๆ ไปวางนอกองค์กรตัวเอง โดยอาจจะมีเงื่อนไขทางเทคนิค เช่นข้อจำกัดเรื่อง latency ที่บางแอปพลิเคชั่นต้องการ latency ที่ต่ำมากๆ จึงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หรือมีเงื่อนไขต้องการเก็บข้อมูลไว้ในประเทศเท่านั้น
ไมโครซอฟท์ประกาศหยุดพัฒนาแอพคีย์บอร์ด SwiftKey บน iOS โดยจะถอดออกจาก App Store ในวันที่ 5 ตุลาคม 2022 แต่แอพที่ติดตั้งอยู่แล้วจะยังใช้งานต่อได้
ส่วน SwiftKey จะยังพัฒนาเวอร์ชัน Android ต่อไป รวมถึงใช้เป็นเอนจินของ touch keyboard ของ Windows ด้วย
ไมโครซอฟท์ไม่ได้ชี้แจงเหตุผลที่เลิกทำ SwiftKey for iOS แต่ตัวแอพก็ไม่ได้อัพเดตใดๆ มาเกิน 1 ปีแล้ว
Xbox Series X|S รองรับการเล่นแผ่นเกมจาก Xbox One มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ผ่านมาจำเป็นต้องต่อเน็ตเพื่อตรวจสอบ online compatibility check ก่อนเสมอ ถือเป็นกระบวนการตรวจสอบสิทธิ (DRM) แบบหนึ่ง
ล่าสุด Eden Marie วิศวกรของไมโครซอฟท์ยืนยันว่าตั้งแต่อัพเดตเวอร์ชัน 2206 ที่ออกช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ได้ปรับเอา online compatibility check ออกไปสำหรับแผ่นเกมจำนวนมาก (vast majority) โดยอิงจากฐานข้อมูลของไมโครซอฟท์เองว่าเกมใดไม่จำเป็น แต่บางเกมถึงแม้ไม่ต้องตรวจสอบสิทธิแล้ว อาจยังจำเป็นต้องต่อเน็ตเพื่ออัพเดตเวอร์ชันของเกมก่อน
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้คนที่มีแผ่นเกม Xbox One อยู่แล้ว สามารถใส่แผ่นแล้วเล่นได้เลยโดยไม่ต้องต่อเน็ตใดๆ กลับสู่ยุคคอนโซลแบบเก่าอีกครั้ง
Microsoft โพสต์ฉลองครบรอบ 30 ปีที่ดำเนินกิจการในตลาดจีนผ่านแอป Weibo พร้อมเปิดเผยว่าบริษัทจะเพิ่มการจ้างงานในจีนอีก 1,000 อัตราเพื่อให้มีพนักงานภายในประเทศเกิน 10,000 รายในปีหน้า จากที่ปัจจุบันมีอยู่ราว 9,000 ราย
Microsoft บอกด้วยว่าจะเปิดสำนักงานเพิ่มในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และซูโจวในอีก 3-5 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้บริษัทมีสำนักงานใน 13 เมืองในจีน บริษัทกล่าวว่าพนักงานในจีน 80% ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์