จากข่าวที่แล้วว่าจ๊อบส์คิดยังไงกับ WebM และ VP8 และลิงค์ไปยังบล็อกผู้พัฒนา ซึ่งให้ความเห็นว่า VP8 ด้อยกว่า H.264 แต่ในมุมมองผู้ใช้อาจมีคำถามว่าด้อยกว่าแล้วยังไง ในเมื่อ VP8 นั้นเปิดให้ใช้ฟรี หากไม่ด้อยกว่ากันจนน่าเกลียด VP8 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าอย่างแน่นอน
การเปรียบเทียบได้ทำการแปลงไฟล์ต้นฉบับเป็น VP8 และ H.264 โดยมีรายละเอียดดังนี้
| VP8 | H.264 | |
|---|---|---|
| ประเภทไฟล์ | WEBM | MPEG-4 |
| ขนาดไฟล์ | 21.63 MB | 21.44 MB |
| ชนิด Codec | VP8 | MainConcept H.264 |
| อัตราการบีบอัด | 438 kbps | 439 kbps |
| ขนาดภาพ | 480x360 | 480x360 |
สามารถดาวน์โหลดมาดูเองได้ สำหรับไฟล์ H.264 และไฟล์ VP8 ซึ่งไฟล์ VP8 ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมเพิ่มเติมก่อนครับ
ส่วนการเปรียบเทียบแบบเฟรมต่อเฟรมให้ตามที่ดูในเว็บที่มาได้เลยครับ
ที่มา - Streaming Media via Slashdot
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
ถ้าขนาดไฟล์ที่ได้มันใกล้เคียงกันขนาดนี้ คุณภาพผมก็ว่าไม่น่าเกลียด ก็น่าสนับสนุน VP8 นะครับ = ="
ใช่ครับ ภาพใกล้เคียงกันมาก จนแทบจะเขียนความแตกต่างไม่ได้
จำได้คร่าวๆว่า ตอน mp3 เปิดตัว มันก็มีอีกหลายฟอร์แมทออกมาแข่ง บิทเรทสูงกว่า เสียงดีกว่า(ถ้าหูไม่เทพแยกไม่ค่อยออก)
คู่แข่งที่ตกรอบไป เท่าที่จำได้ sony (atrac มั้ง), windows wma, อะไรอีกมั่งอ่ะ
แต่สุดท้าย mp3 ก็กลายเป็นมาตรฐานไป เพราะฟรี
ผู้มีส่วนผลักดันสำคัญก็คือ ipod + itunes แต่มันไม่ต้องเสียค่า ไลเซ่น ของ mp3 เสียแต่ค่า ไลเซ่นของตัวเพลงเอง
ราคาเพลงมันก็เลยไม่สูงมาก
ถ้าต่อไป ขายหนังซักเรื่อง ต้องเสียทั้งค่า ไลเซ่นหนัง + ไลเซ่น codec + ฯลฯ มันจะไหวไม๊
แค่ drm ก็แมวไล่จับหนู วุ่นวายไม่เลิก
แต่ในแง่มุมของคนพัฒนาก็ต้องหารายได้ตอบแทนเหมือนกันนะ
อ้าว!!! ผู้มีส่วนผลักดัน MP3 ก็คือ ipod + itunes หรือครับ คิดว่า vampire ซะอีก
Vampire มาทีหลังครับ ประเทืองมาก่อน
555+ ดักแก่กันเลยทีเดียว
แถวบ้านผม PRINCO รู้สึกจะดังที่สุดนะ ตอนนั้นน่ะ ไม่ค่อยได้ยิน Vampire-ประเทือง เลย ช่วงนั้น
iPod/iTune ไม่ได้ผลักดัน MP3 ตรงกันข้าม iPod/iTune ผลักดัน AAC แต่ก็ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผลักดัน AAC
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
MP3 เป็น Format ที่เสียตังส์น่ะครับ เบื้องหลังการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี MP3 ของสถาบันเฟราน์โอเฟอร์ WebM ของ Google ยังต้องใช้ Ogg แทนเลย
+1 MP3 ไม่ฟรีครับ
ครับผมจำได้ว่าไม่ฟรีนะ
^ ^
MP3 ไม่ฟรีนะครับ ! http://mp3licensing.com/royalty/
จริง ๆ คือ มันเกิดมาก่อนต่างหาก ก็เลยมีฐานผู้ใช้กว้าง พอเจ้าอื่นมาสู้ก็เลยตามไม่ค่อยทัน เพราะฐานผู้ใช้มันวิ่งไปไกลแล้ว
แถม OGG หัวเรือไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรง - -
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
VP8 is still immature, yet it can be matured before 2016.
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เปิดให้ใช้ฟรี แต่เกิดวันดีคืนดีพบว่ามีสิทธิบัตรบางอย่างซ้อนทับกัน มีการฟ้องร้อง
แบบนี้จะไม่คุ้มสำหรับ VP8 หาก Google พิสูจน์ได้ว่า ของฟรีอันนี้ไม่มีทางที่ใครจะมาฟ้องร้องแน่นอน
เมื่อนั้น VP8 อาจจะมีการยอมรับในวงกว้าง แต่ตอนนี้กลุ่ม MPEG-LA ยังได้เปรียบอยู่เยอะ
ความสนุกของระบบสิทธิบัตรของสหรัฐฯ มันอยู่ตรงนี้ล่ะครับ ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่างานตัวเองไม่ซ้อนกับสิทธิบัตรไหน สิทธิบัตรบางอันถูกจดแบบครอบจักรวาล (จนไม่น่าผ่านเป็นสิทธิบัตรแต่แรก) ฯลฯ
ถ้าเชื่อว่ามีทางที่จะพิสูจน์ว่าไม่มีทางถูกฟ้องนี่ อาจจะต้องตามข่าวสิทธิบัตรในสหรัฐฯ ดูครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เรื่องอื่นไม่รู้ล่ะ แต่ดูแล้วคุณภาพใกล้เคียงกันมาก
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
ชนิด Codec VP8 vs MainConcept H.264
ผมว่า MainConcept เชี่ยวชาญเรื่อง H.264 encoder มานาน
ผมว่า VP8 ตัว encoder ต้องปรับปรุงอีกเยอะ/ยาวนาน ครับ
ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า ตรงหน้าผาก VP8 ดูนิ่มๆไป ส่วนH.264 ดูรอยย่นชัดเจนกว่า
(ดูจากแค่รูปที่แคปมานะครับ ยังไม่ได้ดูไฟล์vdo)
มันต้องเทียบกันหลายๆ ภาพครับ
ภาพที่ยกมาพื้นดำ มีรายละเอียดของภาพไม่ถึงครึ่งภาพเอง ด้วย bitrate เท่านั้นมันก็ต้องได้ภาพที่ใกล้เคียงกันอยู่แล้ว
ต้องลองกดเข้าไปดูที่ที่มาครับ จะเห็นว่าภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงภาพบ่อยๆ เช่นภาพเคลื่อนไหว H264 จะให้ผลที่ดีกว่า ในขณะที่ VP8 เห็นเป็นเหลี่ยมๆ กันเลยทีเดียว
ไม่ใช่ว่าไม่เชียร์ของฟรีนะครับ แต่ด้วย bandwidth ที่เสียไปเท่ากัน ผมก็อยากได้ภาพที่มีคุณภาพที่ดีกว่า (มองมุม user อย่างเดียวเลยผม)
เรื่องคุณภาพคงเทียบกันไม่ใด้ เพราะ h264 ทำมานานแล้ว
แต่นอกจาก VP8 จะฟรี(หรืออย่างน้อยก็น่าจะถูกกว่าเพราะเพราะเจ้าของต้องการเช่นนั้น ยังไช้ MKV และ OGG)แล้ว ยังมีเรื่องอัตราการไช้ cpu โดยเฉพาะบนมือถือ/netbook จะเปิด h264 ต้องมีชิพพิเศษเพื่อประมวลผลกันเลยทีเดียว
WebM เป็นก้าวแรกที่ยังรอการปรับปรุง และมันมีที่ให้ปรับปรุงอีกมาก
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เรื่องอัตราการใช้พลังงาน หรือการใช้งาน CPU นั้น ในอนาคตไม่น่าจะน่าเป็นห่วงครับ
เพราะแนวโน้ม CPU รุ่นใหม่ๆ น่าจะพยายามใส่ DSP Core สำหรับประมวลผล Video โดยเฉพาะ
ซึ่งน่าจช่วยแบ่งเบาภาระ CPU ได้โข
ตอนนี่ที่ทำแบบนี้แล้วคือ Tegra 2 และผมเชื่อว่า CPU ของ Galaxy S ก็คงทำแบบนั้น
แล้วถ้า VP8 โตจนแทนที่ H264 ใด้เลยไม่ต้องไช้ DSP Core ที่ว่าหละครับ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สองรูปนี้น่าจะตรงเวลากันเลยนะ อันนี้ต่างกัน 3 วิแน่ะ
จริงด้วย แต่หน่วยน่าจะเป็นเฟรมนะครับ
จริงๆ ผมก็ผิดเป็นมิลลิเซ็ค จิ๊ดเดียว
ผมเชื่อว่า จะขายได้ดี หรือขายไม่ได้ดี ไม่ได้ขึ้นกับ คุณภาพในการบีบอัด แต่กลับไปอยู่ที่ เครื่องที่จะอ่านมัน mp3 ขายดีได้ มีที่นิยมใช้กันเยอะ ไม่ใช่ว่ามันฟรี (แต่ก็เกือบ) ไม่ใช่ว่าคุณภาพอัดดี ไม่ใช่ว่า Sony / Apple เชียร์ แต่เป็นที่เครื่องเล่นจีน เล่นไฟล์นี้ได้มาก
ไฟล์ AVI แม้จะมีหลายเรื่องแล้วที่ใช้ mpeg4 ในระดับบิตเรตสูงๆ แต่ผมยังเห็นไฟล์หนังที่ encode เป็น divx / xvid อยู่เลย โดยเฉพาะหนัง AV คาดว่าเป็นเพราะเพราะเครื่องเล่นดีวีดี ราคาถูกจากจีนมันยังเล่น mpeg4 ไม่ได้ (ผมไม่ได้พูดถึงเครื่องเล่นระดับ Hi-def นี่เครื่องจีนตัวละ 499฿)
จะฟรีได้จริงๆ หรือเปล่า และถึงฟรีได้จริงๆ ก็ต้องรอดูว่าจะเข็นกันได้แค่ไหน เพราะ ogg ฟรีก็ยังชนะ mp3 ไม่ได้เลย หวังว่าคงไม่ต้องเป็นสงครามยาวนานนะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Partners/Supporters สามารถทำให้คาดเดาอนาคตได้ครับว่าจะรอดหรือไม่รอด บริษัทใหญ่ๆที่สนับสนุนเท่าที่เห็นก็มี
Software - Chrome, Firefox, Opera, Flash, CoreCodec, Oracle, Skype, Sorenson
Hardware - ARM, AMD, NVIDIA, IMG(PowerVR), Broadcom, MIPS, TI, Qualcomm, Marvell
ที่สำคัญที่สุดคือ Publisher ซึ่ง Google เป็นหัวเรือใหญ่ทางนี้อยู่แล้วจาก Youtube นอกจากนี้ยังมี Brightcove และผู้ให้บริการแนว Platform อีกหลายรายเช่น HD Cloud, Kaltura, Hey!Watch
ส่วนตัวผมไม่คิดว่ามันจะชนะหรือทำให้ H.264 หายไปนะ แต่มันจะมีที่อยู่เฉพาะของมัน และ H.264 ก็จะมีที่อยู่เฉพาะของ H.264 มากกว่า ซึ่งก็อาจจะใช้งานควบคู่กันไปได้
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
น่าติดตามครับ .... อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ อย่างน้อยก็ดีในการแข่งขันให้ Codec มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นครับ : )
ปล.รอดู VP20 หรือ H.270 ฮาๆ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
แล้ว x264 มันเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ยครับ
H.264 เป็นฟอร์แมตครับ
มีซอฟต์แวร์สำหรับเล่นไฟล์ H.264 อยู่หลายตัว โดยมี x264 เป็นหนึ่งในนั้น
็H264 เป็น codec ครับ
ส่วน x264 เป็น library ในการเข้ารหัส video ให้เป็น H264
มีหลายโปรแกรมใช้ x264 ในการเข้ารหัส ครับ