By: mk 
on 10 March 2023 - 17:02
Tags:
Lulu Cheng Meservey ผู้บริหารตำแหน่ง EVP Corporate Affairs & Chief Communications Officer ของ Activision Blizzard โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ อ้างว่า Jim Ryan ซีอีโอของ Sony Interactive Entertainmet (SIE) ตอบคำถามคณะกรรมการด้านการแข่งขันของสหภาพยุโรปที่เมืองบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่าเขาไม่ต้องการข้อเสนอใดๆ เรื่องเกม Call of Duty เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือขวางไม่ให้ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ Activision Blizzard ได้สำเร็จ ("I don’t want a new Call of Duty deal. I just want to block your merger.”)
Meservey ยังบอกว่า "พวกเรา" พยายามเสนอดีล Call of Duty ที่มีสัญญาระยะยาวให้กับโซนี่ แต่ก็ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด
ทั้งนี้ Meservey ไม่มีหลักฐานอ้างอิงอื่นว่า Jim Ryan พูดแบบนี้ แต่การที่เธอเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Activision Blizzard ซึ่งถือเป็นแกนกลางสำคัญของดีลนี้ออกมาพูดเอง ย่อมมีน้ำหนักไม่นอย
The CEO of SIE answered that question in Brussels.In his words: "I don’t want a new Call of Duty deal. I just want to block your merger.”
— Lulu Cheng Meservey (@lulumeservey) March 8, 2023
Jim Ryan ภาพจาก PlayStation
ที่มา - Windows Central
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- สรุปสาระสำคัญและของใหม่จาก Microsoft Ignite 2023 | Cloudnone Special EP
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
- Microsoft, Amazon, Google ประกาศตั้ง Data Center ในไทย แล้วไงต่อ | Cloudnone EP 16
- สงคราม GenAI บนคลาวด์ในปี 2024 ไปถึงไหนกันแล้ว | Cloudnone x AWS
Comments
ย่อมมีน้ำหนักไม่น้อย
แปลว่าอ้วนแต่ไม่คิดมากครับ
กินน้ำอยู่ตอนอ่านข่าว เกือบจะพุ่งเลย
Entertainmet => Entertainment
ดูๆแล้ว Sony คล้าย Epic เลยแฮะ บอกว่าคนอื่นทำลายวงการและยกยอตัวเองว่าทำเพื่อวงการและผู้เล่น แต่สุดท้ายก็ทำเพื่อตัวเองล้วนๆนั่นแหละ ถึงว่าทำไมสองค่ายนี้ถึงคบกันได้ (จริงๆตะหงิดๆตั้งแต่ก่อนข่าวนี้แล้ว แต่ถ้าข่าวนี้เป็นจริงก็ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่)
แถม Spotify ให้อีกตัวครับ คบกันได้
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
พึ่งอ่านข่าวเพจเกมถูกมา คิดในใจ ว่าประเภทเดียวกันกับ Sony เลยนี่หว่า มีคนคิดเหมือนกันด้วย
การที่ค่ายใหญ่ๆ ยุบรวมกันจนเหลือแค่ค่ายที่มีแพลทฟอร์มของตัวเองไม่กี่ค่าย ก็ไม่น่าจะเป็นผลดีรึปล่าวครับ
ตอนแรกว่าจะพิมพ์ดัก แต่คิดว่าไม่น่าจะจำเป็นก็เลยไม่ได้ดักไว้... สงสัยคราวหน้าจะพิมพ์ว่า Sony คงต้องดักไว้ตลอด
พฤติกรรมของ Sony กับการผูกขาดของ Microsoft มันเป็นคนละเรื่องกันครับ คนที่ไม่ชอบพฤติกรรมของ Sony ก็ไม่ได้แปลว่าจะเห็นดีเห็นงามกับ Microsoft เสมอไป เพราะงั้นอย่าเหมารวมกันครับ อย่างตอน Epic VS Apple ผมก็ไม่ชอบพฤติกรรม Epic แต่ก็เชียร์ให้ Apple แพ้คดีผูกขาดเช่นกัน (และอยากให้ Epic โดนฟ้องกลับด้วยซ้ำ)
ส่วนกรณี Microsoft... ส่วนตัวผมยังสองจิตสองใจ การซื้อกิจการมันก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้แข่งขัน ถ้ามากเกินไปมันก็ไม่เป็นผลดี แต่ถ้าไม่ได้มากเกินมันก็ช่วยกระตุ้นการแข่งขันได้ ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่น่าจะมากเกินไป แต่ก็ต้องรอดูว่าเขาจะตัดสินกันยังไง เพราะผมอาจจะยังมองผลกระทบได้ไม่ลึกพอก็ได้
ผมว่าหลักสากลคือ ก็ต้องคิดถึงตัวเองก่อน ถ้าตัวไปได้แล้วค่อยลงไปดูส่วนรวม น่ะครับ กรณีนี้ไม่ว่า Sony หรือ MS ก็คิดเหมือนกันแหละ คือต้องหาทางรอดให้ตัวเอง
อย่าง MS รอบนี้มาใหญ่ คิดว่าถ้าไม่ทำลายวงการเกมทิ้งเสียไปเลย (Disruption) ตัวเองก็ไม่น่าจะมีที่ยืน ก็เลยมาในรูปของ GamePass และผมก็คิดว่า จริง ๆ แล้วสิ่งที่โซนี่อยากล้มก็คือ GamePass มากกว่า แต่มันล้มทางตรงไม่ได้ ก็เลยใช้วธีกีดกันไม่ให้เกิดโดยการพยายามไม่ให้เกมใหญ่รายได้สูงเข้าไปอยู่ใน GamePass เช่น Call of Duty
สิ่งที่โซนี่พยายามบอกว่า "ทำเพื่อวงการ" นี่ น่าจะเป็นการสื่อไปถึงคนที่คิดเหมือนกันว่า ถ้า MS เกิดละก็ วงการเละแน่ๆ ก็เลยต้องพูดแบบเป็นคนดีหน่อยครับ จะได้ดึงคนที่มีแนวคิดเดียวกันมาร่วมได้ ซึ่งส่วนตัวคิดว่า คนที่น่าจะคิดเหมือนกัน น่าจะเป็นฝั่ง publisher เพราะในท้ายที่สุด ถ้า MS ดันเกิดจริง ๆ คนที่ตายกลุ่มแรก ๆ น่าจะเป็น publisher ครับ เพราะ MS น่าจะไปดีลกับทางผู้ผลิตเกมโดยตรงได้เอง แล้วก็ MS ก็ดันรวยพอขนาดที่จะทำแบบนั้นจริง ๆ ได้
ผมเข้าใจครับว่ายังไงทุกคนก็ต้องคิดถึงตัวเองอยู่แล้ว และผมเข้าใจดีครับว่ายังไงซะมันก็ต้องพูดให้ดูดีไว้ก่อนนั่นแหละ
แต่การคิดถึงตัวเองมันก็มีหลากหลายวิธีครับ เช่น คิดถึงตัวเองแบบแคร์ลูกค้า กับ คิดถึงตัวเองแต่ไม่แคร์ลูกค้า และการพูดให้ดูดีก็ต้องระมัดระวัง จะสักแต่พูดไม่ได้ เพราะแต่ถ้าการกระทำมันขัด มันก็ทำลายความน่าเชื่อถือของคำพูดไป
ซึ่งการกระทำของ Sony ที่ผ่านมารวมกับข่าวนี้ ในมุมมองของผมก็คือ ปากว่าตาขยิบเชื่อไม่ได้และไม่แคร์ลูกค้า จะบอกว่าผมมองตื้นเขินก็ได้นะ แต่ถ้าแค่มองตื้นๆแล้วเห็นชัดแบบนี้ ไม่ว่าสุดท้ายใครจะแพ้หรือชนะ ผมก็มองว่า Sony ก็เชื่อไม่ได้และไม่ได้ทำเพื่อลูกค้าอย่างจริงใจอยู่ดีครับ
ย้ำอีกครั้ง ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ว่า MS หรือ Sony ใครถูกใครผิดนะครับ แค่ผมไม่ชอบการกระทำของ Sony (ไม่ได้หมายถึงที่ Sony ฟ้อง MS) เท่านั้นเอง
ทำไม game pass ถึงทำวงการเกมพังอะครับ?
ไม่เห็นด้วยกับส่ิงที่ อีปิกทำนะ แต่ไม่เห็นด้วยกับส่ิงที่เอเปิล ซึ้งตอนนี้จะเห็นได้เลย พอมีปัญหาตอนนี้ เอเปิลก็พยายามปรับให้ทำอย่างอื่น ไม่ต้องผูกขาดที่เอเปิล ฝ่ายเดียว
ให้คนที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดถ้าดีลสำเร็จออกมาพูดก็จะประมาณนี้แหละครับ
โห แบบนี้ยกนิ้วให้เลยครับ
ส่วนทาง Activision Blizzard นี่ก็แบบ ขายตัวเองจริงจัง ฮาร์ดเซลล์สุด ๆ ตูต้องขายตัวเองให้ได้ เพราะผลประโยชน์ของผู้บริหารกับผู้ถือหุ้น นี่ก็ไม่ใช่คนดีหรอกครับ ก็แค่คนทำธุรกิจอีกคนเท่านั้นแหละ
+1 ผู้บริหาร Activision ก็ใช่ว่าจะชื่อเสียงดี
ถ้า ms ซื้อ ea แทน
sony จะขวางไหม?
ผมไม่ชอบ game passหรือบริการรายเดือน รู้สึกไม่ดีใจอนาคตยังไงชอบกล รู้สึกว่าส่งผลเสียแน่ๆอธิบายไม่ถูก แต่เกมดีๆให้เช่าเล่นราคาถูกคิดดีไม่ได้จริงๆ ส่วนตัวชอบซืีอขาดมากกส่าแม้จะแพง
The Last Wizard Of Century.
สำหรับความรู้สึกผม ผมรู้สึกว่ามันเหมือนยุคที่เกมแท้ที่เป็นแบบกล่อง กับแบบดิจิตอลที่กำลังเข้ามาแทรกแซงในตอนนั้น เราไม่ค่อยชอบแต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ทำใจให้ชิน
มีมันก็ดีนะครับ เล่นได้เกือบทุกเกมที่มี สนุกไม่สนุกก้ไม่รู้ แต่ได้เล่นแน่ๆ เหมือนเช่าเว็บสตีมมิ่ง แต่ถ้าซื้อมาแพงๆ เล่นไปไม่สนุก น่าเสียดาย
ปกติไม่สนุกจริงๆ ก็ Refund นะครับ แต่พูดเรื่องราคาจ่ายหลักร้อยเล่นเกมหลักพัน ก็ทำให้คิดหนัก ยิ่งเกมแพงๆ สมัยนี้ไม่ได้การันตีคุณภาพด้วย
Call of Duty อืมเล่นไม่เป็นอ่ะ ได้แค่คอนทราฟามิคอม เต็มที่แค่นั้น แนวเดินยิง เลยไม่เข้าใจความสำคัญของเกมนี้เท่าไหร่
เชียร์ MS ให้ซื้อพี่เหลี่ยม
jim จอก จอก 555+
รอบนี้ผมเข้าข้าง ms นะเพราะตลาดคอนโซลตอนนี้ที่ต้องไปพึ่งยี่ห้อเดียวแล้วหาซื้อของไม่ได้นี่ยังไงก็ไม่โอเคกระจายช่องทางการเล่นไปอยู่ที่อื่นมากๆดีกว่า