ถึงแม้จะยังไม่เปิดตัวแต่ Elon Musk ก็เคยออกมาเผยข้อมูลแบบแย๊บๆ ของ Model Y รถยนต์ไฟฟ้าที่จะเปิดตัวในอีก 1-2 ปีข้างหน้าว่าเป็น SUV ที่เล็กและราคาถูกกว่า Model X (ลักษณะเดียวกับที่ Model 3 เป็นซีดานราคาถูกกว่า Model S)
ล่าสุดมีข้อมูลจากซัพพลายเออร์ 2 เจ้าของ Tesla ระบุว่าบริษัทวางแผนคร่าวๆ ว่าจะเริ่มผลิต Model Y ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2019 โดยตอนนี้ Tesla เริ่มให้บริษัทซัพพลายเออร์ยื่นความสนใจประมูลราคาเพื่อป้อนชิ้นส่วนในการผลิต Model Y แล้ว พร้อมระบุข้อมูลว่าจะผลิตในโรงงานที่ Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย
จากสถานการณ์อัตราการผลิต Tesla Model 3 ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหามาตลอด โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 ผลิตรถรุ่นนี้ไปได้เพียง 2,425 คันเท่านั้น แต่ในไตรมาสนี้เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสองวันก่อน Tesla ได้จดทะเบียนเลขตัวถังรถ (Vehicle Identification Number - VIN) กับหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐฯ หรือ NHTSA ถึง 4,793 คัน
ล่าสุดเมื่อวานนี้ Tesla ได้จดทะเบียนเลขตัวถังเพิ่มอีก 2,915 คัน รวมเป็น 7,708 คันภายในเวลา 1 สัปดาห์ โดยเลขตัวถังล่าสุดอยู่ที่ 28289
คนที่ติดตามข่าว Tesla คงทราบว่า Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่างสุดของบริษัทนั้นประสบปัญหาผลิตได้ต่ำกว่าเป้ามาก แต่ก็ดีขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งล่าสุด Elon Musk ซีอีโอ ก็ได้ส่งอีเมลหาพนักงานว่าขณะนี้โรงงานสามารถผลิตรถรุ่นดังกล่าวได้ 2,000 คันต่อสัปดาห์แล้ว
ต่อมา Amir Efrati นักเขียนจากเว็บไซต์ The Information ได้เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัญหาในสายการผลิตนี้ โดยบอกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาซ้ำซากของ Tesla และโทษว่าเป็นเพราะ Doug Field ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมได้เข้ามาดูแลการผลิตด้วย
Elon Musk ส่งจดหมายให้สื่อหลายเจ้าในสหรัฐว่า Tesla เริ่มผลิต Model 3 ได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คันต่อสัปดาห์แล้ว หลังจากที่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วผลิตไปได้เพียง 2,425 คัน โดย Musk ระบุว่าความมารถในการผลิตทั้ง Model S, X และ 3 รวมกันไม่ต่ำกว่า 4,000 คันต่อสัปดาห์แล้ว
อย่างไรก็ตามตัวเลข 2,000 คันต่อสัปดาห์ถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับเป้าที่ Musk ตั้งเอาไว้ว่าจะต้องผลิต Model 3 ให้ได้ 2,500 คันต่อสัปดาห์ในไตรมาแรก และยิ่งห่างไกล เมื่อเป้าในไตรมาสสองนี้ จะต้องผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 คันต่อสัปดาห์
ที่มา - The Verge
เดือนมีนาคมที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่หนักหนาสำหรับ Tesla ตั้งแต่ราคาหุ้นที่ตกลงถึง 23% และเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ Tesla X จนมีนักวิเคราะห์มองว่า Tesla อาจต้องประสบปัญหาทางการเงินหนัก ซึ่งเรื่องนี้ซีอีโอ Elon Musk ก็ยังอดไม่ได้ที่จะนำมาแซวเองเสียเลย
เขาได้ทวีตข้อความในวันที่ 1 เมษายน ซึ่งเป็น April Fools ว่า ถึงแม้ Tesla จะมีการเพิ่มทุนมาตลอด และก็เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ต้องบอกว่า Tesla เข้าสู่สถานะบริษัทล้มละลายแล้ว แถมยังมีคนพบเขานอนหลับข้าง Model 3 พร้อมขวดเตกิล่า ซึ่งที่สุดเขาก็ปิดท้ายว่าทั้งหมดเป็นมุกตลกเท่านั้น
สัปดาห์ก่อนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เมื่อชายคนหนึ่งขับรถ Tesla X ชนกำแพงคอนกรีตจนส่วนหน้าของรถพังยับ ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้ เป็นเหตุให้คนขับเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา มีหลายคนสงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับระบบ Autopilot ซึ่งเป็นระบบช่วยขับขี่ที่ Tesla พัฒนาหรือไม่
ชายผู้เสียชีวิตชื่อ Walter Huang เป็นวิศวกรของ Apple และเป็นอดีตพนักงานของ EA นั่งอยู่ในรถ Tesla X ตอนที่รถวิ่งเบี่ยงออกจากช่องทางเดินรถพุ่งเข้าชนกำแพงคอนกรีตบนทางด่วนในเขต Mountain View ก่อนจะโดนรถที่วิ่งตามหลังอีก 2 คัน ชนซ้ำเข้าไปอีก จากนั้นรถ Tesla X ก็โดนไฟลุกท่วม ส่งผลให้คนขับบาดเจ็บหนักและเสียชีวิตในท้ายที่สุด
FedEx ยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจไปรษณีย์ ตัดสินใจสั่งจอง Tesla Semi รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าของ Tesla จำนวน 20 คัน เพื่อใช้ในการขนส่งพัสดุของลูกค้า
Tesla Semi เป็นรถบรรทุกที่วิ่งได้ 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง และสามารถวิ่งได้อีก 400 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟใหม่ระหว่างทางซึ่งจะใช้เวลาเติมประจุไฟเพียง 30 นาที ตัวรถมีกล้องบันทึกภาพและระบบเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้ผู้ขับหลีกเลี่ยงจากอุบัติเหตุได้ ทั้งยังมีระบบช่วยขับอัตโนมัติ เช่น เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบการรักษาเลนการขับ และระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลนวิ่ง
Porsche ดูจะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงที่จริงจังกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด มีรถยนต์รุ่น Mission E เป็นอาวุธหลักในมือที่ตอนนี้แม้จะยังเป็นคอนเซ็ปต์อยู่แต่ก็มีข่าวออกมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ และถูกมองว่าเป็น "Tesla killer" หรือรถที่จะมาโค่นตำแหน่งผู้นำด้านสมรรถนะที่ Tesla ครองอยู่
ล่าสุด Oliver Blume ซีอีโอของ Porsche ได้กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวประจำปีว่า "Tesla ไม่ใช่เกณฑ์เปรียบเทียบ (benchmark) สำหรับเรา" โดยเขาสื่อว่า Mission E ไม่ได้ทำมาเพื่อแข่งกับ Tesla Model S
อย่างไรก็ตาม เคยมีวิดีโอออกมาว่าพบรถที่เชื่อว่าเป็น Porsche Mission E ขับอยู่ในขบวนรถ Tesla Model X และ S บนถนนในเยอรมนี รับชมได้ท้ายข่าว
จากประเด็นที่ Elon Musk ได้สั่งปิดเพจ Tesla และ SpaceX เพราะไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้ Facebook หลุด 50 ล้านบัญชี เขาได้ทวีตพูดคุยกับผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกหลายทวีต และพอจะมีประเด็นที่น่าสนใจเลยเอามาสรุปอีกทีครับ
เรื่องแรกคือมีคนทวีตไปหา Elon โดยขุดข่าวเก่าที่ Facebook เคยว่าจ้าง SpaceX ให้ปล่อยดาวเทียมเมื่อเดือนกันยายน 2016 แต่จรวด Falcon 9 กลับระเบิดคาฐานระหว่างทดสอบติดเครื่อง (static fire test) ส่งผลให้ดาวเทียม Amos-6 ของ Facebook เสียหายทั้งหมด ซึ่ง Elon ก็ตอบกลับไปว่า "ผมผิดเองที่งี่เง่า แต่เราก็ได้ยิงจรวดให้ฟรีเป็นการตอบแทนแล้วนะ และพวกเขา [Facebook] น่าจะมีประกันแหละ"
จากเหตุการณ์อื้อฉาวของ Facebook ที่มีข้อมูลผู้ใช้หลุด 50 ล้านบัญชี ก่อให้เกิดกระแส #DeleteFacebook ชักชวนให้ปิดบัญชี Facebook ของเราทิ้ง
ล่าสุด Elon Musk ได้สั่งปิดเพจของ Tesla และ SpaceX แล้ว โดยเหตุการณ์เริ่มจากทวีตของ Brian Acton ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsApp ที่ออกมาสนับสนุนกระแส #DeleteFacebook เมื่อสามวันก่อน และ Elon Musk ได้ตอบทวีตของ Brian เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาว่า "อะไรคือ Facebook?" จากนั้นมีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งท้ากลับไปหา Elon ว่า "ลบเพจของ SpaceX ออกจาก Facebook สิถ้าแน่จริง" ซึ่ง Elon ก็รับคำท้า และทวีตว่า "ผมไม่รู้นะว่ามีเพจนี้ด้วย จะลบมัน"
เหตุการณ์ Cambridge Analytica ยังมีผลกระทบตามมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Elon Musk จัดการลบเพจของ ทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว
เริ่มจากการที่ Musk ไปแซว Brian Acton อดีตผู้ก่อตั้ง WhatsApp ที่หนุนกระแส #deletefacebook (ข่าวเก่า) จากนั้นจึงมีคนไปท้าให้เขาลบเพจของ SpaceX ซึ่ง Musk ตอบว่าเขาเพิ่งรู้ว่ามีเพจของบริษัทด้วยและจะลบแน่นอน หลังนั้นก็มีคนท้าให้ลบเพจของ Tesla ด้วย ซึ่ง Musk ก็รับปากทันทีแถมยังกล่าวว่ายังไงมันก็ดูไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว ซึ่งเพจทั้งสองก็หายไปในเวลาไม่นาน
ทั้งสองเพจมีผู้ติดตามรวมประมาณ 2.5 ล้านคนก่อนที่จะถูกลบไป
เราเห็นข่าวโปรเจ็คติดตั้งแบตเตอรี่สำหรับเมือง อย่าง Tesla Powerpack กันอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดมีรายงานว่า Tesla ได้ติดตั้งแบตเตอรี่ดังกล่าวให้กับเทศบาลเมือง Paluan มีประชากรราว 16,000 คน ซึ่งประสบปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยมาหลายปี และก่อนหน้านี้มีไฟฟ้าจากรัฐบาลใช้เพียงวันละ 16 ชั่วโมงเท่านั้น
โปรเจ็คนี้ทำโดย Tesla ร่วมกับบริษัทพลังงานทดแทนชื่อ Solar Philippines ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตไฟได้รวม 2 เมกะวัตต์ และแบตเตอรี่ Tesla Powerpack ความจุ 2 เมกะวัตต์ชั่วโมง โดยแหล่งข่าวระบุว่าระบบนี้สามารถจ่ายไฟได้ตลอด 24 ชั่วโมง และจะลดค่าใช้จ่ายได้ 30 ล้านเปโซฟิลิปปินส์ต่อปี หรือราว 18 ล้านบาท
เราเห็นการประกาศจะทำอะไรต่อมิอะไรของ Elon Musk เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ผ่านการประกาศบนทวิตเตอร์อยู่เนืองๆ และนี่ก็เป็นอีกครั้งหลัง Tesla Model 3 เกิดอุบัติเหตุและก่อให้เกิดปัญหาต่อเจ้าของรถเล็กน้อย แต่ Musk ก็ยังให้ความสนใจไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
มีข่าวรายงานว่า Tesla Model 3 คันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุอย่างร้ายแรง แต่ด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแรงของตัวรถ ทำให้ผู้โดยสารภายในแทบไม่ได้รับบาดเจ็บ (หน่วยกู้ชีพถึงกับบอกว่าถ้ารถไม่แข็ง คนขับไม่น่ารอด) ซึ่งเจ้าของรถก็โพสต์ประเด็นนี้ลงบน Reddit พร้อมชื่นชมการออกแบบรถของ Tesla
ก่อนหน้านี้ผู้ใช้รถ Tesla ทุกคนได้รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีจากสถานี Supercharger ที่กระจายตัวอยู่ทั่วทุกประเทศที่ Tesla เข้าไปทำตลาด ต่อมาได้ยกเลิกโครงการชาร์จฟรีกับผู้ที่ซื้อรถตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2017 โดยให้เครดิตชาร์จไฟฟรีปีละ 400 กิโลวัตต์ชั่วโมงแทน (คิดเป็นระยะทางที่วิ่งได้จากไฟฟรีประมาณ 1,600 กิโลเมตร) หากชาร์จเกินกว่านั้นต้องเสียค่าไฟเล็กน้อย ซึ่งต่างกันไปในแต่ละเมือง แต่หากเราซื้อรถ Tesla Model S และ X ผ่านโค้ดของเพื่อนก็ยังได้รับสิทธิ์ชาร์จไฟฟรีตลอดชีพอยู่
ล่าสุด Tesla ได้ปรับราคาค่าชาร์จไฟจากสถานี Supercharger ในสหรัฐอเมริกาขึ้นอีก 20-40% เช่นในรัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มจาก 20 เป็น 26 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือในนิวยอร์คเพิ่มจาก 19 เป็น 24 เซ็นต์ แต่ในรัฐโอเรกอนเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 12 เป็น 24 เซ็นต์
เมื่อสัปดาห์ก่อน Dr. Steve Pinker ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้กล่าวในพ็อดแคสท์ของเว็บไซต์ Wired โดยวิจารณ์ AI ด้วยการยกตัวอย่างรถขับอัตโนมัติของ Tesla มาว่าหาก Elon Musk จริงจังกับการคุกคามของ AI จริงๆ เขาควรจะหยุดพัฒนารถขับอัตโนมัติเสีย
Pinker กล่าวเสริมว่า Elon คงไม่มานั่งกังวลว่าจะมีใครเขียนโปรแกรมใส่รถ Tesla ว่าคำสั่ง "พาฉันไปที่สนามบินโดยเร็วที่สุด" แล้วรถจะวิ่งตัดตรง ชนคน และไถต้นไม้ เพราะนั่นเป็นผลจากการที่รถแปลคำสั่ง "พาฉันไปทางที่เร็วที่สุด" สุดท้าย Pinker ระบุว่าแบบนั้นมันดูแย่มาก และ Elon จะถูกฟ้องแน่
Tesla ยังคงขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของตนเรื่อยๆ ล่าสุดเปิดตัวโครงการ Workplace Charging เพื่อแจกเครื่องชาร์จรถยนต์ให้บริษัทและสำนักงานต่างๆ ฟรี สำหรับพนักงานที่ใช้รถยนต์ Tesla
Tesla ระบุว่าการชาร์จที่ดีและง่ายที่สุดคือการชาร์จที่บ้าน เสียบปลั๊กทิ้งไว้ทั้งคืนก็เพียงพอสำหรับผู้ใช้รถส่วนใหญ่แล้ว แต่สำหรับลูกค้าบางรายที่อาศัยอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ก็สามารถมาชาร์จที่ทำงานได้ ผ่านโครงการ Workplace Charging โดยบริษัทที่สนใจก็ติดต่อเข้ามาให้ Tesla พิจารณา และจะจัดส่งเครื่องชาร์จแบบติดผนังไปให้พร้อมติดตั้งให้ด้วย แลกกับการที่บริษัทนั้นๆ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าไฟเอง
Aspark บริษัทรถยนต์สปอร์ตจากญี่ปุ่นได้เปิดตัว Aspark Owl รถยนต์สปอร์ตไฟฟ้าในงาน Frankfurt Auto Show ปีที่แล้ว โดยระบุสมรรถนะบนเวทีว่ามีกำลัง 430 แรงม้า แรงขับ 563 ปอนด์ฟุต (ราว 763 นิวตันเมตร) และจากการทดสอบในสนามแข่งล่าสุดสามารถทำความเร็ว 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ที่ 1.921 วินาที
เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแรงบินสูงเหมือนกันอย่าง Tesla Model S100D เปิดโหมด Ludicrous ทำความเร็ว 0-60 ได้ 2.5 วินาที อย่างไรก็ตามการทดสอบของ Aspark Owl พิเศษตรงที่ใช้ยางไร้ดอกสำหรับการแข่งขัน ซึ่งถือว่าไม่ปลอดภัยบนท้องถนนทั่วไปและผิดกฎหมาย โดยทาง Aspark ระบุว่ากำลังพัฒนาให้ Aspark Owl สามารถทำความเร็ว 0-60 ได้ต่ำกว่า 2 วินาทีด้วยยางรถยนต์ทั่วไปให้ได้
นักวิจัยของ RedLock บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์รายงานการค้นพบว่า บัญชีคลาวด์ Amazon ของ Tesla ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ถูกแฮกและใช้เพื่อการขุดสกุลเงินคริปโต โดยนักวิจัยค้นพบช่องโหว่เมื่อเดือนที่แล้ว และค้นหาว่า credentials สำหรับบัญชี AWS บนอินเทอร์เน็ตที่ปรากฏเป็นของใคร ซึ่งข้อมูลบ่งชี้ไปที่ Tesla
นักวิจัยกล่าวว่า Tesla ไม่ได้จัดการป้องกันข้อมูลบนคอนโซล Kubernetes ไว้ดีพอ ซึ่งทำให้ข้อมูลสำคัญหลุดและแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงคลาวด์ของ Tesla ได้
หลัง Tesla Model S ครองส่วนแบ่งตลาดในเซกเมนต์รถยนต์หรูในสหรัฐมาระยะหนึ่ง ตอนนี้ข้ามฝั่งไปครองตลาดเซกเมนต์เดียวกันในยุโรปแล้ว จากรายงานของบริษัทวิจัยตลาด JATO Dynamics
ยอดขาย Tesla Model S ในยุโรปเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 16,132 คันเพิ่มขึ้นถึง 30% ตามมาด้วย Mercedes S class ที่ 13,359 คัน ลดลง 3% และ BMW 7 Series ที่ 11,735 ลดลง 13% อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นตัวเลขในยุโรป แต่ทั้งสองแบรนด์ยังคงครองตลาดในบ้านเกิดอย่างเยอรมนีอยู่
เช่นเดียวกับ Model X ที่กำลังค่อยๆ กินส่วนแบ่งในเซกเมนต์ SUV เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปีที่แล้วขายไป 12,000 คัน ใกล้เคียงกับ Porsche Cayenne และมากกว่า BMW X6 อยู่ 2,000 คัน
ทั้งนี้นอร์เวย์เป็นประเทศที่ Tesla มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์มากที่สุดถึง 52%
ยังคงมีการถกเถียงกันว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นสะอาดกว่ารถยนต์สันดาปภายในจริงหรือไม่ เพราะไฟฟ้าที่นำมาชาร์จก็อาจมาจากแหล่งที่ไม่เป็นมิตร เช่นถ่านหิน
ล่าสุดสมาคมรถยนต์ไฟฟ้าออสเตรเลีย ร่วมกับคลับคนใช้ Tesla ออสเตรเลียตะวันตกได้ทดลองชาร์จรถยนต์ Tesla Model S P85D ด้วยเครื่องปั่นไฟพลังดีเซล เทียบกับรถ Volvo V40 เครื่องยนต์ดีเซล 2 ลิตรที่เติมน้ำมันชนิดเดียวกัน แล้ววิ่งเป็นระยะทาง 104.6 กิโลเมตรไปพร้อมกัน สภาพอากาศมีแดดออก และการจราจรวิ่งได้ดี
ถึงแม้ Tesla Roadster จะไปไม่ถึงดวงจันทร์ (เอ่อ..หมายถึงดาวอังคาร) แต่อย่างน้อยก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว เมื่อนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต ใช้คอมพิวเตอร์คำนวนสถานการณ์จำลอง เพื่อทำความเข้าใจและคาดการการโคจรของรถยนต์ Tesla Roadster ในระบบสุริยจักรวาล หลังเลยวงโคจรของดาวอังคารไป
ผลการวิเคราะห์จากการคำนวนกว่า 240 ครั้งเผยว่า รถยนต์ Tesla Roadster จะกลายเป็นเทหวัตถุในระบบสุริยะไปอีกหลายสิบล้านปีและน่าจะอยู่ในชั้นในของระบบสุริยะเท่านั้น ไม่น่าไปไกลเกินกว่าแถบดาวเคราะห์น้อย โดยวงโคจรของรถทั้งในระยะสั้นและระยาวเหมือนจะขึ้นอยู่กับอิทธิพลจากแรงโน้มถ่วงในระยะกับโลก ก่อนจะเป็นอิทธิพลของดาวศุกร์เมื่อเวลาผ่านไป
เมื่อวาน SpaceX เพิ่งปล่อยจรวด Falcon Heavy ออกสู่อวกาศ สร้างความฮือฮาได้มาก ข้ามมาดูฝั่ง Tesla ที่มี Elon Musk เป็นซีอีโอเช่นกันเพิ่งรายงานผลขาดทุนประจำไตรมาส 4/2017
Tesla ระบุว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 บริษัทขาดทุนถึง 675.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท โดยในไตรมาสเดียวกันของปี 2016 ขาดทุนอยู่ที่ 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Steve Wozniak หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแอปเปิล กล่าวในงานสัมมนา Nordic Business Forum ที่เขาไปบรรยายที่สวีเดน โดยตอนหนึ่งพูดถึง Tesla ว่าเป็นบริษัทที่มักนำเสนอเรื่องราวเกินความจริงไปมาก
Wozniak มีรถยนต์ Model S ของ Tesla ถึงสองคัน เขาได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่รถประสบอุบัติเหตุ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเชื่อมั่นใน Tesla ได้อัพเกรดอุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่ม และเขาก็เชื่อที่ Elon Musk เคยกล่าวในปี 2016 ว่าจะได้เห็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนไปได้เองทั่วอเมริกาในปี 2017 แต่สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้น เพราะ Tesla เกิดกรณีขัดแย้งกับบริษัทที่ผลิตเซ็นเซอร์รถยนต์ตอนนั้น Wozniak บอกว่าตอนนี้เขาไม่เชื่อทุกอย่างที่ Elon Musk หรือ Tesla พูดแล้ว แต่ยังรักรถยนต์ของ Tesla อยู่
Tesla ออกมาประกาศแผนการจ่ายเงินผลประโยชน์ตามผลงานให้กับซีอีโอ Elon Musk ซึ่งการกำหนดเป้าหมายและผลตอบแทนแบบนี้ ฟังดูเป็นเรื่องปกติสำหรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เพียงแต่กรณีของ Elon Musk นั้นดูจะไม่ธรรมดาสักหน่อย
ผลตอบแทนนี้ Tesla เรียกว่า 10-year CEO Performance Award มีเป้าหมายให้ Musk ต้องทำให้มูลค่ากิจการของ Tesla เพิ่มขึ้น และทำให้ตัวเลขการดำเนินงานต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยเป็นการจ่ายผลตอบแทนในรูปของหุ้น Tesla ทั้งหมด 12 ครั้ง ภายในช่วงเวลา 10 ปีจากนี้ โดยการจ่ายแต่ละครั้งต้องผ่านเงื่อนไขทั้งสองอย่างดังนี้
หลังติดปัญหาคอขวดในสายการผลิตมานาน ขณะนี้ Tesla เริ่มผลิต Tesla Model 3 ได้มากขึ้นเรื่อยๆ และลูกค้าที่สั่งจองไว้ตั้งแต่เปิดตัวก็เริ่มได้รับรถกันแล้ว แต่เหตุการณ์แย่ๆ ก็ยังไม่จบ เนื่องจากลูกค้าจำนวนหนึ่งพบว่าพวกเขาได้วัสดุตกแต่งภายในเป็นผ้าธรรมดา แทนที่จะเป็น Alcantara ตามที่เข้าใจ
ลูกค้ากลุ่มที่มีปัญหาดังกล่าวจ่ายเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเพิ่มออปชัน Premium Upgrades เช่นเบาะนั่งปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง, เครื่องเสียงรอบทิศทาง, หลังคากระจก และวัสดุตกแต่งภายในแบบ "พรีเมียม" ซึ่ง Tesla ไม่ได้ระบุชัดบนเว็บไซต์ว่าเป็น Alcantara แต่รูปที่ใช้โฆษณากลับเห็นชัดเจนว่าเป็น Alcantara รวมถึงรีวิวที่ออกมาบนอินเทอร์เน็ตและรายงานจากผู้ที่ได้รับรถล็อตแรกๆ ก็ระบุว่าเป็น Alcantara