ที่งาน f8 ซึ่งเป็นงานสำหรับนักพัฒนาประจำปีของเฟชบุ๊กมีแถลงข่าวถึงฟีเจอร์ใหม่ที่เริ่มใช้งานในวันนี้คือ Timeline และ Open Graph API รุ่นใหม่ที่กำลังจะค่อยๆ เปิดทีละฟีเจอร์ภายในสองสามสัปดาห์ข้างหน้า
มันคือหน้า Wall แบบใหม่ที่ออกแบบสำหรับการดูอดีต "ทั้งหมด" ของคนที่เรามีสิทธิ์เข้าดู จากเดิมที่เรามักจะดู Wall ย้อนหลังไประยะหนึ่งเท่านั้น
Timeline จะมีความสามารถในการสรุปเรื่องราวต่างๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านไป เช่นเดือนปัจจุบันอาจจะแสดงทุกกิจกรรมที่เราทำในเฟชบุ๊ก แต่ปีถัดๆ ไปจะเริ่มย่อลงเรื่อยๆ สรุปบางเหตุการณ์เป็นกลุ่ม โดยด้านบนสุดจะเปิดให้เราแต่งหน้าตาได้เองบ้างด้วยการเลือกรูปหลัก เลือกข้อมูล profile สำคัญๆ มาแสดง และใส่สรุปข้อมูลสำคัญๆ เป็นรูป ตรงนี้จะทำหน้าที่เหมือนหน้า info ปัจจุบันแต่ข้อมูลน้อยกว่า
เมื่อเลื่อนลงมา มันจะเป็นเส้นเวลาเหมือนในหน้า Wall ปรกติที่แสดงรูปหรือข้อความต่างๆ จุดสำคัญของฟีเจอร์นี้คือเราสามารถ "ย้อนเวลา" กลับไปโพสเรื่องราวในอดีตได้แล้ว
แอพพลิเคชั่นเองสามารถบันทึกกิจกรรมของตัวเองลงมายัง Timeline ได้อย่างไม่จำกัด โดยหากเยอะเกินไปเฟชบุ๊กจะ "รวบ" กิจกรรมเยอะๆ เหล่านั้นให้เอง แต่จะมี API สำหรับการโพสเนื้อหาแบบ Report และ Aggregation เพื่อให้แอพพลิเคชั่นสามารถทำสรุปเช่นรายงานวิ่งของเดือนนั้นๆ หรือรูปภาพทั้งหมดของอาหารที่กินในช่วงเวลาที่กำหนด
API รุ่นใหม่ของเฟชบุ๊กจะเปิดให้นักพัฒนาสามารถขอสิทธิในการโพสแบบไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้าได้แล้ว (Automatic Channel) โดยทุกครั้งที่โพสมันจะไปแสดงใน Ticker เท่านั้น แต่ไม่รับประกันว่าจะแสดงใน News Feed ปรกติแต่อย่างใด (ทำให้เฟชบุ๊กไม่กลัวเรื่องความรกแล้ว)
เวลามีกิจกรรมคล้ายๆ กันเฟซบุ๊กจะรวบเข้ามาเป็นกลุ่มๆ แสดงเฉพาะรูปภาพไอคอนของเพื่อนเราที่มีกิจกรรมคล้ายๆ กันเพื่อประหยัดที่
API รุ่นใหม่นี้จะทำได้มากกว่าการ Like แล้ว โดยเฟชบุ๊กจะกำหนดคำ "กริยา" มาให้จำนวนหนึ่ง ให้เราเขียนแอพพลิเคชั่นไปแสดงว่าผู้ใช้แอพพลิเคชั่นกำลังทำอะไรได้ ตอนนี้ที่มีแน่ๆ เช่น ฟัง (listen), ดู (watch), ทำอาหาร (cook) ในตอนนี้ยังไม่มีรายชื่อคำกริยาทั้งหมดที่เฟชบุ๊กเปิดให้ใช้ แต่คาดว่าเราคงได้เห็นคำการ "อ่าน" หรือ "ออกกำลังกาย" อีกแน่นอนเพราะงานนี้มี Kobo และ Nike+ ร่วมด้วย
เฟซบุ๊กเรียกช่องทางการสื่อสารทั้งหมดนี้ว่า Social Channel โดย API ในการโพสนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว แต่ช่องทางการแสดงผลนั้นจะต่างกันไป คือ Timeline จะแสดงตามความสำคัญของกิจกรรมนั้นๆ, News Feed จะแสดงตามค่า Social Rank ซึ่งคำนวณตามพฤติกรรมแต่ละคน, และ Ticker แสดงทันทีมี่ทำกิจกรรมนั้นๆ
งานนี้ถ้าคนที่ชอบเปิดเผยความเป็นตัวเองก็น่าจะชอบมากที่เปิดเผยตัวได้ทั้งอดีต (Timeline) และปัจจุบัน (Ticker) แต่ถ้าใครไม่ชอบ อาจจะได้เวลาเลิกเล่น
ที่มา - Timeline, Facebook Developer
Comments
ชักเล่นชักงง
คุณ lew นอนดึกจังนะครับ อิอิ
ชอบประโยคทิ้งท้ายมากครับ
twitter.com/exfictz
+1 ผมเลิกเล่นไปแล้วตั้งแต่มี Ticker มาเจอแบบนี้อีก โอ้มายกอด รู้กันหมดทุกเรื่องเลยสิทีนี้ เลิกๆๆ
ตรงใจมาก
จะเป็น OS อยู่แล้ว! >_<
my blog
มันคือไดอารี่ที่เพื่อนๆ แสดงความเห็นได้สินะ!
ได้เวลาเลิกเล่นแล้ว = =
แฟนผมยิ่งชอบขุดอดีตขึ้นมาฆ่าผมอยู่ เข้าทางเจ๊แกเลยแบบนี้
+1 ครับ นิสัยเหมือนกัน
แต่ถ้าจะหาเรื่องโดยการขุดอดีตขึ้นมาเล่น ไร้สาระ ผมก็ยอมเลิกครับ
Technology is so fast!
เลิกเล่นเหรอครับ?
onedd.net
อันนี้มันมาแทนหน้า profile เดิมหรือว่ามันมาแทนหน้า wall ของเราคับ เห็นใน blog ของ Facebook บอกว่ามันคือ 'new profile' เลยคิดว่า wall น่าจะยังเป็นแบบเดิมหรือใกล้เคียงแบบเดิมอยู่
เป็น wall ของเราครับ ผมได้ใช้แล้ว
timeline มาแทน wall ใน profile ของเราครับ ส่วนหน้าแรกก็มีการปรับการเลือกข้อมูลมาแสดงผลเหมือนกัน
ตั้งแต่เล่นเฟซรู้สึกว่าตัวเองแก่ไปเยอะ
เหมือนกันครับ เอ๊หรือว่าผมได้เวลาแล้ว +_+
D-Mail?
555555 คิดได้ไงเนี่ย
ต้องเอาคอมต่อกับไมโครเวฟด้วยป่ะ
เดียวยอีกหน่อยต่อหูฟัง แล้วจะส่งความจำกลับไปอดีตได้ด้วย
รู้สึกเหมือน fb พยามดันเรื่องความเป้นส่วนตัวในเรื่องการโพส แต่กลับพยายามทำลายความเป้นส่วนตัวในเรื่องประวัติส่วนตัวแทน
รอ Facebook ปรับเรื่อง Privacy อยู่เหมือนกันครับ รู้สึกว่าคนอื่นเข้าถึงได้มากเกินไป
Facebook 2.0
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ผมไม่ได้ชอบเปิดเผยตัวตนอะไรขนาดนั้น แต่ผมกลับชอบ ทำไมไม่เหมือนชาวบ้านหว่า
เรื่องความเป็นส่วนตัวเค้าคงปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆนะครับผมว่า ทุกวันนี้เรื่องใหญ่พอควร
f8 = feight = fate หรือเปล่าครับ ?
หรือว่า faith
มันกำลังจะย้อนกลับเป็น Hi5
มันซ่อนอยู่ในแถบ ตอนเลือนลงมาดู timeline ด้านล่าง
ปวดหัว ไม่รู้เป็นอารายยยยย