ตัวแทนจาก Students & Scholars Against Corporate Misbehavior (SACOM) ซึ่งเป็น NGO ด้านการละเมิดแรงงานในฮ่องกงระบุว่า เขาได้รับรายงานจากพนักงาน Foxconn ว่าทางบริษัทได้จัดฉากโดยย้ายพนักงานที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ออกไปทำงานที่อื่นก่อนที่สมาคมแรงงาน (FLA) จะเข้ามาตรวจสอบ
นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังมีการกล่าวหาว่า ตัวแทนจากแอปเปิลที่คอยดูแลการทำงานต่างๆ ในโรงงานนั้นทราบถึงเรื่องราวการละเมิดแรงงานต่างๆ ดี แต่เลือกที่จะไม่สนใจมากกว่า
ก่อนหน้านี้เพิ่งมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการจาก FLA ว่าสภาพการทำงานในโรงงานของ Foxconn นั้นเป็นระดับ 'first class' อย่างไรก็ตามก็คงต้องรอดูรายงานอย่างเป็นทางการของ FLA อีกครั้งหนึ่ง
ที่มา - AppleInsider
Comments
ตกลงมันเข้าไปตรวจรับรองโดยการสุ่มตรวจ หรือนัดก่อนตรวจกันแน่เนี่ย แหล่งข่าวเก่ามีระบุไว้รึเปล่านะ
จากสภาพข่าวที่แอปเปิลเป็นคนให้อนุญาติให้สมาคมแรงงานเข้าตรวจ น่าจะเป็นนัดตรวจครับ
http://www.blognone.com/news/29770/
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ถ้าดูตามสารคดีของ ABC ก็เป็นการนัดครับ
555+ เล่นไม่เลิก
ถ้าจริงนี่.....
ศึกนี้ท่าทางจะไม่จบง่ายๆแฮะ
ถ้านัดวันเวลาเข้าไปก่อนก็ไม่แปลก
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ทำเหมือนตำรวจตรวจบ่อน
สงสัยตั้งแต่แรกๆ แหละว่าทำไมถึงลาก Apple ไปเกี่ยวนัก เข้าใจว่าทำอุปกรณ์ของ Apple แต่ Apple ก็แค่เป็นลูกค้าสั่งไม่ใช่หรือ Foxconn ทำดีไม่ดีมันก็เป็นเพราะ Foxconn ไม่ใช่หรือ Apple ไม่ได้ไปบริหารงานด้วยนี่
ดีล ของ Apple ค่อนข้างจะพิเศษกว่า คนอื่น
ตรงที่ APPLE ขอดุต้นทุนที่แท้จริง ทั้งหมดของ Foxcon (ซึ่งไม่เคยมีบริษัทใดทำได้)
และ Apple จะเป็นคนกำหนดเองว่าจะให้กำไร Foxconj เท่าไร
ถ้า Apple เลือกที่จะให้ กำไร Foxcon น้่อยไป Foxcon ก็จะไปหาวิธีลดต้นทุนการผลิตเอาเอง ซึ่งวิธียอดฮิต ก็คือการเอาเปรียบแรงงาน
และ ไม่มี บริษัท จะมาทดแทน ดีล ของ Apple เพื่อที่สร้างอำนาจต่อรอง ของ Foxconn ได้เลย
คำถามคือ แล้วดีลของบริษัทอื่นที่ไม่ได้ทำแบบนี้ แรงงานมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่าแรงงานที่ผลิตสินค้าของแอปเปิลหรือเปล่า
+1
คำตอบคือ ไม่ครับ
แต่ ตราบเท่าที่ Apple ยังใช้ โมเดลนี้อยุ่ ก้ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า Apple เป็นผู้มีส่วนร่วมกับ Foxconn ในการเอาเปรียบพนักงาน
ในขณะที่ บริษัทอื่น สามารถ ปฏิเสธ ตัวเองจากวงจรอุบาทนี้ได้ เพราะไม่ได้มีส่วนร่วมกับบริษัทโดยตรงมากเท่ากับ apple
คำถามต่อสังคมผู้ดี? คือ ในเมื่อ แอบเปิ้ลมีอิทธิพล ต่อ Foxconn มากขนาดนี้ ทำไม Apple ไม่เข้ามาช่วยเหลือ แรงงาน เหล่านี้ ทั้งที่มีกำไร ต่อเครื่อง มหาศาล
ทั้งหมด คือ จุดอ่อน ของ Model ที่ Apple ใช้ เมื่อ ยุคนี้สังคมเริ่มสนใจ การมีส่วนร่วมต่อสังคม ของบริษัท โดยเฉพาะ บริษัทที่ใหญ่มากๆ แม้เราจะรุ้กันอยู่ว่า ต่อให้เพิ่มกำไร หรือ ใช้ วิธีการ แบบชาวบ้าน บริษัทเหล่านี้ก็ยังคงปฏิบัติ กับพนักงานเช่นเดิมอยู่ดี
คุณภาพแรงงานมันไม่เกี่ยวกับ Apple หรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องของรัฐบาลจีนในการบังคับกฏหมาย ซึ่งผมไม่รู้ว่ามีข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็กและสิทธิขั้นพื้นฐานดีพอหรือเปล่า และขึ้นกับ Foxconn ว่ามีธรรมมาภิบาลมากพอหรือเปล่า
ประเด็นของ สื่อทั้งหลาย พยายามบอกว่า รัฐบาลจีน กับ Foxconn ไม่สนใจต่อสภาพแรงงานอยู่แล้ว แต่
Apple แสดงให้เห็นแล้วว่ามีอิทธิพลมาก(โดยดูจากดีลระหว่าง Apple และ Foxconn) พอที่จะบีบให้ Foxconn ต้องมี ธรรมมาภิบาล ต่อแรงงานครับ ทำไมถึงไม่ทำ (เค้าไม่ได้มองว่า มันควรเป็นหน้าที่แค่ รัฐบาล กับ โรงงานไงครับ และเค้าไม่หวังจาก 2 หน่วยงานข้างต้นอยู่แล้ว และลูกค้ารายอื่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่มีอำนาจ อิทธิพล จะไปบังคับ โรงงานได้)
หรือ
Apple จ่ายเงินให้ Foxconn น้อยไปหรือป่าว (ไปขอดูต้นทุนเค้า แล้วคิดเอาเองว่าควรจะจ่ายให้เท่านั้นเท่านี้) Foxconn จึงต้องไปบีบกับแรงงาน
+1 หลงประเด็นกันหมดแล้ว อีกประเด็นคือ ถ้า Apple จ่ายเงินเพิ่ม สภาพแรงงานจะดีตลอดจริงหรือ ไม่งั้นจัดฉากเนียนๆ แบบพี่จีน แล้วอมเงินบางส่วนก็ได้ เพราะกฏหมายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วนี่นา
ปล. กฏหมายไม่คุ้มครองคนชาติเดียวกัน ทำคนอื่นวุ่นเลย :P ถ้าเป็นประเทศเรา นายกต้องโดนด่าก่อนแน่นอน
คำตอบคือไม่ดีกว่าครับ แต่ก็ยังนับเป็นความรับผิดชอบของแอปเปิลอยู่ดี
เรื่องนี้ใช้ตรรกะว่า"แล้วบริษัทอื่นก็จ้างผลิตเหมือนกัน"ไม่ได้เลยครับ มันไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง
การที่คุณซึ่งเป็นผู้จ้างผลิตมีข้อมูลต้นทุนทั้งหมดแถมกำหนดราคาซื้อได้เอง นี่เท่ากับคุณมีส่วนร่วมรับผิดชอบเกินครึ่งแล้ว
ปกติคนที่มีสิทธิ์ระดับนี้ต้องนับเป็นผู้บริหารระดับสูงด้วยซ้ำไป จะเรียกว่าแอปเปิลเป็น"ผู้ถือหุ้นที่ไม่มีตัวหุ้น"ยังได้เลย
ปกติบริษัทที่มีธรรมาภิบาล ต้องมีการ audit พวก supplier เรื่องมาตรฐานแรงงานและด้านคุณภาพอื่นๆ อยู่แล้วครับ ไม่แน่ใจว่ามีกฎหมายบังคับไว้รึเปล่า
กรณีนี้ Foxconn มีเรื่องอื้อฉาวเยอะ และลูกค้ารายใหญ่ของ Foxconn คือ Apple เลยมีการกดดันไปที่ Apple เยอะกว่าลูกค้าของ Foxconn รายอื่น
และอีกอย่างคือ Apple มีข้อมูลของ Supplier เยอะมาก อาจจะรู้เห็นเป็นใจกับการใช้แรงงานทาส(ถ้ามี) ซึ่งเข้าใจว่าผิดกฎหมาย นะครับ
เรื่องแรงงานเด็ก ผมมองว่าอย่างนี้นะ อาจจะเกี่ยวกับ Foxconn หรือไม่ไม่รู้(เพราะไม่ได้สนใจทั้งโรงงานและผลิตภันฑ์)
ต่างจังหวัดเด็กไม่เรียนเยอะแยะ (ก.ท.ม. คงเยอะกว่า) มีอยู่สองพวก แว้นไปวันๆ ส่งม้าส่งยา ส่งโพยบอล ไปตามเรื่องมีเงินใช้สบาย เห็นตกเย็นก็มานั่งป้อสาวหน้า 7-11 หละ ไม่ก็นั่งกันเบียร์ สูบบุหรี่ บลาๆ
กับเด็กอีกกลุ่มหางาน ตามโรงงานต่างๆ หรือหาอาชีพอะไรทำ คนที่เขาให้งานเด็กทำก็คิดว่าสงสาร และไม่ได้เป็นงาน
ที่เกินกว่าเด็ก จะทำได้เลย อีกอย่างถ้ามันเป็นงานร้านอาหารกลางคืน กม. ดันไปห้าม ทีนี้จะให้พวกเด็กที่มันรักดีหางานสุจริตทำมันกินอะไร หรือผลักดันให้มันไปส่งม้ากันหมด
สรุปสั้นๆ คือ ถ้ามี กม. แรงงานเด็กแล้วทำตามก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ อีกอย่างถ้าเวลาทำงานเกิน แต่เขาสมัครใจ เพราะอยู่เฉยๆ ไม่มีรายได้เพิ่ม(OT) สู้ทำงานดีกว่า จะไปอะไรกับเขาอีก
Ton-Or
ถ้าเขาถึงขั้นต้องเอาเด็กออกไปหมดก่อนมีการตรวจสอบ ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นการใช้แรงงานที่ถูกกฎหมายครับ
ผมเคยเห็นป้ายติดในโครงการก่อสร้างของแสนสิริครับ..
"ชีวิตดีเริ่มต้นที่บ้าน อนาคตดีเริ่มต้นที่โรงเรียน"
หมายความว่าเขาต่อต้านการใช้แรงงานเด็กในไซท์ก่อสร้าง และไม่มีการใช้แรงงานเด็ก
ไม่ว่าเด็กจะมีฐานะหรือพฤติกรรมอย่างไรก็ตาม เด็กควรไปโรงเรียนครับ อย่างน้อยก็ให้ผ่านการศึกษาขั้นพื้นฐานก่อน เรื่องงานมันยังไม่ใช่วัยที่เขาต้องมาทำ
ตกเย็นก็ควรใช้เวลาไปกับการพัฒนาทักษะชีวิต เช่นกีฬา ดนตรี ศิลปะ ภาษา อ่านวรรณกรรม คอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็ทบทวนบทเรียน ทำการบ้าน พักผ่อนตามเวลา แต่ไม่ใช่ออกไปทำงานกลางคืน
อาจฟังดูโลกสวย แต่ในความเป็นจริงมันก็ควรเป็นอย่างนั้นใช่ไหมครับ การปล่อยให้เด็กออกมาแว้น มาส่งยา แสดงว่าการจัดการเยาวชชนในชุมชนนั้นล้มเหลวอย่างรุนแรง ซึ่งต้องมุ่งแก้ไข ต้องให้เด็กและครอบครัวเห็นความสำคัญของการศึกษาให้ได้ และอย่าไปก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมอย่างนั้นครับ อนาคตของชาติทั้งนั้นเลย
งั้นนอกประเด็นต่อ
ถ้า แสน.. ก็ ยกมาเลยครับ ไซท์ ไหนไม่มีการใช้แรงงานไม่ถึง 18 ไม่ก็ยกผู้ ชื่อผู้รับเหมา มาก็ได้ครับ
ผมไปเคยฝึกงงานอยู่ ปัจจุบันเพื่อนผม ที่ยังทำงานให้กับที่นี่ก็ยังพอมีอยู่ พอหาข้อมูลได้
การศึกษาบังคับแค่ ม.3 จบ ม. 3 อายุแค่ 13 14 15 เหลืออีกอย่างน้อย 3 ปี กว่าจะ 18 เอาเงินจากไหน เรียน กิน อื่นๆ
ส่วนที่คุณบอก ครอบครัว หมายถึงอะไรหล่ะครับ ถ้าครบ พ่อแม่ลูก
เคยเจอ เด็กๆ ที่อยู่กับ ปู่ย่า ตายาย แก่ๆ ไหมครับ พ่อแม่ไม่เคยกลับมาดู
พวกที่รายได้วันๆ หล่ะไม่กี่ร้อย เกี่ยวหญ่า รับจ้างทั่วไป อย่ามายกเรื่องค่าแรง 300 นะครับ ขี้เกียจต่อเรื่องประเด็นนี้
ไม่ก็อย่างที่บ้านเกิดผมเอง บ้านใกล้ๆ กัน ตอนแรกก็มีครบ พ่อแม่ลูก พ่อติดเอดส์ เอามาติดแม่ด้วย แม่ตายก่อน พ่อหนีออกจากบ้าน (ตอนหลังก็ตาย) เหลือตากับยาย สักพัก ยายตาย เหลือปู่แก่ๆ คนเดียว ทางฝั่งพ่อไม่ต้องพูดถึงพึ่งพาอะไรไม่ได้ ตั้งแต่แต่งงานแล้ว
การจัดการ ต้องเป็นหน้าที่ของใครหล่ะครับ ตำรวจหรือทุกคน ถ้าทุกคน ผมเคยเจอ พวกนี้ลักโขมย เห็นหน้ากันจะๆ
ต้องไป เป็นไปพยานจนจับเข้าคุก ติดไม่นานเพราะไม่ถึง 18 ออกมาไม่กี่วันมันงัดบ้านพี่ชายผม ติดกับบ้านผมเลย
lock ไว้ไม่มีคนอยู่ เอาสายไฟไปขาย ซะอย่างนั้น อีกไม่กี่วันก็โดนจับ เพราะพยายามโขมยรถคนเห็นพอดี
แก้ไข ใครต้องเป็นคนแก้หล่ะ? ลำพังผมเอามาเลี้ยงดูเองไม่ไหวหลอก
สรุปสั้นๆ ที่ผมตอบยาวๆ ที่คุณพิมพ์ มาวรรคสุด ท้ายมันโลกสวยจริงๆ ครับ
Ton-Or
มันเป็นโลกในอุดมคติครับ และด้วยที่ผมเองก็เคยไปทำงานไต์ก่อสร้างช่วง ม. 2-3 มันไม่ได้ทำให้อนาคตผมแย่อะไรมากมายครับ แถมทำให้ผมรู้ด้วยว่า ผมไม่อยากเป็นช่างไฟฟ้า(หลังจากทำอยู่ 2-3 เดือน)
ซึ่งผมก็ว่าคุ้มนะครับ บ้างคนเรียนจนป.ตรีแล้วไม่รู้เลยว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร
ส่วนตัวผมไม่ได้ดูถูกพวกคนทำงานแต่เด็กไงครับ เริ่มจาก rep ที่ตอบครั้งแรกที่เห็นบอกว่าใช้แรงงานทาส
ผมมองว่า ถ้าไม่มีคนใช้เด็กหรือให้เด็กทำงาน เด็กกลุ่มที่มันรักดีหางานสุจริตทำ มันจะไปอยู่ตรงไหน
ผมเบื่อกับพอได้ยินว่าแรงงานเด็ก แล้วออกต่อว่าคนว่าจ้างไว้ก่อน ไม่ดูสภาพสังคม สิ่งแวดล้อมอื่นๆ ด้วย
อย่างจีนเอง ผมเชื่อในคนจีนว่าเป็นคนขยัน ผมเลยไม่ค่อยจะแปลกใจที่เขาทำงานตั้งแต่เด็กๆ กัน
และด้วยประชากรขนาดนั้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
Ton-Or
ความจริงกับความฝันมันผิดกันครับ แถวๆ บ้านผมก็มีเยอะแยะ เด็กแว้น เด็กติดยา เด็กส่งโพยบอล เด็กที่มีอาชีพขอเงินพ่อแม่กินไปวันๆ แต่คนนอกชุมชนจะไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่มองป้ายประชาสัมพันธ์สวยๆ ของเทศบาล
นักการเมืองท้องถิ่นเค้าจะเน้นสร้างผลงานจำพวกสร้างตึกสร้างทาง จัดงานแฟร์ต่างๆ สร้างรายได้ให้ชุมชน แต่ละเลยการดูแลสวัสดิภาพของคนในชุมชนโดยเฉพาะเด็กที่ออกจากโรงเรียนกลางคัน เรื่องพวกนี้ผมว่าเป็นกันทุกที่ เป็นความล้มเหลวของสังคมที่เน้นคุณค่าทางวัตถุมากกว่าอย่างอื่น
ผลงานที่จับต้องได้วัดคุณค่าได้ มันย่อมดีกว่า ผลงานที่จับต้องไม่ได้วัดคุณค่าไม่ได้
ผมมองเรื่อง เด็กไม่มีงานทำ ส่งม้าส่งบอล กับโรงงานที่ใช้แรงงานเด็กอย่างผิดกฎหมาย เป็นคนละปัญหากันแฮะ
เอาตรง ๆ เลยนะ ผมไม่คิดว่าการทำงานโรงงาน ไม่ว่าจะถูกหรือผิดกฎหมาย มันจะสร้างรายได้เท่ากับการส่งม้าส่งบอล และผมก็ไม่คิดว่า ไอ้เด็กที่มันส่งม้าส่งบอลเนี่ย มันจะไปทำงานโรงงานถ้าโรงงานรับเด็กพวกนี้เข้า่ทำงาน
แคมเปญ ส่งเสริมภาพลักษณ์ ซินะ gadget เปื้อนเลือด
ยังกะละครหลังข่าว
ที่ไทยก็มีบ่อยๆ นะ แบบนัดตรวจแล้วจัดฉากให้เลิศหรูเนี่ย
ถ้า Apple เป็นลูกค้า Foxconn แล้วขอดูรายละเอียดทั้งหมดได้ เราเป็นลูกค้า Apple เราขอดูรายละเอียดทั้งหมดแบบนั้นบ้างได้ไหมครับ?
ถ้าคุณจะ Order iPhone มูลค่า แสนล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ Tim Cook อาจใจอ่านให้คุณดูก็ได้ครับ
แฮะ ๆ หมื่นบาทก็เกินงบแล้วคร้าบ
+1
เป็นลูกค้าคงไม่ได้ครับ แต่ลองซื้อหุ้น Apple สักหุ้นแล้วขอดูรายละเอียดนี่น่าจะทำได้นะ คุ้น ๆ ว่ามีกฎหมายรองรับอยู่
แหม่ เกรงใจจังครับ ตัวผมไม่ได้ใช้ของ Apple เลยสักชิ้นด้วย (คอยแอบแย่งคนในบ้านใช้เป็นระยะ ระยะ :p)
ตอนนี้ ราคาหุ้น apple อยู่ที่ประมาน $500 กว่าๆเองครับ O.o
แหม ราคาแค่ไอโฟนเครื่องเดียว ผมว่าซื้อได้น่าไม่มีปัญหาหรอกครับ 555 (ว่าแต่มันซื้อหนึ่งหุ้นได้มั้ง ?)
ถ้าเป็นลูกค้าผู้มีความสำคัญต่อ Apple มากๆ ก็อาจจะขอดูได้นะครับ เช่นซื้อ iphone Lot ละหลายๆ หมื่นล้านหน่วย หรือซื้อ Mac ครั้งละแสนล้านเครื่อง :-D
เป็นกันทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ เด็กๆ เวลาอาจารย์มาตรวจห้องก็ทำสะอาดๆ อิอิ พอหมดช่วงโปร ก็ตัวใครตัวมัน ฮ่าๆ
ตอนไม่ตรวจก็สร้างข่าวหาเรื่อง...
พอตรวจไม่เจอ ก็มาเต้าข่าวหาเรื่องอีก...
คุ้กคงกำลังสงสัย ว่าเมิงจะให้กุทำยังไง...
สภาพสังคมมันไม่เหมือนกันนะครับมองอีกมุม apple ช่วยให้เด็กมีรายได้เพราะไม่ได้บังคับเด็กมาทำแต่ชีวิตความเป็นอยู่พของเด็กกลุ่มนี้อาจแย่ลงก็ได้ถ้าปฏิเสธงานพวกเขา
นั่นสินะ
เริ่องเทคโนโลยีการสื่อสารที่รวดเร็วก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้องค์กรใหญ่เริ่มตระหนักว่า CSR เป็นเืรื่องสำคัญที่มีส่วนให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะแม้ว่าคุณจะย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ, จัดหา Suply จากทั่วโลกเพื่อลดต้นทุนการผลิต จนต้นทุนอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้เพราะหน้าต่างมันมีูหูประตูมีช่องด้วยการสือสารที่รวดเร็วออกข่าวแป็บเดียวคนก็เห็นกันทั่วโลก ไม่เก่งภาษาอังกฤษก็มีแปลมาให้อย่างข่าวนี้เป็นต้น เสียหายต่อภาพพจน์องค์กร ลูกค้าซื้อสินค้าไปใช้ก็ตะขิดตะขวงใจ
Starbucks ก็เคยโดนแบบนี้แหละเรื่องใช้แรงงานเด็กในการผลิตเมล็ดกาแฟ ถึงเริ่มมาใส่ใจเรื่อง CSR
อยากให้ย้ายมาผลิตในไทยบ้างจัง