หลังจากที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานาน วันนี้แอปเปิลเปิดจำหน่าย iPod shuffle รุ่นใหม่ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเดิม (มีขนาดเพียง 4.5 x 1.7 ซม. และหนา 0.7 ซม.) แต่ยังคงจุดเด่นของ shuffle เดิม คือไม่มีหน้าจอ และมีตัวหนีบไว้หนีบกับเสื้อผ้าครับ
นอกจากที่จะเล็กลงนี้แล้ว shuffle รุ่นที่สามนี้ยังเอาปุ่มควบคุมความดังของเสียงไปไว้กับสายของหูฟังแทนเพื่อความสะดวก และมีความสามารถในการ "อ่าน" ชื่อเพลงที่กำลังเล่นอยู่รวมทั้งชื่อศิลปินให้ฟัง (แอปเปิลเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า VoiceOver ซึ่งสนับสนุนถึง 14 ภาษา แต่ไม่มีภาษาไทย) โดยมีความจุเพียงขนาดเดียวคือ 4 GB แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมีให้เลือกสองสีคือสีเทากับสีดำ สำหรับราคาจำหน่ายนั้นอยู่ที่ 3,290 บาทครับ
ที่มา: Apple Store Thailand, MacRumors
Comments
เล็กลงเรื่อยๆ :D
เล็กลงเรื่อย ๆ อีกหน่อยจะกลายเป็น iPod Shuffle Nano :D
ท่าทางจะไม่ชอบเมืองไทย :=> ทำอะไรมาใหม่ๆไม่มีภาษาไทยสักอย่าง
Apple มองข้ามไทยตลอด แต่คนไทยก็นะ...
แต่คนไทยก็ชอบว่าคนใช้ Apple เป็นสาวกซะเลย
ทั้งที่เค้าแค่ใช้ของที่เค้าชอบ
ไม่ได้ขโมยเงินใครมาซื้อ
แต่คนไทยก็นะ... ยังไม่มีใครว่าก็ออกมาพูดดักกันคนว่าตัวเองเป็นสาวก
ฮา
VoiceOver มันลากมาจาก OSX ตรงๆ ซึ่งไม่มีภาษาไทยอยู่แล้วครับ
แต่ ipod version made in china (ของปลอมนะแหละ) ชอบไทยนะ ^_^ มีภาษาไทยตลอด (ปลอมแบบรุ่นอื่นๆก็มีเหมือนกัน ก็แหม พี่ไทยออกจะเป็นลูกค้าชั้นดี )
ฮา
คนเห็นตกพื้นอยู่ คงนึกว่าที่หนีบผ้า -*-
I will change the world, to the better day.
I will change the world, to the better day.
(เสียงแบบผู้ขายตามตลาดนัด) "กิ๊ฟหนีบผมรุ่นนี้ มาพร้อมกับหน่วยความจำภายในถึงสี่จิ๊กกาไบต์ สามารถฟังเอ็มพีสามได้ด้วยครับ"
วู้วว ว้าวววว
ดีไซน์ที่เรียบง่ายขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าง่ายต่อการก๊อบ หรือจีนต่างหากที่เก่งขึ้น?
สวยออก ไว้ใส่วิ่งเช้าๆ น่าสนครับ แบบนี้
"shuffle รุ่นที่สามนี้ยังเอาปุ่มควบคุมความดังของเสียงไปไว้กับสายของหูฟังแทนเพื่อความสะดวก" หูฟังรุ่นอื่นก็หมดสิทธิ์ล่ะสิแบบนี้ -*-
+1
ทำไว้ขายสายได้อีก เอาหูอื่นมาต่อสายนี้ไง เหมือน Sony ขายรีโมทไง
หูฟังที่แถมมาก็มีรีโมทแล้วนะ
ถ้าจะใช้หูรุ่นอื่นก้ต้องใช้สายต่อไงครับ เหมือนพวกมือถือบางรุ่นอ่ะสายแปลงก็ใช่ว่าจะถูก เหอๆ
iPAtS
iPAtS
หึๆ เอากันอย่างงี้เลยนะ
เห็นด้วยเลยครับ
รอๆๆ ว่าจะเข้าไทยรึป่าว
อยู่ใน Apple Store Thailand แล้วน่ะครับ สั่งได้เลย :P
_________________pawinpawin | blog
รอดูว่าของจีนแดงจะใส่ที่เปลี่ยนเพลงไว้ที่สายหูฟังหรือตัวเครื่อง
สวยและคงคอนเซป “ของฉัน” ไว้ได้ครบถ้วน (ฮา)
ezybzy.info blog
เหมือนถ่านไฟฉาย
มีภาษาไทยซิแปลกผมว่า
เทคโนโลยีนี้มันก็ Text to Speech ดีๆ นี่เอง
อีกอย่างถ้าผมใช้หูฟัง 3rd Party จะควบคุมเสียงไงเนี่ย
I need healing.
Nokia s60 ใหม่ๆ อ่านไทยได้น่ะครับ แต่เพี้ยนๆ หน่อย เช่น โปรแกรมดิกชันนารี
5320 xpm พูดชื่อภาษาไทย ก็ได้น่ะครับ ตรงด้วย (แต่เมนูเครื่องต้องตั้งเป็นภาษาไทย)
เหอๆ จริง ๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก
เพราะว่าไอ้ Text to Speech ทำในเครื่องคอมบน iTunes ไม่ได้ทำบนตัว iPod แบบ On the fly แต่อย่างใด - -
@TonsTweetings
สวยอะ / ป.ล. ข่าวเกี่ยวกับ Apple อีกแล้ว 555
ชอบรุ่นแรกมากกว่าครับ ไม่รู้ทำไม
จะเล็กไปถึงไหน
จริงๆ ทุกครั้งที่ผมได้ยินคนที่นี่ชอบบ่นกันว่าคนไทยเหมือนลูกเมียน้อยในสายตาแอปเปิล
ผมเองอยากจะขอท้วงติงด้วยมีประเด็นดังนี้ครับ ว่า
จนถึงปัจจุบัน ภาษาไทยก็ยังคงไม่ใช่ภาษาที่จะสรุปได้ง่ายๆ ในเรื่องของการแสดงผล นั่นเพราะภาษาของเรามีความซับซ้อนในเรื่องความผูกพันระหว่างสระและวรรณยุกต์ในแนวตั้ง (มันทำให้เกิดอักขระใหม่เพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง มันไม่ใช่การนำสัญลักษณ์สองชิ้นมาซ้อนกัน แต่สำหรับทุกๆ ผลเหล่านั้น เราต้องการช่องเพิ่มอีกหนึ่งช่องใน character set เพื่อใส่มันเข้าไปเสมอ เพียงแต่เราไม่เคยนั่งสรุปกันเองเป็นส่วนกลางเลยว่า แล้วจะให้ช่องไหนเป็นตัวไหน เหมือนๆ กันทุกคน ทั้งประเทศ) และด้วยความที่เราเองก็ยังสรุปเรื่องพวกนี้กันเองยังไม่ได้ การเข้ามาตรฐาน UTF-8 ของเราทุกวันนี้ จึงเป็นไปในแบบที่ลึกๆ แล้วไม่สมบูรณ์นักนี่ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องความซับซ้อนในการตัดคำ ซึ่งแม้แต่ซอฟท์แวร์จากบริษัทใหญ่ๆ ที่หากินกับตัวหนังสืออย่าง Adobe เองก็ยังเอาไม่อยู่ แม้จะมีคนไทยเข้าไปทำงานในนั้นเองแล้วแต่สุดท้าย ก็วนกลับมาที่ปัญหาเดิมคือ มาตรฐาน character set ของภาษาไทยแต่โบราณนั้นไม่สามารถเข้ามาตรฐาน Unicode ได้อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน แม้เราจะมีการให้ความรู้เรื่องมาตรฐานใหม่นี้กันอยู่บ้างในวงนักวิชาการ แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครสามารถเป็นหัวหอกในการสรุปมาตรฐานเหล่านี้ให้ลงตัวได้เสียที ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแม้แต่รัฐเอง ก็ยังไม่เห็นความสำคัญเพียงพอสำหรับการทำมาตรฐานเหล่านี้ได้ถูกต้อง เราจึงยังคงมีฟ้อนท์ที่พะยี่ห้อว่าตัวเองเป็น unicode แต่พอเราเปลี่ยนไปใช้ฟ้อนท์อีกตัวที่ก็เขียนว่า unicode เหมือนกันอีกตัวหนึ่ง เราพบว่ามันแสดงผลตัวหนังสือบางตัวไม่ตรงกัน หรือไม่ขึ้นเอาดื้อๆ เลยก็มี (อย่างที่เรามักจะเห็นในโปรแกรม font manager ทั้งหลาย)
หากคุณยังไม่รู้ ผมอยากจะบอกว่า เราไม่ได้เป็นลูกเมียน้อยของใคร เพียงแต่จนถึงตอนนี้ เรายังคงพึ่งระบบที่พิกลพิการทว่ายังพอใช้ได้กันต่อไปได้อย่างมีความสุข เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า "ก็โปรแกรมเวิร์ดของฉันก็ยังทำงานปรกติดีอยู่ แล้วจะวุ่นวายทำไม" และนั่นทำให้จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความพยายามในการตัดสินใจนำเอามาตรฐาน unicode ในปัจจุบันที่มีอยู่เข้าสู่กลุ่มภาษามาตรฐานของ Apple หรือของยี่ห้อใดๆ โดยไม่จำเป็น ทั้งๆ ที่ภาษาไทยเป็นภาษาที่แม้จะคล้าย แต่ก็ไม่เหมือนภาษาใดในโลกเลย เพราะ...หากคุณยังไม่รู้... เรายังไม่มีมาตรฐาน unicode ที่ถูกต้องเพียงพอสำหรับภาษาไทยครับ และแอปเปิลก็คงไม่รู้จะมาทำแทนเราทำไมเพราะคนไทยเองยังไม่เคยคิดจะสรุปเรื่องนี้เพื่อตัวของเราเองเลยคิดว่าทุกท่านคงเข้าใจเรื่องนี้ในเชิงลึกได้ดียิ่งขึ้นนะครับ ขอบคุณครับ
ก่อนที่จะ encrypt firmware เห็นคน hack เอา font ยัดลงไปก็ใช้ได้เลยนะครับ
+10
2 ย่อหน้า ยังไม่เคลียเท่าบรรทัดเดียว
ตอบแบบนี้มีฮา เลย ฮ่าฮ่า
+10
Ton-Or
Ton-Or
+10
I will change the world, to the better day.
I will change the world, to the better day.
-100
ลักษณะแบบนี้แหละครับที่เรียกว่า "ขอไปที"
อะไรๆมันถึงยังจมอยู่กับความไม่มาตรฐานอยู่แบบนี้ไง
ยัดลงไปแล้วใช้ได้ แปลว่า ยัดลงไปแล้วใช้ได้ ไงล่ะครับ
พูดภาษาคนคือ มันทำง่ายมาก แต่แอปเปิ้ลไม่คิดจะทำ
-10 user นั้นเซ่อจนไม่สนใจมาตรฐานหรอกครับ ถ้ามันใช้งานได้ user พอใจ ก็ไม่นินทากันหรอก จะมาตรฐานก็ดี ผมว่าเห็นด้วย แต่ถ้าใช้ได้แก้ขัดระหว่างรอมาตรฐานที่ไม่รู้เมื่อใหร่จะมี ผมว่ามันก็ดี
ก็เข้าใจอยู่นะ
แต่กับผู้ใช้ทั่วไป แม้จะเป็นการซัพพอร์ทแบบพิกลพิการ ก็ยังดีกว่าไม่มีนา - -"
จะดีไม่ดี พิกลพิการอย่างไร แต่ก็ทำมาให้ใช้แสดงถึงความใส่ใจในลูกค้า แต่ไอ้ที่ไม่คิดสนใจจะทำเลยนี่สิครับถ้าไม่ใช่ลูกเมียน้อยจะใช้คำว่าอะไรดี ที่ฟังแล้วไม่ขัดหูท่านๆ นะ
ผมต้องขอแย้ง ในส่วนที่ว่า
"..ก็วนกลับมาที่ปัญหาเดิมคือ มาตรฐาน character set ของภาษาไทยแต่โบราณนั้นไม่สามารถเข้ามาตรฐาน Unicode ได้อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน..." และ "...เรายังไม่มีมาตรฐาน unicode ที่ถูกต้องเพียงพอสำหรับภาษาไทยครับ ..."
ว่า Unicode นั้นว่าด้วยเครื่องการกำหนดรหัสทางคอมพิวเตอร์เพื่อแทน (represent) ตัวอักษรภาษาต่างๆในโลกนี้ และ Unicode ตั้งแต่รุ่นแรก (v1.0) ก็รองรับตัวอักษรภาษาไทย ตั้งแต่ปี 1991
แต่เรื่องการแสดงผลภาษาไทย ในมุมมองของผู้ใช้คนไทย ผมว่าเรามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะออกความคิดเห็น ส่วนเรื่องมันทำยากหรือง่าย ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ใช้สนใจ เค้าต้องการแค่คำตอบสั้นๆว่า Yes/No จบ ส่วนมันจะเขียนด้วย ASM หรือ C หรือ Object C ใช้ TrueType Font หรือ Bitmap Font เค้าไม่สนใจ
สาวกมาก
แอปเปิ้ล ลืมไปหรือเปล่า ว่าลูกค้าบางคนเค้าใช้กับหูฟังอันอื่น
ไม่ลืมหรอกครับ
... เพราะทำ adapter ไว้รอขายแล้ว
โอ้ว มาใหม่อีกแล้ว
สาวกขอกราบ
ผมก็เข้าใจเรื่อง font ในระดับงูๆปลาๆ
แต่แอบงงที่เครื่อง hack เล่นทั้งอ่าน ทั้ง input ไทยได้เฉย ;P
my blog
เปลี่ยนเพลงไงอ่ะ?
นั่นสิ เปลี่ยนเพลงยังไง??
อันที่จริงผมชอบ ipod shuffle รุ่นแรกสุดเหมือนกัน ชอบที่ใช้งานสะดวก (มี usb ในตัว) มากกว่าพวกเล็กจิ๋ว กลัวหาย -"-
เข้าใจวิธีใช้ละ ดูดีเหมือนกัน :)
ที่ตัวเครื่องมีสวิตช์ควบคุมแค่ shuffle/repeat playlist/off ซึ่งก็เหมือนๆ กับรุ่นเดิม
ส่วนตัวคอนโทรลที่ติดกับหูฟังจะมีสามปุ่ม ปุ่มบนเพิ่มเสียง ปุ่มล่างลดเสียง ส่วนปุ่มกลางเป็น play/pause แต่ถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนเพลง(ต่อไป) ก็ให้กดปุ่มกลางสองครั้งแค่นั้นเอง ถ้ากดปุ่มกลางค้างไว้ก็จะเป็น voice over (เสียงทำมาจากในคอมที่ sync ซึ่ง itunes ใน OSX กับ Windows จะแตกต่างกัน) กดปุ่มกลางค้างนานกว่านั้นอีก ก็จะเป็นการอ่านรายชื่อ playlist ให้ฟัง อยากฟัง playlist ไหนก็กดปุ่มกลางอีกที ...สรุป เครื่องนี้ใช้กับหูฟังอื่นไม่ได้แหงๆ
วิธีคอนโทรลเหมือนจะดูดี และเหมือนจะเอา voice over มาเป็นจุดขาย (โฆษณาว่า the first music player that talks to you) แต่ผมขอใช้เครื่องใหญ่ๆ อย่าง nano + คอนโทรลด้วย click wheel + อ่านชื่อเพลงเอาจากจอดีกว่า
คนใช้ windows คงต้องทนเสียง text-to-speech ที่ฟังยากๆไป ไม่ก็ปิดมันซะไม่ต้องใช้เลย
ถ้าจะลงทุนเอา alex จาก leopard มายัดลง itunes เพื่อการนี้โดยเฉพาะก็เกินไป เพราะแค่เสียง alex เปล่าๆ ก็ปาเข้าไป 669.2MB ละ
เอ่อ... มี play/pause มี next track แล้วถ้าจะย้อน previous track นี่กดยังไงอ่ะ - -?
แล้ว Shuffle 2nd Gen กด play/pause สามครั้งติดกัน จะเป็นการ reset playlist ไปเริ่มใหม่แต่ต้น แล้ว 3rd Gen นี่มีแบบนี้ไหมหว่า
edit: อ้ะ โหลดวิธีใช้ขึ้นแล้วแฮะ เมื่อวานโหลดไม่ขึ้น - -"
กดสามครั้งเป็น previous track นี่เอง แต่ไม่มี reset playlist แล้วแฮะ
อยากเปลี่ยนเพลงก็ไม่ได้ ชัฟเฟิลสมชื่อ T.T
มันได้อยู่แล้วครับ ดูตามที่คุณ illusion บอก
ถ้ายังไม่เห็นภาพก็ดูที่หน้า features สิครับ
http://www.apple.com/ipodshuffle/features.html
ไม่โดนใจอย่างแรง shuffle รุ่นก่อนหน้านี้ เข้าท่ากว่า
ผมว่าสาว ๆ ลองซื้อมาทำเป็นกิ๊บติดผมอันละสามพันกว่ามั้ยครับ แถมมีหน่วยความจำอีก ๔ กิ๊กเชียวนะ อีกหน่อยก็คงมีสีชมพูออกมาด้วย :D
รอ Touch ที่จะออกเดือน กันยายน ดีกว่า (คิดว่าน่าจะออกมาเร็วกว่านั้น) เพราะ Apple ไม่รีรอใครอีกแล้ว...
หูฟังรีโมท นี่ Apple กะว่าไม่ใ้ห้ซื้อหูฟังเมพๆ ของยี่ห้ออื่นมาใช้กับเจ้านี่แน่เลยครับ เซ็งจิต ... หน้าตาแบบนี้ควรจะราคาไม่เกิน 1000 บาทนะ
my blog
ตลาดระดับ shuffle คงจะเป็นส่วนน้อยแหละครับ ที่จะมีใครเอา headphone โตๆมาต่อฟัง
shuffle ตัวก่อนๆเสียงดีสุดในตระกูล iPod เลยนะครับ
พวกหูเมพๆ เอามาต่อแอมป์กันให้ลึ่มครับ
อ่านแล้วฮา Comment เกรียนเยอะจัง
อ่านอย่างเป็นกลาง แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเกรียน
" พูดไทยไม่ได้ ลูกเมียน้อยอีกแล้วซิ ~ " ตั้งแต่เกิดยังไม่เคยเห็น Mp3 ไหนพูดไทยได้เลย
ถ้าพูดได้ ก็คงจะพูดว่า 0041-NEW [Single] - ... ... ... ...
+100Tera
edit* ไม่อยากโดนยัดเยียดให้เป็นสาวก
สำหรับผม มันโอเคเลยในระดับนี้ เป็นแรงกระตุ้นให้เจ้าอื่นๆ พัฒนาอะไรใหม่ๆ ออกมาแข่งกันมั่ง
และ Design สวยมาก จับใจ ทรงเหมือน Gen 1 แต่เปลี่ยนเป็น Alu.
นึกถึงเสียงพูด มันจะเหมือนเสียงที่กดตามบัตรคิว ตามที่จ่ายเงิน ฯลฯ หรือเปล่าครับ ฮ่าๆ คิดแล้ว...
+10 บรรทัดสุดท้ายเลย
+1 บรรทัดสุดท้าย //กร๊ากกกกกกกกกกกก ^0^
ข่าวเกี่ยวกับ "แอปเปิล" ร้อนแรงเสมอ :P
ราคาแพงเกิน ฟังก์ชันงั้นๆ
เหมือนเอา shuffle เป็นตัวทดลองว่าถ้าให้ฟังเสียง voice over ว่าอยู่ play list ไหนแล้ว และเลือกผ่านทางสายต่อกับหูฟังคนจะยอมรับรึเปล่า
เหมือนตอนที่ทดลองทำ ipod nano อ้วนดำ แต่ไม่เวิร์คก็รีบเปลี่ยนเอาออก
หรือตอนที่ขาย notebook ไม่มี drive cd ลองดูว่าคนจะซื้อรึเปล่า
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เดี๋ยวก็ลง Touch , Classic Refresh เชื่อดิ =_="