Tags:
Node Thumbnail

Wi-Fi 6 คือเจเนอเรชั่นล่าสุดของ Wireless โดยกำหนดมาตรฐาน และประกาศให้ใช้งานเมื่อตอนปลายปี 2018 ซึ่งมาทดแทนการใช้งาน Wi-Fi 5 หรือที่เรียกกันติดปากว่า Wireless AC เวฟ 1 และเวฟ 2 ตามลำดับ ซึ่งประกาศใช้ ตั้งแต่ปี 2015 ก็นับรวมระยะเวลาเกือบ 5 ปี

No Description

องค์ประกอบหลักที่เราต้องใช้ Wi-Fi 6 ในองค์กรของเรา สามารถสรุปเป็นไอเดียได้ดังต่อไปนี้

  1. แอปพลิเคชันยุคใหม่ ที่ต้องการ Bandwidth สูง อย่างเช่น 4K Video Conference หรือ AR/VR
  2. โดยต่อหนึ่ง Session ที่ใช้งาน ต้องการ Bandwidth ไม่น้อยกว่า 30-400Mbps ต่อ 1 Video Conference หรือต่อ 1 เครื่อง VR Terminal ซึ่ง Wi-Fi 6 สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 1Gbps ต่อ 1 Session และรวมสูงสุดต่อ Access point ได้ถึง 9.6Gbps ทำให้รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการการส่งข้อมูลมากๆได้อย่างมีเสถียรภาพ

    No Description

  3. รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ Automated Guide Vehicle
  4. คือการนำรถที่ขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ มาใช้งานใน Warehouse เพื่อรับส่งสินค้าไปยังจุดบรรจุสินค้า ซึ่งต้องการค่า Latency ที่ต่ำเพื่อให้รถสามารถตอบสนองต่อคำสั่งได้อย่างทันท่วงที โดยรถอัตโนมัตินั้นต้องการการรับส่งข้อมูลด้วย Latency ที่ต่ำมากกว่าปกติ ซึ่ง Wi-Fi 6 สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งอุปกรณ์ประเภทรถขับเคลื่อนอัตโนมัติยังจำเป็นต้องมีการรับส่งข้อมูลแบบ Zero Packet Loss เนื่องจากต้องรับคำสั่งสำหรับการเดินรถตลอดระยะการเดินทาง รวมถึงการตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางอีกด้วย

    No Description

  5. อุปกรณ์ประเภท Internet of Things (IoT)
  6. ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยี IoT Devices เข้ามาใช้งานในหลากหลายภาคธุรกิจ เช่น ESL (Electronics Shelf Label) ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก, Asset tracking สำหรับการติดตามอุปกรณ์ หรือ Energy efficiency management ซึ่งก่อนหน้านี้การเชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์แบบ Wi-Fi 5 สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ IoT Terminal ได้อย่างจำกัด ซึ่ง Wi-Fi 6 มีการขยายความสามารถช่องรับส่งเป็น 8x8 ช่องสัญญาณ และด้วยเทคโยโลยี MU-MIMO และ OFDMA ซึ่งรองรับการใช้งานที่มีปริมาณอุปกรณ์จำนวนมากๆ อีกทั้งยังรองรับการใช้งานช่องสัญญาณเดียวกันรับส่งข้อมูลได้ภายในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้อุปกรณ์กระจายสัญญาณแบบ Wi-Fi 6 สามารถให้บริการเครือข่ายความเร็วสูงได้ ถึงแม้จะมีปริมาณจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อในปริมาณมากๆ

    No Description

  7. สร้างความแตกต่างได้ด้วย Intelligence Tool ในการบริหารจัดการ

ผู้บริหารระบบยังสามารถวิเคราะห์ หรือประเมินประสบการณ์ในการใช้งานของผู้ใช้งานแต่ละรายของระบบ Wireless แบบละเอียดเจาะลึกได้ด้วยความสามารถที่ชื่อว่า Telemetry ใน Wi-Fi 6 ทำให้สามารถบันทึกประสบการณ์ ในเชิงคุณภาพการใช้งาน ปัญหาการเชื่อมต่อ ปัญหาสัญญาณรบกวน หรือปัญหาจากการ Roaming เป็นรายบุคคล ในแต่ละช่วงเวลาย้อนหลัง อีกทั้ง Wi-Fi 6 Solution ยังมี Software บริหารจัดการที่ชื่อ Campus Insight ในการวิเคราะห์คุณภาพการใช้งานของระบบ Wireless ทั้งหมดอีกด้วย

No Description

ด้วยเหตุผลทั้ง 4 ข้อ ทำให้การนำ Wi-Fi 6 เข้ามาใช้งานในองค์กร จะช่วยตอบสนองแอปพลิเคชันหรือการใช้งานลักษณะดังที่กล่าวมาได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเป็น Internet หรือ Intranet แอปพลิเคชันก็จะมีประสิทธิภาพที่ดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ทำไมต้องเป็น Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย

1. Unique Smart-Radio technology

  • เทคโนโลยี Smart-Radio ของหัวเว่ย ช่วยทำให้สามารถจัดสรรการใช้งานคลื่นสัญญาณชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น โดยการจัดสรรช่องส่งสัญญาณ (Channel) รวมถึงช่องความถี่ (Frequency Band) ตลอดจนสามารถเปลี่ยนแปลงและลดขนาดช่องส่งสัญญาณ รวมถึงปิดได้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้แต่ละพื้นที่ได้รับประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด
  • สามารถจัดสรรช่องส่งสัญญาณ (Channel) พร้อมเลือก Bandwidth ให้เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน เช่น ในพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมาก จะจัดสรรช่องความถี่ 80MHz ซึ่งได้ Bandwidth มากกว่าเพื่อให้เครื่องลูกข่ายได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

2. Smart antennas Array

เทคโนโลยีใน Access Point รุ่นล่าสุดของหัวเว่ยยังมีความสามารถ Smart Antennas Array ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อยอดมาจากหัวเว่ย 5G เพื่อช่วยให้การใช้ของผู้ใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างเช่น เมื่อผู้ใช้งานกำลังใช้งานอยู่ และมีการเคลื่อนที่ Smart Antenna จะทำการเคลื่อนที่เสาติดตามผู้ใช้งาน และเมื่อผู้ใช้งานเดินออกจากสัญญาณ โดยยังไม่ได้มี Access Point ตัวอื่นมารองรับ Smart Antenna จะทำการเพิ่มกำลังของเสา เพื่อให้ขยายพื้นที่ ให้ตามติดผู้ใช้งานไป จนกว่าจะมี Access Point ตัวอื่นมารองรับการเชื่อมต่อไป

3. Intelligent application acceleration technology

Wi-Fi 6 เทคโนโลยีของหัวเว่ยยังมีความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลระดับแอปพลิเคชัน เพื่อทำการจัดลำดับความสำคัญในกรณีที่เกิดความคับคั่งของข้อมูลในช่วงเวลาหนึ่ง Access Point สามารถจัดเรียงข้อมูลแบบ Multi-Queue และเมื่อข้อมูลกำลังจะส่งออกไป จะทำการจัดสรรแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญกว่า ทำให้สามารถลด Latency ให้ลดลงได้ในระดับ Ultra-Low Latency เพื่อให้การใช้งานในทุกแอปพลิเคชันสามารถให้บริการได้อย่างราบรื่น

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://bit.ly/2KwT62L

Get latest news from Blognone

Comments

By: cutter27
AndroidWindows
on 6 August 2019 - 16:50 #1122847
cutter27's picture

1เหตุผลที่จะไม่ได้ใช้คือ อเมริกาห้ามใช้หัวเหว่ย

By: api on 6 August 2019 - 19:15 #1122859

เสียค่าเร้าเตอร์ใหม่เพราะไวไฟอย่างห่วยอ่ะ