ลูกสาวของคุณพ่อที่เป็นข่าวคนนี้ ได้ใช้ Facebook ของเธอในการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับความยากลำบากในบ้านของเธอ ที่จะต้องคอยทำงานบ้านต่างๆ เช่นการเก็บเตียง หรือทำความสะอาดบ้าน โดยเธอจะเขียนข้อความว่ากล่าวคนในครอบครัวของเธอเช่น "เธอไม่ใช่ทาสของคนในครอบครัว" หรือ "ถ้าอยากให้เธอทำงานบ้านให้ทั้งหมด ก็น่าจะจ่ายเงินให้เธอด้วย"
เมื่อคุณพ่อได้ไปเห็นโพสต์ต่างๆ นี้บน wall ของเธอตอนที่เขากำลังจะอัพเกรดซอฟต์แวร์ให้ เขาจึงไม่พอใจและพิมพ์ข้อความเหล่านี้มาอ่านและบันทึกวีดีโอขึ้นไว้บน YouTube ด้วย และหลังจากที่คุณพ่อได้ว่ากล่าวสั่งสอนลูกสาวของเขาจบแล้ว เขาก็ปิดวีดีโอนี้ด้วยการใช้ปืนพกขนาด .45 ยิงใส่แล็ปท็อปลูกสาวไป 9 นัดเต็มๆ แล้วบอกว่าถ้าอยากได้ใหม่ก็ให้ไปซื้อใช้เอง
วีดีโอดังกล่าวนี้ ตอนเขียนข่าวก็มีจำนวนการเข้าชมแล้วกว่า 18 ล้านครั้ง และก็มีความเห็นต่างๆ มากมาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย วีดีโออยู่ท้ายข่าวครับ
Comments
ทำงานบ้านนิดๆ หน่อยๆ บ่นอิดออด ดังนั้นผม +1 คุณพ่อ
You rocks, Father of the year !
พอดีเพิ่งเจอปัญหาน้องสาวกับแม่ เลยเข้าใจหัวอกคุณพ่อ = =
ท่าทางคุณพ่อจะโมโหหนัก พยายามควบคุมอารมณ์อย่างมาก
อยู่บ้าน ค่าเช้าก็ไม่ต้องออก ค่าข้าวก็ไม่ต้องออก ค่าเทอร์มก็ไม่ต้องออก ได้ค่าขนม แต่ทำงานบ้านจะขอเงินเพิ่ม เหอๆๆๆ
ถ้าเป็นวัยรุ่นไทยก็จะเอาคอมพ่อไปอัพเสตัสต่อ "วะนี่พ่จัยรั้๊ยมั๊กเรย ทัมแล๊บท็อบเค้พัง" ... เอิ่ม
มันอ่านว่าไรอะคับ -.-"
วันนี้พ่อใจร้ายมากเลย ทำแล็บท็อปเค้าพัง
สระ อะ เขียนแบบเต็มรูปซะด้วย (แบบลดรูปคือไม้หันอากาศครับ)
มันก็จะไม่มีเรื่องตั้งแต่แรกเลยค่ะ เพราะคุณพ่ออ่านไม่ออก
เด็กไทย Win!!
เเล้วก็มีต่อว่า ไอ้เครื่องที่โดนยิง...เปิดมาใช้ต่อได้ ปรากฎว่ากลายเป็นโฆษณาของคอมพิวเตอร์ยี่ห้อหนึ่ง 555+
แสดงว่าฮิตมาก มี parody เพียบเลย
เป็น viral video โฆษณา facebook หรือเปล่่า
นั่นมันเห็ดผีรุ่นมะเร็งรึเปล่าหว่า?? ถ้าใช่ก็ยิงทิ้งไปเถอะ เพราะเดี๋ยวมันก็เจ๊ง 555
ปล. ไม่เห็นด้วยกับคุณพ่อ เพราะไม่สนับสนุนความรุนแรงครับ
ตอนเด็กๆผมลำบากกว่านี้อีกก็บ่นเหมือนกันอ่ะ
เป็นเด็กที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก ยังไงก็บ่นแหละครับ ไม่ว่าลำบากมากน้อย
พอมาเจอของจริงเข้า ถึงได้รู้ว่าเรื่องที่เคยทำมันจิ๊บจ๊อย T^T
คุณพ่อ โหดไปหน่อยนะ
น่าจะเก็บค่าอัพเกรดซอฟแวร์ให้ในราคาสูงลิบลิ่ว (แล้วให้จ่ายด้วยการทำงานบ้านแทน :P)
ดูจนจบแล้ว เลยมา edit เพิ่มดีกว่า น่าสงสารคุณพ่อจริงๆแฮะ พูดไปสะอื้นไป
ปล. หมอนี่ทำงาน IT ด้วยล่ะ 555 ตอนแรกนึกว่า ทำฟาร์ม เห็นชุดคาวบอยมาเชียว อุปกรณ์ทำไร่ไถนาอีกเพียบ
ผมเห็นด้วย
ก็กำหนดไปเลยว่าทำงานบ้านได้เท่าไหร่ แล้วพออ้อนขอซื้อของก็บอกว่าให้เก็บเงินจากการทำงานบ้านเป็นบัญชีให้เป็นระบบไปเลย จะได้ซึ้งถึงความจริงของโลกนี้
ประชดไปแบบนี้เสียของซะมากกว่า
เชื่อเถอะครับ ถึงเวลาลูกสาวคนนี้ก็จะบ่นอีก
"ฉันเป็นลูก ทำไมจะต้องทำงานเพื่อแลกสิ่งที่ผู้เป็นพ่อควรจะให้ด้วย"
เด็กบางคนก็ไม่รู้จักโตครับ ยิ่งถ้าไม่ได้รับการสั่งสอนอย่างพอเพียงตั้งแต่เด็ก เราจะสอนยากมาก เพราะวิธีการคิดของเค้าจะวิบัติไปหมด
คุณพ่อเท่มากครับ ดูแล้วผิดหวังในตัวลูกมากๆ ยิง labtop แบบนี้แหล่ะจะได้หลาบจำมั่ง ... ว่าแล้วก็ลำบากใจถ้ามีลูกมาจะโตมาแบบนี้ไหมหนอ...
เทคโนโลยีสมัยนี้คุมเด็กยากแล้ว มีโลกส่วนตัวสูง เอาตัวเองเป็นศูนกลาง จะบอกจะสั้งอะไรก็ไม่ได้
ถ้าเป็นพ่อเองก็ไม่รู้จะสอนลูกยังไงได้
ถ้าบอกให้ไปหาเงินซื้อใหม่เอง ถ้าเด็กมันไปหาเงินด้วยวิธีผิดๆก็จะเป็นเรื่องไปอีก
คลิปนี้หลงเข้าไปดูตอนเช้าวันนี้ เพราะขึ้นเป็น popular อยู่ใน youtube เลย
ดีกว่าพ่อคนที่ส่งรูปโป๊เยอะ
ทีแรกก็ไม่เห็นด้วยนิดหน่อย แต่พอเห็น HP อืม...นะ
ไม่ลอง minigun ไปเลยล่ะ?
ฮาาาาา
ผมเองก็มีซาก DV2000 ราคาซื้อมาครึ่งแสนอยู่เครื่องนึง ยังนึกไม่ออกว่าจะเอาไปทำอะไรต่อ ดูคลิปนี้อาจจะได้ไอเดีย ฮ่าๆ (ต้องไปหน้าตึกอื้อจื่อเหลียงด้วยนะ เรียกสื่อมวลชนมาด้วย ตีหน้าเศร้าร้องไห้ด้วย ยิ่งได้อารมณ์เลย :D)
นั่นสินะ v3000 ที่ซื้อมาสามหมื่น นอนหลับไหลอยู่ห้องใต้บัญไดเหมือนกัน
DV2107 ซื้อมา 45000 อายุปีเดียว อยู่ในกล่องจมฝุ่นยัดไว้ไต้ตู้
(แต่ชิพ Nvidia ไม่อยู่แล้ว งัดทิ้งเลย เกลียดมัน)
ผมขาย DV2000 ได้ 5000 โคตรดีใจเลย ฮ่า ๆ ๆ
ผมว่าการกระทำของคุณพ่อคนนี้มันทำให้ลูกสะเทือนใจมากเกินไป หลังจากลูกได้ดู clip นี้แล้วผมคงบอกได้เลยว่าเขาคงเกรงกลัวคุณพ่อมากขึ้นแต่อาจจะไม่ได้หลาบจำหรือสำนึกถึงความผิดของตัวเอง และอาจจะทำให้เด็กคนนี้ยิ่งต่อต้านคุณพ่อรุนแรงมากขึ้นแต่เก็บเอาไว้ลึก ๆ ในใจ
ผมเข้าใจความลำบากใจของคุณพ่อคนนี้ดีและเข้าใจเป็นอย่างยิ่งเลยว่าลูกคนนี้ไม่ควรจะใช้คำพูดแบบนี้บน facebook ไม่ควร post แบบนั้นด้วย แต่ผมว่าวิธีการอบรมสั่งสอนลูกของเขาแบบที่ปิดท้ายด้วยการเอาปืนออกมายิงแสดงแสนยานุภาพในการทำลายข้าวของนี่ไม่น่าจะใช่วิธีการที่ดีนัก
That is the way things are.
+1 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ความสะใจและความรุนแรงไม่ใช่การอบรมหรือสั่งสอนเด็กที่ดี ฝากคุณพ่อในอนาคตทั้งหลายไว้ด้วยนะครับ คนไทยยังมีทัศนคติผิดๆ ตรงนี้อยู่อีกมาก (โรงเรียนเลิกใช้ไม้เรียว เพราะผลการวิจัยชี้ชัดแล้วว่ามันเป็นการปลูกฝังให้เด็กก้าวร้าว และรักความรุนแรงเมื่อเขาโตขึ้น เพราะเหตุนี้จึงต้องสั่งเก็บไม้เรียวหมด ..ศาสตร์การศึกษาสมัยใหม่มีกระบวนการอบรมเด็กที่เหมาะสมและสร้างสรรค์กว่าเยอะครับ ขึ้นอยู่กับครูแล้วล่ะว่าฝีมือเจ๋งแค่ไหน เอาอยู่หรือไม่)
การใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหา สุดท้ายเด็กก็จะติดนิสัยก้าวร้าว และวน loop แบบนี้ไปเรื่อยๆ เราเองก็โตๆ มากับการที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนใช้ความรุนแรงกับเราในอดีตโดยรู้เท่าไม่ถึงการ เพราะอย่างนี้สังคมของเราก็เลยมีภาพของความรุนแรงกันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน (เข้าไปดูคอมเมนต์ในผู้จัดการแล้วสลดมาก แทบจะอ่านไม่ได้) แต่วันนี้วิทยาการมันทำให้เรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ปัญญาชนอย่างเราๆ ยังจะทำกันอยู่อีกหรือ
คำถามคือ เราคิดว่าความก้าวร้าวในความเป็นมนุษย์มันดีแล้วหรือครับ? ถ้าไม่ใช่ก็อย่าทำหรืออย่าแสดงออกมาเลยครับ (ex. ตบคว่ำ) เราสร้างสังคมที่ดีได้ แต่ต้องเริ่มจากตัวเราก่อนเลย
ผมว่ามันไม่ได้อยู่ที่ท่านพูดทั้งหมด ผมเจอกับตัวเอง น้องผมผู้หญิงเลี้ยงมาดูแลดีสอนอะไรดี นิสัยดีปรกติ แต่พอเข้าโรงเรียน เจอพวกเพื่อนสังคมเพื่อนที่มันเป็นเด็กไม่ค่อยดี กลายเป็นว่า เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีน ก้าวร้าวแม้แต่คนเลี้ยงดูมา ทั้งที่ไม่เคยตีซักแปะ แล้วก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ที่พูดเนี่ยมันแค่อยู่ ม 1 เองแถมเป็นเด็กผู้หญิงด้วยด่าน้า ยาย พ่อ แม่ ได้แบบหยาบๆขึ้นมึงกู ตอนแรกก็ใช้คำพูดแบบท่านว่ามันไม่ได้ดีขึ้นเลย ผมเลยคิดว่ามันไม่เกี่ยวหรอก ตอนเด็กๆผมโดนตีกับไม้เรียวเกือบทุกวัน จนวันนี้ไม่ได้เป็นคนก้าวร้าวเลย มันอยู่ที่จิตสำนึกของเด็กนั้นแหละ เด็กมันรู้เรื่องทุกอย่าง อะไรดีไม่ดีมันรู้แต่มันเลือกจะทำอะไรไป ด้วยสถานะการต่างหาก เพราะผมเคยเป็นเด็ก การสอนมันเป็นสิ่งหนึ่งจะโทษว่าสอนไม่ดีเองไม่ใช่หรอก เพราะคนอื่นๆก็เลี้ยงมาแบบเดียวกันเปะกลับไม่เป็นแบบนั้น มันอยู่ที่ตัวเด็กเองว่าจะต้องใช้วิธีใหน
+65535 ครับ.. ผมก็อยู่ในยุคไม้เรียว
สมัยก่อนพอเลิกเรียน ก็ไปเล่นเกมส์เครื่อง super แถวๆบ้าน แล้วกลับค่ำๆมืดๆ
พอตารู้เข้า, ถือไม้มะยมมาตีคาร้านเกมส์เลย ผมก็อาย คราวนี้หลาบจำ อาย ไม่กล้าไปเล่นเวลาเลิกเรียน เล่นเสาร์-อาทิตย์
ผมว่ามันอยู่ที่ในจุดๆนั้น... ว่าตัวเด็กจะแก้ปัญหาในจุดๆนั้นด้วยวิธีที่ถูก หรือผิด มากกว่าน่ะครับ :)
สังเกตุพวกที่โตมากับไม้เรียวได้ดีทุกคนครับ
ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่เคยสร้างความลำบาก สร้างปัญหาให้ใคร
ผมสังเกตุจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน คนที่ไม่ค่อยโดนไม่เรียว ทุกวันนี้ก็ติดยากันแทบทุกคน ต้องย้ายที่อยู่หนีเจ้าหนี้บ้าง หนีตำรวจบ้าง เพื่อนกลุ่มนี้เสียชีวิตด้วยความคึกคะนองไปก็เยอะ และมีความเสี่ยงที่จะติดยาสูงกว่าเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันที่พ่อแม่ดุ เฮี้ยบ
แน่นอน ... ผมเชื่อว่าการใช้เหตุผลสอนเด็กแทนการตีนั้นดีกว่า แต่พ่อแม่กี่คนครับ ที่จะสามารถสั่งสอนลูก / อบรมลูก / ใช้วิธีที่เหมาะสมกับเด็กจริงๆ ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ตี
การเลี้ยงเด็กผมคิดว่าเป็นจิตวิทยาการปกครองขั้นสูงนะ คุณจะทำอย่างไรให้การกระทำของคุณวันนี้ส่งผลดีต่อคนๆ นึงไปอีกทั้งชีวิตของเค้า มันไม่ง่าย เด็กเดี๋ยวนี้ก็เลี้ยงไม่ง่าย
พูดแล้วอยากกลับไปกราบเท้าพ่อแม่สักคนละที เพื่อขอบคุณที่เลี้ยงดูเรามาให้ได้ดีถึงทุกวันนี้
ไม่เห็นด้วยครับ
ฝรั่งที่อยู่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาด้วยไม้เรียวแต่ก็เห็นได้ดีกันมากมาย หลายคนมีความรับผิดชอบมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กไทยที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยไม้เรียวด้วยซ้ำ พออายุ 18 ปีก็ต้องย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเองด้วยตัวคนเดียว การทำงานพิเศษหาเงินค่าเทอมก็มีให้เห็นได้ทั่วไปจนเป็นเรื่องปกติ
ผมยังเชื่อว่าการเข้มงวดกับบุตรหลานเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่วิธีการแสดงออกถึงความเข้มงวดนั้นไม่จำเป็นต้องเป็น "ไม้เรียว" เสมอไป
That is the way things are.
เล่นเปรียบเทียบข้ามทวีป / วัฒนธรรมแบบนั้นมันชี้วัดอะไรได้ยากนะครับ
ผมลองสรุปมั่วๆ ดู วิเคราะห์จากมุมมองของผมที่ผมคิดมานานแล้ว ผมเองก็ชอบเอาสองวัฒนธรรมาเปรียบเทียบกันบ่อยๆ
ผมคิดว่าจริงๆ แล้วการที่เด็กคนนึง จะเติบโตมาเป็นคนดีได้ (ขออนุญาตไม่อธิบายคำว่าคนดี) นั่นเกิดมาจากหัวใจหลักคือ "ความเอาใจใส่ของผู้ปกครอง"
ผมมองว่าด้วยพื้นฐานทางวัฒนธรรมมันแตกต่างกัน สำหรับคนไทย - พ่อ/แม่/ผู้ปกครองที่ตีลูก คือการเอาใจใส่ลูก ตีด้วย แล้วบอกเหตุผลไปด้วย
สำหรับชาติตะวันตก - เค้าใช้การหักเงิน / การกักบริเวณ ... ซึ่งเอามาใช้กับเด็กไทยไม่ได้
ทั้งนี้การลงโทษจะได้ผลดี ต้องบอกเหตุผล บอกขอบเขตการโทษ
เด็กไทยถ้าโดนตีอย่างเดียว หรือโดนพ่อ/แม่ด่าอย่างเดียวก็คงไม่ได้ดี
เด็กตะวันตก ถ้าโดนกักบริเวณอย่างเดียว หรือหักเงินอย่างเดียว ก็คงไม่ได้ดีเช่นกัน
ขอบเขตการโทษ ?
รอวันกินเลี้ยง contributor ก่อนเหอะ
แค่ "ถูกกักบริเวณ" เท่านั้นเองครับ ไม่ได้โดนทำร้ายเลย
ไม่ค่อยเข้าใจครับ reply ผิดคนหรือเปล่าครับ ?
That is the way things are.
ใช่ครับคุณ zerocool ไม่จำเป็นเสมอไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าการตีคือความป่าเถื่อนนะครับ มนุษย์ก็สัตว์ชนิดนึงจิตใต้สำนึกมันก็เป็นสัตว์การห้ามปรามโดยการใช้กำลัง(ไม่ใช่รุนแรงจนเกินไป) มันก็จะทำให้เราหยุดการกระทำนั้นได้เมื่อเราจะทำมันอีก เด็กมันยังไม่เจอสังคมมามากเท่าผู้ใหญ่ ในทางสังคม(ไทย)เลยถือว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ห้ามคือสิ่งที่ควร เพราะฉนั้นก็ยอมรับว่าหากผู้ใหญ่ไม่ดีก็อาจจพาเด็กไม่ดีได้ แต่มันก็น่าจะดีกว่าให้เด็กไปลองชีวิตเอง เสี่ยงตามเพื่อน ติดยา ท้อง มานะครับ เพราะบางคนไม่ได้ผ่านสถานะการณ์แบบนั้นมาแล้วปลอดภัยเสมอไป ฝรั่งเค้าให้เด็กใช้ชีวิตเองตั้งแต่ 18 อะใช่ เพราะสังคมเค้าพูดตรงๆก็ใช้วัตถุหรือเงินนั้นแหละในการบังคับ สังคมไทย พ่อแม่ตีลูกยังไงก็ยังรักลูก ท่านๆอย่าเอาเคสที่มันเป็นข่าวที่มีส่วนน้อยในสังคม เช่นตีลูกระบายอารมณ์มาเป็นตัวตัดสินว่าการตีคือป่าเถื่อน สังคมฝรั่งปล่อยให้คิดเองจริงแล้วท่านเห็นพวกที่โตแล้วเลวเปล่าครับฝรั่งที่เลี้ยงมาแบบนั้นมีเยอะแยะ คือผมสงสัยว่าทำไมบางคนถึงคิดว่าการตีคือความป่าเถื่อนทั้งที่ผมโตมาผมก็ไม่เคยคิดว่าเมื่อก่อนที่โดนตีคือสิ่งที่โดนกดขี่ ไม่เคยคิดอาฆาตครูอาจารย์ กลับขอบคุณซะอีก แต่ทำไมคนสมัยใหม่กลับคิดเอาเองว่า นั้นทำให้เด็กก้าวร้าวไปในอนาคต ทั้งที่ถามคนที่โตมากลับการโดนตี เค้ากลับบอกว่าไม่ได้เป็นแบบที่คนรุ่นใหม่คิดเอาเองเลย
+1 ถึงผมจะไม่ค่อยโดน แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยกับการห้ามตีเด็กนะ (แต่ก็ตีให้อยู่ใน... ด้วย ไม่ใช่สักแต่ตี)
โตมากะไม้เรียวเหมือนกัน ทุกวันนี้นึกขอบคุณพ่อที่โคตรดุ เพราะถ้าเค้าไม่ดุขนาดนี้ อาจจะเละเทะไปแล้วก็ได้
เพราะเห็นจากหลานๆ สองบ้าน เลี้ยงต่างกัน พี่ชายยังดุเหมือนพ่อ แต่พี่สาวนี่ไม่ดุลูกเลย พฤติกรรมสองบ้านก็ต่างกัน
บ้านที่ดุ พูดคำเดียวรู้เรื่อง
บ้านที่ไม่ดุ ลูกซนมาก แถมคนพี่มันยังบอกแม่ว่า ก็แม่ไม่ดุเหมือนคุณครูที่โรงเรียน น้องก็เลยซน ซะงั้น ...
เด็กที่โตมากับไม้เรียวคงจะได้ดีทุกคนจริงๆค่ะ
มีน้องผู้หญิงคนนึงที่รู้จัก เหล้ายาไม่สูบ รักนวลสงวนตัวสุดๆ เพื่อนผู้ชายไม่ให้แตะโดนตัวเลย
ตอนเด็กๆ แม่เห็นคุยกับผู้ชายคนไหนจับฟาดด้วยไม้แขวนเสื้อ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พี่ชายข้างบ้าน คุยเล่นกับคนขายขนม ครูผู้ชาย บลาๆๆ พอแม่มีสามีใหม่ สนิทสนมกับพ่อเลี้ยงมากก็ไม่ได้ เห็นว่าโดนด่าแบบหยาบๆคายๆ ทุกคนก็สงสารแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง
ทุกวันนี้มันก็เลยออกมาอยู่หอ ให้พ่อเลี้ยงส่งเสียให้ ก็เลยพ้นจากสังคมเดิมๆไปได้แล้ว
ปกติก็เป็นคนเรียบร้อย คุยกับคนอื่นไม่มีคำหยาบเลยแม้แต่กับเพื่อนสนิท เคยถามว่าทำไม เขาก็บอกว่าไม่อยากเป็นเหมือนแม่
แต่เวลาโมโหจะควบคุมตนเองไม่ได้ ล่าสุดทะเลาะกับเพื่อนในร้านแนวๆสุกี้ เลยเอาหม้อที่กำลังเดือดๆสาดใส่เพื่อน ดีที่เพื่อนโดนไปไม่มาก เลยเจรจาเสียค่าทำแผลกับค่าทำขวัญไป
ทุกวันนี้สงสารมันมาก มันเริ่มรู้ตัวว่าคงจะมีอาการทางจิต มันพูดเรื่องนี้ทีไรร้องไห้ทุกที มันทำได้แค่พยายาม
เห็นมะ ว่าไม้เรียวสอนคนให้ได้ดีจริงๆ
น้องๆ ผม(ห่าง 10ปี + ลูกน้า) จำนวนหลายคน ทั้งชายหญิง
ไม่ได้โตด้วยไม้เรียว
รุ่นผมกับน้องชาย(ห่างกัน 2ปี) ที่บ้านตีเป็นรุ่นสุดท้าย
ผมเห็นมัน ก็เป็นคนดีกันทุกคน นะครับ
เหล้ายาตั้งแต่อายุยังน้อย เอย เที่ยวเอย กลับบ้านดึกเอย
ไม่ไปโรงเรียนเอย ไปกับผู้ชายเอย
ทะเลาะวิวาทเอย เขียน ไดอารี่ด่าพ่อด่าคนในบ้านเอย
มีเมียตั้งแต่ยังไม่จบ ปวส เอย
ปีนหนีออกจากบ้านเอย
ผมก็เห็นมันก็ทำจนครบนะครับ
อาจจะมีตกหล่นในวีระกรรมของ พวกมันไปบ้างเพราะจำไม่ไหว
ดังนั้น ท่านๆ ไม่ต้องตีไม่ต้องตีต้องดุลูกครับ เลี้ยงตามแบบชาติตะวันตก ซึ่งเป็นแนวทางที่ตี
ทำโทษเพียง ให้เหตุผลกับกักบริเวณ เพราะเห็นที่บ้านทำกันอยู่แค่นี้
ใช้ตรรกะ ทำงานบ้านจ่ายเงินให้ ตามอุดมคติเท่าที่ท่านๆ นึกได้
จะได้เติบโตมาเป็นคนดีในสังคม ครับ
ขอบคุณครับ
อ้อวิธีของผม หลังผมทราบเรื่อง
ผมเริ่มจากผู้ชาย เจอปุ๊บผมก็ เตะ + ด่า
น้องๆผู้หญิงมันก็เห็น เลยค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางตรงกันข้าม
หรือไปแอบทำที่อื่นไม่รู้ แต่ไม่มีเรื่องจากชาวบ้าน และครูแจ้งมาอีก
ไอ้คนโดนเตะ หลังๆ เห็นไปช่วยงานวัด จากไม่เป็นโล้เป็นพาย
ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้ามเช่นเดียวกัน
ทุกวันนี้กำลังจับตามองอยู่
Ton-Or
เอ่อ .... โหดมากครับ (อยากใช้คำว่า animal cruel) =..=
ลูกเขาคงไม่กลัวหรอกครับ เพราะเครื่องต่อไปต้องคงต้องทำงานหาเงินซื้อเองแล้วหละ
ทีนี้คงได้ถูพื้น ล้างจาน ทำงานหนัก จนรำลึกถึงพระคุณของพ่อได้อย่างหนักเลย
บอกตรงๆ ว่าผมก็ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับวัยรุ่นจำพวกนี้เหมือนกัน เขา(หรือเธอ)เหมือนเกิดมาในโลกที่ต่างออกไป มี logic แปลกๆ ที่แบบว่าผมไม่สามารถเข้าใจได้ ยิ่งถ้าให้อบรมสั่งสอนนี่แทบเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าใครมีลูก หรือคนใกล้ตัวแบบนี้จะเข้าใจดี คนพวกนี้นำความฉิบหายมาให้ครอบครัวตลอดเวลา แต่เราไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่มองเท่านั้น ... แต่ถึงแย่แค่ไหน เราก็ต้องดูแลพวกเขาอยู่ดี ให้เงิน ส่งเรียน ซื้อของให้ ไม่งั้นพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ในสังคมได้ยังไงถ้าเราไม่เลี้ยงดูพวกเขา...
+1 ผมก็นึกวิธีจัดการไม่ออกเหมือนกันครับ
หลายคนชอบบ่นน้อยใจว่า พ่อแม่ดูแลเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่ญาติพี่(น้อง)หลายคนทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว มีอะไรก็ให้เขาไปจนตัวเองเกือบล่มจมแล้ว แต่ก็ยังบ่นน้อยใจที่ตัวเองไม่ได้เป็นเหมือนคนอื่น ๆ อยู่นั่นแหละ แล้วไม่เคยเชื่อฟัง ทำตัวดี ๆ ให้ชื่นชมเลย พอปล่อยให้เขาไปตามยถากรรมก็ถูกมองว่า ปล่อยปะละเลยไม่ดูแลอีก...
Jusci - Google Plus - Twitter
ถ้าเจอแบบนี้ให้ย้อนดูพ่อแม่ค่ะ
พ่อแม่เลี้ยงยังไง ลูกก็เป็นตามนั้นเลย
ใช่แล้วครับ น่าจะมีส่วนพอสมควร แต่ต้องทำใจว่าการเลี้ยงลูกมันมีปัจจัยต่างๆ มาเกี่ยวข้องมากเกินไป ถ้าพ่อแม่ไม่พร้อมในหลายด้านจริงๆ อาจจะเลี้ยงลูกไม่ได้ดั่งใจนึก ... สมมุติลูก 3 คน เลี้ยงด้วยวิธีเดียวกัน แต่ก็มีนิสัย และ พฤติกรรมแตกต่างกัน 2 คนดี อีก 1 คนแย่ อะไรแบบนั้น ถ้ามองย้อนกลับไปจะรู้ว่าที่เลี้ยงคนที่ 3 อาจจะผิดวิธี แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ไม่สามารถแก้ไขอดีตได้อีกแล้ว
พ่อแม่บางคนพยายามลบปมด้อยของตัวเองในวัยเด็ก ด้วยการใช้ลูกเป็นตัวแทนตัวเองในวัยเด็ก
ตอนเด็กๆ ไม่ค่อยมีเงิน ก็เลยทุ่มเงินให้ลูก
ตอนเด็กๆ โตมาอย่างยากลำบาก ก็เลยให้ลูกอยู่สุขสบาย
ตอนเด็กๆ รู้สึกว่าพ่อแม่โหดร้าย ชอบดุด่า ว่ากล่าว ตี ทำโทษ ก็เลยไม่ดุ ไม่ด่าลูกเลย
ปัจจุบันแทบจะกราบลูกแทนศาลรุกขเทวดาแล้วครับ ... ลูกเทวดาทั้งหลาย
ปล.เขียนฝากไปถึงน้องที่รู้จัก หึหึ รู้นะว่าเอ็งกำลังอ่านกัน
เห็นด้วยที่สุดครับ
もういい
ผมก็มีเด็ก ม1 ผู้หญิง โพสด่าที่บ้านตัวเอง ด่าพ่อด่าแม่ตัวเองว่าน่ารำคาญ ผมถ้าเจอตัวอยู่ใกล้จะตบให้คว่ำ ตัวเท่าลูกหมาเป็นผู้หญิงด้วย ก้าวร้าวเกินเด็กมาก
มียิงเผื่อคุณแม่ด้วย 555
คลิปนี้จะหลอนลูกเค้าไปอีกนาน ว่า พ่อได้เลือกวิธีแก้ปัญหาอย่างไร ตอนแก่ตัวมา คุณพ่ออาจอยากย้อนเวลามาแก้...
อืมก่อนจะวิจาร์ณกันอยากให้ตามไปอ่านข่าวที่นี่ก่อนครับ
http://mashable.com/2012/02/11/dad-addresses-facebook-laptop-shooting/
คุณพ่อเขาเองก็ไม่ได้บอกอะไรมาก แต่เขาได้พูดกับลูกสาวเขาแล้วและผลสรุปออกมาลูกสาวเขาก็โมโหอยู่
แล้วก็คุยกันยาว พอคืนดีกันได้ ตัวพ่อก็เสนอให้ลูกสาวเขาอ่าน Comment ในYoutube ว่ายังไงบ้าง
ลูกสาวเขาก็แปลกใจมากกว่า คนทั่วไปบอกว่าตัวหล่อนจะกลายเป็น คนติดยา ใจแตก ท้อง แล้วก็กลายเป็นสาวระบำเปลื้องผ้าแน่นอน(เป็นอาชีพอันดับหนึ่งที่ คน Comment คิดว่าลูกสาวเธอเป็นแน่ๆ) ซึ่งตัวลูกสาวเขาก็บอกว่า มันก็แค่คอมล่ะนะ และยังบอกคนเป็นพ่อว่าช่วย Comment ถามกลับไปที่ว่า สำหรับลูกวสาวที่พ่อยิงคอมพังนั้น มีอะไรที่น่าสนใจกว่าอาชีพสาวเปลื้องผ้าไหม เพราะเธอไม่ค่อยสนใจอาชีพนี้เท่าไหร่.......
และผลที่ตามมารุนแรงมากกว่าเรื่องในครอบครัวคือกลายเป็นคนดัง แล้วก็มีคนมาขอสัมภาษ์ณเยอะมากแต่แกไม่ไปเลย
อ้อเดิม แกพยายามหาทุนบริจาคให้ที่นี่ http://www.mda.org/ ทั้งเดือนได้ 320$
แต่พอเกิดเรื่อง แกก็หาทุนต่อ สองวันได้มา 3000$ แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มีคนแจ้งตำรวจด้วยให้มาดู มีคนจากหน่วยงานบางอย่างมาดูด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรผ่านไปได้ด้วยดี
สุดท้าย แกกับลูกสาวได้เรียนรู้ร่วมกันว่า อะไรก็ตามที่โพสออนไลน์ อาจจะติดตามหลอนเราไปชั่วชีวิต เพราะตัวพ่อกับแม่ เด็กสอนลูกเสมอว่า คอมเม้นเล็กๆ แย่ๆ ตัวเดียวในอดีตอาจจะทำให้การหางานดีๆ มีผลได้หรือแม้กระทั่ง ทำให้ต้องออกจากงานที่ทำอยู่ได้ เช่นเดียวกับตัวพ่อเองที่ Clip อันเดียวบน Youtube จะติดตามหลอกหลอนตัวพ่อไปชั่วชีวิต เหมือนสิ่งที่ลูกสาวโพสใน FB ของตัวเอง ก็ทำให้พ่อแม่เจ็บปวดไปนานเช่นกัน
ฉะนั้นแกอยากให้ลูกสาวคิดดีๆ ก่อนจะแชร์ความคิด ออนไลน์อะไรลงไปในโลกออนไลน์ครับ
ต้นฉบับสรุปเรื่อง ลองตามไปอ่านดูนะครับ
เรื่องนี้พออ่านๆไป มีมากกว่า เรื่องพ่อยิงคอมลูกสาวแฮะ
***จริงๆลูกสาวซ่อน Privacy status ที่ว่าพ่อตัวเองบน FB แล้วแต่ว่าพ่อดันไปเห็นเข้าตอนที่กำลัง Upload รูปขึ้นไปบน FB page ของหมาของครอบครัวอยู่
โอว สุดท้ายก็จบลงไปด้วยดีสินะ
ทั้งพ่อทั้งลูก ก็โพสลงไปด้วยอารมณ์กันทั้งนั้น แชร์ไปเพื่ออะไร คนนอกมาด่าครอบครัวตัวเองอย่างนั้นแล้วเรามีความสุขมั้ย งานนี้ก็ได้บทเรียนกันทั้งสองฝ่าย
บ้านผมก็เล่นเฟสบุ๊คกันทั้งบ้านนะ ดีที่ไม่มีใครเป็นงี้ แฟนผมก็ไม่ง้องแง้งในเฟส วันๆส่งแต่ sims มา -*-
อ่านบทสรุปแล้วรู้สึกถึงความเป็นวิถีอเมริกันมากๆ
ตอนแรกที่อ่านข่าว คิดไว้ว่า
เห็นละอยากเอาไอแพด ไอโฟน เห็ดผีของแฟนมายิงมั่ง
ด่ากุออกเฟสได้อยู่ทุกวัน ไม่ด่าออกเฟสก็ตั้งสเตตัสกระแนะกระแหนเราในไลน์มั่ง msn มั่ง
5555555+
55555 ฮาด้วยคน
โอ้ ถึงขนาดนั้นก็เลิกกันไปเลยดีกว่าครับ จะทนไปทำไม
เหอะ ๆๆ
มีเหมือนกันที่เป็นแบบนี้ เพื่อนที่ชอบด่าประชด(ใครก็ไม่รู้) ออกสื่อ
คือเรารู้สึกว่า เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว ยิ่งคุณโพสต์ออกมา
มันยิ่งประจานชีวิตตัวเองอ่ะ
ทำไปได้
ตอนนี้ชีวิตต้องปรับตัวตามโลกออนไลน์สินะ
จะโทษลูกเขาอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะ ประเทศ เขาเป็นประชาธิปไตร สมบูรณ์แบบ
ยิงปืนลงพื้นแบบนี้ ไม่กลัวกระสุนมันชิ่งมาโดนตัวเองหรือไงเนี่ย ถึงตายน่า
นึกว่าดูหนังคลินต์ อีสต์วูด คาวบอยมาก
ทำงานบ้านพอเข้าใจ แต่ต้องดูพฤติกรรมครับว่า บ่นด่า ชี้นิ้ว เรียกใช้ เหมือนทาสรึป่าว
ถ้าใช่คุณพ่อก็มองว่าคุณลูกกเป็นสาวใช้ เป็นบริวาร เจ้าข้าวเจ้าของ
อย่างอะไรตรงไหน เปื้อนหน่อย กะตะโกนเรียกมาด่าว่าปล่อยไห้เปื้อนได้ยังไง ไปเอาอะไราเช็ดเดี่ยวนี้
กับว่า
พูดกับลูกสาวว่าเอะ ตรงนี้มันเปื้อนอะไรนะ ทำไมอะไรมันหกบ่อยจัง ไปเอาอะไรมาเช็ดหน่อย
มันต่างกัน
เด็กมีสิทธิในชีวิตตัวเอง
ไม่ใช่คุณพ่อจะถืออว่าบ้านเค้าเมียเค้าลูกเค้า ทุกอย่างเค้าเป้นเจ้าของ
จะให้เด็กทำอะไรก็ได้ตามใจสั่ง
นี่แหละครับ ปัญหาของเด็กสมัยนี้
คือเด็กเข้าใจเรื่องสิทธิและเสรีภาพของตนเอง แต่ไม่เข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ ที่ตัวเองควรจะปฏิบัติ
แต่มันไม่มีจารึกไว้ในสมุดข่อยหรือคัมภีร์ฉบับไหนหรอกครับ ว่าหน้าที่ของลูกๆ มีอะไรบ้าง นั่นเป็นหน้าที่ ที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรอบรมตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ลูกๆ หลานๆ ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองบ้าง
อย่างว่าครับ ... พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรเข้าใจลูกๆ ด้วย เพราะการเรียนก็เหนื่อย ลูกๆ ก็ควรเข้าใจพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย เพราะพ่อแม่ทำงานก็เหนื่อยเช่นกัน
เรื่องจิตสำนึกนี่สอนกันยากแฮะ ยิ่งถ้าไม่ได้ปลูกฝังเรื่องสำนึกต่อส่วนรวมมาตั้งแต่เด็กๆ นี่ท่าทางจะต้องใช้พลังมากโข
กลัวๆ เหมือนกันนะครับ กลัวว่าจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดีเหมือนที่พ่อแม่เลี้ยงดูเรามา
ขอบ่นยาวๆ ครับ พอดีเห็นเด็กแถวๆ นี้แล้วปวดหัว ท่าทางจะถือคติ "เรียนไปปวดหัว มีผัวดีกว่า" อายุรุ่นลูกเรา แต่มันนำหน้าเราไปก่อนแล้ว
แต่ ลูกทำเกินไปจริงๆ ไม่เข้าใจ พ่อแม่ บ้างรึ ท่านทำงาน หาเงิน ให้พวก ... ใช้ กิน ใช้ นอน เล่น .... กัน กับเรื่องช่วยงานบ้านแค่นี้ ช่วยท่านไม่ได้ เฮ้อ อนาถใจ