โนเกียได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าปัญหาการขัดแย้งกันระหว่างแอปเปิลกับบริษัทกรณีที่แอปเปิลได้ละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีมือถือหลายฉบับได้จบลงแล้ว โดยการที่แอปเปิลได้ตกลงที่จะจ่ายค่าตอบแทน (Royalty Fee) ให้กับโนเกีย
สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนให้กับโนเกียในครั้งนี้ เป็นการจ่ายเพียงครั้งเดียวสำหรับสินค้าทุกอย่างที่ละเมิดสิทธิบัตรของโนเกียจนถึงวันนี้ และหลังจากนั้นแอปเปิลจะต้องจ่ายค่าตอบแทนนี้ให้กับโนเกียต่อไปเรื่อย ๆ ในฐานะผู้ถือไลเซ่นส์สิทธิบัตรของโนเกีย ซึ่งจะได้รับสิทธิในการผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีตามสิทธิบัตรของโนเกียอย่างถูกต้องต่อไป
ซีอีโอของโนเกีย Stephen Elop ยังได้ออกมาบอกอีกว่าการที่แอปเปิลเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ถือไลเซ่นส์ในการใช้สิทธิบัตรของโนเกียเป็นการแสดงให้เห็นว่าบริษัทเป็นผู้นำทางด้านสิทธิบัตรอย่างแท้จริง และสามารถที่จะทำธุรกิจในด้านสิทธิบัตรต่อไปได้
ที่มา - 9to5Mac
Comments
ซื้อโนเกียเลยก็ดีนะครับ...
แพงนะครับ เพราะ nokia ใด้กำไรจากอุปกรณ์ที่ระบบ มือถือ bluetooth wifi ทุกเครื่อง ทุกยี่ห้อ มานานมาก
แถมยังมียอดขายเป็น no 1 ในมือถือ - ที่รวมมือถือทั้วไป - ด้วย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คนยุดต่อไปจะทำมาหากินยังไง พอโตๆก็โดนเรื่องสิทธิบัตร ต้องระแวดระวังกันสุดๆ
ของดีๆอยู่ในมือคนที่ไม่ใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์ พอคนอื่นยืมไปใช้เกิดประโยชน์ก็มางอแงเสียดายของ
ปล. บ่นๆไปงั้น กลัวๆเหมือนกันเรื่องพวกนี้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ
Standard Web Programmer.
คงต้องรอหมดอายุ ไม่ก็ปฎิวัติ!
@TonsTweetings
ตรงไปตรงมาดีครับ
positivity
ว่าแต่ละเมิดเรื่องอะไรหรอ?
อัพลิงค์ให้แล้วครับ :p
@TonsTweetings
มีไอค่อนแสดงระดับสัญญาณโทรศัพท์บนหน้าจอ ??? (จะว่าไป Windows Phone ก็ไม่มีตรงนี้นะ)
เดี๋ยวพอ Nokia WP7 มา เดี๋ยว Nokia จะเติมให้ :D
ขออภัยมันขึ้นสองอัน
"สำหรับการจ่ายค่าตอบแทนให้กับโนเกียในครั้งนี้ เป็นการจ่ายเพียงครั้งเดียวสำหรับสินค้าทุกอย่างที่ละเมิดสิทธิบัตรของโนเกีย และหลังจากนั้นแอปเปิลจะต้องจ่ายค่าตอบแทนนี้ให้กับโนเกียต่อไปเรื่อย ๆ ในฐานะผู้ถือไลเซ่นว์สิทธิบัตรของโนเกีย"
ผมรบกวนอธิบายตรงนี้หน่อยครับ ผมไม่เข้าใจว่าตกลงจ่ายครั้งเดียว หรือต้องจ่ายเรื่อยๆ
พอดีไม่ค่อยแม่นเรื่องลิขสิทธิ
ขอบคุณครับ
คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ละเมิดมาจนถึงวันนี้ -> จ่ายเป็นก้อนเดียว
จากนั้นเพื่อที่จะผลิตสิ่งเหล่านี้ต่อไปเรื่อย ๆ -> จ่ายต่อไปเรื่อย ๆ
@TonsTweetings
อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง คือที่เคยละเมิดมาก็ไปตกลงกันแล้วจ่ายครั้งเดียว (คิดว่าได้ส่วนลด อิอิ)
ขอบคุณครับ
ถ้างั้นก็ควรจะเขียนอธิบายให้เข้าใจในบทความเลยนะครับ
โนเกียได้เงินก้อนใหญ่มาช่วยดันโปรเจกท์ WP7 แล้ว อ่ะฮิๆ
+1
Happiness only real when shared.
ไม่ต้องทำมันแล้ว โทรส่ง โทรศัพทอะไรอ่ะ - -*
อือ... คิดเหมือนกัน ง่ายกว่าขายมือถืออีก
รายอื่นอาจจะโดนด้วยในนาทีนี้ยกเว้น MS อิอ
M$ อาจจะได้ส่วนลดมากกว่า
Microsoft เลยไม่ทำโทรศัพท์เองมั้งครับ พออยากทำจริง ๆ ก็ส่งสายไปให้ผลิตแบบไม่ต้องจ่ายแทน
ที่ MS ไม่โดนเพราะได้จับมือกับ Nokia ในเรื่องแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกันไปแล้ว จะมาฟ้องกันเองอีกก็ยังงัยๆ อยู่...
เฉกเช่นเดียวกับ ที่โนเกียจับมือกับอินเทลพัฒนา Meego นั่นแหล่ะ เป็นการร่วมมือทางเทคโนโลยีจึงไม่สามารถฟ้องร้องได้เพราะใช้สิทธิบัตรร่วมกัน...
หากแอปเปิลเลือกที่จะร่วมพัฒนาเทคโนโลยีกับ Nokia แทนที่จะซื้อ license มาใช้ คิดว่า app อาจจะไม่ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรก็ได้...
ว่าแต่... app จะทำมั้ย... ถ้าทำจริงๆ นี่...เหล่าสาวกแอนดรอยมีหนาวอีกรอบ... เพราะเบื้องลึกๆ โนเกียก็แอบจับมือกับ Google เพื่อทำอะไรบางอย่างอยู่เช่นกัน...
สงสัยมั้ยว่าทำไม data center แห่งใหม่ของ Google ถึงต้องไปตั้งใน ฟินแลนด์ บ้านของโนเกีย....หุๆ
ค่าไฟฟ้าใน data center ส่วนหนึ่งใช้ไปในระบบปรับอากาศ เพื่อระบายความร้อนที่เกิดในอุปกรณ์ แต่ถ้าอากาศหนาว ก็สามารถเลิกใช้เครื่องทำความเย็น และปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบไหลเวียนอากาศแทน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการ operation ต่ำกว่ามาก
การตั้ง data center ของ Google คิดกันมากนะครับ มีทั้งศึกษาว่า โซนไหนค่าไฟถูก โยกย้ายงานไปรันบนโซนนั้นๆเพื่อประหยัดค่าไฟ
ในดีมีร้าย ในร้ายมีดี
กฎหมายที่รุนแรงคนดีใช้ก็ดี คนไม่ดีใช้ก็ไม่ดี
ไม่พลาด ตามคาด thank you. :)
Apple แก้แค้นด้วยออก iphone รุ่นเล็กตีตลาดล่าง nokia สุดท้าย nokia เปลื่ยนรูปแบบธุรกิจขายสิทธิบัตรอย่างเดียว
งั้นแปลว่ามือถือแอนดรอยทั้งหลายต้องจ่ายให้ทั้ง Nokia ทั้ง MS เลยสิ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
อาจจะเป็นอีกค่าใช้จ่ายแฝงในการใช้ Android อย่างที่ MS เคยบอกไว้ก็ได้ อิอ
ผมมองว่าระบบนี้มันห่วยมากเลยนะครับ(ยิ่งกว่าที่เคยมองเมื่อก่อน)
คือสิทธิบัตรคล้ายๆ กันก็มี ค่ายใหญ่ๆ ก็เอาไว้ป้องกันการโดนฟ้องได้ แต่พอรายที่ไม่มีปุ๊บมันไม่ใช่ว่าจ่ายรอบเดียวให้คนเดียว แต่ดันต้องจ่ายให้ทุกเจ้าที่มีสิทธิบัตรคล้ายๆ กันนั้น
May the Force Close be with you. || @nuttyi
คนบางคนเลยเรียก Android ว่า "a ticking time bomb" มันมีอีกหลายอย่างที่นอกจาก Nokia จะฟ้องได้ (แม้กระทั่งแอปเปิลยังจะฟ้องก็ทำได้)
@TonsTweetings
MS บอกว่ามีการละเมิด แต่ฟ้องเฉพาะค่ายล็กๆ ชึ่งส่วนใหญ่ไม่อยากขึ้นศาล
แต่บางเจ้าก็บอกว่าสิทธ์บัตรของ MS นั้นไช้ไม่ใด้แล้ว พ้องกันยังไม่จบครับ
เมื่อการฟ้องจบแล้วก็จะรู้ว่าต้องจ่าย MS หรือไม่ เท่าไร่ ชึ่งสุดท้ายค่า Android ก็จะถูกกว่า WM7 อยู่ดี
แต่ไช่อย่างหนึ่งคือ ทุกค่าย รวมถึง apple ต้องจ่าย Nokia
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าที่มือถือมันราคาแพง ทั้งๆ ที่รู้กันว่าต้นทุนมันสุดถูกนี สงสัยเป็นเพราะหมดกับค่าสิทธิบัตรต่อเครื่องไปเยอะแล้ว :P
ไมโครซอฟท์ระบุ "Android ละเมิดสิทธิบัตร", HTC ยอมจ่ายเป็นเจ้าแรก
ลายเซ็นยาวเกินไปครับ
ก็ถูกไง เหมือนว่าทั้ง MS และ Nokia มีสิทธิบัตรคล้ายๆ กันอยู่(แถมเป็นพันธมิตร) ถ้าแอนดรอยไปละเมิด เราควรจ่ายให้เจ้าไหน? หรือว่าต้องจ่ายทั้งหมด ทั้งๆ ที่มันเป็นเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
รอ 100 ปี ให้สิทธบัตรหมดอายุ