กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (Health Sciences Authority - HSA) ของสิงคโปร์ประกาศรับรอง BreFence Go COVID-19 Breath Test System เครื่องตรวจ COVID-19 จากบริษัท Breathonix สตาร์ตอัพด้านสุขภาพในสิงคโปร์เอง และเป็นเครื่องตรวจแรกในหมวด "อื่นๆ" ที่สิงคโปร์รับรองให้ใช้งานได้ หลังจากก่อนหน้านี้ชุดตรวจมีเฉพาะในหมวด PCR, Antigen, และ Antibody เท่านั้น
BreFence Go ตรวจลมหายใจเพื่อหาสารประกอบที่เกิดขึ้นในร่างกายผู้ติด COVID-19 (volatile organic compounds - VOCs) ที่หลุดมาพร้อมกับลมหายใจ แล้วพยายามวัดว่ามีสารประกอบเหล่านี้มากเพียงใด จุดเด่นของระบบนี้คือผู้เข้าตรวจสามารถรู้ผลภายในหนึ่งนาทีหลังตรวจ
สำหรับความแม่นยำของเครื่อง BreFence Go ในมุม sensitivity (จำนวนผู้ที่เครื่องระบุว่าติดเทียบกับผู้ที่ติดทั้งหมด) อยู่ที่ 85.% ในมุม specificity (จำนวนผู้ที่เครื่องระบุว่าไม่ติดเทียบกับผู้ไม่ติดทั้งหมด) อยู่ที่ 97% ระหว่างนี้ทาง Breathonix ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อให้ผลแม่นยำขึ้น
ที่มา - Breathonix
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- Kubernetes คืออะไร [Part 1] เกิดขึ้นมาอย่างไร? ทำไมต้องใช้มัน? | Cloudnone EP.14
- CI/CD ยังไงดี ตั้งเซิร์ฟเวอร์เอง vs เช่าคลาวด์ | Cloudnone EP.13
- รู้จักโน้ตบุ๊กบนคลาวด์ เช่าใช้งาน Jupyter Notebook ที่ไหนดี | Cloudnone Ep.12
- สรุปข่าวใหญ่ปี 23 และคาดการณ์เทรนด์ปี 24 ในวงการ Cloud | Cloudnone EP.11
- สรุปของใหม่และสาระสำคัญจาก AWS re:Invent 2023 | Cloudnone Special EP
Comments
เชื้อมันจะค้างอยู่ในเครื่อง แล้วคนใช้คนถัดไปจะไปสูดมันออกมาหรือเปล่าอะ
ดูตามรูป ตัวจุกดูดนั่นน่าจะถอดเปลี่ยนได้ครับ แล้วก็ดูดอากาศทางเดียว
นึกถึงดราม่าเครื่องตรวจแอลกอฮอลล์ในไทย ที่บางด่านไม่ยอมเปลี่ยนหลอด...ประเด็นแบบนี้ต้องเคลียร์ให้ชัดว่าจะป้องกันcontaminateจากคนก่อนหน้ายังไง
คงน่าจะออกแบบมาดีอยู่ ไม่งั้นคนตรวจก่อนหน้าตรวจพบเชื้อ แล้วเครื่องมันมีเชื้อค้างในระบบ คนต่อๆ ไปก็มีเชื้อกันหมด
ผลิตเครื่องขนาดนี้ได้ เรื่องเล็กๆน้อยๆเขาคงไม่ปล่อยข้ามหรอก
อุปกรณ์มันสร้างมาเพื่อตรวจเชื้ออยู่แล้ว ไม่พลาดกับอะไรง่ายๆแบบนั้นหรอกครับ เปลี่ยนหัวจุกทุกครั้งก็จบแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์พวกนี้เวลาใช้งานจริงๆมันมีระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามเป๊ะๆครับ อย่าเทียบกับเครื่องวัดแอลของตำรวจเลย
มันควรจะต้องออกแบบ fool proof ด้วยไงครับ เช่นกดวัดหนึ่งครั้งต้องบังคับถอดหลอดออก ไม่งั้นวัดต่อไม่ได้อะไรแบบนี้ โดยที่หลอดเดิมถอดแล้วจะเสียหายใส่ซ้ำไม่ได้ด้วย
การใช้manual procedure มันมีโอกาสhuman errorสูงและผลกระทบมันร้ายแรงกว่าเคสปกติอื่นๆด้วย
อย่าลืมว่า เราเจอเคสกระทั้งใช้ไม้swab ซ้ำในบางประเทศ บางทีการออกแบบเพิ่มเล็กๆน้อยๆก็ช่วยลดความเสี่ยงได้ครับ
คือปกติเครื่องมือระดับนี้มันมี fool proof อยู่แล้วครับ มันไม่ใช่แบบไม้ swap ที่เป็นแท่งๆแยกๆ ซื้อใช้เป็นกล่องๆแบบนั้น มันคงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเขียนวิธีใช้ข้างกล่องสักเท่าไหร่
ไม่ได้จะเถียงคุณนะ เห็นด้วยกับทั้งหมดที่พิมพ์มาทั้งหมดนั่นแหละครับ แค่เห็นท้วงกันยังกะมันไม่มีอะไรเลย เป็นแค่จุกครอบปากโง่ๆให้ใช้วนกัน อันนี้มันทำมาเพื่อตรวจหาโรคติดต่อ มันก็ต้องมีการป้องกันการติดต่อจากการใช้งานอยู่แล้วอ่ะครับ
เครื่องตรวจแอลฯ ที่ดราม่ากัน ก็เป็นเครื่องมือแพทย์นะ(เน้นที่จนท.ใช้) แต่ไม่ได้ป้องกันอะไรมากมายเลย
อย่าลืมว่าผลกระทบของเครื่องตรวจโควิทมันร้ายแรงกว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆด้วย คนก็ต้องกังวลมากกว่าเป็นธรรมดา เราคิดว่าคนอื่นก็คิดได้ แต่ของจริงก็ต้องรอดูกันครับว่าเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นไหม
ถ้า FDA รับรองอันนี้ค่อยไว้วางใจระดับนึง
หัวข้อข่าวคือประเทศสิงคโปร์ และนี่คือการแพทย์ อย่าเอามาตรฐานตำรวจบ้านเรามาใช้เลยครับ และเครื่องตรวจแอล ก็ไม่ได้ใช้ซ้ำกันทุกด่าน มันเป็นแค่ส่วนนึงเท่านั้นครับ ไม่ใช่ทั้งหมด
เป็นแค่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด
ผมว่านี่แหละคือทำไมต้องทำ foolproof เพื่อที่มันจะได้ไม่มีโอกาสทำพลาดไง การฝากความหวังไว้กับคน (ไม่ว่าจะประเทศไหน หรือวงการไหน) มีโอกาสพลาดทั้งนั้นครับ
เครื่องมืแพทย์ขึ้นทะเบียนไม่ง่ายนะครับ ยิ่งของใหม่ๆ แบบนี้ด้วยแล้ว
เครื่องมือมันจดทะเบียนเป็นเครื่องมือแพทย์ แต่มันไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานเกี่ยวกับโรคระบาดอ่ะครับ มันก็ไม่ต้องอะไรมากไปเน้นที่ระเบียบการใช้งานแทน และการใช้งานมันไม่ได้ใช้งานโดยแพทย์อ่ะครับ อย่าเอามาตรฐานการทำงานของตำรวจไทยมาใช้กับอะไรเลย
จริงๆอุปกรณ์ทางการแพทย์แบบที่ใช้ในโรงพยาบาลทุกอันมันมี fool proof ทั้งหมดนั่นแหละครับ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้กับโรคติดต่อยิ่งรัดกุมมาก เสริมด้วยระเบียบปฏิบัติของแต่ละที่ว่าไว้อย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ยิ่งเคสโควิดนี่คือยิ่งเข้มกันอยู่แล้วครับ
วิกฤติโควิด-19 รอบนี้ จะเหมือนสงครามโลกครั้งก่อนๆ ที่จะมีเทคโนโลยีหลายอย่างถูกพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพื่อให้โลกผ่านพ้นหายนะรอบนี้ไปให้ได้
ที่เราเห็นตอนนี้ก็จะมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่นกระบวนการพัฒนาวัคซีนแบบเร่งด่วน การผลิตชุดตรวจ หน้ากากและชุดป้องกันทางการแพทย์ ที่น่าจะมีการพัฒนาขึ้นมาเยอะ
..: เรื่อยไป