สำนักวิจัยอีกแห่งที่ออกสำรวจด้านเทคโนโลยีตลอดมา คือ Pew Research Center ได้ออกรายงานสำรวจการใช้งานแท็บเล็ต พบว่าการใช้งานเพิ่มขึ้นจาก 11% เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2011 มาเป็น 18% เมื่อมกราคมที่ผ่านมา ส่วนช่วงสิงหาคมที่ผ่านมาตัวเลขเพิ่มเป็น 25% แล้ว
ส่วนแบ่งตลาดก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ปีที่แล้วผู้ตอบแบบสำรวจที่ใช้แท็บเล็ตใช้ไอแพดมากถึง 81% แต่การสำรวจล่าสุดเหลือเพียง 52% ส่วนแอนดรอยด์นั้นเพิ่มจาก 15% ในปีที่แล้วมาเป็น 48% ในปีนี้ และอื่นๆ 4% ในปีที่แล้วหายไปหมด
ในบรรดาผู้ใช้แท็บเล็ตแอนดรอยด์นั้น Kindle Fire นำมาอันดับหนึ่ง 21% ตามด้วย Samsung Galaxy 8% ที่เหลือเป็นยี่ห้ออื่นๆ
Jerry Brown ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียไปที่สำนักงานใหญ่ของ Google เพื่อเซ็นร่างกฏหมาย SB 1298 ว่าด้วยการอนุญาตให้รถยนต์แบบไร้คนขับวิ่งบนท้องถนนจริงได้
ร่างกฏหมายนี้ว่าด้วยเรื่องข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ของรถยนต์แบบไร้คนขับ โดยหลังจากกฏหมายฉบับนี้บังคับใช้งาน ผู้ผลิตรถยนต์สามารถนำรถแบบไร้คนขับออกทดสอบจริงบนท้องถนนได้ ตราบใดที่มีผู้ขับรถที่มีใบขับขี่นั่งประจำตำแหน่งผู้ขับเพื่อควบคุมรถในกรณีฉุกเฉิน
Brown กล่าวว่าร่างกฏหมายนี้จะช่วยผลักดันให้เทคโนโลยีในนิยายไซ-ไฟกลายเป็นจริง และเป็นก้าวใหม่ในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีของรัฐแคลิฟอร์เนีย และโลกทั้งใบ
ฐานข้อมูลแบบกระจาย (distributed database) ไม่ใช่แนวคิดใหม่แต่อย่างใด เพียงแต่การกระจายฐานข้อมูลออกไปไกลระดับครอบคลุมทั้งโลก (ห่างกันหนึ่งซีกโลก) กลับมีปัญหาเรื่อง latency ทำให้การอ่าน-เขียนข้อมูลบนฐานข้อมูลแต่ละชุด (ซึ่งส่วนใหญ่ข้อมูลซ้ำกันหรือเป็น replication) ทำได้ไม่พร้อมกัน
กูเกิลแก้ปัญหานี้ด้วยซอฟต์แวร์ชื่อ Spanner ที่ใช้เทคนิคช่วยให้การวัด "เวลา" แม่นยำขึ้น ผ่านทั้งตัวรับสัญญาณ GPS และนาฬิกาอะตอม (atomic clock) ที่ติดตั้งไว้ในศูนย์ข้อมูลของกูเกิล แทนการส่งข้อมูลข้ามไปถามศูนย์ข้อมูลอื่นๆ ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่อง latency ได้
นอกจากนี้ Spanner ยังช่วยกำหนดประเภทของข้อมูลที่ต้องการอ่าน-เขียนได้ เช่น
แม้ว่าในตลาดเกมช่วงหลัง การมาของอุปกรณ์ iOS จะสั่นคลอนตลาดนี้ได้พอสมควร จากความนิยมของทั้ง iPhone และ iPad แต่ถ้าลองเจาะไปตามวัยแล้ว อาจจะยังสรุปไม่ได้ว่าทุกคนชอบเล่นเกมบน iPad หรือ iPhone มากที่สุดแล้ว
โดยจากผลการศึกษาของ NPD Group ระบุว่าเด็กอายุตั้งแต่ 4-14 ปีไม่ได้ใช้เวลากับในการเล่นเกมกับ iPad มากที่สุด แต่เป็นกับเครื่องเกมพกพา (เช่น PS Vita หรือ 3DS) มากกว่า ส่วนเด็กที่อายุมากกว่านี้ก็เล่นเกมบนพีซี หรือเครื่องคอนโซลมากกว่า
อย่างไรก็ตามสัดส่วนของเด็กที่เล่นเกมบน iPad เพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวจากเมื่อปีก่อนที่มีเพียง 3% เพิ่มขึ้นเป็น 13% แล้วในปีนี้
เว็บไซต์ Technology Review ของสถาบัน MIT เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาสไตลัส (stylus) ที่สามารถใช้ได้กับหน้าจอใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหน้าจอที่รองรับการสัมผัสเพียงอย่างเดียว
หลักการทำงานของสไตลัสนี้คล้ายกับเมาส์ดิจิทัลแบบไร้สาย แต่จะใช้กล้องขนาดจิ๋วอ่านจำนวนกลุ่มพิกเซลบนหน้าจอแล้วส่งต่อให้คอมพิวเตอร์เพื่อติดตามการเคลื่อนที่ของไสตัสผ่านเครือข่ายไร้สายแทน
นโยบายให้พนักงานนำอุปกรณ์ไอทีของตนเองมาใช้งานในองค์กร (BYOD - bring your own devices) กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่นั่นอาจทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการเกี่ยวกับไอทีสูงขึ้นด้วย โดยบริษัทวิจัย Osterman เผยผลการวิจัยในองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ 117 แห่ง พบว่าผลจากการที่องค์กรให้พนักงานนำอุปกรณ์พกพาเข้ามาใช้ในที่ทำงานมากขึ้นนั้น ในปีที่แล้วจะต้องใช้เจ้าหน้าที่ไอทีสนับสนุนเฉลี่ย 2.9 คนต่ออุปกรณ์ 1,000 เครื่อง แต่ตัวเลขในปี 2012 นี้เพิ่มสูงเป็น 3.6 คนต่ออุปกรณ์ 1,000 เครื่อง และคาดว่าปีหน้า 2013 จะเพิ่มเป็น 4 คน
การสำรวจจากมหาวิทยาลัยซัลฟอร์ดในประเทศอังกฤษ ที่สำรวจผู้ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คกลุ่มเล็กๆ จำนวน 298 คน ได้ผลน่าตกใจว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลง และยังพักผ่อนยากขึ้นอีกด้วย
กว่าครึ่งของการสำรวจที่ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างทวิตเตอร์ หรือเฟซบุ๊กบอกว่าทำให้ชีวิตของเขาแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความมั่นใจในตัวเอง เมื่อไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จของบรรดาเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์
นอกจากนี้ สองในสามยังบอกว่าไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เนื่องจากใช้เวลากับโซเชียลเน็ตเวิร์คมากไป และกังวลกับมันมากจนทำให้นอนไม่หลับ และกว่าครึ่งยังบอกว่ารู้สึกไม่สบายใจถ้าหากเข้าเฟซบุ๊ก หรืออีเมลไม่ได้อีกด้วย
แถวนี้มีใครเข้าข่ายแบบนี้บ้างไหมครับ ?
เว็บจองที่พักและตั๋วเครื่องบินสำหรับการเดินทาง Orbitz เผยว่าจากข้อมูลการจองห้องพักในอดีตโดยแยกกลุ่มผู้ใช้งานเป็นผู้ใช้แมคกับพีซี พบว่าผู้ใช้แมคมากกว่า 40% มีแนวโน้มจะจองห้องพักในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวมากกว่าผู้ใช้พีซี และแม้เป็นการจองในโรงแรมเดียวกัน ผู้ใช้แมคก็มักเลือกพักห้องที่มีราคาแพงกว่าเมื่อเทียบกับผู้ใช้พีซี
มอร์แกน สแตนเลย์เปิดเผยผลสำรวจผู้ที่ต้องการซื้อแท็บเล็ตใหม่ โดยพบว่าผู้คนร้อยละ 25 มีแผนจะซื้อแท็บเล็ตรัน Windows 8 ซึ่งสูงกว่าผู้คนที่รอซื้อแท็บเล็ตรัน Android ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 22 ส่วนแพลตฟอร์มที่ผู้คนมีแผนจะซื้อมากที่สุดแบบไม่ต้องสงสัยคือแท็บเล็ตรัน iOS ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 46
แม้ว่าวัยรุ่นในยุคนี้จะมีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือจากโลกดิจิทัลมากกว่าคนสมัยก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็มีบางเรื่องที่ถูกละเลยไปเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือการตั้งรหัสผ่าน
การวิจัยครั้งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับการตั้งรหัสผ่านของนาย Joseph Bonneau จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่วิเคราะห์ข้อมูลรหัสผ่านจากผู้ใช้งาน Yahoo! กว่า 70 ล้านบัญชี ผลคือผู้ใช้ที่อายุมากกว่า 55 ปีมักจะตั้งรหัสผ่านที่มีความปลอดภัยสูงกว่าผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 25 ปีถึงสองเท่าตัว
ทีมวิจัยจากญี่ปุ่นสร้างเครื่องส่งวิทยุความถี่ย่านความถี่สูงถึง 542GHz เป็นผลสำเร็จ และความสำเร็จนี้อาจจะเปิดให้เราใช้คลื่นย่านใหม่ๆ ได้ หลังจากที่การใช้งานทุกวันนี้มักจำกัดอยู่ที่เพดาน 300GHz เท่านั้น
การทะลุเพดาน 300GHz ทำให้เราสามารถเข้าใช้งานคลื่นในย่านที่เรียกว่า THF (Tremendously high frequency) โดยก่อนหน้านี้คลื่นที่เราใช้ประโยชน์เพื่อการสื่อสารสูงสุดนั้น คือ คลื่นในย่าน EHF (Extremely high frequency) ที่แม้จะมีการใช้งานอยู่บ้างแต่ก็เป็นการติดต่อระหว่างดาวเทียมนอกโลก โดยมันเป็นคลื่นย่านสุดท้ายก่อนจะเริ่มเป็นแสงอินฟราเรด
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ การถูกจำกัดปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตก็เป็นเรื่องที่หลายคนไม่อยากประสบกับตัวเอง ที่น่าสนใจคือผลสำรวจจาก Marshini Chetty นักวิจัยจาก Georgia Tech’s School of Interactive Computing ได้เผยว่าการจำกัดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตจะทำให้ผู้ใช้เกิดประสบการณ์ใช้งานที่ไม่ง่ายขึ้นมา
ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชได้เผยงานวิจัยที่เป็นการประยุกต์ใช้จอแอลซีดีเดิมเพื่อการแสดงผลแบบสามมิติ (stereo 3D display) โดยผู้ใช้ไม่ต้องใส่แว่นตาพิเศษเพื่อการรับชม และสามารถแสดงผลในสองมุมมองที่แตกต่างกันได้ เช่น ผู้เล่นเกมไพ่สองคนดูหน้าจอแท็บเล็ตเดียวกันโดยที่อีกฝ่ายมองไม่เห็นไพ่ของคู่แข่ง ใครนึกภาพไม่ออกลองคลิปวีดีโอนำเสนอได้ที่ท้ายข่าว
ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชได้เผยงานวิจัยนี้ที่งาน TechVista ประเทศอินเดีย ถัดจากจะนำไปโชว์ที่งาน CHI 2012 ต่อไป
ที่มา: Next at Microsoft
ก่อนหน้านี้เราได้เห็น TapSense จอสัมผัสที่สามารถแยกแยะได้ว่าวัตถุไหนที่มาสัมผัสกับหน้าจอ โดยใช้เสียงเพื่อช่วยแยกประเภท วันนี้ Disney Reseach ได้ออกมาโชว์ Touché (อ่านว่า "ทู-เช") เซนเซอร์รับสัมผัสที่เหนือขึ้นไปอีกว่านอกจากจะบอกได้ว่าเราใช้อะไรสัมผัส ยังบอกละเอียดขึ้นไปว่าใช้นิ้วกี่นิ้ว ท่าที่สัมผัส (จีบนิ้ว หรือกุมทั้งมือ) แถมยังใช้ได้กับวัตถุอย่างอื่นนอกเหนือจากจอสัมผัส แม้แต่ในน้ำ หรือกระทั่งร่างกายของเราก็ได้ด้วย
ในช่วงปีที่ผ่านมานี้มีบริการจ่ายเงินด้วยมือถือเกิดขึ้นในสหรัฐฯ กันบ้างแล้วทั้งรายใหญ่รายเล็กไม่ว่าจะเป็น Square, Google Wallet หรือ PayPal Here แต่ว่าจากผลการสำรวจของ Chris Hoofnagle และ Jennifer Urban สองนักศึกษาจาก University of California, Berkeley กลับพบว่าผู้คนในสหรัฐฯ ยังไม่พร้อมกับระบบจ่ายเงินด้วยมือถือเท่าไรนัก
จากการสำรวจทั้งสิ้น 1,203 คน มี 74% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่ายังไม่มีแผนจะเปลี่ยนไปใช้ระบบจ่ายเงินด้วยมือถือใดๆ ด้วยเหตุผลหลักทางด้านความเป็นส่วนตัว และอีกเกือบทั้งหมดระบุว่าไม่ต้องการแชร์ข้อมูลว่ามาที่ร้านนี้ (ประมาณว่าซื้อของในร้าน แล้วเด้งขึ้น Facebook)
ปัญหาเรื่องเว็บไซต์ร้านอาหารที่ไม่มี usability แล้วแถมยังทำหน้าเว็บด้วยแฟลชทั้งหมดยังคงตามหลอกหลอนเราทุกครั้งที่ต้องใช้งานอยู่เรื่อยไป จนมาถึงในขณะนี้ที่สมาร์ทโฟนได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของโลกเว็บไซต์แล้ว ร้านอาหารได้มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่ ?
จากผลการศึกษาของ Restaurant Science บริษัทวิจัย และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมร้านอาหารได้เผยว่ามีผู้เข้าเว็บไซต์ร้านอาหารจากมือถือมากถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด แต่มีเพียงหนึ่งในแปดของแบรนด์อาหารแฟรนไชส์ และมีเพียงหนึ่งจากในสิบสองร้านอาหารส่วนตัวเท่านั้นที่มีหน้าเว็บไซต์มือถือของร้าน
ในยุคที่มือถือครองเมือง และเรายังหาวิธีการทำให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นไม่ได้ดีไปกว่าการเพิ่มความจุเข้าไป สิ่งที่ช่วยได้ดีคือการใช้วิธีอื่นที่ทำให้ใช้แบตเตอรี่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
นอกจากการเชื่อมต่อ 3G หน้าจอของมือถือ และอีกสารพัดอย่างที่มีผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนไม่ทราบ คือการใช้งานหน้าเบราว์เซอร์บนมือถือแต่ละเว็บไซต์กินพลังงานไม่เท่ากัน ซึ่งทางทีมศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้ทำการสำรวจหน้าเว็บแบบมือถือของแต่ละเว็บไซต์ว่าเว็บไหนที่กินพลังงานในการเปิดหน้าเว็บมาก/น้อยอย่างไร
ปรกติแล้ว QR code สามารถรับความคลาดเคลื่อนได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เราสามารถวางรูปภาพหรือข้อความ "ทับ" ลงไปบนตัว QR code เพื่อช่วยให้มนุษย์สามารถแยกแยะ QR code ในขั้นต้นได้
แต่นี่คงไม่ทำให้ Russ Cox โปรแกรมเมอร์จาก Bell Labs พอใจ เขาจึงได้สร้างโปรแกรม QArt code ที่สามารถ "ฝัง" รูปภาพไปกับ QR code โดยไม่ทำให้มันเกิดความคลาดเคลื่อน และส่งผลให้ตัว QR code สามารถแนบรูปได้ใหญ่ขึ้นกว่าการวางรูปทับลงไปธรรมดาครับ
มีผลวิจัยจาก Inter-American Development Bank (IDB) ซึ่งได้ศึกษานักเรียนจาก 319 โรงเรียนเป็นเวลา 15 เดือน พบว่าไม่ปรากฎชัดว่านักเรียนที่ได้รับแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตในโครงการ One Laptop per Child (OLPC) มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาวิชาคณิตศาสตร์และวิชาทางด้านภาษาดีขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างไร นอกจากนั้นผลวิจัยยังแสดงให้เห็นว่านักเรียนไม่ได้ให้เวลากับการบ้านและการอ่านหนังสือมากขึ้นอีกด้วย ทาง IDB ได้สรุปว่าทางโครงการ OLPC ไม่ได้แนะนำคุณครูว่าควรใช้แล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตอย่างไรให้้เกิดประสิทธิผลต่อการเรียนในแต่ละวิชา
รายงานนี้เป็นผลสำรวจกลุ่มนักอ่านหนังสือชาวอเมริกัน (ที่เป็นผู้ใหญ่) จัดทำโดย Pew Research Center พบว่านักอ่าน eBook จะอ่านหนังสือเฉลี่ย 24 เล่มในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับนักอ่านหนังสือธรรมดาทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 17 เล่ม
แต่ก็ใช่ว่า eBook จะครองตลาดเพราะแท้จริงจากผลสำรวจเดือนธันวาคมปีที่แล้วยังมีนักอ่านหนังสือธรรมดาอยู่ถึง 72% เทียบกับนักอ่าน eBook ที่เป็นชนกลุ่มน้อยเพียง 17% เท่านั้น (อีก 11% เป็นกลุ่มที่ฟัง Audio Book)
รายงานยังให้ข้อมูลน่าสนใจถึงอัตราการเติบโตของจำนวนนักอ่านที่มีเครื่องอ่าน eBook ไว้ในครอบครองว่ามีถึง 19% จากกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เทียบกับจำนวนเพียง 10% ในการสำรวจเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
แถวนี้ใครชอบเล่นถ่ายรูปด้วยการสร้างกรอบรูปจากนิ้วมือบ้างครับ? นักวิจัยจากญี่ปุ่นได้นำเอาวิธีนี้มาทดลองสร้างเป็นกล้องถ่ายรูปจริงๆ กันแล้ว
กล้องถ่ายรูปตัวนี้มีชื่อว่า Ubi-Camera วิธีใช้ก็เพียงแค่สวมตัวกล้องไว้ที่ปลายนิ้วชี้ข้างหนึ่ง ประกอบนิ้วชี้และนิ้วโป้งจากสองมือให้เป็นกรอบรูป ขยับหน้าเข้าใกล้หรือออกห่างจากมือเพื่อกำหนดมุมมอง เรียบร้อยแล้วก็กดปุ่มชัตเตอร์บนตัวกล้องเพื่อเก็บภาพประทับใจเท่านั้นเอง
งานวิจัยเกี่ยวกับจอสัมผัสอีกหนึ่งงานครับ แม้ว่าเราจะมีระบบสั่นเพื่อบ่งบอก feedback ของการสัมผัสจอ (haptic) แต่นั่นก็อาจไม่เพียงพอ ทีมนักวิจัยจากญี่ปุ่นจึงพัฒนาระบบจอสัมผัส ที่สามารถเคลื่อนตัวตอบสนองระหว่างวัตถุที่อยู่ในจอกับนิ้วมือเราได้ โดยยึดมุมทั้งสี่ของจอสัมผัสด้วยลวดและกลไกลที่จะคอยบังคับดึงมันไปในทิศทางต่างๆ ทำให้เกิดเป็นระบบจอสัมผัสที่สามารถบ่งบอกทิศทาง feedback ได้นั่นเองครับ (ดูวิดีโอได้ในข่าว)
ที่มา: Engadget
ในงานสัมมนาเกี่ยวกับความปลอดภัย(ทางด้านซอฟต์แวร์) Black Hat Europe ที่กรุงอัมสเตอดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีงานศึกษาชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่ทำจากภาคส่วนต่างๆ ผลปรากฏว่าซอฟต์แวร์ที่ทำโดยรัฐบาลมีอัตราการผ่านมาตรฐานต่ำที่สุด พูดเป็นภาษาชาวบ้านคือบั๊กเยอะที่สุดนั่นเอง
โดยนาย Chris Wysopal หัวหน้าฝ่ายค้นหาบั๊กจากบริษัท Veracode ได้เผยข้อมูลหลังวิจัยซอฟต์แวร์ในช่วงตั้งแต่กลางปี 2010 จนถึงปี 2011 ทั้งสิ้น 9,910 โปรแกรม ผลคือมีซอฟต์แวร์จากรัฐบาลเพียง 16% ผ่านการทดสอบจาก OWASP เมื่อเทียบกับฝั่งซอฟต์แวร์ทางด้านการเงินที่ผ่าน 24% และซอฟต์แวร์เพื่อการค้าที่ 28%
ที่งานฉลองการก่อตั้งไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชครบ 20 ปี TechFest 2012 ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชเผยงานวิจัย "Monolingual TTS" หรือซอฟต์แวร์แปลเสียงพูดจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งโดยจำลองหน้าผู้พูดแบบ 3 มิติที่คำพูดถูกแปลแล้วโดยยังคงสำเนียงการพูดต้นฉบับไว้ นอกจากนั้นซอฟต์แวร์นี้รองรับการแปลคำพูดที่มีทั้งชื่อของสถานที่ต่างๆ ที่เป็นภาษาอื่น และคำพูดที่บอกเส้นทาง (direction) ที่เป็นภาษาท้องถิ่นในเวลาเดียวกัน
ซอฟต์แวร์ดังกล่าวรองรับการแปลถึง 26 ภาษา แต่การแปลโดยให้ผลลัพธ์เป็นเสียงพูดแบบต้นฉบับนี้ไม่ได้ทำได้โดยทันที ต้องใช้เวลานับชั่วโมงในการสอนให้ซอฟต์แวร์จดจำเสียงก่อน ลองดูคลิปนำเสนอได้จาก Engadget ครับ
อัพเดต ผมสามารถฝังวีดีโอที่ท้ายข่าวได้แล้ว เชิญชมกันได้เลยครับ
ไมโครซอฟท์เปิดตัวโครงการโอเพนซอร์สโครงการใหม่ชื่อ Mayhem ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์จำพวก trigger-action หรือสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานอัตโนมัติเมื่อดักเจอเหตุการณ์หรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ โดยที่ไม่ต้องเขียนโปรแกรมเลย
ซอฟต์แวร์ลักษณะคล้ายๆ กันนี้คือ Automator ของแมค (และโปรแกรมอีกหลายตัวบนมือถือ) เพียงแต่ Mayhem จะมีจุดเด่นที่ต่างออกไปคือการเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์ภายนอกอย่าง Xbox, Windows Phone, Android, iOS รวมถึงสั่งงานซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์เองทั้ง Windows และ Office (เช่น กดปุ่มบนจอยของ Xbox เพื่อเปลี่ยนสไลด์ใน PowerPoint - ดูวิดีโอประกอบ)