แอปเปิลก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาในตลาด (Market Capitalization) สูงที่สุดในโลกไปเรียบร้อยแล้วแซง Exxon Mobil หลังปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นอเมริกาเมื่อคืนนี้ โดยคืนก่อนหน้านี้แอปเปิลยังเป็นอันดับ 1 ในบางช่วงเวลาของตลาดหุ้น
ราคาหุ้นแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) ปิดเมื่อคืนนี้ที่ $363.69 ลดลง 2.8% ตามตลาดหุ้นรวมที่ปรับลดลงเมื่อคืน ทำให้แอปเปิลมีมูลค่ากิจการตามราคาตลาด 3.37 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ Exxon Mobil (NYSE:XOM) มีมูลค่า 3.31 แสนล้านดอลลาร์ หลังหุ้นปรับลดลงแรงถึง 4.4% ซึ่งถ้าดูมูลค่าของทั้งสองบริษัทที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าต่างลดลงมามากทั้งคู่ในเวลาเพียงสองสัปดาห์ แต่ Exxon Mobil ลงมามากกว่า จึงทำให้แอปเปิลแซงหน้าไปได้ในที่สุด
Exxon Mobil เป็นบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกมาตั้งแต่ปี 2006 โดยเสียตำแหน่งบางไตรมาสให้กับ Petrochina ของจีนที่ทำธุรกิจน้ำมันเหมือนกันและเพิ่งเข้าตลาดหุ้นในปี 2007 การขึ้นเป็นบริษัทอันดับ 1 ของแอปเปิลนี้ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมไอทีกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากไมโครซอฟท์ก็เคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกเมื่อปี 1999-2000 และปี 2003
เมื่อกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ย่อมมีแรงคาดหวังต่อเนื่อง บรรดานักวิเคราะห์ทั้งหลายจึงออกมาให้ความเห็นต่ออนาคตว่าแอปเปิลจะเติบโตไปได้อีกมากแค่ไหนดังนี้ครับ
Robert Cyran จาก Reuters มองว่าแอปเปิลยังมีศักยภาพพอที่จะเป็นบริษัทระดับล้านล้านแห่งแรกได้ เพราะบริษัทยังมียอดขายเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทอื่นถึง 10 เท่า และราคาหุ้นแอปเปิลปัจจุบันก็ซื้อขายด้วยอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) 11 เท่าซึ่งน้อยกว่าเมื่อสมัยปี 2006 ด้วยซ้ำ
Brian Marshall จากบริษัทวิเคราะห์ Gleacher & Co. กล่าวว่าแอปเปิลตอนนี้ไม่เหมือนบริษัทเทคโนโลยีทั่วไปแล้วที่เติบโตเพียงช่วงขณะแล้วก็เติบโตน้อยลง แต่สินค้าของบริษัทได้กลายเป็นสินค้าอุปโภคที่ขายได้เรื่อยๆ เติบโตต่อเนื่องไม่สะเทือนแม้เศรษฐกิจจะมีปัญหา อีกทั้งถ้าแอปเปิลยังรักษาระยะเวลาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ต่อเนื่อง ก็ควรจะได้เห็นสินค้าตัวใหม่อีกในปี 2013 ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นไปอีก
Brian Caulfield แห่ง Forbes มองว่าธุรกิจโทรทัศน์มูลค่าแสนล้านดอลลาร์คือเป้าหมายถัดไปของแอปเปิล ทั้งนี้เขามองว่าราคาหุ้นแอปเปิลวันนี้ก็ไม่ได้ซื้อขายในราคาที่สูงเกินไป ราคาหุ้นวันนี้สะท้อนจากการเติบโตของบริษัทมากกว่า
Jonny Evans แห่ง CW เปรียบเทียบไว้คมๆ ว่า Exxon ขุดเจาะน้ำมันใต้พื้นโลกเพื่อแปลงเป็นเงิน แต่แอปเปิลขุดเจาะความคิดความต้องการของมนุษย์ที่ไม่สิ้นสุดด้วยเทคโนโลยี
สุดท้าย Gizmodo (เอ่อ..) มองว่านี่คือจุดเริ่มต้นของจุดจบแบบเดียวกับไมโครซอฟท์และโซนี่ เพราะแอปเปิลขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ก็เพราะการควบคุมตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงระบบปฏิบัติการ แต่ยังมองว่าสุดท้าย Exxon Mobil ก็จะกลับคืนบัลลังก์เพราะวิสัยทัศน์บริษัทไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุคคลคนเดียวแบบที่แอปเปิลเป็น และต้องยอมรับว่าสุขภาพของสตีฟ จ็อบส์ก็เป็นเรื่องที่นักลงทุนกังวลกัน
ที่มา: BBC และ Business Insider
Comments
ไม่มีเหมือน อ่านแล้วเหมือนคำว่ามีจะเกินมาครับ (อยู่ bullet ที่สอง)
แก้แล้วจ้า
เงินเยอะขนาดนี้ Apple น่าจะซื้อเกาะเล็กๆซักเกาะนึง ตั้ง AppleLand ไปเลย
ประชากรไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็มีคนอยากโอนสัญชาติไปอยู่ด้วยเพียบ
แล้วก็ขายของหาเงินเข้าประเทศ บริหารประเทศเล็กๆที่ชื่อ AppleLand ไปเลย
เมื่อถึงเวลาเป็นอย่างนั้นไหนๆ ก็นะ ปรับรูปลักษณ์เกาะไปด้วยเลย เกาะรูปผลไม้ อิอิ
ทำไมผมนึกถึงการ์ตูนเบิร์ดแลนด์หว่า
I need healing.
หากทองคำหมดก็เอา iphone, ipad เป็นมาตราฐานการแลกเปลี่ยนเงินได้เลยนะเนี่ย
แลกเปลี่ยนแล้วเก็บไว้ได้ไม่เกินปีนะครับเดี๋ยวตกรุ่น :)
เห็นราคา 1 หุ้นแล้วมัน.. -*-
May the Force Close be with you. || @nuttyi
เงิน apple เยอะขึ้นครับแต่ไม่ได้เยอะขึ้นมาก แต่ที่เป็นเหตุผลสำคัญเลยคือ Exxon หุ้นตกฮวบๆเลยต่างหากจนมูลค่ามันลดอย่างที่เห็น (ตอนนี้ที่เมกาเค้ากำลังโทษกันไปมาอยู่ว่าใครเป็นต้นเหตุ ผมคิดว่าเป็นแก็สโซฮอล :P)
อ่านหัวข้อข่าวนึกว่า Apple ขึ้นพรวด ที่ไหนได้ EXXON ตกฮวบ
Exxon สินทรัพย์มากกว่า Apple ชัวร์
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เคยดูมาคุ้นๆว่ามากกว่าแอปเขียวประมาณ 4เท่ากว่าๆคับ
คงได้เห็นยุคที่ทุกอย่างในบ้าน มีแต่ของใช้ Apple ไม่เว้นทีวี แอร์ 555