Oculus VR & Oculus Rift
Oculus VR บริษัทอนาคตไกลผู้พัฒนาแว่นตาสำหรับจำลองภาพเสมือนจริงที่เพิ่งถูก Facebook ซื้อไปเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านเหรียญ ถูกทาง id Software และ ZeniMax ยื่นฟ้องที่ศาลประจำรัฐเทกซัสว่าทาง Oculus VR และ Palmer Luckey ซีอีโอของบริษัทได้ใช้เทคโนโลยีของทาง ZeniMax เพื่อไปทำเครื่องมือพัฒนา Oculus Rift ที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้
คดีความที่ ZeniMax ยื่นฟ้องไปนั้นระบุว่าการกระทำของ Luckey และ Oculus VR ในครั้งนี้เป็นตัวแทนของการละเมิดสัญญา การละเมิดลิขสิทธิ์ สร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดย ZeniMax ประเมินว่าเป็นมูลค่าความเสียหายที่มหาศาล (enormous)
ในขณะที่ยังไม่ขายรุ่นจริงเสียที Oculus Rift ก็ยังมีแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าแว่นตาสำหรับจำลองภาพเสมือนจริงกำลังจะมีกล้องด้านนอกสำหรับตรวจจับมือ และนิ้ว หลังจากก่อนหน้านี้ Oculus VR เคยออกมาบอกว่ากำลังใส่หน้าจอความละเอียดสูงลงไป
การใส่กล้องด้านนอกเข้าไปนอกจากจะใช้ในการสั่งงานผ่าน gesture ด้วยมือและนิ้วแล้ว ยังใช้สำหรับแสดงภาพภายนอกรอบตัวผู้ใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนจากการอยู่ในสภาวะเสมือนจริงอีกด้วย
สำหรับวันวางขายของ Oculus VR รุ่นจริง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบชัดเจน ระบุคร่าวๆ เพียงว่าจะเริ่มขายในช่วงต้นปีหน้าเท่านั้น
Brendan Iribe ซีอีโอของ Oculus เปิดเผยข้อมูลบนเวที TechCrunch Disrupt ว่า Oculus มีแผนที่จะร่วมกับ Facebook ในการพัฒนาเกมออนไลน์ขนาดมหึมาที่จะรองรับผู้เล่นนับพันล้านคน
Iribe หวังจะสร้างเกมออนไลน์แบบโลกเสมือนที่จะให้ผู้ใช้มหาศาลนับพันล้านคนของ Facebook สามารถเล่นร่วมกันได้ แต่ก็ยอมรับว่ากว่าที่แผนการดังกล่าวจะเป็นจริงได้ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบเครือข่ายให้ใหญ่ขึ้นกว่าที่โลกมีอยู่ในขณะนี้
Iribe ระบุว่า Oculus ยังคงให้ความสนใจในเรื่องการพัฒนาเกมเป็นหลัก แต่ทว่าเกมที่ดีต้องมีผู้เล่น และด้วยเหตุนี้ Oculus จึงตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ Facebook โดย Iribe ได้กล่าวให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า "คุณอยากจะสร้างแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้นับพันล้าน หรือเพียงแค่ 10, 20 หรือ 50 ล้านคนกันแน่?"
เราเคยเห็นตัวอย่างการพัฒนาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่เพื่อการทหารมาแล้ว ดังเช่นงานวิจัยใช้แว่น Google Glass ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ล่าสุดมีอีกตัวอย่างโดยกองทัพของนอร์เวย์ได้ใช้ Oculus Rift ในการควบคุมรถถัง
ในการทดสอบใช้งาน ได้มีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพไว้ด้านนอกของรถถัง โดยภาพจากกล้องดังกล่าวจะไปแสดงผ่าน Oculus Rift ที่เจ้าหน้าที่ผู้ขับรถถังสวมใส่อยู่ในขณะที่นั่งอยู่ภายในรถ ด้วยวิธีการนี้ ปัญหาเรื่องทัศนวิสัยการมองของผู้ขับรถถังก็จะถูกกำจัดไปในทันที
บริษัทอินเทอร์เน็ตผ่านไฟเบอร์ ume.net ของสวีเดน ทำโครงการโฆษณาแนวทดลองที่เสนอไอเดียว่า ถ้าสายตาเรามองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงช้าไป 3 วินาทีจะเป็นอย่างไร (เพื่อสะท้อนว่าเน็ตแบบเดิมนั้น lag)
ume.net ใช้แว่น Oculus Rift เป็นอุปกรณ์ช่วยให้อาสาสมัคร 4 คนทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตีปิงปอง เต้นแอโรบิค ทำอาหาร ร่วมกับคนปกติ ภาพที่เห็นจากแว่นจะเป็นภาพจริงทุกประการ แต่ช้ากว่าปกติ 3 วินาที
ถือเป็นการทดลองใช้งาน virtual reality ที่น่าสนใจทีเดียวเลยครับ
ที่มา - Kotaku
ในปลายปีที่ผ่านมา Priscilla “Pri” Firstenberg นักศิลปะวิดีโอเกมที่กำลังดูแลคุณย่าผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายได้ “ฝัน” ว่าตัวเธอในอนาคตได้ย้อนเวลากลับมาหาย่าของเธอ และพาท่านกลับไปรักษาในอนาคต ซึ่งเก้าอี้ไทม์แมชชีนนี้ก็ช่วยให้ย่าของเธอได้ออกไปเห็นโลกภายนอกอีกครั้ง หลังจากที่ไม่สามารถแม้แต่จะเดินออกมาที่สวนหลังบ้านได้และทำให้ท่านคิดถึงโลกภายนอกมาก
วันถัดมา Pri ไปทำงานและได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของเธอเรื่อง Oculus Rift และเมื่อพูดถึงประเด็นต่างๆ มากขึ้น เธอก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา “การท่องเที่ยว, ออกไปข้างนอก, แค่นั่งอยู่กับเก้าอี้” เธอส่งอีเมลหาทีมซัพพอร์ทของ Oculus ทันทีในคืนนั้น
เว็บไซต์ Fortune เผยเบื้องหลัง Facebook ซื้อกิจการ Oculus VR ว่า Mark Zuckerberg ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ในกระบวนการซื้อกิจการทั้งหมดของ Oculus
เรื่องเริ่มจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว Zuckerberg โทรไปคุยกับ Brendan Iribe ซีอีโอของ Oculus เพื่อสนทนาถึงอนาคตของวงการ VR และ Iribe ก็อาสาจะบินไปหา Zuckerberg เพื่อโชว์ต้นแบบของ Oculus Rift ให้กับผู้บริหารของ Facebook ได้ทดลองใช้
เดือนถัดมา Iribe เชิญ Zuckerberg ไปเยี่ยมสำนักงานของ Oculus เพื่อโชว์ต้นแบบแว่นตัวใหม่ ซึ่ง Zuckerberg ประทับใจมาก (เขาใช้คำว่า "one of the coolest things I've ever seen in my life") พร้อมถามทีม Oculus ว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้าง
หลังจากมีข่าวการซื้อกิจการ Oculus VR ของ Facebook นั้น ก็มีคนสงสัยว่าจะทำ VR กับ Social Network มาผสมผสานออกมาเป็นนวัตกรรมการใช้งานได้อย่างไร Chaotic Moon ก็ได้ทำคลิปวิดีโอแนวคิดดังกล่าวขึ้น โดยนำ VR มาใช้ในการเลือกซื้อของ คือเมื่อผู้ใช้เจอโฆษณาของสินค้าที่ตัวเองชื่นชอบใน Facebook ก็สามารถเชื่อมต่อกับ Oculus Life เพื่อเข้าสู่การมองภาพแบบเสมือนได้ และสามารถเลือกดูสินค้าได้ทุกมุมก่อนจะทำการตัดสินใจจ่ายจริง (ใครงงก็ลองดูคลิปประกอบได้)
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า Mark Zuckerberg จะทำอะไรแนวๆ นี้ออกมาหรือเปล่า ก็ต้องคอยตามชมกันต่อไป
ที่มา - Mashable
คำถามที่เกิดขึ้นหลังจากที่ Oculus ได้ถูกซื้อกิจการโดย Facebook ที่มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ก็คือ “ถ้าความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะการระดุมทุนผ่าน Kickstarter ผู้ร่วมลงทุนควรจะได้หุ้นเป็นค่าตอบแทนหรือไม่?”
Oculus Rift เป็นหนึ่งในโปรเจคที่ระดุนทุนผ่านวิธี crowdfunding ผ่านทาง Kickstarter โดยผู้ที่ร่วมลงทุนด้วยจำนวนเงิน 300 ดอลลาร์จะได้รับ Oculus Rift Virtual Reality (VR) set ไปใช้หนึ่งตัว อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้ลงทุนบางส่วนได้ออกมาบอกว่า ถ้าเกิดการลงทุนผ่านทาง Kickstarter มีการแบ่งกรรมสิทธิในบริษัทด้วย นักลงทุนที่ลงทุนไปคนละ 300 ดอลลาร์ จะได้รับเงินจาก Facebook ที่ซื้อบริษัทไปคนละ 43,500 ดอลลาร์ หรือ 145 เท่าจากจำนวนที่ลงทุนไปในตอนแรก
Michael Abrash หนึ่งในแกนหลักในทีมพัฒนาด้าน virtual reality (VR) ของค่ายเกม Valve ประกาศย้ายไปทำงานกับ Oculus VR ในฐานะหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ (chief scientist)
Abrash เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการคอมพิวเตอร์กราฟิก 3 มิติ และอยู่ในทีมพัฒนา Windows NT ยุคแรกๆ ก่อนจะย้ายมาทำงานกับ Id Software ในทีม Quake ภาคแรก และมาอยู่กับ Valve เพราะ Valve ยุคแรกๆ ใช้เอนจิน Quake เลยดึงตัวเขามาทำงานด้วย ภายหลังเขาเป็นแกนหลักในทีมพัฒนาเทคโนโลยี VR ของ Valve
เขาคุ้นเคยกับ John Carmack ผู้ก่อตั้ง Id Software มาตั้งแต่สมัย Doom และเมื่อ Carmack ออกจาก Id มาทำงานเป็นซีทีโอให้ Oculus ก็พยายามทาบทาม Abrash ให้มาทำงานด้วย ซึ่งเขาก็ตอบรับในท้ายที่สุด
ประเด็นเรื่อง Facebook ซื้อ Oculus VR ยังมีข่าวตามมาอย่างต่อเนื่องครับ
ล่าสุดกลุ่มผู้สนับสนุน Oculus Rift ผ่านโครงการ Kickstarter บางคนที่เคยจ่ายเงินให้ Oculus มาตั้งแต่ยุคแรกๆ ออกมาแสดงความไม่พอใจการขายกิจการให้ Facebook โดยผู้สนับสนุนคนหนึ่งคือ Joel Johnson ระบุว่าเขาจ่ายเงินสนับสนุน Oculus เพราะต้องการเอาใจช่วยแฮ็กเกอร์หน้าใหม่ไฟแรงที่ต้องการเปลี่ยนโลก แต่ผลกลับลงเอยว่าแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ขายบริษัทตัวเองให้บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ โดยที่ยังไม่ได้วางขายสินค้าจริงเลยด้วยซ้ำ ถือเป็นการดูถูกผู้สนับสนุนจาก Kickstarter เป็นอย่างมาก
ประเด็นเรื่อง Facebook ซื้อ Oculus VR ยังเป็นข่าวที่สื่อต่างประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างต่อเนื่อง
ในการแถลงข่าวของ Zuckerberg เมื่อวานนี้ มีสื่อถามถึงเทคโนโลยีด้าน virtual reality (VR) จากคู่แข่งในวงการเกม โดยเฉพาะโซนี่ที่เปิดตัว Project Morpheus และไมโครซอฟท์ที่มีข่าวว่าซุ่มทำอยู่ ซึ่ง Zuckerberg อธิบายว่าอุปกรณ์ของโซนี่ยังเป็นแค่ต้นแบบ ส่วนไมโครซอฟท์ยังไม่โชว์อะไรสักอย่าง แต่ Oculus ไปไกลกว่ามากแล้วในแง่ผลิตภัณฑ์จริง และทีมงานของ Oculus ยังประกอบด้วยคนเก่งๆ เป็นจำนวนมาก
ข่าวใหญ่วันนี้คือ Facebook ประกาศเข้าซื้อ Oculus VR มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ แบบช็อควงการ
เว็บไซต์ TechCrunch อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าววงในที่เปิดเผยว่าการซื้อรอบนี้ตัดสินใจกันแบบด่วนๆ มาก เพราะเพิ่งเริ่มเจรจากันเมื่อ 5 วันที่แล้วนี่เอง
แหล่งข่าวบอกว่า Mark Zuckerberg เคยไปเยี่ยมสำนักงานของ Oculus VR มาแล้วครั้งหนึ่งช่วงต้นปี และมีโอกาสได้ลองเล่นแว่นรุ่น DK2 (ที่เพิ่งเปิดตัวต่อสาธารณะไม่กี่วันก่อน) ส่วนการเจรจาซื้อขายกิจการเกิดขึ้นที่งาน Game Developers Conference (GDC) ที่เพิ่งจัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (และทีมงาน Oculus ไปออกบูตในงาน)
หลัง Facebook ประกาศเข้าซื้อ Oculus VR มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ไม่นาน Markus Persson ผู้สร้างเกม Minecraft (ที่เรารู้จักเขาในชื่อ "Notch") ก็ออกมาประกาศว่าเขายกเลิกแผนการพัฒนาเกม Minecraft เวอร์ชัน Oculus แล้ว
Notch บอกว่าเทคโนโลยี virtual reality กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญของวงการเกม แต่ Facebook ไม่ใช่บริษัทเกม ไม่ใช่บริษัทที่โดดเด่นในแง่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรม ที่ผ่านมา Facebook สนใจแค่การปั๊มตัวเลขผู้ใช้ให้เยอะๆ เท่านั้น และมัก "หักหลัง" บริษัทเกมอยู่เสมอด้วยการปรับนโยบายบนแพลตฟอร์มเกมของตัวเอง
วันนี้ Facebook ได้ประกาศเข้าซื้อบริษัท Oculus VR ผู้ผลิต Oculus Rift แว่นตาสำหรับเล่นเกมเสมือนจริงที่ เพิ่งออกฮาร์ดแวร์สำหรับนักพัฒนารุ่นที่สอง ด้วยมูลค่าซื้อขายประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น เงินสด 400 ล้านดอลลาร์ และหุ้นของ Facebook อีก 23.1 ล้านหุ้น (มูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์) โดยจะยังมีเงินสดให้เพิ่มเติมอีก 300 ล้านดอลลาร์หากดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
Oculus ประกาศเปิดตัวแว่น VR สำหรับนักพัฒนารุ่นที่สอง โดยใช้ชื่อตรงไปตรงมาว่า Oculus Rift Development Kit 2 (DK2)
แว่น DK2 เป็นผลิตภัณฑ์คนละสายกับรุ่นวางขายจริง แต่ก็มีฟีเจอร์หลายอย่างคล้ายคลึงกัน โดยมันใช้จอ OLED ความละเอียด 960x1080 (ต่อตาแต่ละข้าง) ที่พัฒนาขึ้นทั้งเรื่องสีสัน คอนทราสต์ และความคมชัด, ลดการเบลอ-การสั่นของภาพซึ่งจะช่วยลดการวิงเวียนศีรษะลงด้วย
นอกจากนี้ DK2 ยังมีกล้องตัวเล็กๆ อีกหนึ่งตัวเป็นอุปกรณ์ต่อแยกภายนอก โดยกล้องตัวนี้จะทำหน้าที่วัดการเคลื่อนไหวของศีรษะให้แม่นยำกว่าเดิม และช่วยให้การทำงานของโลกเสมือนที่เรามองเห็นนั้นสมจริงมากขึ้น
DK2 เปิดตัวที่งาน GDC 2014 และจะวางขายจริงเดือนกรกฎาคม ตอนนี้เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในราคา 350 ดอลลาร์
กลุ่มบริษัทเกมและฮาร์ดแวร์ ประกาศตั้งกลุ่ม Immersive Technology Alliance (ITA) เพื่อผลักดันเทคโนโลยีด้าน Augmented Reality, Virtual Reality, Stereoscopic 3D และ gesture
กลุ่ม ITA พัฒนามาจากกลุ่ม Stereoscopic 3D Gaming Alliance ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2009 โดยขยายความสนใจมายังเทคโนโลยีใกล้เคียงอื่นๆ ด้วย ตัวอย่างสมาชิกในกลุ่มนี้ได้แก่ Oculus VR, Technical Illusions, Electronic Arts, Epson, Virtuix, I'm in VR, Nanoveu, Gameface Labs, Vrelia, The University of Ontario Institute of Technology, Panasonic, Avegant, YEI Technology
กลุ่ม ITA จะแถลงข่าวครั้งแรกที่งาน Game Developers Conference วันที่ 18 มีนาคมนี้
นอกจากจะเป็นผู้ผลิตเกมที่รองรับ Oculus Rift อุปกรณ์สำหรับเล่นเกมเสมือนจริง รายแรกๆ แล้ว Valve ยังคงสนับสนุนการใช้งาน Oculus Rift อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่งเพิ่ม SteamVR สำหรับใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวร่วมกับ Steam ให้ผู้ใช้ได้ทดลองกันแล้ว
SteamVR อธิบายง่ายๆ คือการเปิดโหมด Big Picture ที่ปรับแต่งมาสำหรับ Oculus Rift โดยเฉพาะ และทำให้แสดงผลโค้งรับกับหน้าจอของอุปกรณ์ แต่ยังไม่สามารถใช้กับฟีเจอร์อื่นๆ ได้อย่างสมบูรณ์นัก เนื่องจากตอนนี้เป็นเพียงแค่โหมดทดสอบที่รันอยู่บน Steam Client Beta อีกที (และน่าจะยังทำไม่เสร็จดีด้วย)
Oculus VR ผู้สร้าง Oculus Rift แว่นตาสำหรับเล่นเกมเสมือนจริงเผยโฉม Crystal Cove อุปกรณ์ตัวต้นแบบของ Oculus Rift รุ่นใหม่ที่รองรับความละเอียดสูง หลังจากมีข่าวมาแสนนาน
Crystal Cove อัพเกรดสเปคจาก Oculus Rift มาหลายอย่าง ตั้งแต่การเปลี่ยนไปใช้หน้าจอ OLED (เดิมใช้ LED) เพิ่มความละเอียดขึ้นเป็น 1080p หารครึ่งระหว่างสองจอ เพิ่มกล้องภายนอกมาอีกหนึ่งตัวเพื่อให้จับตำแหน่งได้ลึกขึ้น และแก้ภาพเบลอระหว่างเคลื่อนไหวอันเป็นปัญหาหลักของ Oculus Rift รุ่นแรก
John Carmack ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ id Software ได้ประกาศลาออกจากบริษัทเพื่อไปทำงานกับ Oculus VR ผู้พัฒนาอุปกรณ์แสดงผลสำหรับงาน Virtual Reality
ถึงแม้ว่าตัว John Carmack นั้นจะเป็นเจ้าของบริษัท แต่ก็ยังทำงานด้านเทคนิคอย่างเต็มตัว เขาเป็นหัวหน้าโครงการเกมดังๆ นับไม่ถ้วนเช่น Commander Keen, Wolfenstein 3D, Doom, Quake รวมทั้งภาคต่อของเกมเหล่านี้ โดยเขามักจะคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ หรือนำเอาเทคนิคล้ำสมัยในวงการคอมพิวเตอร์กราฟิกมาใส่ในเกมของเขาอยู่เสมอ นอกจากนี้เขายังเปิดซอร์สโค้ดเกมเก่าๆ ของเขาเพื่อให้นักพัฒนาคนอื่นนำไปศึกษาหรือใช้งานอีกด้วย ผลงานทั้งหลายของเขาเหล่านี้ช่วยส่งผลให้เขาได้รับรางวัลต่างๆ มากมายรวมทั้งรางวัล Lifetime Achievement จาก Game Developer Conference
John Carmack ในฐานะผู้ก่อตั้งและยังคงดำรงตำแหน่ง technical director ให้กับ id Software มาจนถึงปัจจุบัน ได้ตัดสินใจลาออกจาก id Software เพื่อทำงานอย่างเต็มเวลาให้กับ Oculus VR แล้ว
Tim Willits ซึ่งเป็น studio director ของ id Software ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้แล้วเช่นกัน โดยระบุต่อไปว่างานพัฒนาเอนจิน id Tech 5 ที่ John Carmack ได้พัฒนานั้นเสร็จสมบูรณ์แล้วและจะไม่กระทบต่องานพัฒนาเกมที่มีอยู่ของบริษัท ทาง id ยังคงมีนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ร่วมงานมานานและจะสานต่อโปรเจคต่อไป พร้อมทั้งได้อวยพรให้ Jonh Carmack โชคดี
เพิ่งมีข่าวก่อนหน้าว่า Oculus Rift จะมีรุ่นเล็กสำหรับ Android ซึ่งสร้างความสงสัยว่าจะออกมาสองรุ่นจริงหรือไม่ ตอนนี้ Brendan Iribe ซีอีโอของ Oculus VR ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่าจะมีเพียงรุ่นเดียว แต่เพิ่มระบบปฏิบัติการรองรับเข้าไปอีก
จากรายละเอียดที่ออกมา Oculus Rift รุ่นขายจริงจะรองรับทั้งระบบปฏิบัติการบนเดสก์ท็อป Windows/Mac/Linux และมีแผนจะเพิ่มการรองรับอุปกรณ์พกพาเข้าไปด้วย โดยในแรกเริ่มจะมีเพียง Android อย่างเดียว รวมถึงเกมที่ใช้งานร่วมกับ Oculus Rift จะยังมีจำกัดอยู่
ท่าทางทีมพัฒนา Oculus Rift จะชื่นชอบ Android ไม่ใช่น้อย ก่อนหน้านี้เพิ่งออกมาบอกว่าสินค้าตัวจริงจะรัน Android ในตัวยังไม่พอ ล่าสุดออกมาประกาศทำ Oculus Rift รุ่นย่อส่วนสำหรับเกมเมอร์ Android โดยเฉพาะแล้ว
รายละเอียดของ Oculus Rift for Android ตัวนี้ Brendan Iribe ซีอีโอเพิ่งประกาศในงาน Gamesbeat 2013 แม้จะยังไม่ระบุว่าขนาดของเวอร์ชันสำหรับ Android จะเล็ก และเบาลงกว่ารุ่นต้นแบบแค่ไหน แต่ก็พอระบุว่าวันขายคร่าวๆ ได้ว่าจะขายพร้อมๆ กันกับรุ่นสำหรับพีซีเลยครับ
ที่น่าสนใจกว่าคือจะมีเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์คนไหนสนใจใส่เจ้าแว่นตานี้เล่นเกมบน Android รึเปล่านี่สิ...
ที่มา - Joystiq
กำลังจะได้เห็นรุ่นใหม่ของ Oculus Rift แว่นตาที่ใส่แล้วเห็นโลกเสมือนจริงกันแล้ว หลังจาก John Carmack (ที่เพิ่งไปรับตำแหน่ง CTO ให้ Oculus VR ได้ไม่นาน) ให้ข้อมูลว่าบริษัทกำลังจะเปิดตัวชุดพัฒนาตัวใหม่ก่อนจะวางขายตัวจริงในช่วงปีหน้า
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Oculus Rift ใหม่ยังไม่มีเรื่องของสเปคหน้าจอออกมา (แต่คงเป็นระดับ HD แน่ๆ) แต่กลับมีเรื่องของระบบปฏิบัติการมาแทน โดย Carmack ระบุว่าชุดพัฒนาตัวใหม่จะรัน Android ในตัว เพื่อให้สามารถพัฒนาเกมร่วมกันได้โดยง่าย ซึ่งสำหรับผู้ใช้ทั่วไปอาจได้อานิสงส์จนสามารถใช้งานร่วมกับเกมบน Android อื่นๆ ได้อีกด้วย
ค่าย Greenwood Games ผู้พัฒนาเกมสยองขวัญจิตวิทยาเกมใหม่บน Xbox ชื่อว่า Alone ได้ประกาศรองรับ Oculus Rift อุปกรณ์ VR สำหรับเล่นเกมสามมิติ โดยเนื้อหาในเกมจะให้ผู้เล่นอยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียวหลอนผู้เล่นด้วยบรรยากาศ และเสียงแปลกๆ โดยที่เกม (ในเกม) กำลังคืบคลานโผล่มาหลอนคุณจริงๆ
อย่างไรก็ตามเกมนี้ยังเป็น Concept ที่กำลังประกาศหาทุนอยู่ใน Kickstarter วางแผนจะเริ่มพัฒนาในไตรมาสแรกของปี 2014 นี้ครับ
ที่มา - GamingBolt