แม้ว่า Apple จะออกแถลงการณ์ไปเมื่อคืนนี้ และยินยอมที่จะแจก Bumper ให้ฟรีไปแล้วนั้น Consumer Reports หรือสมาคมผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่เคยออกมาบอกว่าไม่แนะนำให้ซื้อ iPhone 4 นั้น ก็ยังคงออกมาบอกอยู่ดีว่า ยังไงก็ไม่แนะนำให้ซื้อ iPhone 4 ถึงแม้ว่า Apple จะยอมแจก Bumper ให้ฟรีนั้น แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น เพราะว่าข้อเสนอที่จะแจก Bumper นั้นมีกำหนดสิ้นสุดข้อเสนอในวันที่ 30 กันยายนนี้ อีกทั้งยังไม่รองรับกลุ่มลูกค้าที่ใช้ Case อื่นของ iPhone 4 ที่ไม่ใช่ของ Apple อีกด้วย (ในวันแถลงข่าว Apple จะมีข้อเสนอในการแจก Bumper ที่มาจาก Third Party ฟรีก็จริง แต่ตอน Refund ค่า Bumper นั้น ไม่ได้เงินคืนเหมือนกับ Bumper ของ Apple เองนะครับ) ซึ่งเมื่อ Consumer Report ดูแนวทางการแก้ไขของ Apple ไปแล้วนั้น ก็ยังคงที่จะไม่แนะนำให้ซื้อ iPhone 4 อยู่ดีครับ
ที่มา : Mac Rumors ผ่าน PhoneMove.com
Comments
"Macrumors" แก้เป็น "Mac Rumors", "via" แก้เป็น "ผ่าน"
ขอคอมเม้นต์ที่ไม่เกี่ยวกับข่าวนะครับ
"ดูเหมือนผมทำให้ที่นี่ครึกครื้นกับภาษาของผมมากเชียวนะ!!"
+1 ครับ
หลัง ๆ มานี่ ผมก็เอาใจใส่กับการเขียนคอมเม้นต์ มากขึ้นนะครับ ( ไม่นับความไร้สาระ )
ทุกวันนี้ผมไม่ได้เรียน และเรียนมาน้อย แต่พี่ nuntawat และ blognone ทำให้ผมรัก และใส่ใจการพิมพ์ภาษาไทย ให้ถูกต้อง อ่านง่าย และเป็นทางการมากยิ่งขึ้น จริง ๆ ครับ
WE ARE THE 99%
เรียบร้อยครับ ^^
ไม่เข้าใจ
ถ้ามือถือทุกเครื่องเป็น เค้าก็ใช้กันมาได้หลายปีแล้วโดยไม่ต้องมี bumper
แล้ว apple จะมาแจกทำไม
แล้วถ้า Apple บอกทุกเครื่องเป็นหมด แล้วทำไม user เองกลับบอกกันว่าเป็นแค่บางเครื่อง
แล้วจะเชื่อใคร!!
ลองไปดู presentation นะครับ มีคำตอบหมดเลย :)
ลองดู Presentation แล้วครับ ไม่ตอบอะไรเลย
ถ้าเป็นไปได้รบกวนสละเวลามาให้ความรู้ผมหน่อย
ผมว่าคุณฟัง Jobs พูดไม่ทันรึเปล่าครับ สไลด์ไม่ได้บอกข้อมูลมากนะ ส่วนใหญ่มาจากคำพูด Jobs อะครับ
"แถ" มีความหมายในภาษาอังกฤษว่ายังไงครับ?
Driff ไงครับ อิอิ
หรือว่าป๋าจ๊อปส์กำลังขับรถกลับบ้าน หลังจากส่งเต้าหู้เสร็จ ??
อันนี้ฮาครับ
Sarcasm detected!!! กัดจ๊อบส์ใช่มั้ยครับเนี่ย
ผมก็เห็นด้วยกับ report ครับ รอตัว revision ใหม่ที่แก้ไขปัญหานี้แล้ว
ถือว่าเป็นข่าวดังแห่งปี ดังตั้งแต่เปิดตัว ยันสินค้าออกวางจำหน่ายเลยทีเดียว
มันยากนะครับ อ้อยเข้าปากช้างแล้ว
ขายไปแล้วตั้งหลายล้านเครื่อง
ผมว่าจ็อบยังคงมั่นใจว่าสาวกยังไงก็ต้องยังเชื่อเค้าอยู่ ชาบูๆ
ฝรั่งเลวๆ ก็มีนะ
นี้ไม่รู้ไปรับเงินจากคู่แข่งให้พูดแบบนี้หรือป่าว
คือว่า ท่าทีหน่ะ ทำไมดู แข็งแรงจังเลย
แล้วเป็นการตอกย้ำ
มองดู องค์กรนี้ก็ไม่ผิด เพราะพูดความจริง
แต่ทางการให้ข่าว ยังไงก็ยังแปลกๆอยู่ดี
งานหนักจริงๆ แอ็ปเปิ้ล สู้ๆรอดูอยู่ จริงใจหน่อย..
ยังไงก็ตามผิดก็ออกมายอมรับ และก็ต้องยอมรับผิดชอบ การแก้ไขล่าสุดของ Apple ผมว่า ก็ยังดีกว่าไม่ทำ แต่เหมือนกับแก้ไขให้ผ่านไป ผมยังมองว่า Apple ยังไม่จริงใจ มันก็ตรงกับ Consumer Report ที่กล่าวไว้ มันไม่ทั้งหมด และประเด็นอีกอย่างคือ กว่า Apple จะออกมายอมรับ ต้องรอให้เกิดความเสียหายถึงขั้นที่สุด หรือเรื่องแดง หากไม่ร้ายแรงก็ปล่อยไป แก้ข่าวกันไป ผลร้ายตกอยู่กับผู้บริโภค ที่ซื้อสินค้าไปแล้ว มันควรต้องออกมารับผิดชอบ ณ ตอนนั้นเลยและแก้ไขซะ มันจะทำให้คนศรัทธา Apple มากขึ้นไปอีก ตรงกันข่าว ณ จุดนี้มันทำให้คนที่อยากจะเปลี่ยน ต้องถอยหน้าถอยหลัง ยกเว้นแต่ สาวก (Fanboy) เท่านั้นที่ไม่สนว่าจะไม่ดีอย่างไร
อยากให้ Apple จริงใจสักหน่อย ยอมรับ ซะ และจริงๆ ควรจะเรียกคืนแล้ว redesign ซะใหม่ จะดีกว่า แก้ปัญหาแบบนี้ เพราะ Apple ฟันเงินกับสาวกไปเยอะแล้ว ก็ควรออกมาทำอะไรเพื่อสาวกแบบจริงใจบ้าง
เหนด้วยกับย่อหน้าแรกคับ ทางแอปเปิลก็ full refund ให้กับคนที่อยากคืนเครื่องแล้วคับ
อีกอย่างขายออกไปแล้ว 3 ล้านเครื่อง แต่ user ที่มาเรียกร้องจริง ๆ มีสักกี่คนเชียวคับ
ปัญหามันไม่ได้เกิดกับทุก ๆ เครื่องนะคับ
นักข่าวไม่กี่สำนัก แต่เสียงดังกว่า user 3 ล้าน ถ้าทุกเครื่องมีปัญหา มันคงเสียงดังมากกว่านักข่าวล่ะคับ เพราะ ตั้ง 3 ล้านคนเชียวนะคับ
มีผู้ใช้เรียกร้องแม้สักหนึ่งคน ก็นับว่าเป็นปัญหานะครับ
ไม่ได้แปลว่าคนเรียกร้องน้อย แล้วมันไม่ใช่ปัญหา
แต่พอมีเรื่องเกิดขึ้นเยอะ นักข่าวก็ตามมา ที่สำคัญคุณลองไปอ่านรีวิวทั่วเน็ต คนที่เจอปัญหาก็คือตัวนักข่าวเองทั้งนั้น
อย่าพยายามลากไปเป็นว่าสื่อโจมตีแอปเปิลเลยครับ มันมีเหตุเกิดขึ้นจริง ไม่อย่างนั้นนักข่าวเจ้าดังๆ ไม่มาสนใจขนาดนี้หรอกครับ
+100 คับ มีคนร้องเรียนแม้แต่คนเดียวก็นับว่าเป็นปัญหาครับ เพราะทุกคนคือลูกค้า คนที่ทำให้บริษัทอยู่ได้คับ
การเรียกคืนแล้ว redesign ผมคิดตั้งแต่แรกว่าคงไม่มีทางเป็นไปได้อ่าครับ ไม่ใช่เพราะคิดว่า Apple ยังไงก็ไม่แมนพอ แต่เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ยักษ์ขนาดนั้น เพราะเวลาจับปกติก็ไม่ตกมากนัก ต้องเริ่มบีบนิดๆจึงเริ่มลดฮวบ
อีกอย่างการ redesign ผมรู้สึกว่า เป็นจุดจริงจังมากๆของ Apple และคงเกิดขึ้นไม่ได้ในเดือนสองเดือน ทั้งเวลาการทดสอบ ในด้านต่างๆ และเวลาที่ใช้ตัดสินใจว่าเป็นดีไซน์ที่เหมาะสมจริงๆ ถ้าผมเป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจใน Apple ก็คงมีนโยบายแบบนี้เช่นกันครับ
การเรียกคืนจำเป็นต่อเมื่อปัญหาร้ายแรงมาก เช่นกรณีรถโตโยต้านั้นปัญหาเรื่องเบรก ซึ่งมันอันตรายมากๆ จึงต้องเรียกคืน กรณีใช้การ์ดจอ Nvidia ความร้อนนั้นส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ภายในอื่นๆได้ และหมายถึงการที่โน๊ตบุคจะพังไปเลย ทำให้ต้องเรียกคืน แต่กรณีนี้การเรียกคืนเกือบจะมีแต่ผลเสียครับเพราะ
1.การออกดีไซน์และทดสอบดีไซน์ใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องสัญญาณลดที่ดูเหมือนเกิดขึ้นกับมือถือหลายๆรุ่นในท้องตลาด ซึ่งก็ใช่ว่าดีไซน์ใหม่ Apple จะแก้ได้(Apple เพิ่งเข้าสู่ธุรกิจมือถือปีที่ 4 เองนะครับ)
2.การเรียกคืนมีค่าใช้จ่ายสูงมากทั้งที่ปัญหาไม่ใช่หนักหนาสาหัส
3.การเรียกคืนจะทำให้คนมองว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาหนักกว่าที่เป็นจริง
4.มือถืออื่นบางรุ่นมีปัญหานี้เช่นกัน การที่ Apple เรียกคืนทั้งที่คนใช้ค่ายอื่นไม่ค่อยสังเกตและพูดถึงจะกลายเป็นว่า Apple ห่วยคนเดียว
ตัวผมเองยังเป็นนักศึกษา(นักเรียนม.ปลาย) ยังไม่มีรายได้ ผมก็ยินดีจะอยู่กับ Nokia3250 ฝาหลังแตกของผมต่อไปอย่างมีความสุข ผมไม่ใช่สาวก แต่ผมก็ขอบอกตรงนี้ว่าหากผมมีรายได้ iPhone4 ยังคงเป็นมือถือที่โอเคที่สุดในสายตาผม ปัญหาสัญญาณไม่ได้ร้ายขนาดนั้น และเวลาใช้ผมก็ไม่บีบเครื่องอยู่แล้วครับ
ผมยกให้ ดราม่า iPhone 4 เป็นดราม่าแห่งปี ครับ
ยังไม่เชิงดราม่านะครับ ยังไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรงเหมือนในอดีตเลยครับ และไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นด้วยครับ
มันเกือบๆแล้วน่ะครับ แต่ดีที่สาวกไม่ออกมาต่อต้านคนที่ไปขุดคุ้ยเรื่องไม่ดีมาแฉ ไม่งั้นยาวแน่นอน
ยังไงก็อยากจะให้แอปเปิ้ลจำไว้เป็นบทเรียนก่อนจะออกตัวใหม่ต่อไป
เอาใจช่วย apple ให้ผ่าน วิกฤตนี้ นะครับ แก้ไขให้ดีขึ้น ไม่นานคนก็ใช้เหมือนเดิม
กำเงินรอรุ่น Minor Change เหมือนพวกรถ Honda ดีกว่า O-o
คิดว่าถ้ายังแก้ปัญหาไม่ได้คงต้องมีการออกรุ่นใหม่มาเร็วขึ้นหรือเปล่านะ
ไม่ปลื้มเหมือนกันคับ เหมิอนแก้ปัญหาไม่ตรงจุดซักเท่าไหร่
เบรคโปรเจค รอ i5 ทั้ง intel (ลงใน mbp 13") ทั้ง iphone :P