ทุกคนคงรู้กันดีว่าแอปเปิลออกโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพที่ชื่อว่า Final Cut Pro X ราคา 299.99 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณเป็นเงินไทยที่ 8800 บาท แต่เรื่องมันไม่จบเพียงแค่นี้
หลังจากแอปเปิลออกโปรแกรมนี้มาไม่นาน ผู้ใช้หลายรายเรียกร้องว่าโปรแกรมนี้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ผู้ใช้ระดับมืออาชีพต้องการไม่ได้เลย จนถึงขนาดที่มีคนให้คะแนนเป็นดาวใน Mac App Store เพียง 1 ดาว มากกว่า 500 คน
แอปเปิลจึงได้ดำเนินการจ่ายคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อโปรแกรมนี้ไป โดยการคืนเงินนั้นจะแจ้งให้ผู้ที่โหลดโปรแกรมนี้ไป (บางคน) ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของแอปเปิลด้านฝ่าย Support ใน Mac App Store โดยเขาจะพูดถึงที่มาที่ไป แล้วพนักงานของแอปเปิลจะให้เราแจ้งความจำนงขอคืนเงิน อ่านต่อเพื่อทำความเข้าใจต่อได้ที่ที่มา
ที่มา Thaimacupdate ครั้งแรกที่ Macrumors
Comments
แอปเปิลเรียกเงินคืนจากผู้ซื้อ
ซื้อไปแล้วยังโดนเรียกเงินคืนอีกเหรอครับเนี่ย :P
มันหมายความว่าแอปเปิลต้องจ่ายเงินคืนให้ผู้ซื้อครับ เพราะโปรแกรมมันกากเกินครับ
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
Edit: แก้แล้วนี่นา อิอิ
ตามที่มา แอปเปิ้ลไม่ใช่ฝ่ายที่ติดต่อไปยังผู้ซื้อนะครับ แต่บอกว่า แอปเปิ้ลยอมให้ผู้ซื้อที่คอมเพลนขอเงินคืน ไม่ใช่การประกาศว่าจะคืนเงินให้ทุกคน
แก้ให้แล้วครับ ใส่รูปมาเพิ่มด้วยแหละครับ :)
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
คุณ iPoohs ความพยายามสูงมากครับ เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผมและคนอื่นๆ เลยนะเนี่ย ขอนับถือๆ
ผมว่าคำว่า เรียกคืนเงิน มันแปลกๆนะ ถ้าหาคำสั้นๆมาลงหัวข้อไม่ได้ อธิบายยาวๆก็ได้มังครับ
เหมือน Microsoft ออก MS Office 2011 รันโหมด 64-bit แท้ๆ
แต่ เปิดไฟล์ .doc ที่มีอยู่ก็ไม่ได้, เปิด ODF ก็ไม่ได้ ต้องสร้างใหม่อย่างเดียว แถมฟีเจอร์ที่ควรจะมีในการทำหนังสือ,วิทยานิพจน์ก็ไม่มี เช่น การทำดัชนี, สร้างสารบัญ, แทรกคอมเมนต์/note หาย แถมกลับใจจะซื้อ Office 2007 เพื่อมารันแก้ขัด ก็ดันไม่ขายแล้วอีกต่างหาก
เห็นภาพเลย
โหลดแบบ portable มาใช้ก้ได้ครับ ใน 4share เพียบเลย เสียตังแล้วได้โปรแกรมแย่กว่าเก่าอีกจะไปซื้อมาทำไม
จริงหรอเนี่ย
ดีนะเนี่ยที่ไม่ได้ ลง Office 64 บิต
ด้านบนเค้าแค่จะเทียบให้เห็นภาพเฉยๆนะครับ ผมว่า
Office 2011 ของ Mac แล้วจะซื้อ Office 2007 มาแทนได้อย่างไร :-)
ผมว่าคุณพยายามจะสร้างสถานการณ์สมมติขึ้นมาใช่มั้ยครับ คิดว่าบางคนเขาตามไม่ทัน ... หรือผมเข้าใจผิด ??
ผมสมมติเปรียบเทียบครับ (บรรทัดแรก ต้นประโยคก็บอกนะว่า เหมือน)
เพราะอ่านฟีเจอร์ที่ขาดไปแล้ว คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้รู้เรื่องการตัดต่อวิดีโอไม่รู้เรื่องแน่ๆ
เลยสมมติเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวคนกลุ่มใหญ่ขึ้นมานิดหนึ่ง เลยคิดว่า Word นี่แหล่ะใกล้ตัวสุด
เลยสมมติว่า ไมโครซอฟท์ออก Office เวอร์ชั่นใหม่ แต่ขาดฟีเจอร์สำคัญๆไปในการทำเอกสารแบบใช้ฟีเจอร์ชั้นสูง มาเป็นตัวเทียบแทน ซึ่งหลายคนเคยสัมผัส (ทำวิทยานิพจน์, ทำสารบัญ, ทำรีวิว/โน้ต) น่าจะได้เข้าใจความรู้สึกได้
จะเปรียบแบบหยาบๆ ก็เหมือนเอา WordPad มาแต่งหน้าทาปาก เพิ่มฟีเจอร์นิดหนึ่ง แล้วดันเรียกว่า Word 2011 คนที่เคยใช้ Word มาทั้งชีวิต ได้ปากล่องทิ้งซะปะไร (แค่เปิดรุ่นเก่าไม่ได้นี่ก็อยากจะปาแล้ว)
ขนาดบน Windows 7 เว็บ MS ยังแนะนำให้ใช้ Office 2010 เวอร์ชัน 32 บิท บน Windows 7 64 บิท เลยครับ = =
คำฟุ่มเฟือยยังเยอะมากครับ แนะนำให้เขียนแล้วลองตัดเองให้เหลือครึ่งหนึ่งด้วยใจความเท่าเดิมครับ ตัวอย่าง
ทุกคนคงรู้กันดีว่าแอปเปิลออกโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ Final Cut Pro X ราคา 299.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเป็นเงินไทยที่ 8800 บาท
ย่อหน้านี้ควรจะเล่าเรื่องเรียงลำดับเวลาจากผู้ใช้เรียกร้องก่อน แล้วแอปเปิลค่อยจ่ายเงินคืน
จะให้ดีควรใส่ source เป็นต้นทางจริงๆ เช่น เว็บแรกที่เอาอีเมลคืนเงินมาเผยแพร่
ขอบคุณนะครับ แก้ให้เรียบร้อยแล้วครับ:)
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
ประโยคนี้ผมยังอ่านไม่รู้เรื่องนะครับ เรียกผู้ใช้นี่คือเรียกไปหาที่บริษัท???
เรื่องการใส่รูปและใส่ break ลองดูตัวอย่างจากข่าวอื่นๆ ครับว่าเรียงยังไง
แก้ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ:)
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
อ่านแล้วก็ยังไม่รู้สึกต่างจากเดิมเท่าไรครับ
พอโอเคยังครับ สามารถแนะนำมาได้เสมอนะครับ เพราะผมจะพยายามแก้ให้เร็วที่สุดครับ:)
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
อยากรู้อ่ะครับว่าอะไรที่ใช้ไม่ได้ ตามที่มืออาชีพเขาต้องการ
เท่าที่ผมทราบตอนนี้คือมัน import ไฟล์งานเก่าเข้าไม่ได้ครับ (ต้องสร้างใหม่หมดอย่างเดียว)
แล้วก็ฟีเจอร์เก่าๆ ในเวอร์ชันเก่ากว่าก็ยังไม่มีในเวอร์ชันใหม่ (แต่จำเป็นต้องใช้) ก็ไม่มีมาให้ (ซึ่งแอปเปิลสัญญาว่าจะเพิ่มเติมให้ในอัพเดทต่อๆ ไป)
เท่าที่ผมอ่านมาเข้าเรียกว่า iMovie Pro เลย เหมือนว่าฟีเจอร์จะหายไปตามราคา Apple พยายามทำให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน ราคาไม่สูง แต่ลืมไปว่า Final Cut มืออาชีพเขาใช้กัน ซึ่ง Final Cut Pro X ต้องเรียนรู้วิธีใช้เครื่องมือใหม่หลายอย่างเลย ซึ่งเดิมๆมันก็ดีมากอยู่แล้วขาดแค่ realtime preview สำหรับที่ผมเคยใช้นะ
อันนี้เลยครับ อธิบายความรู้สึกของมือโปรหลังจากใช้งาน Final Cut Pro X
ใช้ดีมากๆ
ของเค้าดีจริงๆ ครับ ดุจากวีดีโอนี้ได้ ตัดต่อจาก Final Cut Pro X
เจ๋งมาก!
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
By @iPoohs
Visit My blog
"Stay hungry.Stay foolish" -Steve Jobs
ของดีแต่ user มือไม่ถึงก็โดนด่าว่าห่วยงี้แหละครับ
Apple Product เค้าสำหรับมือโปร!!
ฮามาก
ดูคลิปนี้แล้วคงต้องรีบตีตัวออกห่างจากโปรแกรมนี้อย่างรวดเร็ว
จุดกากที่สุดของ fcp เทียบกับตัวอื่นๆคือ import image sequence ไม่ได้ครับ
ฟังชันก์มาตรฐานเลยที่ fcp ไม่มีไม่รู้ว่า fcpx มีหรือยัง
ผมใช้ใน final cut express แบบโกง ๆ หน่อยครับ โดยไปตั้ง default length ของรูปแค่ 1 frame และก็ select รูปทั้งยวงมาลงใน sequence เองครับ ซึ่งก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาครับ
Apple พลาดซะแล้ว...
ตั้งใจจะให้ผู้ใช้ตามบ้านใช้ง่าย แต่ลืมว่ามันเป็นโปรแกรมสำหรับโปร...
+1
ผมรู้สีกว่า 'ทุกคนก็รู้กันดีว่า...' มันแปลตรงๆจากภาษาพูดในภาษาอังกฤษ สำหรับภาษาไทยถือเป็นวลีฟุ่มเฟื่อย ตัดทิ้งทั้งวลียังไม่ทำให้ความหมายตกไปเลยครับ
แสดงให้เห็นว่า บุคคลที่ซื้อไป ซื้อทั้งที่ไม่ได้ทดลองใช้ หรือ อ่านรายละเอียดของ Product หรือเปล่าหว่า
เอางี้ เหมือน MS Office ครับ รุ่น 2007 เวลาออกมาใหม่ๆ มีใครอยากจะทดลองก่อนซื้อรึเปล่า หรือ อ่านรายละเอียดรึเปล่า ก็เปล่าครับ เพราะคนทั้งหลายเคยใช้หรือเคยเห็นรีวิวของ Office ตั้งแต่ 1.0, 1.5, 3, 4, 95, 97, 2000, 2003 มาเรียบร้อยแล้ว
อย่างมากก็ดูว่า รันบนวินโดวส์ที่ตัวเองใช้อยุ่ได้รึเปล่า กับดู/ศึกษาฟีเจอร์ใหม่ๆก็แค่นั้นครับ
แต่นี่ให้จองล่วงหน้า แถมซื้อไปปุ๊บ เปิดของเก่าไม่ได้นี่ก็ฮาแล้วครับ
ปัญหาเกิดจากไม่มี Trial ให้ทดลองใช้ หรือครับ - -?
อย่าง Microsoft Office มีเช่น http://office.microsoft.com/en-us/try/ ใช้ทดลองดาวน์โหลดไปใช้
แต่ Final Cut Pro เขาไป http://itunes.apple.com/us/app/final-cut-pro/id424389933?mt=12 เห็นแต่ Buy Now อย่างมาสุดเจอแต่ราคา จะทดลองใช้ต้องเข้าไปทางไหนครับ