จากข่าว ผู้จัดการฝ่ายสินค้า Adobe บอกแอปเปิลทำให้ Flash บนมือถือ "ตาย"
ผมจึงขอแปลฉบับเต็มจากบล็อกของ Mike Chambers มาให้ทุกคนอีกครั้งหนึ่งครับ
โดย Mike Chambers, Sr. Product Manager, Developer Relations
ผมทำงานเกี่ยวกับ Flash และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน Flash มา 12-13 ปี (หากนับรวมทั้งที่อยู่กับ Macromedia และ Adobe ก็มากกว่า 10 ปี) ผ่านในช่วงเวลาที่เป็นขาขึ้นและขาลง
แต่ผมคิดว่าเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา (วันที่ Adobe ประกาศหยุดพัฒนา Flash Player สำหรับมือถือ)
เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตการทำงานของผม ผมจะชี้แจงบางส่วนของข่าวเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว และอยากบอกข้อมูลเพิ่มเติมว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับ Flash
อันดับแรก สาระสำคัญจาก แถลงการณ์ของ Adobe มีดังนี้
เราปรับโฟกัสทิศทางของ Flash Platform ไปที่
เรายังคงทุ่มเททรัพยากรของเรา (ทั้งเงินและวิศวกร) เพื่อพัฒนาเครื่องมือสำหรับ HTML5 ต่อไป
ประเด็นสุดท้ายเป็นจุดสนใจมากที่สุด และก็สร้างความสับสนมากที่สุดด้วย จนทำให้ทุกคนลืมมองข้อเท็จจริงทั้งหมดไป
บทเรียนจากกรณีนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเราเป็นผู้สื่อสารที่ไม่ค่อยดีนัก ไม่สามารถสื่อได้ชัดเจนว่าทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์แบบนี้
ผมรู้ดีว่าข่าวนี้สร้างความผิดหวังให้กับชุมชนนักพัฒนา Flash และผมอยากใช้โอกาสนี้กล่าวคำขอโทษ เราสื่อสารว่าเราจะ "ทำอะไร" ได้ชัดเจน แต่เราไม่ได้ใส่ใจที่จะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจมากพอว่า "ทำไม" ถึงทำเช่นนี้
ดังนั้นได้โปรด อดทนอ่านคำชี้แจงที่แสนจะยาวของผมนี้ ผมต้องการอธิบายว่าพวกเราได้หารือกันถึงบทบาทของ Flash บนเว็บ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ของ Flash กับ HTML5) อย่างไรบ้าง
อย่างแรก ผมต้องบอกให้ชัดเจนว่า เราจะยังทำ AIR เพื่อแอพบนมือถือต่อไป เราเห็นจำนวนแอพมือถือที่สร้างด้วย AIR มากขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เราจะหยุดคือการพัฒนา Flash Player บนอุปกรณ์พกพา (เราจะออกรุ่นแก้บั๊กและแก้ปัญหาความปลอดภัยให้กับฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่แล้ว และจะยังเปิดให้ดาวน์โหลด Player รุ่นปัจจุบันต่อ)
ในขณะเดียวกันเราก็เพิ่มการลงทุนใน HTML5 ซึ่งผมจะไม่ขอลงรายละเอียดมากในตอนนี้ แต่โดยสรุปคือเราจะโยกย้ายทรัพยากรของเราจาก Flash ไปยัง HTML5
การตัดสินใจหยุดพัฒนา Flash Player Plugin สำหรับเบราว์เซอร์มือถือ เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ของ Adobe ซึ่งจะรวมถึงการเน้นไปที่ HTML5 และ Adobe Creative Cloud ด้วย ผมจะไม่ลงรายละเอียดเรื่องนี้แต่จะโพสในภายหลัง คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของ Adobe จากการประชุมนักวิเคราะห์ทางการเงิน (วิดีโอ, บทสรุปความ) เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
การตัดสินใจที่จะหยุดการพัฒนาของFlash Player สำหรับเบราว์เซอร์มือถือที่ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจที่ง่าย แต่สุดท้าย มีปัจจัยหลายอย่างบ่งชี้ว่าการทุ่มเททรัพยากรเพื่อที่จะพัฒนา Flash ต่อไปนั้นไม่คุ้มค่า
มันควรจะไปได้สวย แต่เนื่องจากปัญหา fragmentation ของตลาดมือถือ และปัญหาว่าผู้นำของตลาดมือถือรายหนึ่ง (Apple iOS) ไม่อนุญาตให้ Flash Player ทำงานบนเบราว์เซอร์ของตัวเอง สองปัจจัยนี้ทำให้ Flash Player บนมือถือไม่แพร่หลายเหมือนบนเดสก์ท็อป
นี่แปลว่าถ้าคุณต้องการใช้ Flash Platform สร้างประสบการณ์เว็บที่หรูหราให้กับผู้ใช้ คุณจะต้องพัฒนาทั้ง Flash และ HTML5 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการมือถือสมัยใหม่รองรับ HTML5 เป็นอย่างดี มันจึงเหมาะสมกว่าที่จะสร้างโซลูชันที่เป็น HTML5 แทน Flash (ยกเว้นต้องการโซลูชันวิดีโอในระดับสูง) ดังนั้น HTML5 เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ถ้าหากคุณต้องการสร้างเว็บที่ทำงานได้บนอุปกรณ์พกพาทุกชนิด
ผมขอย้ำอีกรอบ ไม่ว่าเราจะพยายามกันหนักแค่ไหน Flash Player จะไม่มีวันได้ไปอยู่บน iOS ในอนาคตอันใกล้นี้
HTML5 ได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งมากบนมือถือและแท็ปเล็ต จริงๆ แล้วต้องบอกว่าอัตราความแพร่หลายของมันมีระดับเดียวกับ Flash Player บนเดสก์ท็อปด้วยซ้ำ
ถึงแม้ประสิทธิภาพและรูปแบบการรองรับของ HTML5 จะยังไม่สม่ำเสมอบนอุปกรณ์แต่ละชนิด แต่มันก็พัฒนาขึ้นด้วยอัตราที่น่าตกใจ (ลองเทียบประสิทธิภาพของ Canvas ระหว่าง iOS 4 และ 5 ดูสิ)
สมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ตรุ่นใหม่ๆ (นับตั้งแต่ iPhone รุ่นแรก) เพิ่งเกิดมาไม่กี่ปี ดังนั้นเอนจินการแสดงผล (ส่วนใหญ่เป็น WebKit) จึงค่อนข้างใหม่และทันสมัย ผลลัพธ์คือคุณไม่จำเป็นต้องไปวุ่นวายกับการพัฒนา "เผื่อ" สำหรับเบราว์เซอร์รุ่นเก่าดึกดำบรรพ์เหมือนอย่างที่ต้องทำกับการทำเว็บบนเดสก์ท็อป
บนอุปกรณ์พกพา HTML5 มีความนิยมระดับเดียวกับ Flash Player บนเดสก์ท็อป มันจึงเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการสร้างเนื้อหาบนมือถือแบบข้ามแพลตฟอร์ม
เป้าหมายของพวกเราคือทำให้ Flash Player บนมือถือได้รับความนิยมในระดับเดียวกันนี้ให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ล้มเหลว ความฝันของพวกเราจะไม่มีวันเป็นจริง
เมื่ออยู่บนเดสก์ท็อป ผู้ใช้จะบริโภคเนื้อหา (เช่น เกมและแอพพลิเคชัน) ผ่านทางเบราว์เซอร์ หรือการติดตั้งโปรแกรมแบบ native
แต่บนอุปกรณ์พกพา ผู้ใช้มักจะมองหา "แอพ" สำหรับเนื้อหานั้นๆ เพียงอย่างเดียว และแพลตฟอร์มมือถือก็มีช่องทางร้านค้า (Apple App Store หรือ Android Market) ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเนื้อหาชนิดใหม่ๆ ได้ง่ายมาก
ผู้ใช้มือถือไม่ค่อยเข้าเว็บเพื่อเสพเนื้อหา rich content จำพวกเกมและแอพมากนัก นั่นเป็นเพราะ
เมื่อผู้ใช้ต้องการเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ พวกเขาจะหันไปมองที่ร้านขายแอพบนมือถือของเขา การค้นพบเนื้อหาใหม่ๆ และติดตั้งลงในเครื่องทำได้ง่ายมาก แถมเนื้อหาเหล่านี้ยังใช้งานได้เสมอไม่ว่าจะต่ออินเทอร์เน็ตหรือไม่
เมื่อผู้ใช้นิยมบริโภคเนื้อหาผ่านแอพมือถือ นั่นแปลว่าผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมี Flash Player บนมือถืออย่างที่เคยจำเป็นต้องมีบนเดสก์ท็อป
การพัฒนาโปรแกรม Flash Player บนมือถือต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้
เมื่อครั้งที่เราสร้าง Flash Player สำหรับเดสก์ท็อป เราพบว่า API ของปลั๊กอินที่เบราว์เซอร์เตรียมไว้ให้นั้นชัดเจน ถึงแม้เราจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ผลิตเบราว์เซอร์ทั้งหมด (รวมถึง Google, Apple, Firefox, Microsoft) แต่สุดท้ายแล้ว ทุกสิ่งที่เราพัฒนาก็อยู่บน API ที่มีอยู่แล้วทั้งสิ้น
แต่บนมือถือ เรากลับต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับวิศวกรของบริษัทอื่น ใน หลายระดับ ได้แก่
นอกจากเราจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกภาคส่วน เรายังต้องทำงานกับความแตกต่างหลากหลายของฮาร์แวร์ ระบบปฏิบัติการ และส่วนประกอบต่างๆ ซึ่งกินทรัพยากรของเรามาก
ทุกครั้งที่มีอุปกรณ์ใหม่ๆ เบราว์เซอร์และระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ [ซึ่งเปิดตัวถี่มากกว่าบนเดสก์ท็อป - ผู้แปล] เราจะต้องใช้ทรัพยากรในการพัฒนา ทดสอบ และดูแล Flash Player เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราตระหนักว่าการขยายตัวเพื่อรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ เป็นเรื่องยาก
ผมได้รับคำถามว่ากรณีของ AIR ต่างจาก Flash Player อย่างไรบ้าง คำตอบคือ AIR มีความแตกต่างจาก Flash บางประการที่ทำให้ AIR ต้องการทรัพยากรน้อยกว่า เช่น API ที่ชัดเจน และการที่ไม่ต้องคำนึงถึงความแตกต่างของเบราว์เซอร์ต่างยี่ห้อ
สุดท้ายแล้ว นักพัฒนาเลือกสร้างแอพที่ประสบความสำเร็จบน AIR จึงทำให้เรารู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะลงทุนพัฒนามันต่อไป
ประเด็นสุดท้าย เราตัดสินใจปรับสัดส่วนทรัพยากรที่เราจะทุ่มเทให้ Flash และ HTML5 เสียใหม่ เพราะ HTML ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ
การหยุดพัฒนา Flash Player บนมือถือจะทำให้เราย้ายทรัพยากรไปพัฒนา HTML5 (ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ เฟรมเวิร์ค หรือเบราว์เซอร์) ได้มากขึ้น
ผมเข้าใจว่าทุกคนอาจไม่เห็นด้วยทั้งหมดของข้อสรุปดังกล่าวข้างต้น แต่ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา รวมกับความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายของการพัฒนา Flash Player บนมือถือ ทำให้เราต้องตัดสินใจว่าการพัฒนาต่อไปถือเป็นการการใช้ทรัพยากรของเราอย่างไม่คุ้มค่า
ถึงแม้จะมีเสียงไม่พอใจต่อการตัดสินใจของเราในการหยุดพัฒนา Flash Player บนมือถือ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าทุกคนกังวลคือ อนาคตของ Flash Platform ในภาพรวมต่างหาก เช่น เราจะหยุดพัฒนา Flash หรือไม่? Flash ตายแล้วจริงๆ น่ะหรอ?
ผมขอประกาศให้ชัดเจนอีกครั้งว่า Flash ยังไม่ตาย เพียงแต่บทบาทของมันได้เปลี่ยนไปจากเดิม แต่มันก็ยังมีบทบาทสำคัญทั้งบนเว็บและโทรศัพท์มือถืออยู่ดี
เราจะพัฒนา Adobe AIR ทั้งบน Desktop และบนมือถือต่อไป มิหนำซ้ำ เราเห็นความแพร่หลายของ AIR ในการสร้างแอพมือถือ และมีแอพดังๆ หลายตัวที่สร้างด้วย AIR ตัวอย่างล่าสุดได้แก่ Machinarium , Watch ESPN และแอพที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวคือ tweet hunt
เรารู้สึกว่า Flash จะยังคงมีบทบาทที่สำคัญมากต่อ "เว็บ" ในระดับที่ไม่มีใครทำได้เท่า ดังนั้น เราจะยังพัฒนา Flash Player บนเดส์ท็อปต่อไป และกำลังสร้าง Flash Player รุ่นหน้าด้วยความกระตือรือร้น
แน่นอนว่าการเจริญเติบโตของ HTML5 ทำให้บทบาทของ Flash ในอนาคตต้องเปลี่ยนไป ในอนาคตอันใกล้ Flash จะโดดเด่นมากสำหรับการเล่นวิดีโอระดับสูง และการเล่นเกมที่กราฟิกสวยงาม เราจึงโฟกัส Flash Player ให้ครอบครองพื้นที่เหล่านี้
ฟีเจอร์บางส่วนที่เรากำลังพัฒนาให้ Flash Player มีดังนี้
นอกจากนี้เรากำลังเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมของ Flash ครั้งใหญ่ มันเป็นโครงการระยะยาวที่จะเกิดประโยชน์ต่อ Flash Player (และนักพัฒนา) ในอนาคตข้างหน้า ตอนนี้แผนการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และเราจะประกาศเรื่องนี้ในอนาคต
ผมรู้ว่ามีอีกหลายคนที่อยากถามเกี่ยวกับ Flex ผมกำลังเขียนบล็อกใหม่ เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ
สำหรับการอัพเดท Flex สามารถติดตามได้ที่นี่
ผมเขียนเรื่อง Flash Professional ไว้ในบล็อกของเมื่อวานนี้ ดังนั้นจะไม่ขอพูดถึงรายละเอียด แต่อย่างที่บอกไปเมื่อวานว่าเรากำลังสร้าง Flash Professional รุ่นใหม่ และมีแผนการพัฒนามันอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
สุดท้ายนี้ ผมต้องการจะเอ่ยอะไรสักอย่างที่ผมรู้สึกเกี่ยวกับ Flash และ HTML5
ในตอนแรกสุด บทบาทของ Flash คือการสร้างสิ่งที่เทคโนโลยีอื่นทำไม่ได้บนเว็บ ในอดีตที่ผ่านมา สิ่งที่ว่าได้แก่ ภาพเคลื่อนไหว, กราฟิกเวกเตอร์, เสียง, วิดีโอ, เว็บแคม, ไมโครโฟน และอื่น ๆ
ด้วยความนิยมและความแพร่หลายของ Flash ทำให้มันเหมาะสมแก่การเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับเว็บในภาพรวม
สิ่งที่เราเห็นตลอดมาคือฟีเจอร์จาก Flash ถูกเพิ่มเข้าไปในเบราว์เซอร์ในภายหลัง จากนั้น Flashจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ และวัฏจักรนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ ซึ่งผมก็คิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก
ปรากฏการณ์นี้เป็นสิ่งผลดีต่อผู้ใช้ (ที่ได้บริโภค rich content ก่อนใคร) เป็นผลดีต่อ Adobe (ที่ได้ขายเครื่องมือและเทคโนโลยี) และเป็นผลดีต่อผู้ผลิตเบราว์เซอร์ (ที่ Flash สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าฟีเจอร์ต่างๆ ใช้งานได้จริง)
นี่คือสิ่งสำคัญ ถ้าหากฟีเจอร์ของ Flash ประสบความสำเร็จเมื่อไร มันจะถูกรวมเข้ากับเบราว์เซอร์ ซึ่งผู้ใช้จะใช้มันผ่านเบราว์เซอร์แทน ไม่ใช่ Flash
การแข่งขันของวงการเบราว์เซอร์ที่กลับมาอีกครั้ง และผลของมันคือการเพิ่มความสามารถ HTML5 ลงในเบราว์เซอร์อย่างรวดเร็ว ทำให้
จำนวนของสิ่งที่เป็นไปได้ในเบราว์เซอร์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ฟีเจอร์เหล่านี้ซ้อนทับกับสิ่งที่เคยมีเฉพาะใน Flash Player เท่านั้น
ถึงแม้จะต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าที่ฟีเจอร์ใน HTML5/CSS3 จะได้รับการยอมรับในวงกว้างเช่นเดียวกับ Flash Player ในปัจจุบัน แต่แนวโน้มก็ชัดเจนว่า สิ่งที่เคยทำได้ใน Flash ในอดีต กำลังทำได้ใน HTML5/CSS3 ผ่านเบราว์เซอร์โดยตรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมคิดว่ามันสำคัญมากพอที่ผมจะพูดย้ำอีกครั้ง
สิ่งที่เคยทำได้ใน Flash ในอดีต กำลังทำได้ใน HTML5/CSS3 ผ่านเบราว์เซอร์โดยตรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมรู้ว่าฟังดูน่ากลัวสำหรับคนที่มีอาชีพด้าน Flash ผมเข้าใจเรื่องนี้ดีมากเลยด้วย แต่ผมก็คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของชุมชนนักพัฒนา Flash เช่นกัน
ยิ่งเบราว์เซอร์รองรับ rich content และกราฟิกเคลื่อนไหวดีขึ้นเท่าไร ตลาดก็ยิ่งต้องการดีไซเนอร์และนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ทำงานกับกราฟิกเคลื่อนไหวบนเว็บมากขึ้นเท่านั้น
ชุมชนนักพัฒนา Flash ทำงานประเภทนี้มาเป็นสิบปีแล้ว และมีความสามารถเหลือเฟือกับงานแบบเดียวกันบนเบราว์เซอร์ ผมไม่คิดว่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่งานกราฟิกบน HTML5 ทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่นักพัฒนาและเอเยนซี่ด้าน Flash มีประสบการณ์กับมันมาแล้ว (ตัวอย่างเช่น Grant Skinner, Branden Hall, Big Spaceship)
ผมไม่ได้บอกว่าเราควรสร้างเนื้อหาด้วย HTML5 เพราะคุณควรต้องดูพื้นฐานของแต่ละโครงการ และพิจารณาจากต้นทุนการพัฒนา แพลตฟอร์มเป้าหมาย และประสบการณ์ของผู้ใช้ต่างหาก ลูกค้าจะถามถึง HTML5 แน่นอน และคุณก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมต่อความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลบีแบบไหน
ในที่สุดก็เขียนจบ มันยาวกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก แต่ผมอยากจะแบ่งปันสิ่งที่อยู่ในหัวของผมใน 2-3 วันที่ผ่านมา
ผมขอบอกอีกครั้งว่า ผมเข้าใจพวกคุณที่กังวลต่อสิ่งที่เราสื่อออกไปไม่ชัดเจนแต่แรก ตอนนี้ผมทราบดีแล้วว่าเราไม่เคยสื่อสารและมุมมองของเราต่อ Flash ให้ชัดเจนอย่างที่ควรจะทำ
โพสครั้งแรกที่: http://howdoflash.com/?p=98
Comments
ช่วยผมตรวจสอบอีกครั้งนะครับ ผมกะลังอ่านทวนอีกครั้งอยู่
ตรง 1. 2. 3. ไม่ต้องเคาะ Tab ก็ได้มั้งครับมันเป็นเว้นบรรทัดไป
เรายังคงทุ่มเททรพยากรณ์, ทรพย์พากรณ์ > ทรัพยากร << อันนี้มีหลายที่
เว็ป > เว็บ << อันนี้มีหลายที่
กลยุทธ > กลยุทธ์
เกี่ยวกับบทบาทของแฟลช > น่าจะใช้ Flash ทั้งบทความไปเลย มีหลายที่
แพ็ทช์ > ไม่แน่ใจว่าผิดหรือเปล่า แต่อ่านแล้วแปลกๆ ที่ถูกน่าจะเป็น แพทช์
วิศวะกรณ์ > วิศวกร << อันนี้มีหลายที่
หนะหรอ > น่ะเหรอ
แท็ปเล็ต > แท็บเล็ต
iphone > iPhone
Firefox,Microsoft > Firefox, Microsoft
ความพยายามของพวดเรา > พวก
Profesional > Professional
กราฟฟิกต์ > กราฟฟิก
พัฒนา หรับโปรแกรม Flash Player > สำหรับ
ผมกำลังเขียนบล็อกใกม่ > ใหม่
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
คำผิดนะครับ และความต่อเนื่องจากคำนะครับ
โดยส่วนตัวผมว่า ถ้าเขียนที่บลอกนัน อยากให้เรียบเรียงใหม่เป็นเฉพาะภาษาของตัวเองแบบสรุปเป็นข้อๆ ไปเลย ส่วนบทแปลฉบับคำต่อคำ ก็ลิงค์ไปที่ต้นฉบับที่เว็บส่วนตัวน่าจะอ่านง่ายกว่านะครับ
ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขนะครับ
ตรง 1.2.3 ไม่ได้เคาะ tab ครับระบบ blognone จัดให้สวยงามเอง T_T
ส่วนที่ไม่ได้สรุปมานั้นผมอยากถ่ายทอดความรู้สึกของผู้เขียนลงไปด้วยครับ
เช่น ... เป็นต้น ไม่ใช่ขึ้นต้น 'เช่น' ลงท้ายว่า 'etc'
ข่าวนี้สร้างความผิดหวังให้กับ Flash Community >>>ข่าวนี้ได้สร้างความผิดหวังให้กับชุมชนนักพัฒนาFlash
เรียบร้อยครับ
ผมแก้ไปอีกเยอะพอสมควร ลองเทียบกับ revision ก่อนๆ ดูนะครับว่าแก้อะไรไปบ้าง
ขอบคุณมากๆครับ เรื่องงานเขียนนี่ผมไม่ถนัดเลยจริงๆ
ขอนำไปโปะแทนที่เดิมในบล็อกนะครับ
จริงๆที่พยายามแปลบทความนี้ เพราะจะบอกว่า เรื่องมันไม่ได้น้ำเน่ามากกันอย่างที่หลายๆคน กำลังใส่อารมณ์ ดี รัก เกลียด เหยียด เก่า ใหม่ โง่ ฉลาด พวกฉัน พวกเธอ เท่าไหร่หรอกครับ
ผมลองมองดูข่าวประมาณนี้ทีไร ผมก็จะนึกถึงตอนเค้าอยู่ในห้องประชุมกัน ว่าจริงๆแล้วเค้าประชุมอะไรกัน
ถึงออกมาเป็นอย่างที่เห็น
เพราะว่าผู้บริหาร ทำงานให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งต้องรักษาผลประโยชน์ กำไร ให้สูงที่สุดอยู่แล้ว
การจัดสินใจครั้งใหญ่ๆขอบริษัทส่วนมาก ก็จะเป็นเหตุ และผล และใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเสมออยู่แล้ว
เรื่องเปลือกนอกส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการตลาด ที่จะต้องสร้างคาแรคเตอร์ของแบรนด์
สร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ ถ้าจะดราม่า(เช่นฟ้องร้อง) ส่วนใหญ่ก็ดราม่ากันอย่างเปลือกนอกเฉยๆ ลงทุนดราม่าด้วยเงินจำนวนน้อย( ยกเว้นว่า มันจะมีผลต่อกิจการบริษัทอย่างเห็นได้ชัด คือ ใช้เงินถูกทาง ไม่จ่ายแบบไม่คิด )
เพราะผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ คงไม่ปลื้มแน่ ถ้านำเงินลงทุนไปดราม่ากัน
ดังนั้นผมเลยคิดว่า บางทีเราเป็นทาสการตลาดจนเกินไป เลยยึดติดจนหลายคนแซวด้วยคำว่า สาวก หมายถึงการเสพเปลือกนอกของสินค้า เช่นความสวยงาม ภาพลักษ์ ใครเป็นคู่แข่งบริษัทนี้บ้าง ฉันจะไม่สนับสนุน (ยกตัวเช่น ฉันไม่สนับสนุนพวก i am a Mac หรอก เพราะฉัน i am a PC )
เพียงแค่สองบริษัทกำลังเล่นการตลาดกัน ถ้าบริษัทหนึ่ง พยายามหาพวก ด้วยการบอกทุกคนว่า พวกไฮโซเช่นฉันมาทางนี้ อีกบริษัทหนึ่งก็จะบอกว่า งั้นที่ใครที่รวยแต่ไม่กระแดะที่จะไฮโซ(หรือใครที่ไม่ไฮโซแต่กำเนิด)มาทางนี้
เลยทะเลาะกันใหญ่โตไป
โค้ก เป๊บซี่ ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง
ผมรู้ เวลาแบ่งสองฝ่ายแล้วโต้วาทีกัน มันสนุกดี ผมก็ชอบ แต่หลายครั้ง Blognone ปั่นป่วนเพราะมันเหมือนกัน
ดังนั้นอยากให้คิดอีกซักนิด ถ้าจะดราม่าว่า ที่ฉันกำลังจะดราม่า เพราะฉันเป็นเหยื่อการตลาดอยู่รึเปล่าเนี่ย?
ดีมากครับ ไม่รู้ว่าจะมีกี่คนที่ยอมอ่าน คห.นี้จนจบ และหวนกลับไปมองตัวเองบ้างว่าเข้าข่ายที่คุณ heart พูดถึงบ้างไหม
ผมเห็นว่าหลายคนใส่อารมณ์กันไปเยอะมากๆ เห็นแล้วเหนื่อยแทนคนอ่านครับ
ดีมากครับ นึกถึงวาทะทั้งหลายทั้งปวงด้วยอารมณ์ประมาณนี้เช่นกัน
แปลได้ละเอียด ถูกต้อง สื่อความหมายไม่ตกหล่น ราวกับต้นฉบับมาตัวเป็นๆ เลยครับ
ขอบคุณในความอุตสาหะอดทนแปลมาให้อ่านกันนะครับ
เรื่องมันใหญ่กว่าที่คิดแฮะ .. แต่ก็นะ ขึ้นชื่อว่าเทคโนโลยี มันก็เป็นอย่างนี้เสมอ ;)
my blog
ถ้าใครที่เคยเขียนโปรแกรมคงทราบว่าการทำสิ่งใหม่ยากกว่าพัฒนาสิ่งเก่า เช่นโครมเป็นสิ่งใหม่ที่ประสบความสำเร็จ
เพราะฉะนั้นอยากให้นักพัฒนาต่างช่วยกันลงทุนให้ HTML5 และ Adobe สร้าง Tool ดีๆให้มัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาแฟรชมีทั้งบัคและช่องโหว่ซึ่งไม่เคยแก้เลยจริงๆหรือแก้ไม่ได้?
ขอบคุณครับ ที่แปลมาให้อ่าน ถึงจะงงนิดนึง แต่ผมก็พอเข้าใจเจตนาของทาง Adobe ดี
เพราะการพัฒนาในสิ่งที่ไม่คุ้มค่า จะทำไปทำไม สู้พัฒนาในสิ่งที่ทำให้เกิดรายได้ในระยะยาวดีกว่า
เขียนและแปลได้ดีนะครับ ยกนิ้วให้ทั้งคนเขียน และคนแปล
ตอนแรกว่าจะอ่านแค่คร่าว ๆ ก่อน อ่านไปอ่านมา อ่านรวดเดียวจบเลยครับ
บทความนี้มันมีลักษณะของการทำ marketing spin อยู่บ้างครับโดยการพูดเรื่องแอปเปิ้ลในประเด็นแรก ทั้งนี้เพื่อลดความเสียหายของภาพพจน์บริษ้ท คืออ้างว่าแอปเปิ้ล "ไม่อนุญาต" ให้มีแฟลชบน iOS แต่นั่นเป็นการบอกความจริงเพียงครึ่งเดียว สาเหตุจริงก็คือ Adobe ใช้เวลานานมากกว่าจะออก Flash บน mobile มาได้คือออกมาหลังจากไอโฟนเปิดตัวถึงราว 2 ปี ดังนั้นจะไปพูดว่าแอปเปิ้ลไม่อนุญาตก็ไม่ถูกต้องนัก ต่อให้แอปเปิ้ลอนุญาตทาง Adobe ก็ไม่มี product อยู่ดี ผมว่ามันเป็นกรณีที่ Adobe พลาดโอกาสเพราะความล่าช้าของตัวเองมากกว่า จะว่าไปจริงๆ แล้ว mobile Flash ณ วันนี้ปลายปี 2011 มันก็ยังไม่ได้ perform ได้ดีถึงขั้นยอมรับได้ด้วยซ้ำครับทั้งในแง่ความเร็วและการใช้พลังงาน เหตุผลสั้นๆ จริงๆ คือตกขบวนรถไฟไปแล้วครับ คนเขารอไม่ไหวจนไปลงทุนในทางเลือกอื่นเช่น HTML5 กันหมดแล้ว ซึ่งผู้เขียนก็ยอมรับกลายๆ ในประเด็นนี้
+1 การแถลงบทความนี้ก็มีจุดมุ่งหมายทาง Marketing อยู่แล้ว
อ่าวไม่ใช่ flash ผิดกฎเหรอครับ เพราะมันเป็น vm ,เพราะไม่งั้นมันคงมี java ,silver light บน iOS ด้วย
แหล่มมากครับฮาร์ท ^^
ผมเคยถูกจ้างให้ไปทำ flashlite บนมือถือในยุคกลางโดยไม่รู้จัก flashlite เลย
ผมเข้าใจว่ามันแย่ขนาดไหน และเข้าใจเลยว่าทาง Adobe แหกตา-หลอกลวงคนให้หลงกลด้วยวิธีการต่างๆนาๆไม่ว่าจะเป็นบทความหรือการนำเสนอ ช่วงนั้นผมศึกษาอย่างหนักเพื่อผลิตงานให้ผู้จ้างให้สำเร็จ แต่ก็ล้มไม่เป็นท่าเพราะข้อมูลที่เจ้าของบริษัทได้ข้อมูลมา(จาก Adobe)กับสิ่งที่ flash บนมือถือมันทำได้จริงๆไม่ได้เหมือนกันอย่างที่ฝันไว้ ผมคิดมาเสมอว่า flash บนมือถือไม่มีประโยชน์เพราะโดนโทรศัพปิดกั้นศักยภาพมาโดยตลอด flash โดนกีดกันเพราะมันเป็นแค่ Plugin ที่ต้องคอยอาศัยผู้อื่นหายใจ ถ้าร่างกายมันห่วยก็หายใจไม่สะดวก(ยกตัวอย่างบาง browser บน PC) ผมว่าการตัดสินใจสนับสนุน AIR ถูกต้องที่สุด เป็นคำตอบสุดท้ายที่ตอบโจทย์จริงๆ และ html ก็เหมาะกับมือถือมากกว่า สำหรับ html5 ในความคิดผม ตอนนี้เริ่มพัฒนาเข้าสู่ "ยุคหินใหม่" ยุคที่กำลังหาทางสร้างเครื่องไม้เครื่องมือในการดำรงชีวิต ในขณะที่ flash กำลังเข้าสู่ "ยุคอวกาศ" ซึ้งกำลังหาสร้างเทคโนโลยีที่ทำให้โลกไม่ร้อนเหมือนทุกวันนี้ ส่วนผู้ผลิตจะเลือกใช้เครื่องมือประเภทไหนนำเสนอ content ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย ระยะเวลาและปริมาณเงินในกระเป๋าแค่นั้น
flash lite มันเป็นของแถมจาก macromedia หรือเปล่าครับ
ดูจากยอดขาย ios แล้วก็น่าจะยืนยันได้ว่า fash บนมือถือไม่จำเป็น
และผมคิดว่า(ความเห็นส่วนตัว)ต่อไปจะมี content สำหรับมือถือ (html5) มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอนาคตคนจะมี smartphone มากขึ้น จนวันนึงความจำเป็นที่จะใช้ flash บน browser ก็จะน้อยลงเรื่อย ๆ และเมื่อใกล้ถึงจุดนั้น adobe ก็จะมี tool เพื่อ convert จาก flash เป็น html5 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนเรียกได้ว่า flash ก็จะค่อย ๆ เลือนหายไป
Adobe Edge เป็นเครื่องมือที่สร้าง HTML5 เหมาะสำหรับนักพัมนา Flash ทั้งเครื่องมือ และหน้าตาคล้ายๆ พี่น้องกันเลย ^_^
ผมสรุปเรื่องนี้สั้นๆ ว่า Flash กำลังถูกบีบจากทั้งด้านล่างและด้านข้าง
เดิมที Flash ครองตลาดอินเทอร์แอคทีฟและวิดีโอบนเว็บ (เมนูหรือแอนิเมชัน รวมถึง YouTube) รวมถึงเกมและแอพแบบเต็มขั้นบางส่วน (Farmville อันนี้ยกตัวอย่างง่าย)
ตอนนี้ ตลาด HTML5 โดยเฉพาะ canvas และ video กำลังไล่มาจากด้านล่าง คือแอนิเมชันง่ายๆ หรือวิดีโอที่เคยใช้ Flash ทำ สามารถทำได้เหมือนกัน
ส่วนตลาดเกมและแอพเต็มขั้น ก็ถูก "native mobile app" ไม่ว่าจะจาก iOS/Android ตีเข้ามาเต็มๆ ด้วยเหตุผลเรื่องเทคนิคตามที่ Chambers กล่าวไปแล้ว และเหตุผลเรื่องการเมืองของจ็อบส์ (มีใครกล้าปฏิเสธว่านี่ไม่ใช่การเมือง?)
ตลาดที่เหลืออยู่ของ Flash จึงเป็นการเขยิบหนีขึ้นไปอีก ไปเป็นเกม 3D ขั้นสูง และวิดีโอซับซ้อน (พวกถ่ายทอดกีฬาหรือคอนเสิร์ต ซึ่งตลาดนี้ก็มีคู่แข่งเป็น Silverlight อยู่ด้วย) อันนี้เห็นชัดจาก Flash 11 ว่ามุ่งหน้ามาทางนี้ ปัญหาก็คือมันไปชนกับ native desktop app อีกส่วนหนึ่ง (แต่ก็ยังมีพื้นที่พอให้เล่นอีกมาก)
สิ่งที่ Chambers ไม่ได้พูดชัดเจนแต่ก็กล่าวเป็นนัยๆ คือ Flash กำลังจะตายในไม่ช้า เพียงแต่จะค่อยๆ ตาย ไม่เปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืน ซึ่ง Chambers เองก็บอกให้นักสร้าง Flash ทั้งหลายเริ่มหันไปหัด HTML5 กันได้แล้ว ถ้าต้องการจะอยู่ได้ในธุรกิจอินเตอร์แอคทีฟต่อไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องของ disruptive technology ที่มาแทนเทคโนโลยีเก่า ซึ่งก็ไม่ได้มีแต่ Flash ที่เจอปัญหานี้ เพราะ Silverlight เจอก่อนเป็นปีๆ แล้ว (น่าสงสารไมโครซอฟท์มากกว่าอีก)
ตอนนี้คนที่อยู่ตรงกลางโดนบีบให้แข่งขันไม่ได้ไปแล้ว ขั้นต่อไปจะเป็นการสู้กันระหว่าง native app กับ HTML5 app ซึ่งก็คงยืดเยื้อยาวนานเช่นกัน
เห็นด้วยครับ
แต่อยากถามเรื่องการเมืองว่าเกิดอะไรระหว่างจ๊อบ Adobe ทั้งๆที่ Mac ก็เกิดมาในแนวเดียวกับ Adobe น่าจะเป็นพันธมิตรที่ดีมากๆ สมัยนึง นึกถึงการแต่งภาพ แต่งวีดีโอ ก็นึกถึง Adobe+Mac มาก่อน
Apple มีผลิตภัณฑ์ที่ซ้อนทับกับ Adobe อยู่ประมาณนึงครับ ถึงแม้ว่า Apple จะเริ่มถอยออกจากตลาดมืออาชีพแล้วก็ตามนะ
เกี่ยวกับความแค้นที่ adobe เกิดมาจาก Mac แล้วต่อมาก็ไปทำโปรแกรมเวอร์ชั่น windows ด้วยหรือเปล่า ถ้าหากโปรแกรมคงอยู่ฝั่งแมคอย่างเดียว แมคก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแพลทฟอร์มสำหรับงานตบแต่งภาพที่ดีที่สุดเหมือนเดิม แต่เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่จุดเด่นสำหรับแมคอีกต่อไปแล้ว
ตอบแบบเท่ๆ ก็คงต้องบอกว่า "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" นั่นละครับ
ส่วนตอบแบบจริงจังก็ต้องบอกว่า เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร ตอนนี้แอปเปิลปีกกล้าขาแข็ง ไม่ต้องง้อ Adobe แบบสมัยก่อนแล้ว คิดจะหักก็ทำได้สบาย
+99999
ตรงใจมากครับ โดยเฉพาะเรื่องที่บางคนยังคิดว่า Flash มีค่าในฐานะ Application แต่แกล้งลืมว่ามันต้องไปสู้กับ Native แล้วก็ยังคงหลอกสาวกว่า Flash มีอนาคต
แถลงการณ์ครั้งนี้ก็เป็นการชักจูงของฝ่าย Adobe ที่บอกเป็นนัยว่า Flash กำลังค่อยๆตาย ไม่ต่างกับการออกมาแก้ตัวของ Microsoft ที่บอกเป็นนัยๆเหมือนกันว่า SilverLight ตายแน่
แต่บางคนก็ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าแฟลชจะยังไม่ตาย แฟลชจะอยู่ไปอีกนานแสนนาน ติดกับ Marketing ของ Adobe ยิ่งกว่าใคร
ผมรอคำชี้แจง เรื่อง Silverlight จาก Scott Gu อยู่ 555 (เอาบ้าง)
เขาหนีไปทำ Azure แทนแล้ว เรื่อง Silverlight ก็คงจะเงียบๆ ไปครับ
แปลได้เยี่ยมครับ ขอบคุณมาก
เป็นญาติกับ John Chambers หรือเปล่า = =