By: arjin 
on 21 November 2011 - 15:40
Tags:
Topics:
นักข่าว Nick Bilton แห่ง The New York Times ได้สัมภาษณ์พิเศษ Walter Isaacson ผู้เขียนหนังสือ Steve Jobs เนื้อหาส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องราวในช่วงการสัมภาษณ์เพื่อนำมาเขียนหนังสือ แต่ในบทสัมภาษณ์นี้มีคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ
Bilton ถามว่าจ็อบส์มีแผนผลิตสินค้าตัวใหม่อะไรบ้าง ซึ่ง Isaacson เผยว่านอกจากอุตสาหกรรมโทรทัศน์ที่มีการระบุในหนังสืออยู่แล้ว จ็อบส์เองยังสนใจที่จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมตำราเรียน และอุตสาหกรรมการถ่ายภาพด้วย แต่ในช่วงการสัมภาษณ์เก็บข้อมูลนั้นเขาไม่ได้ถามเจาะรายละเอียดเพิ่มเติมต่อ มีเพียงโทรทัศน์ที่จ็อบส์ยินดีจะเล่าความคิดออกมาให้ฟัง โดยจ็อบส์บอกว่ามันไม่สมควรเลยที่เราจะใช้รีโมทที่มีปุ่มมากมายและซับซ้อนแบบนั้น
iTextbook กับ iCamera เหรอ? แต่ผมว่างานนี้ Isaacson มีข้อมูลกั๊กไว้อีกเยอะแน่
ที่มา: Business Insider
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
จริงๆ แล้ว Jobs copy ข้อมูลสมองตัวเองให้ Isaacson แล้วแต่ไม่มีใครรู้...
งั้นอีกสักพักคงมีข่าวตั้ง Isaacson เป็นที่ปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์
จิงแล้ว concept ง่ายๆก้อคือ จ๊อบอยากครองโลกนั่นเอง ...
iWorld!!!
Destination host unreachable!!!
ผมไม่คิดอย่างนั้นนะ .. ผมมักได้ยินว่า Steve Jobs ต้องการ "Change the world" มากกว่า ด้วยผลิตภัณฑ์สุดเจ๋งที่ทำให้ชีวิตคนดีขึ้น
การคิดค้นผลิตภัณฑ์ของ Apple สุดยอดจริงๆ ต้องยอมรับ ... แต่การดำเนินกิจการด้วยการผูกขาดโปรดัก ชูสินค้าของตัวเองอย่างเดียว เป็นแนวทางที่จะใช้ครองโลกได้ยากครับ .. ผมว่าแนวทางดำเนินธุรกิจของ Google ดูจะมีโอกาสมากกว่าในระยะยาวครับ
ฟังจ๊อบไปเรื่อย ทำให้คิดได้ว่า
ความคิดท่านศาสดา เข้าข่าย
"คนโง่ปกครองง่าย"
ยังไงยังงั้นเลย...
ความหมายผมคือ ทำให้มันง่ายเข้าไว้ .... แล้ว จ่ายตังตูมาซะ
NiKon และ Canon คงโล่งใจ
ก็ไม่แน่ถ้า Ive เริ่มกระบวนการไปแล้ว แต่ Apple คงไม่ทำกล้อง DSLR แน่นอนเพราะใช้ยากสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
เห็นด้วยครับ ตลาดโปร Apple มีแต่จะถอยห่างออกไปเรื่อยๆ กลับไปทำของให้ผู้ใช้ทั่วไปได้คุณภาพออกมาให้รู้สึกเหมือนโปรมากกว่า(ซึ่งมันก็ไม่ใช่ เช่น Final Cut Pro X)
ยังไงก็แล้วแต่ รักนิคและหนอนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ^^
ผมว่าของของเค้าออกแบบมาดีจริงๆ นะครับ .. แต่ว่าราคาก็สมกัน (แต่ก็แพงไปหน่อยสำหรับผม)
"โดยจ็อบส์บอกว่ามันไม่สมควรเลยที่เราจะใช้รีโมทที่มีปุ่มมากมายและซับซ้อนแบบนั้น"
อันนี้เห็นด้วยมาก ยิ่งผู้ใหญ่นี่ต้องเรียกผมมากดให้ทุกคน
+1 ผมก็โดน บอกท่านไปแล้วว่าช่อง 3 อยู่เลข 1 ช่อง 7 อยู่เลข 3
สุดท้ายก็โดนใช้ให้กดให้ทุกครั้ง บอกว่าลืม ใช้แกง่ายกว่าเยอะ -*-
ผมมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น คือตั้งช่อง 3 อยู่เลข 3 ช่อง 7 อยู่เลข 7 เอาช่อง 11, TPBS และเนชันไปอยู่เลข 1, 2 และ 4 ส่วนช่อง 6 กับ 8 ที่ข้ามไปก็ยัดด้วยสำรวจโลกกับช่องหนัง ทำอย่างนี้กับโทรทัศน์ทุกเครื่องในบ้าน
รีโมทดีที่สุดคือตัวผมเอง เปิดนั้นให้แม่ที่
พอมีภรรยา แล้วจะรู้สึกดีกับพ่อแม่เรื่องนี้มากขึ้นครับ
นั่นสิครับ เห็นด้วยมากครับเรื่อง Remote TV เนี่ย 5555
+1
บางที บางเครื่องกดเปลี่ยนช่องแล้วไม่ไปเลย แกเลยกดซ้ำ ไม่ก็กดค้าง กลายเป็นช่อง 99 - -'
ชอบประโยคนี้จัง อิอิ
ก็รีโมททีวีมันเกิดก่อน ClickWheel กับ Touch Screen นานแล้วนิครับ จะทำยังไงได้
ผมเคยเห็นรีโมทของ LG TV รุ่นหนึ่ง มีปุ่มกดไม่กี่ปุ่ม และก็มี pointer ด้วย (interactive กับ TV) .. ก็ดูน่าใช้มากครับ (ราคาประมาณ 1,900 บาท)
ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศเรายังทำเกษตรกรรม .. ถ้า Steve Jobs ยังไม่จากไป ผมอยากให้ลุงแกมาช่วยปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้ให้บ้านเราสักหน่อย
ผมคิดว่านะ... ปรเทศเราก็เป็นอุตสาหกรรมระดับนึงแล้วนะครับ น่าจะยกระดับจากรับจ้างผลิตมาเป็นคิดเองผลิตเองมากกว่า
ถ้าลดพื้นที่การเกษตรกลัวจะกระทบเรื่องอาหารนะครับ
ปล.มันไม่เกี่ยวกับข่าว -*- ขออภัย
จะกลับเป็นเกษตรเหมือนเดิมแล้วครับ โรงงานย้านฐานหนีหมดแล้ว เหลือคนตกงานกลับบ้านทำเกษตร ราคาดี ไม่มีขาดทุน รัฐจ่ายให้ตลอด
ถ้าไม่นับการอุดหนุนและการบริหารจัดการจากภาครัฐบาลแล้ว ยากครับที่เกษตรที่พึ่งพาการเพาะปลูกเพียงอย่างเดียวจะมีเงินทองมากมายได้
ถ้าตราบใดในโลกนี้ยังเหลือพื้นที่สามารถทำการเพาะปลูกได้มากมาย การเป็นเกษตรโดยสมบูรณ์แบบ อาจจะเป็นคนรวยคนสุดท้ายครับ เพราะผลิตผลทางการเกษตรปกติ มันมีความขาดแคลน (scarcity) น้อยมาก ถ้าคุณทำการเกษตรอย่างเดียวแล้วดันรวยขึ้นมา คนอื่นที่ทำอาชีพอื่นที่ได้รายได้น้อยกว่าและมีทรัพยากรพอๆกับคุณ หรือมากกว่าคุณ ก็จะหันมาเปลี่ยนอาชีพหันมาเพาะปลูกและขายผลผลิตเดียวกันกับคุณด้วย และขายในราคาที่ต่ำกว่าคุณนิดหน่อยเพื่อเรียกลูกค้า ราคาที่เคยขายได้ก็จะไหลลงเรื่อยๆ เพราะผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้น สุดท้ายคุณจะได้รายได้น้อยลงจากการขายผลผลิต ถ้ากลไกตลาดแบบสมบูรณ์และถ้าสินค้าเกษตรจากไร่ไหนๆก็เหมือนกันทั้งโลกแล้ว ราคาจะไหลไปเรื่อยๆ จนแทบจะไปสุดแถวๆ ค่าใช้จ่ายในการเพาะปลูกต่อหน่วยของพวกเกษตรหน้าใหม่นั่นแหล่ะครับ ราคาถึงจะหยุดไหล
อ่าน Comment นี้แล้วกระจ่างเลย นึกอยากให้ Blognone มีปุ่ม Vote Up / Vote Down เหมือนใน Youtube เลย ;D
มัไรที่สะนมีอะดวกกว่ารีโมทอีกเหรอครับ ถ้ามีก็จัดมาครับ ยินดีจ่าย
เอ๋ หรือจะใส่ siri ลงในทีวี (siri เอ๊ย... เปิดช่อง 7 ซิ),(siri เอ๊ย...เปิดช่องที่มีระครมันๆ ซิ... siri ตอบว่า "มีแต่ระครน้ำเน่า")
+1 อันนี้คิดว่าเป็นไปได้มากๆ นะครับ
จะปฎิวัติหนังสือเรียนหรือ มาช่วยเรื่อง one tablet per child หน่อยสิ!
ในอนาคตก็คงจะเป็น iHome ตามด้วย iCity เอาให้บ้ากันไปเลย ^ 0^)
...รีโมตท่านศาสดา 5 ปุ่ม ราคา สามพันสี่ร้อย
...รีโมตจีน 20+ ปุ่ม ราคา 99-199 เปิดได้ทุกยี่ห้อ (เผลอ เปิด dvd ได้ด้วย )
เทียบราคาต่อปุ่มแล้ว จีนคุ้มกว่า มว๊ากกกกกกกกก...
ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่จำนวนปุ่มต่อราคา แต่มันอยู่ ปุ่มบนรีโมตของทีวี มันโคตรจะเยอะเลย แถมบางปุ่มที่มันควรจะรวมกันอย่างปุ่มลูกศรกับปุ่มเปลี่ยนช่องและปรับเสียง ก็ยังแยกกันให้อีก บางยี่ห้อถึงขั้นมีปุ่มสำหรับเครื่องเล่น DVD มาให้อีก ปุ่มเยอะแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ทำให้ทั้งเปลืองพื้นที่ หาปุ่มยาก กดยากและทำให้งงอีกต่างหาก
เฮ้อ
นอกจากนี้รีโมตดีวีดีก็มีปุ่มของทีวี รีโมตทีวีก็มีปุ่มของโฮมเธียเตอร์ ไหนจะมีรีโมตของเคเบิ้ลทีวี รีโมตเคเบิ้ลทีวี สรุปว่ามีปุ่มเยอะกว่าปุ่มบนคีย์บอร์ดซะอีก -_-"
(กดซ้ำครับ ขออภัย)
เป็นกดโลโก้ช่องทีวีเเทนตัวเลขรึปล่าว
อุตสาหกรรมการถ่ายภาพที่ Steve Jobs อยากจะเปลี่ยนนั้น เดาว่าคงอยากจะให้เหมือนอุตสาหกรรมเพลงที่สามารถโหลดเพลงได้จาก iTune ละมั๊ง จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถถ่ายรูปแล้วอัพรูปขึ้นไปขายได้เลย
ถ่ายจากมือถือ iPhone แชะ เสร็จแล้วก็อัพโหลดขึ้นไป เมื่อมีคนที่สนใจ download ไปใช้ เราก็ได้ค่า download มา
เห็นด้วยว่าวงการกล้องเนี่ยพัฒนาช้ามากในแง่ OS ถึงโดน iPhone ตีกระจายไง เซนเซอร์-เลนส์ดีแค่ไหนถ้าไม่ฉลาดพอก็ตีตลาดใหญ่ได้ยาก
May the Force Close be with you. || @nuttyi
i400 censor 14ล้าน iF-s 24-70 2.8f อาไรประมาณนี้ป่ะ
กีกเกิน lol
positivity
เอา Walter Isaacson เข้าไปบริหาร Apple สานวิสัยทัศน์แทน Steve! 55 ^^
my blog
อยากให้ปฏิวัติวงการการศึกษามากกว่าอ่ะ
รีโมทไม่ควรมีปุ่มเยอะผมไม่เห็นด้วยเลย แต่ลุงแกอาจจะคิดทำตัวควบคุมทีวีแบบอื่นก็เป็นได้ อันนี้ผมอยากเห็นจริงๆนะ แต่ยังไงๆ ผมก็ว่ามันน่าจะเฟลแน่นอน เพราะมันคงใช้ยากกว่าเดิมเยอะ ไม่เหมาะสมกับทุกวัย ไม่แน่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงแล้วดันฮิตต่อไปอาจได้เห็นร้านจำพวก รับลงโปรแกรมรีโมตทีวี รับซ่อมรีโมททีวี รับเจลรีโมตทีวี อะไรแบบนี้แงมๆ กลายเป็นซับซ้อนกว่าเดิมไปสะงั้นต้องจ้างร้านทำแทนที่จะพังโยนทิ้งซื้อใหม่ ส่วนหนังสือก็ Amazon ทำแล้วไง และสุดท้ายกล้องผมว่าตีตลาดนี้ยาก ดีแล้วที่ลุงไม่ทำมาแข่ง เทคโนโลยีตามอยู่หลายขุม อีกเรื่องจะเอาอะไรไปสู้กับเค้าเพราะแอปเปิ้ลชอบทำของแพงกว่าแต่เทคโนโลยีได้ต่ำกว่า มองทางชนะไม่ออกจริงๆ แต่ก็ไม่แน่อีกนั้นแหละเพราะถ้าลุงจ๊อบเค้าอยู่จริงๆเค้าอาจทำให้ผมและใครหลายๆคนช๊อกก็เป็นได้
คำนี้ของ Steve Jobs จริงอยู่อย่างหนึ่ง
"ไม่ต้องสำรวจตลาด เพราะว่าคนเราไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจนกว่าจะได้เห็นของที่เจ๋งกว่า ก่อนสมัยคนจะมีรถ ถ้าถามว่าคนอยากได้อะไร คนจะตอบว่าอยากได้ม้าที่เร็วกว่า"
เรื่องรีโมทผมก็ว่ามันงี่เง่าจริง ทุกวันนี้มีรีโมทกี่อัน ยิ่งใช้ชุดโน้นนี้ยี่ห้อเดียวกันรีโมทหน้าตาเหมือนกันอีกต่างหาก เราปล่อยให้เทคโนโลยีที่มาอายุมากมายควบคุมความคิดสร้างสรรค์ผ่านความเคยชิน ในเมื่อสิ่งที่ดีกว่าอาจจะมีได้ แต่เราไม่คิดเพราะเรายังไม่ค่อยเห็นปัญหาของที่เราใช้ทุกวันนี้
ส่วนตัวแล้ววงการการศึกษาก็ไม่ต่างกันครับ ในขณะที่เทคโนโลยีเราเปลี่ยนอุตสาหกรรมไปมาก เปลี่ยนวิธีการทำงาน ฯลฯ มากมาย แต่การศึกษากลับย่ำอยู่ที่เดิม ทุกวันนี้ดีกว่าเดิมก็แค่การมี LMS ให้โหลดสไลด์เลกเชอร์ การบ้าน อัพโหลดการบ้าน กับฟอรั่มเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่เทคโนโลยีทุกวันนี้เราทำได้มากกว่านี้อยู่แล้ว
@TonsTweetings
ผมพยายามคิดอยู่พักหนึ่งว่าหน้าตา remote ตัวใหม่ควรเป็นอย่างไร แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่าโดนสักที
จนได้ยินการวิจารณ์เกี่ยวกับหน้าตา remote นี้ .. ทำให้ผมเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างแระ
อ่านแล้วมันช่างโดนใจแท้
จริงๆคนที่พูดได้อย่างงี้ ต้องมีวิสัยทัศน์จริงๆ และต้องปรูฟมาแล้วว่าดีจริงๆ
เรื่องรีโมทนั้น ลูกค้าคิดได้ครับ
แต่ถ้าคุณผู้ผลิตเบอร์สองใครมันจะไปยอมผลิตโดยใช้เทคโนโลยีรีโมทเบอร์หนึ่งครับ?!?
แล้วเบอร์หนึ่งเอง พอไปเจอเบอร์สองมันผลิตทีวีโดย fully compatibly กับทีวีของมัน มันจะยอมอยู่เงียบๆรึ ไม่ฟ้องร้องโวยวาย หาว่าไปทำวิศวกรรมย้อนกลับ ลอกเลียนเทคโนโลยีเค้ารึ?!?
มันต้องผูกขาดครับ แล้วจะไม่มีเบอร์สอง ไม่มีเบอร์หนึ่ง เพราะมีเบอร์เดียว ฮ่าๆๆๆๆ รวย
อะไรก็ได้ ที่ "ไม่ต้องอ่าน" ก็แล้วกัน
คนไม่รู้หนังสือ (โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ) มีอยู่เยอะ
คงอยากทำให้หนังสือเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
Apple ก็เคยมีกล้องนี่นา แต่คงไม่สำเร็จในตอนนั้น อารมณ์ทำ Newton ไม่เวิค แต่ตอนหลังมาทำ iPad iPhone ขายดิบขายดี
iText
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เหมือนน่าข่าวนี้รึป่าว น่ะ http://www.flashfly.net/wp/?p=14006
สำหรับผม TV ต้อง Sharp หรือ Sony เท่านั้น ^^
คุณ geumatee ครับ
คุณกำลังหมายถึง RenderMan ด้วยป่าวครับ
ไปดูผลงานของการบริหารของเขาก่อนแล้วกันครับ
https://renderman.pixar.com/products/whats_renderman/movies.html
Final Cut Pro X ลองใช้จริงก่อนจะดีกว่าครับ แล้ววงการระดับบนเขาว่าไงกัน