อ่านข่าว เด็กฉลาดมีเพศสัมพันธ์น้อย ทำให้นึกถึงงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่เคยอ่าน เกี่ยวกับอิทธิพลของคำชมที่มีต่อเด็ก
เด็กที่ได้รับคำชมอย่างสม่ำเสมอว่าเป็นเด็กฉลาด โดยที่ผู้ใหญ่คาดว่าจะช่วยเสริมความเคารพตัวเอง และมีความมั่นใจในการเรียนรู้ให้เก่งขึ้น ๆ นั้น งานวิจัยจากทีมมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย กลับพบผลตรงกันข้าม โดยเฉพาะเด็กที่เป็นหัวกะทิ จะกลัวความล้มเหลวจนปฏิเสธการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ตัวเองรู้สึกว่าจะทำได้ไม่เท่ามาตรฐานของตัวเอง อีกทั้งมีแนวโน้มจะดูถูกการลงแรงอีกด้วย
ในอีกทางหนึ่ง เด็กที่ได้รับคำชมว่าขยัน มานะพยายาม กลับมีความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่กว่ามาก และพร้อมจะทำโจทย์ที่ท้าทายโดยไม่กลัวความล้มเหลว
"หัวดีไม่สำคัญ ขยันสิน่ากลัว" ภาษิตเก่าของนักเรียนไทย ยังคงใช้ได้ แต่อาจได้รับความสนใจน้อยลงในสภาพสังคมปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือ ใน Blog ของ Russel Coker ซึ่งเป็น Debian Developer คนหนึ่ง ได้เทียบเรื่องนี้เข้ากับสังคมนักพัฒนา โดยมองว่า เราควรนิยมนักพัฒนาที่ขยันให้มากขึ้น มากกว่าจะนิยมแต่นักพัฒนาที่ฉลาด ซึ่งอาจฉลาดในการหลบเลี่ยงการทำงานหนัก เพราะยังมีงานในแวดวงโอเพนซอร์สอีกมาก ที่ต้องการแรงงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การ reverse engineer device driver สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ การดีบั๊กโปรแกรม ฯลฯ (ใน blog เขาพูดในบริบทของ kernel hacker แต่ผมคิดว่าที่เราเห็นได้ชัดเลยคืองานแปล) ซึ่งนักพัฒนาที่สนใจแต่งานที่ "เจ๋ง ๆ" ไม่ค่อยอยากจะแตะต้อง
ที่มา - New York Magazine ผ่าน Russel Coker's Blog
Comments
อ่าวนึกว่าเขียนใน blogspot จะเล่นมุกสักหน่อย ลอล. นึกว่าต้องชมว่าหน้าตาดีเสียอีก. --- http://openil.wordpress.com/
เห็นด้วย นอกจากคิดแล้วต้องทำด้วย โดนตัวเองเยอะเหมือนกันนะนี่ >_<
-- My blog: suchaxplore.blogspot.com
เหมือนกับการวิจัยที่บอกว่า "ผู้หญิงส่วนใหญ่เล่นคอมมีปัญหามากกว่าผู้ชาย เพราะเซนส์การเรียนรู้เกี่ยวกับคอมต่ำกว่า คลิ๊กโน่นคลิ๊กนี่ คลิ๊กไปเรื่อย ไวรัสเอย สแปมเอย" (ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเซนส์ หมายถึงมีแต่น้อยถ้าเทียบกับผู้ชาย) เสียดายที่กลับไปหาที่มาไม่เจอ แต่ผมเอาการวิจัยนี้ไปโพสต์ ผลปรากฏคือ ผมโดนกระหน่ำซะเละ หาว่าดูถูกผู้หญิง อ่านไม่ดีตีความไม่แตกและไม่ยอมรับความจริง กำจริงๆ
เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ...
ปกติจะชมว่า "เก่งมาก" มากกว่าแฮะ
หัวไม่ดีแล้วขยันสิน่ากลัวสุดๆ (ยิ่งถ้ามีอำนาจ) -- My blog: poomk.blogspot.com
- -'' เปน แบบ อาแป๊ะ แถวๆ ตีก tot ป่ะครับ
โง่แต่ขยัน น่ากลัวที่สุด มันจะกลายเป็น ขยันทำงาน แต่งานที่ทำออกมามีแต่ปัญหาให้คนอื่นต้องไปตามแก้อยู่เรื่อยๆ
เห็นด้วย ตอนนี้สังคมกำลังต้องการให้ทุกคนเดินไปพร้อมกัน ไม่ใช่เดินไปแค่ 2-3 คน จะมีประโยชน์อะไรถ้านิยมจะอยู่แต่บนหอคอยเพียงแค่ไม่กี่คน ผมว่าเรามาไกลพอแล้ว (ไกลพอจนโลกจะแตกแล้ว) ไม่เห็นจำเป็นจะต้องพัฒนาไปด้วยอัตราเร่งมากกว่านี้อีก
ช่วยกันทำเรื่องพื้นฐานให้เยอะๆ อย่าง ubuntuclub.com เป็นตัวอย่างที่ไม่ท้อที่จะให้คนมาใช้ Linux กันมากขึ้นแม้จะเจอแต่คำถามน่าเบื่อๆ ในเว็บบอร์ดทุกวัน
ที่บอกว่า "เห็นด้วย" เหมือนจะเป็นคนละประเด็นนะครับ.. เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคนทำงานที่อยู่ในกลุ่มเล็กหรือกลุ่มใหญ่ แต่อยู่ที่การทำงานของตนอย่างเต็มที่มากกว่า คนที่อยู่ในกลุ่มเล็กอาจจะเหนื่อยกว่าเพราะขาดคนช่วยด้วยซ้ำไป
ขยันดีกว่าฉลาดแน่ครับ ฉลาดแต่ไม่เฉลียวสิ และคิดไม่เป็น ไม่ต่างอะไรกับไม่ฉลาด......:P
ประเด็นคือทำยังไงให้คนเห็นว่างานส่วนรวมสำคัญพอ ๆ กับงานส่วนตัว ถ้าพูดให้ตรงเป้าจริง ๆ คือ ทำยังไงให้คนรู้จักข้อดีของ "การสละ"
ถ้าเห็นอันนี้ชัดแล้ว เดี๋ยวทั้งความขยัน(แบบไม่โง่)และความฉลาดจะตามมาเองครับ