ต่อเนื่องจากที่มีการแนะนำ Microsoft Tag กันไปแล้ว ที่นี่
คราวนี้ผมจะมารีวิวให้ครับ แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ (สนิท) เพิ่งสมัครสมาชิกมาเมื่อวาน (๑๖ มีนาคม ๒๕๕๒) ผิดถูกอย่างไรแนะนำด้วยนะครับ
แล้วก็ขออธิบายก่อนนะครับ บางส่วนผมไม่สามารถทำให้ละเอียดได้จริงๆ เนื่องจากตอนที่เขียนนี่ เปิดแต่ละหน้าได้ช้ามากๆ ครับ นึกจะเร็วก็เร็ว แต่ส่วนมากแล้วกดไม่ค่อยจะไป
เริ่มต้นให้เข้าไปที่ Microsoft Tag web site ได้ที่ http://tag.microsoft.com ครับ เข้าใช้งานด้วย Windows Live ID ถ้ายังไม่เคยเข้าใช้ Microsoft Tag เลย ต้อง Sign up ก่อนครับ ไม่เสียอะไร แค่ปุ่มสึกเพราะกด sign up ครั้งเดียว
หน้าถัดมาจะเป็นหน้าส่วนตัวของเราเองครับ จะเป็นหน้าที่เก็บข้อมูล Tag ที่เรามี (ถ้ามีน่ะนะครับ) โดยที่สามารถแก้ไข ลบ หรือ Render ขึ้นมาใหม่ได้ รวมทั้งบอกสถานะและ Type ของ Tag นั้นๆ ด้วย หากต้องการเปลี่ยน Category, Status หรือลบครั้งละหลายๆ ตัวแล้วสามารถทำได้โดยการเลือกกล่องด้านหน้าแล้วกด Action ครับ
เข้ามาในส่วนของการสร้างครับ โดยการกดปุ่ม Create a Tag สีน้ำเงินๆ เราจะถูกส่งมาส่วนของการสร้าง แล้วเราก็เลือก Category ก่อนเลย หลังจากนั้นก็เลือก Tag Type (เลือกก่อนทำอย่างอื่นนะครับ เพราะเลือกตัวนี้ปุ๊บ ตัวอื่นจะหายไป ต้องกรอกใหม่หมดเลย) โดยแบ่งออกเป็น ๔ ประเภทด้วยกัน คือ
หลังจากนั้นก็ใส่ข้อมูลตามต้องการครับ ใส่รหัสได้ด้วย แต่ที่จำเป็นคือเฉพาะที่มี * สีแดงอยู่ โดย Tag Title ที่ผมคิดน่าจะเอาไว้ให้เราแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไรเท่านั้นนะ เพราะว่าไม่เห็นว่าเวลา scan จะมีขึ้นชื่อนี้ด้วย พอกรอกข้อมูลครบแล้ว กด Save ได้เลยครับ เราก็จะได้ Tag มาอยู่ในหน้า Manage Tag เป็นอันเรียบร้อย
เมื่อเราได้ Tag มาแล้ว เราก็ต้องทำการ Render ขึ้นมาครับ โดยการกดที่กล่องสี จะมีขึ้นมาให้เลือก Format, Size แล้วก็รูปแบบ ของภาพที่เราต้องการ แล้วกด Render ก็จะขึ้นมาให้เราบันทึกครับ เปิดดูจะมีหน้าตาประมาณนี้
ตัวอย่าง Microsoft Tag ครับ
Microsoft Tag นี้ Render มาขนาดสำหรับ 10 นิ้ว format XPS และรูปแบบเต็มครับ เลยมีอะไรโผล่มารกนิดหน่อย
เปิดเว็บผ่านโทรศัพท์มือถือ (หรือจริงๆ แล้ว ผ่านคอมพิวเตอร์ก็ได้ครับแต่จะยุ่งยากในการติดตั้งมากกว่า) เพื่อดาวน์โหลดได้ที่ http://gettag.mobi Download page
จะกดเข้าไปตามรายชื่อผู้ผลิตก็ได้นะครับ หรือจะเลือกตามรายการแพลตฟอร์มด้านล่างก็ได้ ซึ่งเห็นรายการเยอะๆ นี่ ไม่ได้หมายความว่ารองรับหมดแล้วนะครับ เป็นเพียงรายการที่คาดว่า "จะรองรับ" เท่านั้น แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังมี Java 2 Micro Edition ให้ ซึ่งจะมีระบบล็อกแบบไหนกันก็เลือกให้ถูกตามนั้นแล้วกันครับ (แอบมี iPhone ให้ด้วยนะเนี่ย)
พร้อมทั้งคำเตือนว่า "Installer may or may not be installed correctly on your device"
ขอข้ามขั้นตอนการติดตั้งไปนะครับ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน
หลังจากที่ทำการติดตั้งแล้ว เมื่อเราเปิดโปรแกรมขึ้นมา (WM ของผมมันเปิดให้เลยหลังจากติดตั้งเสร็จนะ) ก็จะพบกับหน้าแนะนำการใช้งาน ก็แนะนำให้อ่านนะครับ (ตามลักษณะผู้ใช้ที่ดี) พออ่านหมดแล้ว ก็จะเจอกับหน้าตาโปรแกรมแบบเรียบง่าย ถ้าเข้าไปใน Settings ก็จะมีให้ปรับได้บ้างครับ ที่บอกว่าบ้างนี่คือ บางอันปรับไปก็ไม่มีผล บางอันปรับมันก็เด้งเป็นเหมือนเดิม ก็ลองปรับๆ กันดูได้ครับ อย่างมากขนาดไหน เครื่องผมก็ไม่พังเพราะท่านๆ ปรับด้วยความคันมือแน่นอน (แหงล่ะ)
การใช้งานก็ เอาจี้ไปที่ Barcode แบบ Microsoft Tag ได้เลยครับ ถ้าหาไม่ได้แต่ร้อนวิชา ก็เอาในหน้าหลักของ Microsoft ก็ได้
ภาพตอนใช้งานจริงครับ ต้องขอโทษด้วยเอานิ้วออกไม่ทัน เพราะถ้าไม่บังไว้ เอาออกปั๊บแทบจะเด้งข้อมูลปุ๊บเลยทีเดียว เห็นภาพมัวขนาดนี้ อ่านได้จริงๆ นะครับ แถมเร็วด้วย
ผลจากการทดลองใช้ด้วยตัวเอง ก็ค่อนข้างประทับใจกับความเร็วนะครับ ในภาวะที่ภาพเห็นจะไม่ค่อยชัด แตกเป็นเหลี่ยมๆ สีแสนจืด มืด และโฟกัสไม่ตรง (O2 XDA Atom Life ชัดนะครับ แต่ภาพในโปรแกรมมันออกมาเห่ยมาก คงเพื่อความเร็วกระมัง. ผมทำตัวห้อยให้ O2 ไม่เป็นครับ) มันก็ยังอ่านได้เร็วมากครับ ใช้เวลาในการถอดรหัสออกมาไม่นาน แม้ว่าจะใช้ EDGE ของ true move ก็ตาม (สรรพคุณของ true move EDGE พนักงานจะแจ้งให้ท่านอย่างไม่โกหกว่า ความเร็วเฉลี่ย 40kbps) ส่องผ่านๆ ก็สแกนได้
สำหรับคนที่ยังไม่ทราบ จนถึงจุดนี้คงต้องบอกเพื่อปกป้องกระเป๋าเงินของท่านแล้วว่า สิ่งที่ถอดรหัสออกมาเป็นแค่รหัสที่ต้องส่งไปให้ Microsoft เพื่อดึงข้อมูลกลับมาอีกครั้ง และแน่นอนครับ ผ่านอินเทอร์เน็ต (ที่จริง ในลิงก์ด้านบนก็มีบอกไว้)
เปรียบเทียบภาพที่ได้จากโปรแกรมกล้อง และที่ได้จากโปรแกรม Microsoft Tag
แต่กระนั้น ยังมีอยู่หน้าหนึ่งที่แจ้งว่า "This version of Microsoft Tag Reader can read the following barcode formats:" ซึ่งแม้จะมีเพียง Microsoft Tag แต่ก็น่าจะหมายถึงว่าอนาคตจะสามารถอ่าน 2D Barcode แบบอื่นๆ ได้ในตัว ผลประโยชน์ก็จะตกกับผู้ใช้อย่างเราๆ ครับ ลงตัวเดียวอ่านได้หมด
แม้ว่าจะเป็นของใหม่กว่า แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียมากกว่ารุ่นพี่ เท่าที่ 2D Barcode โด่งดังจนรู้จักและมีการใช้กันในปัจจุบันนี้ก็คงจะมี Datamatrix Code (พวกอุปกรณ์ไอที, Battery โทรศัพท์ และโทรศัพท์มือถือก็มีครับ ลองดูใต้แบต), QR-Code (ในญี่ปุ่นมีการใช้กันเยอะมากๆ กระทั่งห่อทิชชู่) และ Microsoft Tag (เจ้านี้หาได้ในสหรัฐอเมริกา และผลิตภัณฑ์ของ Microsoft) โดยเมื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกับรุ่นพี่อีกสองตัวแล้ว เท่าที่ผมคิดออกจะได้ประมาณนี้ครับ
ข้อดี
ข้อเสีย
ก็ผ่านไปแล้วสำหรับบทความแรกจากผม (hisoft) ดี/ไม่ดี, ผิด/ถูก อย่างไรโปรดแนะนำและติชมด้วยนะครับ
ปล. ใครตอบได้คนแรกว่าตัวอย่างของ Microsoft Tag ที่ผมสร้างไว้ให้มีเนื้อหาเป็นอะไร มีรางวัลพิเศษเป็น ผู้ที่ตอบคำถามแรกจากบทความแรกของผมให้เลยเอ้อ (แน่นอนครับ ไม่ลงทุน)
Comments
_________________pawinpawin | blog
URL ซ้ำเผื่อสำหรับคนที่คลิกไม่ได้ หรือคนที่ต้องการจำไปบอกต่อน่ะครับ
ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะครับ
The Phantom Thief
มันจะไม่สะดวกกับตรงที่ต่อเน็ตนี่แหละ (โดยเฉพาะบ้านเรา)
ปล. สำหรับใครจะอ่านแบบภาษาไทย เรื่องการใช้ Markdown ลองอ่านที่นี่ครับ (พื้นที่โฆษณา)
My FingerSports Site
Jusci - Google Plus - Twitter
ถ้าผมพัฒนา Microsoft Tag Reader บน iPhone Platform
จะโดน reject จาก App Store มั้ย :P
ไม่น่ารอด หุหุ
Microsoft ทำให้แล้วครับ ไม่ต้องแย่งกันก็ได้
The Phantom Thief
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
ถ้าได้ภาพถ่ายตอนใช้งานจริงด้วย จะเยี่ยมกว่านี้
แก้ไข
อ่า ขอปุ๊บ มาปั๊บ
มือใหม่ยังไฟแรงอยู่ครับ กำลังเห่อบทความแรก 55+
The Phantom Thief
เซอร์วิสตัวนี้ พูดตรงๆว่าแจ่มครับ แต่แท็กมันหน้าตาค่อนข้างอุบาทว์นะ - -"
+๑ ครับ หน้าตาแย่จริงๆ แต่ด้วยหน้าตาแบบนี้ทำให้มันอ่านได้แม้ภาพจากกล้องจะเป็นแบบด้านบนที่ถ่ายให้ดูนะครับ
The Phantom Thief
ถ้า MS ทำอะไรสวยๆมักจะใช้งานไม่ได้เรื่องครับ ทำอุบาทว์ มักจะใช้งานได้ดี
+1
+55
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เท่าที่ใช้นะครับ ... QR Code ยังใช้งานง่ายที่สุดครับผม ... สะดวกและรวดเร็วเหมาะกับการใช้งานจริงครับ ... ส่วน Tag อาจจะต้องพัฒนาอีกหลายส่วนเพื่อแก้ใขข้อตรงนี้ครับ ... เพราะว่าทุกสิ่งที่ Tag ทำได้ ... QR ทำได้แล้ว ... ยกเว้นมีสีสันมากกว่า
ปล.ผมว่า ขาว ดำ ของ QR Code ดู Classic ดีนะครับ
ปล2.น่าจะมีการสั่ง Function แปลกๆ เช่น ... แปะไว้ตามงานว่า "ตอนนี้ฉันมาเที่ยวงาน Commart แล้วนะ" แล้วโพสขึ้น Twitter ของตัวเอง โดยแค่ถ่าย Code อย่างเดียวพอ ... อะไรพวกนี้น่ะครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
:: Take minimum, Give Maximum ::
ก็ดีนะครับ แต่แทนที่จะไปขึ้น Twitter สงสัยมันจะไปขึ้น Live Network มากกว่า
แต่ถ้าทำเป็น 3rd ล่ะก็พอมีลุ้น
The Phantom Thief
ตอนนี้ผมทราบความหมายและความตั้งใจจริงๆ ของ Microsoft แล้วครับ ที่เก็บเฉพาะรหัสเอาไว้แล้วต้องใช้ internet ดึงข้อมูลกลับมา นั่นก็เพื่อที่จะสามารถ update ข้อมูลได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ ชื่อ-นามสกุล หรือแม้กระทั่งรหัสผ่านของ Tag เก็บไปคิดแล้วสงสัยเลยลองทดสอบดูเมื่อครู่ก็เลยมั่นใจครับ
The Phantom Thief
สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรบ้างครับ
ลองดูๆ ตามในนี้นะครับ
ก็ประมาณว่า
The Phantom Thief
เห็นภาพขึ้นเยอะเลย ขอบคุณมากครับ :)
อ้อ ตอนแรกก็ยังงงๆว่า MS เล่นอะไร เหมือนพัฒนามาให้มันมีความจุเยอะขึ้นเฉยๆ (เมื่อเทียบกับ 2D บาร์โค้ด) แต่พอมาอ่านบทความนี้ถึงบางอ้อเลย พี่แกเล่นเอาข้อมูลไว้บนเน็ตนี่เอง ตอนนี้กำลังคิดเล่นๆว่า ถ้า 2D บาร์โค้ด เอาบ้างล่ะ? เล่นไม่ยากเลยซักนิด ใครซักคน (เช่นในญี่ปุ่น) ตั้งเซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาบ้าง แล้วให้สร้าง 2D บาร์โค้ดแบบอิงกับตัวเซิร์ฟเวอร์ แค่นั้นก็ออกมาเหมือนกันแล้ว... ทีนี้ MS จะโต้กลับยังไงหว่า? (คงไม่พ้นยื่นฟ้องใช่ไหม?)
ป.ล.คิดไปคิดมา...เรื่องข้อจำกัดเรื่องความจุ ก็จะหายไปด้วย เพราะข้อมูลมันอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ บาร์โค้ดที่สร้างขึ้นมาก็แค่ลิงค์ไปยังเซิร์ฟเวอร์และยืนยันตัวบุคคลเฉยๆ...
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ถ้าทำจริงๆ ก็คงขึ้นอยู่กับการผลักดันแล้วแหละครับ
อันที่จริงแล้ว ตัวนี้ก็จัดเป็น 2D Barcode ตัวหนึ่งด้วยเหมือนกันนะครับ แล้วตัวนี้ก็ยังมีจุดเด่นเรื่องอ่านได้ง่ายกว่าเวลาภาพไม่ชัดด้วย เพราะ QR-Code ถึงจะมี Error correction มาแต่ถ้าภาพไม่ชัดก็อ่านไม่ค่อยได้ เวลาเอาภาพขึ้นบนจอคอมนี่ผมเจอปัญหาประจำเลย แต่เจ้านี่ขนาดภาพเป็นแบบที่เห็นมันก็อุตส่าห์อ่านให้ได้ แต่ถ้ามี Error correction มาด้วยก็คงจะดีกว่านี้น่ะนะครับ แล้วก็อย่างที่บอกไป รูปแบบการใช้งานที่ Microsoft นำเสนอมา ไม่อยู่ในประเภทที่จะฉีกขาดกันง่ายๆ เสียด้วย
The Phantom Thief
โอ้ ใช่ครับ ลืมกล่าวถึงข้อดีข้อนี้ไป แต่ก็อย่างที่บอก มันไม่มี Error correction เนอะ เหมือนดีไปคนละแบบ 2D แบบเก่าขาดๆไปบ้างก็อ่านออก แต่เบลอแล้วอ่านไม่ออก ส่วนแบบใหม่ (ของ MS) เบลอก็อ่านออก แต่ขาดแล้วอ่านไม่ออก (เลยทำให้มันขาดยากๆ) เรื่องเบลอแล้วอ่านออกนี่ผมเข้าใจว่าเป็นเพราะค่า "สี" ถึงทำแบบนั้นได้ (เรียกว่าได้ประโยชน์ 2 ต่อ ทั้งความจุเพิ่ม ทั้งเบลอก็อ่านได้) ถ้ามองไปในแง่ของ 2D แบบเก่า ถ้าเขาแอบซุ่มพัฒนา "ใส่สี" เข้าไปด้วย ก็หมายความว่า เขาจะได้ความจุมากขึ้น และเบลอก็อ่านได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้ามองในทางกลับกัน ถ้า MS ยอมลด พื้นที่บางส่วน ใส่ Error correction Zone เข้าไป ก็จะออกมีคุณสมบัติครบเช่นเดียวกัน โอวววววว ผมว่าสมรภูมินี้คงจะดุเดือดในไม่ช้านะ
ป.ล.เพิ่งนึกออกอีกอย่างนึง ถ้าทำเป็น "สี" ซะหมด เครื่องอ่าน 2D ราคาจะแพงไปรึเปล่า (เพราะต้องอ่านค่าสีได้ด้วย จากเมื่อก่อนสนใจแค่ขาว-ดำ) หรือเขาไม่สนใจตลาดอุตสาหกรรมกันแล้วหว่า? (สนใจแต่ตลาด End User ที่ใช้มือถือ ซึ่งแน่นอนว่ามีกล้องอยู่แล้ว)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ลักษณะการใช้งานที่ Microsoft ผลักดัน เป็นลักษณะของ End User ครับ ไม่ได้ใช้ในโรงงาน (เพราะถ้างั้น เครื่องอ่านต้องแพงมหาโหดครับ ไม่ใช่แค่อ่านค่าสีได้แบบคุณว่า แต่ต้องมีเน็ตด้วย!)
แล้วก็ที่บอกว่าถ้า 2D แบบเก่าๆ ใส่สีแล้วเพิ่มความจุ เบลอก็อ่านได้ แต่ยังไม่ใช้เน็ต ก็ยังมีจุดดีจุดด้อยแบบปัจจุบันครับ แต่อย่างน้อยๆ เราก็อ่านบางอย่างได้แบบไม่เสียค่าเน็ต
The Phantom Thief
ลองเล่นดูแล้วมันโอเคเลย เหอๆ
และแล้วประโยชน์มันก็น้อยลง เพราะมันยังไม่มี API ให้สร้างแท็กได้จากภายนอก...
สาเหตุก็คงมาจากว่าข้อมูลต้องเก็บอยู่กับ Microsoft นั่นหล่ะครับผมว่า
The Phantom Thief
ผมลองดู ใช้มือถือ N73 ทำไมมันอ่านภาษาไทยไม่ได้ล่ะครับ ออกมาเป็นภาษาต่างดาว
ทั้งๆที่ปกติเครื่องก็ใช้ภาษาไทยได้ แต่ใช้โปรแกรมนี้อ่านไทยไม่ได้
คลิปตลก
ผมตกใจเล็ก ๆ นะ ที่เข้าไปดูสถิติของตัว Tag ตัวอย่างในข่าวนี้แล้วพบว่ายังมีคนสแกนมันอยู่เป็นระยะ ระยะ
ปีที่แล้ว ๗ ครั้ง กระจายทั้งปี ปีนี้เมื่อเดือนที่แล้วอีก ๑ ครั้ง (O_o)
แถมแม้ว่าจะมีข่าวว่า Microsoft หันไปผลักดัน QR ผสม NFC แทนแล้ว แต่ API ของ Tag เองยังมีเพิ่มออกมาอีกด้วยนะครับ แปลก ๆ แฮะ แต่ก็ยังดีที่โค้ดเก่าสั่งเรนเดอร์ออกมาเป็น QR ได้หมดเลย