ในการประชุมประจำปีผู้ถือหุ้นของแอปเปิลล่าสุดซึ่งเป็นครั้งแรกของทิม คุกในฐานะซีอีโอ มีประเด็นต่างๆ ที่ผู้ถือหุ้นเสนอขึ้นไป พร้อมกับคำตอบจากฝ่ายบริหาร ตลอดจนการประท้วงของแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บที่ด้านหน้าบริษัท แต่ทั้งนี้แอปเปิลไม่มีการถ่ายทอดสดหรือบันทึกการประชุมออกมาเป็นทางการ ผู้สื่อข่าวทำได้เพียงรับชมการประชุมจากห้องรับรองสื่อมวลชนและจดบันทึกออกมาเท่านั้น
ทิม คุกเริ่มต้นการประชุมโดยกล่าวว่าปีนี้จะเป็นอีกปีที่แอปเปิลทำงานอย่างหนักเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อันสุดยอดอีกครั้ง เขายังคงกล่าวสดุดีสตีฟ จ็อบส์ว่าวันนี้เขาเปลี่ยนแปลงความเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียจ็อบส์ ให้เป็นแรงผลักดันที่จะทุ่มเทอย่างหนักเพื่อสืบสานการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไป
เงิน เงิน เงิน
อย่างที่ทราบว่าแอปเปิลนั้นมีเงินสดท่วมท้นร่วมแสนล้านดอลลาร์ นี่จึงเป็นอีกปีที่ผู้ถือหุ้นลุกขึ้นมาถามฝ่ายบริหารว่าแอปเปิลตัดสินใจได้หรือยังว่าจะทำอย่างไรกับเงินก้อนนี้
ทิม คุกยืนยันว่าบอร์ดบริหารยังคงตัดสินใจอย่างหนักในเรื่องนี้ และพูดซ้ำว่าที่ผ่านมาแอปเปิลลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการจัดการร้านค้าปลีก และใช้ซื้อกิจการที่มีความน่าสนใจ แต่ก็ยอมรับว่า "แม้เราจะจ่ายเงินออกไปเยอะแค่ไหน แต่เราก็มีเงินเหลือเยอะมากเกินไปอยู่ดี"
ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งเสนอให้แอปเปิลติดต่อขอซื้อประเทศกรีซ ที่กำลังมีปัญหาหนี้สินอยู่ในขณะนี้ คุกตอบว่า "เราพิจารณาเรื่องการใช้เงินหลายทาง แต่เรื่องนี้ไม่มี"
คำถามอื่น
มีผู้ถือหุ้นถามถึงความสัมพันธ์ของแอปเปิลกับ Facebook คุกอธิบายว่า สำหรับแอปเปิลแล้ว Facebook เป็นมิตรมากกว่าเป็นคู่แข่งกัน สองบริษัทนี้ยังมีโอกาสที่จะทำอะไรร่วมกันได้อีกมาก แต่ทั้งนี้คุกไม่ได้อธิบายว่าจะเป็นในรูปแบบความสัมพันธ์เหมือนกับ Twitter ที่มีคุณสมบัติเฉพาะใน iOS 5 หรือไม่
ผู้ถือหุ้นอีกรายถามว่าปีนี้เขาจะได้ซื้อโทรทัศน์ยี่ห้อแอปเปิลหรือไม่ ถ้าใช่เขาจะได้เอาโทรทัศน์ยี่ห้อ LG 55 นิ้วที่เพิ่งซื้อมาไปคืน คุกตอบเพียงว่า ตอนนี้เรามีเพียง Apple TV ราคา 99 ดอลลาร์จำหน่าย
ผู้ถือหุ้นรายหนึ่งเสนอให้แอปเปิลเริ่มลงทุนในธุรกิจสตรีมรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์เพื่อแข่งกับ Netflix และ Hulu เนื่องจาก iTunes เองก็มีเนื้อหาอยู่มากพอที่จะลงไปให้บริการแบบนี้ได้ คุกอธิบายว่าสำหรับแอปเปิลแล้ว iTunes ไม่ใช่ส่วนธุรกิจที่ทำเพื่อสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่ทำเพื่อสร้างความสะดวกในการซื้อเนื้อหาสำหรับผู้ใช้งานอุปกรณ์ของแอปเปิลเป็นสำคัญ และบอกว่าธุรกิจการให้บริการเนื้อหานั้นซับซ้อนและต้องประสานผลประโยชน์ทุกฝ่ายมากกว่าที่หลายคนคิด
นอกจากนี้ที่ประชุมได้อนุมัติเปลี่ยนกระบวนการรับรองกรรมการบอร์ดเป็นรายบุคคลแทนระบบเดิมที่ลงมติเป็นคณะอีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่มีการตั้งคำถามจากผู้ถือหุ้นทั้งเรื่องแรงงานในจีน ตลอดจนปัญหาชื่อ iPad ในจีนแต่อย่างใด
ที่มา: Apple Insider, Reuters, Forbes และ Bloomberg
Comments
ซื้อประเทศได้เลยหรอเนี่ย โหดมากก
ซื้อไม่ได้หรอกครับ ความหมายตามข่าวน่าจะหมายถึงการเข้าไปลงทุน เช่น ซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อหุ้นของบริษัท ในกรีซ ฯลฯ (ที่กำลังราคาถูก)
คือเวลาเราอ่านข่าว ว่าคนนั้นรวยเท่านั้น เท่านี้ บริษัทนั้นรวยเท่านั้นเท่านี้ รวยกว่าประเทศนั้น ประเทศนี้ แถม รวยกว่าประเทศไทยอีก ส่วนใหญ่แล้วความหมายคือ เขาเปรียบเทียบจำนวนเงินกับมูลค่าของ "ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ" (GDP) ของประเทศนั้นๆ
ยกตัวอย่างประเทศไทยกับกรีซ ซึ่งมี GDP พอๆ กันอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านล้านบาท/ปี แน่นอนครับถ้าคุณมีเงิน 10 ล้านล้านบาท คุณสามารถเหมาซื้อผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่ถูกผลิตขึ้นภายในประเทศไทยใน 1 ปี ถ้าจะเหมา 5 ปี ก็ 50 ล้านล้านบาท
แต่ถ้าคุณจะซื้อประเทศไทยคุณจะใช้เงินเท่าไหร่ คุณต้องซื้อ อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ทั้งที่ดินเปล่าและสิ่งปลูกสร้าง คุณต้องซื้อทรัพย์สินอื่นๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชนที่ถือครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัททุกบริษัททั้งประเทศ เงินสดสิ่งของที่ทุกคนมี ฯลฯ
เอาง่ายๆ ก่อนถ้าคุณจะซื้อบริษัททุกบริษัทที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ในราคาปัจจุบันแบบเหมาทั้งตลาดคุณจะต้องใช้เงินประมาณ 9.35 ล้านล้านบาท อันนี้แบบให้หยุดราคาไว้ที่ปัจจุบันนะครับ โดยปกติถ้าคุณเริ่มซื้อ จะมีพวกที่ไม่ยอมขายแล้วค่อยๆ โก่งราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าจะซื้อให้หมดจริงๆ ผมว่าเงิน 30 ล้านล้านบาทไม่พอ นี่เฉพาะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นะครับ ถ้าจะซื้อบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ด้วยนี่ก็ต้องใช้เงินเพิ่มอีก
คราวนี้เรามาซื้อที่ดินกันบ้าง เอาง่ายๆ ก่อน เริ่มที่ซื้อที่ดินในโคราชทั้งจังหวัด พื้นที่ 12.8 ล้านไร่ เฉลี่ยซักไร่ละ 80,000 คุณก็ต้องมีเงินซัก 1 ล้านล้านบาท ไม่รวมค่าโก่งราคา ไม่รวมสิ่งปลูกสร้างใดๆ
เอาหละคงพอเห็นภาพ คือประเทศไทยทั้งประเทศมันไม่ใช่ถูกๆ คราวนี้มาดูกันว่าใครที่มันรวยๆ กันในโลกบ้าง เอา เฮียบิลล์ เกตส์ ก่อนก็แล้วกัน ถ้าวันนี้แกขายทรัพย์สินและหุ้นทั้งหมดจะได้เงินสดมาประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท หรืออย่างป๋าคาร์ลอส สลิม ก็มีทรัพย์สินประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท คือผมว่าเหมาซื้อโคราชแค่จังหวัดเดียวก็ยังไม่พอ เพราะเงินของสองคนนี้ก็พอๆ กับงบประมาณแผ่นดินของประเทศไทยในแต่ละปีแค่นั้นเอง
คนยังไม่รวยพอ เอาบริษัทมาลองดูเลยมั๊ย สมมุติ คุณเป็นเจ้าของ Apple คนเดียว ถ้าขายวันนี้ราคานี้ คุณจะได้เงินซัก 14.4 ล้านล้าน บาท โอเค เยอะมาก แต่คุณก็ยังซื้อประเทศไทยไม่ได้อยู่ดี เงินจำนวนนี้เยอะกว่า GDP ของประเทศไทย เหมาซื้อบริษัททั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ ก็พอไหว (ห้ามขึ้นราคา) เงินจำนวนนี้อาจจะพอซื้อจังหวัดบางจังหวัด ในประเทศไทยได้ ก็แค่นั้น ถ้าจะเอาแนะนำ บุรีรัมย์ เพราะมี บุรีรัมย์ พีอีเอ (ยูไนเต็ท) พร้อมถ้วย 3 ใบ เป็นของแถม :) แต่ถ้าจะซื้อจังหวัดแถวๆ กรุงเทพฯ หมดสิทธิ์
ถ้าคุณจะซื้อประเทศไทยทั้งประเทศ จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ลองไปคิดกันดูเอาเอง
เดี๋ยวนี้เค้าจะครองประเทศ เค้าไม่ต้องมาซื้อที่ดงที่ดินหรอกครับ .. เค้าซื้อคนในประเทศ ถูกกว่ามาก โดยเฉพาะบางประเทศ ^^
ดีแล้วครับที่ไม่ใช่ประเทศไทย
Oops!!!
คนในประเทศไม่ได้ซื้อกันง่ายๆ นะครับ ขนาดเสื้อยืดยังต้องควักเงินซื้อเองเลย :-D
ไม่ใช่ซื้อ แต่ไปปล่อยเงินกู้ไม่ให้ประเทศล้มได้ครับ แนวๆ IMF
แอปเปิ้ลตอนนี้มีราวๆ 9.7 หมื่นล้านเหรียญ กรีซกำลังหาเงินกู้ราวๆ 6-7 หมื่นล้านเหรียญครับ
ถ้าซื้อจริงจะเอาไปทำอะไรดีครับ?
555 -*- บ้าไปแล้ววว จะมาบริหารประเทศ แล้ว ก็ทำประเทศนั้นเป็นประเทศสำหรับ Apple [Apple'world] ผมล้อเล่นเน้อ อิอิ
ถ้าเป็น Ellison นี่ไม่แน่
เห็นด้วยในมุมนี้ 55+
ทำแบบคล้ายๆหมู่บ้านเสื้อแดงงี้ป่าว?
ถ้าอยากลากเข้าเรื่องการเมืองก็ให้เนียนๆ หน่อยสิครับ = =
ถ้ามีคนเห็นด้วยก็จะท่วมท้น ถ้าโดนต่อต้านก็จะได้ท่วมท้นเหมือนกัน
+1
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
+1
อย่าเลย ทำแบบหมู่บ้านเสื้อเหลืองดีกว่าเยอะ.. (จุดไฟ.แล้วแผ่น)
ปล.อย่าแบ่งสีกันเลย
มาก่อดราม่าแล้วเผ่นนีหว่า 555
ลากไปเกี่ยวกันซะงั้น การเมืองขึ้นสมองเหรอครับ?
ผมไม่ได้จะลากเข้าการเมืองครับ แค่เหนคล้ายๆกัน ไม่คิดว่าที่นี่จะอ่อนไหวเรื่องนี้ขนาดนี้ ทีหลังจะไม่พูดแล้วครับผม
ไม่ได้อ่อนไหว แต่สงสัยว่าตรงไหนเหรอ ที่ทำให้เห็นคล้ายๆกัน? ถ้าไม่บ้าการเมืองมากก็ดีแล้ว เพราะผมเห็นคนที่บ้าการเมือง ส่วนใหญ่มักแสดงนิสัยหยาบคาย ต่ำช้า ทั้งๆที่ไม่น่าจะใช่ตัวตนที่แท้จริง ออกมา
ส่วนที่เป็นปัญหาสำหรับผมไม่ได้อยู่ที่การเมืองนะ แต่ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงคิดว่ามันคล้ายกัน
อยากให้อธิบายครับ
คือถ้าลากเข้าเรื่องการเมืองแล้วเหตุผลไม่พอนี่โดนสับคาที่เลยนะครับ
อ่านแล้วงงด้วยเหมือนกันทั้งๆที่มันเป็นเรื่องของเงินที่ APPLE เค้ามีเยอะมันเกี่ยวกับการเมืองตรงไหนเพราะดูเหมือนจะพาดพิงให้วุ่นวายมากกว่ามันไม่ตรงประเด็นของข่าวเลย
พูดได้ครับ แต่ดูทางลมหน่อย (ว่าลมมันพัดไปทางไหน)
ยังไงก็ไม่เห็นความเกี่ยวข้องเลย
ใครไม่เกทผมขอไม่อธิบายนะครับ ผมแค่replyต่อจากคห.บนที่บอกซื้อประเทศแล้วคิดถึงเรื่องใกล้ตัว ไม่เกี่ยวกับกระทู้
และผมขอไม่พูดเรื่องการเมืองแล้วเพราะจะโดนยำ 555 จะด่าอ้อมๆอย่างคุณ massacre อะไรอีกก็เชิญครับ น้อมรับ (รู้สึกคล้ายๆวงBlock B ชอบกล)
จริงๆ ผมก็มีอยู่ในใจนะ ว่าคุณ gosol จะพูดถึงอะไร
แต่อยากให้พูดเองมากกว่า เว็บนี้ซัดกันตรงๆ แรงๆ ครับ แต่มีน้อยคนมากที่จะซัดกันเพราะเกลียด พอไปข่าวอื่นก็เพื่อนกันเหมือนเดิมครับ
ครับผมจะจำไว้ครับ ที่จริงผมเตรียมร่างตอบโต้คนมาด่าผมไว้แล้ว แต่สงสัยจะไม่ได้ใช้ล่ะ ขอบคุณที่เตือนครับ
อย่าเก็บไปเป็นอารมณ์เลยครับ จิตตกปล่าวๆ
เปลี่ยนชื่อประเทศเป็น iGeek
(ขำๆ นะครับ)
I'm ordinary man; who desires nothing more than just an ordinary chance to live exactly what he likes and do precisely what he wants.
ดูเป็น CEO ที่มีวิสัยทัศน์อันน่าชื่นชมสำหรับผู้ถือหุ้นดี แต่ .. ก็ยังเป็นมารร้ายสำหรับ Partner และคู่แข่งอยู่วันยังค่ำ
...ก็ยังไม่ชอบทิม คุก อยู่ดี
‘More Than We Need’
First World Problems
Tim Cook
555
จริงๆแล้วผู้ถือหุ้นคงอยากถามว่า เมื่อไรจะปันผล มากกว่าล่ะมั้ง :)
ไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปครับ เพราะปกติผู้ถือหุ้นอยากให้บริษัทนำเงินไปใช้ขยายกิจการมากกว่า เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นเป็นกำไรที่ไม่ต้องเสียภาษี แต่หากมีเงินปันผลจำนวนมากนั้นกลับต้องเสียภาษี อันนี้แค่เหตุผลนึงนะครับ :)
ในอเมริกา Capital Gain เสียภาษีครับ แต่เรื่อง % ซีกไหนมากน้อยกว่ากันนี่รายละเอียดปลีกย่อยเยอะครับ
คำถามผู้ถือหุ้นนี่อะไร นี่มันมีตังค์ถือหุ้นจนได้เข้าประชุมจริงๆ เหรอ เหอๆ
ของประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทไทยบางคำถาม ฟังแล้วจะทึ่งกว่านี้อีกครับ คือมันเป็นเรื่องสิทธิผู้ถือหุ้นที่จะถามครับ
ของไทยนี่เท่าที่เห็น คนถือหุ้นเยอะๆ ไม่ค่อยถาม คนที่ถามนี่ถือจิ๊ดเดียว (ขั้นต่ำ 100 หุ้น หุ้นบางตัวราคาแค่บาทสองบาท เข้าประชุมได้แล้ว) แล้วพวกนี้บางคนเค้าประชุมเป็นอาชีพ ถือไว้หุ้นละ 100 วนประชุมไปเรื่อย ได้คุยกับคน กินของว่าง รับของชำร่วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมก็อยากทำนะ ถ้าไม่ติดว่าประชุมวันทำงานตลอด จะให้ลางานไปเอาของชำร่วยก็ใช่ที
ไว้ตอนเกษียรสิครับ :)
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก็เอาไปบริจาคแบบอีตาเกตบ้างสิครับเฮีย
เออ ใช่ ตอนแรกผมก็คิดยังงั้น ว่าเงินเราเหลือ เราควรนำไปบริจาค เพื่อการกุศล -*-
ผมคิดว่าบริษัทใหญ่ ๆ ต้องมีงบบริจาคสาธารณะอยู่แล้วครับ เพราะมันใช้ลดหย่อนภาษีได้
เงินบริษัทครับ ไม่ใช่ของคนๆเดียว ถ้าผู้ถือหุ้นยกมือให้บริจาคถึงจะทำได้
ถ้าบริจาคปลีกย่อยไม่เยอะ ไม่ต้องผ่านประชุมผู้ถือหุ้นหรอกครับ
เผลอๆ CFO สั่งจ่ายได้โดยไม่ต้องบอกบอร์ดด้วยซ้ำ
เห็นด้วย++
Dream high, work hard.
นั่นสิ ....
เอาไปบริจาคให้กรีซเพื่อกอบกู้เศรษฐกิจ (ไม่ได้ซื้อประเทศสักหน่อย...)
Jusci - Google Plus - Twitter
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง บริจาคในนามบริษัทก็ได้นิ สร้างชื่อเสียงของบริษัทที่ดีไปในตัว
บริจาคคงไม่ดี
สร้างงานสิครับ ช่วยได้ยาวนานกว่า
ตอบได้สไตร์แอปเปิลมาก ^^"
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ผมว่าใช้เงินให้เกิดประโยชน์ดีกว่านะครับ. คิดว่าไม่มีอะไรน่าให้ใช้มากกว่า
เอาไปผุดโปรเจคใหม่ๆก็ดีนะ อาจจะเปลี่ยนโลกได้อีกเยอะนะครับ
: คุกอธิบายว่าสำหรับแอปเปิลแล้ว iTunes ไม่ใช่ส่วนธุรกิจที่ทำเพื่อสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่ทำเพื่อสร้างความสะดวกในการซื้อเนื้อหาสำหรับผู้ใช้งานอุปกรณ์ของแอปเปิลเป็นสำคัญ
ผมว่าจริงๆๆแล้ว Itune น่าจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญระยะเวลาเลยนะครับ
ถ้สพัฒนาและ บริหารจัดการดีดี
Apple เคยอธิบายในประกอบการไตรมาสหนึ่งครับว่า 30% ที่หักจากเจ้าของ content แค่เอามาหมุนเวียนจัดการ data center ก็หมดแล้วครับ
โฮ้จริงดิ O_O หมายความว่ากำไรที่เราเห็นๆอยู่นี่ไม่มีจากส่วนนี้เลยเหรอเนี่ย
ผมก็เคยได้ข่าวมาอย่างนั้นเหมือนกันครับ ตัว iTunes นี่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำกำไรทางตรงให้เลย แต่ว่ามันก็เป็นจุดเชื่อมต่อ platform อันแข็งแกร่งของ Apple Hardwares ทั้งหลายครับ
จริงหรือครับเนี่ย
ถ้าที่แอปเปิลว่ามันเป็นเรื่องจริง ที่เก็บส่วนแบ่ง "ตั้ง 30%" แล้วใช้ไปกับการจัดการ data center หมดจนแทบไม่มีกำไรนี่
ผมก็ถือว่าตัวเองเข้าใจแอปเปิลผิดมาตลอดเลยนะครับ เพราะคิดมาตลอดว่าเก็บส่วนแบ่ง "ตั้ง 30%" นี่มันขูดเลือดแบบพ่อค้าคนกลางเกินไป ทั้งเจ้าของ content รวมถึงลูกค้าด้วยที่โดนขูดรีดไปเยอะ
แต่ถ้าเอาส่วนแบ่งไปจัดการ data center หมดอย่างว่าจริง ก็พอเข้าใจได้ครับ แต่สงสัยว่าเงินจัดการศูนย์ข้อมูลมันต้องใช้สูงมากขนาดนั้นเลยหรือ เพราะ iTunes / App store ปริมาณการซื้อขายน่าจะเยอะอันดับต้นของโลกอยู่แล้ว ส่วนแบ่งที่หักได้มันต้่องมหาศาลมาก เลยแอบไม่ค่อยเชื่อที่แอปเปิลว่ามานิดๆ
ข่าวเก่าๆ เคยอ้างถึงปริมาณพลังงานที่ต้องใช้ในการบริหาร data center นะครับ เห็นว่าพยายามที่จะลดการใช้พลังงานเหมือนกัน
แค่ค่าไฟก็บานเบอะแล้วครับ
ห้อง Server ต้องเปิดแอร์เย็นระดับขั้วโลก เปิด 24x7 ตลอดเวลาแล้วไม่ใช่พื้นที่น้อยๆ
แล้วก็ค่าไฟ Server จำนวนมหาศาลหลายหมื่นตัวอีก
คุณลืมคิดค่าใช้จ่ายที่ต้องหักให้บริษัทบัตรเครดิตรึเปล่าครับ เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์มันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ
เคยมีข่าวว่าถ้าหักค่า server ค่าบริษัทบัตร แทบไม่เหลืออะไรด้วยซ้ำ
เอาไป สร้าง โครต data center ที่กำลังสร้างอยู่หมดอ่าสิครับไม่ว่า
ถ้าอย่างนั้น apple ควรจะรีบ ปรับปรุ่ง ให้ iTune ทำกำไร แล้วก็
เอาเงินที่มีไป ลงทุ่นกับ ธุรกิจพลังงานทดแทนนะครับ
เริ่มจากปรับปรุงใ้ห้ iTune ทำงานได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่สัก 50% (โดยเฉพาะบน windows) จะดีมากครับ
+100 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
หมั่นไส้จริง 555
เงินสดเยอะไปก็เป็นปัญหา
เพราะเงินสดมันไม่สร้างผลตอบแทนเหมือนเงินลงทุน
เพื่อเพิ่มเติมประเด็นนี้ ขอขายของเรื่องเกี่ยวข้องที่เคยเขียนไว้ที่ Meconomics ครับ
จับมือ Oracle เอาเงินมาซื้อ Google สิ จะได้ไม่เสียค่าทนายหลายๆรอบ 555
หรือว่าเค้าหมายถึง
เราทำกำไรจากสินค้ามากไป ปีหน้าสั่งเพิ่มต้นทุนราคาสินค้าทุกชนิด 25% เพื่อที่คู่ค้าในจีนจะได้ไม่มีข้ออ้างในการลดต้นทุนทางด้านความปลอดภัยอีกต่อไป
คิดถึงภาพทิม คุกกำลังทำท่า "อยากจน อยากจน โอ๊ย อยากจนนนนน"
มาเปิดโรงงานผลิต iPad iPhone ในไทยบ้างจิครับ สินค้าจะได้มีวางจำหน่ายตลอดไม่ต้องรอจองคิวเช่นนี้
เปิดในไทยเดี๋ยวน้ำท่วมครับ :P
+1
แหม๋ เงินกู้ก็ผ่านแล้ว ถ้ากินซะเยอะจนแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ รัฐบาลก็คงอยู่ไม่ได้อีกต่อไปแล้วละครับ
น้ำท่วมปีนี้ก็ยังอยู่ได้ครับ
รัฐบาลนี้แข็งแกร่งครับ
ย้ายฐานการผลิตไปที่อเมริกาสิ แล้วขายราคาเดิมด้วย
สร้างงานให้ประเทศตัวเองด้วย แล้วรับรองเงินสดไม่เหลือมากเกินไปแน่
+1
อยากเจอ Made by Apple in California
เปิดโรงงาน iFactory ผลิตวัสดุเองเลย ไม่ต้องไปง้อที่อื่น
อยากกลุ่มใจแบบนี้บ้าง
+1 ครับ
+1024
ผมชอบนะประธานคนนี้ เหมือนนิสัยจะดีด้วย
ผมก็ว่าถ้าเอาเฉพาะนิสัยคงจะดีแหละ(ดูจากหน้าตาและใช้ความรู้สึกส่วนตัวของผู้ดูล้วนๆ)
แต่ถ้าดูจากผลงานที่ทำให้ apple คาดว่าคงโหดต่อ partner ไม่ใช่น้อย
ความโหดต่อคู่ค้านี่เป็นสิ่งพื้นฐานในการทำอาชีพเกี่ยว OM เลยครับ
ลดต้นทุนให้ต่ำที่สุดโดยคุณภาพคงเดิม
บริษัทในธุรกิจผลิตแทบทุกบริษัท กดหัว Supplier มิดดินแทบทั้งนั้นครับ
อดเห็นประเทศแอปเปิลเลย -*-
เงินเยอะไม่รู้ทำอะไร เอาไปซื้อ ARM ซะไป แอนดรอยด์ได้เดือดร้อนกันเป็นแถวๆ :P
แอนดรอยด์ต้องหันไปใช้ x86 แทน ..intel ยิ้มร่า
เหมือน apple จะถือหุ้น ARM อยู่ 47% นะครับ แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้หุ้นจำนวนนั้นยังอยู่รึเปล่า
ถืออยู่ และ คิดจะซื้อหุ้นคืนด้วย
สร้าง iSpace ซิ ตอนนี้เตรียมตัวสร้างยานอวกาศเป็นสำนักงานใหญ่แล้ว เดี๋ยวเราจะไปดาวอังคารกัน : )
ถ้าเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นผมอาจจะยกมือแล้วพูดว่า "เรามาโคลนนิ่งสตีฟจ็อบส์กันไหม" หรือไม่ก็ "เรามาสร้าง Terminator" กันเถอะ
ทิม คุก ตอบว่านั่นเป็นสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ^^
เอาไปลงทุนเปิด Apple Store เพิ่มก็ดีนะครับในไทยยังไม่มีเลย
แถมผลน่าจะยังสร้างผลกำไรในระยะยาวได้อีกมากด้วย :D
ปันผลเถอะ
อย่าเลยครับ
เงินสดมันอยู่ตาม subsidary นอกประเทศป่าว เลยเอาเข้าเมกาไปใช้อะไรมากไม่ได้ เดี๋ยวโดนภาษียับ
แง่มๆ
..: เรื่อยไป
ที่จริงกำลังวางแผนสร้างหุ่นยนต์อยู่สินะ
lol
กร๊าก ผมอ่านข่าวนี้แล้วคิดนะ "สร้างหุ่นยนต์ยักษ์ สร้างอาวุธเชื้อโรคเอาไปแพร่ สร้างวัคซีนไปแจก" อ๊ะ แอปเปิ้ลนี่นา ไม่ใช่เพื่อน
"We spend a lot, but we still have a lot," ประโยคนี้เท่มาก
ถ้าไม่รู้จะเอาเงินไปใช้ทำอะไร สำหรับสถานการณ์เฉพาะหน้าผมว่าควรเอาไปลงทุนปรับปรุงสวัสดิการของพนักงานในไลน์ผลิต iDevice / Mac ในจีนก่อนเลย ขึ้นเงินเดือน ลดชั่วโมงการทำงาน และปรับปรุงสภาพแวดล้อมอะไรก็ว่าไป มันอาจเป็นการใช้เงินที่ไม่ได้ผลดอกงอกเงยในแง่ของกำไรอย่างที่นักลงทุนต้องการหรอก แต่มันจะได้ในแง่ของ CSR ที่ถือเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัทที่สร้างภาพบวกอีกทางหนึ่ง
และมันยังเป็นการ "ลดความเสี่ยง" ต่อการถูกต่อต้านจากสื่อ สังคม และลูกค้าในกรณีที่อาจจะถูกมองว่าเป็นสินค้าเปื้อนเลือดได้ ถ้าแอปเปิลยังไม่รีบออกมาจัดการอะไรแล้วกระแสสังคมมันไปทางนั้นจริงก็อาจจะเจ็บตัวมากทีหลังก็ได้
Apple กับ Foxconn คนละบริษัทกันครับ
บริษัทคู่ค้าในจีนอ้างว่าแอปเปิลควบคุมต้นทุนแบบดุดันมากๆ ขอดูต้นทุนของคู่ค้า รายจ่าย ฯลฯ เพื่อให้ได้กำไรเยอะ คู่ค้าก็เลยต้องไปลดสวัสดิภาพของพนักงาน และบลาๆๆๆ ลงเพื่อให้ได้ราคาที่แอปเปิลต้องการครับ
ผมเห็นหลายคนคิดแบบนี้แต่อยากจะคุยกับคุณ PaPaSEK ครับเพราะดูจะมีเหตุผลหลายด้านมากกว่าคนอื่น ๆ
สำหรับกรณีนี้ถ้า Foxconn มองว่า Apple กดราคามาก ๆ แล้วทำไมจึงยังรับจ้างที่จะผลิตชิ้นส่วนและประกอบสินค้าให้กับ Apple อยู่อีกล่ะครับ ผมว่าสุดท้ายแล้วตัวเลขที่ Apple เสนอให้นั้นก็เป็นตัวเลขที่ Foxconn พอใจด้วยตัวเองอยู่แล้ว จากนั้นจึงไปบริหารจัดการต้นทุนกำไรต่อไป
ถ้า Apple เลือกที่จะใช้วิธีเดิมแต่ให้สัดส่วนกำไรแก่ Foxconn มากขึ้นแล้วจะมีอะไรรับประกันได้หรือไม่ครับว่า Foxconn จะนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาสวัสดิการให้พนักงาน ไม่ได้นำไปใช้กับอย่างอื่น เช่น เก็บเป็นเงินทุนหมุนเวียน ขยายโรงงานเพื่อที่จะได้รับ order จากบริษัทอื่นได้เพิ่มขึ้น เป็นต้น เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่ Apple กำหนดได้คือผลกำไรที่ Foxconn จะได้นะครับแต่ไม่สามารถกำหนดได้ว่า Foxconn จะนำผลกำไรที่ว่านี้ไปใช้อย่างไร
อีกความเป็นไปได้หนึ่งคือที่ Foxconn บอกว่าตัวเองได้กำไรจาก deal ของ Apple น้อยมากจนทำให้ไม่สามารถพัฒนาสวัสดิการของพนักงานตัวเองได้นั้น เคยมีคนสงสัยหรือคิดบ้างไหมครับว่ากำไรที่ว่าน้อยนั้นน้อยแค่ไหนและน้อยจริงหรือไม่ บางทีกำไรที่ Foxconn ได้อาจจะมากพอที่จะปรับปรุงสวัสดิการพนักงานอยู่แล้วแต่ Foxconn เลือกที่จะไม่ทำเพราะตัวเองก็ต้องการผลกำไรที่มากที่สุดเช่นกันหรือเปล่า ? ไม่เคยเห็นมีใครพูดถึงตัวเลขพวกนี้หรือพยายามหาข้อมูลก่อนที่จะตำหนิ Apple กันบ้างเลย
ที่สำคัญที่สุดคุณภาพชีวิตของพนักงานที่ Foxconn ที่ว่าแย่นั้นหากมันผ่านมาตรฐานของจีนทั้งในแง่สังคม (เทียบกับโรงงานอื่น ๆ) และกฎหมายแล้ว ทำไมคนจึงเรียกร้องให้ Apple ไปพัฒนาสวัสดิการในส่วนนี้อีก และถ้าเห็นด้วยว่าควรพัฒนาเราต้องพัฒนาให้มันดีขนาดไหนจึงจะพอครับ ต้องดีเท่าประเทศไทย ? แล้วถ้ามีคนในประเทศอื่นมาบอกว่าดีเท่าประเทศไทยก็ยังจัดว่าเฮงซวยอยู่เมื่อเทียบกับประเทศของเขาและออกมาเรียกร้องเหมือนเดิม วงจรนี้จะไปสิ้นสุดที่ไหน ? และทำไมมันจึงควรสิ้นสุดที่นั่นครับ ?
ผมเคยพยายามชี้แจงเหตุผลเรื่องนี้หลายครั้งแต่มักไม่มีคนตอบ และจากที่สังเกตดูว่าข่าวไหนที่ให้ผลเชิงตำหนิ Apple สำหรับเรื่องนี้ข่าวนั้นจะมี comment ออกมาตำหนิเยอะมาก ในทางกลับกันข่าวไหนที่แสดงออกถึงความพยายามในการแก้ไขปรับปรุงปัญหานี้ให้ดีขึ้นของ Apple (ซึ่งเจ้าอื่นไม่เคยมีใครทำแม้จะกำไรต่อเครื่องมากเหมือนกัน แต่กำไรรวมอาจจะไม่เท่าเพราะขายไม่ออก) กลับมีคน comment น้อยมากและบรรดาคนที่เคยตำหนิไว้ในข่าวอื่นที่แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลโชกโชนก็พากันหายไปหมด
ขออ้าง signature ของสมาชิกท่านหนึ่งเป็นการปิดท้าย comment ครับ
"อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว"
That is the way things are.
งั้นต้องมา +1 ให้กำลังใจหน่อยครับ ผมเห็นด้วยกับวิธีคิดของคุณนะ
+1 ครับ
จริงๆ แล้วในส่วนนี้ก็ต้องดูแหละครับ ตอนแรกมีคนบอกผมว่าเรื่องนี้มันเหมือนการเมืองหรือพูดง่ายๆ คือความพยายามในการทำลายภาพลักษณ์ที่ดี ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอกครับ แต่ตอนนี้ก็เริ่มเชื่อแล้วว่ามีบางฝ่ายคงพยายามตีเรื่องนี้ แล้วก็เลยมีองค์กรบางองค์กรก็ตามน้ำไปด้วยเลย
ผมมองว่าเค้ากำลังใช้มาตรฐานสวัสดิภาพแรงงานของอเมริกาไปชี้วัดมาตรฐานในจีน ซึ่งมันคงเทียบกันยาก เอาแค่วัฒนธรรมในการทำงาน การใช้ชีวิต ฯลฯ ก็ไม่เหมือนกันแล้ว
ผมยังจำข่าวเก่าๆ ได้ว่าในโรงงานของ Foxconn เองก็มีห้องพักให้ แต่ห้องนึงนอนกันหลายคนมาก คนจีนก็คงเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าอเมริกันชนมาดูก็คงรับไม่ได้ แล้วจะเอามาเทียบกันเรอะ?
แต่อย่างว่าครับ สมมติว่าการโจมตีนี้เป็นแค่การมุ่งทำลายภาพลักษณ์จริงๆ แต่ก็ใช่ว่าแอปเปิลไม่ควรเข้าไปดูแลในส่วนที่หลายๆ คนคิดว่าเป็นปัญหาอยู่ ผมว่าแอปเปิลยังทำได้มากกว่านี้ เพราะเราเองทราบกันว่าแอปเปิลมีอิทธิพลในตรงนี้มากๆ กับคู่ค้า (ซึ่งคู่ค้าเองก็มีอิทธิพลกับแอปเปิลเช่นกัน)
ผมมั่นใจว่าแอปเปิลทำได้ดีกว่านี้อีกมากครับ เพียงแต่ว่าคงไม่ใช่เงื่อนไขหลายๆ อย่างในปัจจุบันแค่นั้นเอง
ผมเชื่อว่าบริษัทเนี้ยบระดับแอปเปิล สามารถสร้างเงื่อนไข / วิธีการ / นโยบายเพื่อเป็นการรับประกันได้แน่นอนครับ อย่างน้อยๆ เราก็เห็นว่า Foxconn มันก็มีมาตรฐานที่จัดได้ว่าสูงเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในประเทศจีนครับ (อันนี้อิงจากข่าวที่แอปเปิลอ้างว่า แอปเปิลเองก็ไม่ได้ละเลยในส่วนนี้, ก็ยกความดีให้ตามที่อ้างละกันครับ)
+1
ทราบไหมครับว่าผมจะเขียนคำนี้ดักไว้ก่อนอยู่แล้วแหละครับ (ว่า Apple กับ Foxconn เป็นคนละบริษัทกันจริง) แต่คิดว่าทุกคนที่นี่รู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ก็เลยลบคำที่บอกว่าคนละบริษัทออกไป
ซึ่งเราๆ ก็ discuss กันไปเยอะแล้วว่าแอปเปิลมีอิทธิพลต่อ Foxconn มากแค่ไหน ข่าวเก่าๆ จะให้ข้อมูลในเรื่องนี้ได้ดีครับ
ผมว่า foxconn นี่ พนักงานถือว่ารายได้เยอะแล้วนะ ในจีนอ่ะ ถ้าสมมุติว่า apple เพิ่มค่าจ้างไปมากกว่านี้ แล้วโรงงานอื่นล่ะ มันจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่ว่า แรงงาน strike กันเพราะว่าความไม่เท่าเทียมเหรอครับ
เยอะ เพราะ ชั่วโมง OT มหาศาลละสิครับไม่ว่า
ถ้าให้มองจริงๆ ... ต้องขอบอกว่าพนักงาน foxconn มาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่าปกติ เมื่อเทียบกันกลุ่มแรงงานในประเทศจีนแล้วครับ
ผมเองอยากรู้เหมือนกันว่าโรงงานที่ผลิตสินค้าให้กับบริษัทอื่นๆ เช่น กูเกิล, HTC ฯลฯ มันมีความเป็นอยู่ดีกว่าแรงงานใน foxconn หรือเปล่า?
อยากพูดประโยคนี้จัง "แม้เราจะจ่ายเงินออกไปเยอะแค่ไหน แต่เราก็มีเงินเหลือเยอะมากเกินไปอยู่ดี"
นี่ขนาดจะสร้างจานแม่แล้ว เงินยังเยอะแยะตาแปะไก่
ทุกข์ของคนรวย
เงินเยอะก็แจกเหมือน บิล เกตส์ เลยหรือเอาไปสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้แล้วให้เรียนฟรียิ่งในประเทศที่คนเยอะๆอย่างอินเดีย จีน ฯลฯ อีกหลายๆประเทศที่ผมไม่รู้
อยากมีปัญหาแบบนี้ในชีวิตบ้างจัง...ไอ้มีเงินเยอะเกินไป ไม่รู้จะไปทำอะไรเนี่ย...
มันเป็นปัญหาที่ไม่ใช่ใครจะมีแบบนี้ได้ง่ายๆ
จะว่าไปรวยมาก็เอาipadมาแจกประเทศสาระขันของผมก็ได้นะครับ 555+
ขอถาม จำนวนเงินที่บอกมา มันจำนวนเงินจริงๆ ที่รวมหมดแล้วเหรอครับ รวมจากทุกที
ลองดูในงบการเงินไตรมาสล่าสุดส่วนของงบดุลเอาได้เลยครับ
เอามา support การลดราคาสินค้าทุกรุ่นลง 30 - 50%
จะได้เพิ่ม mkt. share >> ยึดตลาดถาวรไปเลย
แบ่งเงินให้ผมมั้งจะ ทิมคุก ^^
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
ทำ iSchool เลยดีไหม แหล่งเพาะพันธุ์สาวกแอปเปิ้ล สืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น!
เทคโนโลยีสำหรับการศึกษาก็มีเเล้ว ตาสตีฟเเกอาจจะสนใจเทคโอเวอร์กรีซก็ได้ เเบบเด็กๆใช้ไอเเพดทั้งประเทศ